เสนอตั้ง "คณะกรรมการควบคุมการพนัน" เฝ้าระวัง "หวยบนดิน"

วิลาศิณีย์ ศุภรส

สำนักข่าวชาวบ้าน

 

 

เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.50 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาพลังแผ่นดินเชิงคุณธรรม และมูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ จัดเวทีอบายมุขวิชาการครั้งที่ 1 ในหัวข้อ "นโยบายสาธารณะ ว่าด้วยการควบคุมการพนัน" ณ มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ ซ.พหลโยธิน 22

 

นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ ประธานอำนวยการแผนงานชีวิตมั่นคง ปลอดอบายมุขระยะที่ 1 กล่าวว่า การควบคุมการพนันจะควบคุมเฉพาะความต้องการซื้ออย่างเดียวไม่เพียงพอ ต้องมีหน่วยงานที่เข้ามาแก้ไขปัญหาเรื่องนี้อย่างจริงจัง

 

"ข้อเสนอมาตรการระยะยาวคือ ตั้งคณะกรรมการควบคุมการพนัน เพื่อทำหน้าที่วิเคราะห์ สร้างองค์ความรู้ รณรงค์ และสร้างข้อเสนอแนะนโยบายแก่รัฐบาล ให้เป็นการร่วมมือกันระหว่างรัฐบาลในฐานะผู้ออกหวยและพม.ในฐานะผู้รณรงค์ควบคุม ไม่ใช่ต่างคนต่างทำ" นพ.ประกิตกล่าว

 

รศ.ดร.นวลน้อย ตรีรัตน์ คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกล่าวว่า ไม่สามารถพูดถึงนโยบายควบคุมการพนันโดยภาพรวมได้ เพราะต้องมีการแยกแยะประเภทการพนันให้ชัดเจน เช่น การพนันบางประเภทก่อให้เกิดการติดได้ง่าย มีภาวะทางจิตเข้าไปเกี่ยวข้อง จนบางครั้งไม่สามารถควบคุมสภาวะจิตใจได้ หรือหวยใต้ดิน ที่สร้างผลกระทบเฉพาะกับคนที่เล่นหนักๆ เป็นส่วนใหญ่ เพราะจากการสำรวจพบว่า วงเงินที่ซื้อหวยคิดเป็นร้อยละ 5-6 ของรายได้ ซึ่งถือว่าไม่มาก และเหตุผลในการเล่นคือเล่นด้วยความหวัง ความสนุกสนาน ฉะนั้นผลกระทบก็จะน้อยกว่าการพนันอีกบางประเภท

 

"ไม่มีประเทศไหนปล่อยให้การพนันเสรี ทุกที่มีการควบคุม แต่อยู่ที่ว่ามาตรฐานควบคุมเข้มหรือไม่ ซึ่งในประเทศไทย ถ้าจะคิดจะทำให้ถูกกฎหมาย ก็จะต้องตั้งคณะกรรมการควบคุมการพนันเข้ามาควบคุม เรามีบทเรียนจากครั้งที่แล้ว คือการเอาหวยบนดินมาสู้กับใต้ดิน โดยเอาเงินรางวัลเป็นเครื่องมือต่อสู้ จนมีการตั้งข้อสังเกตว่ามันเป็นการกระตุ้นผู้เล่นหน้าไหม่ รวมทั้งกลุ่มเยาวชนหรือไม่" รศ.ดร.นวลน้อยกล่าว

 

รศ.ดร.นวลน้อยกล่าวอีกว่า ต้องอย่าลืมเป้าหมายหลักว่า การมีหวยบนดินคือ ต้องการควบคุมให้หวยมีผลกระทบกับสังคมน้อยที่สุด การวางนโยบายจะต้องมีการปรับแก้ไขได้ตลอดเวลา แต่ไทยไม่ค่อยจะเรียนรู้เรื่องพวกนี้ ทำนโยบายอะไรไปไม่เคยติดตามผลหรือเฝ้าระวัง จะมาพบอีกครั้งก็ตอนกลายเป็นปัญหาใหญ่ไม่สามารถแก้ไขได้ อย่าเพิ่งไปทำทุกอย่าง ทำทีละเรื่อง และองค์กรที่จะเข้าไปกำกับดูแลจะต้องให้ประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วม ต้องใช้สังคมเฝ้าระวังด้วย รวมทั้งการปราบปราม การเพิ่มโทษกับหวยใต้ดินก็ยังต้องยังมีอยู่

 

ด้าน พล.ต.อ. สุวรรณ สุวรรณเวโช อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญกล่าวว่า รัฐบาลต้องเสียกำลังพลไปมากในการปราบปรามเรื่องการพนัน แต่เป็นการเสียทรัพยากรและภาษีโดยเปล่าประโยชน์ ทุกคนมัวแต่จับตาการทำงานของตำรวจ จนลืมมองการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ ว่าจริงๆการพนันมันเป็นคุณหรือโทษ

 

"เราเอาคุณค่าให้การพนันว่ามันเป็นสิ่งไม่ดี โดยใช้ศีล 5 ของพุทธศาสนามาเป็นข้ออ้าง ความจริงคนที่เป็นผู้นำจะต้องมีวิญญาณของนักการพนันผสมอยู่ คือ ต้องชอบความเสี่ยง เสี่ยงในการตัดสินใจ ธรรมชาติได้สิ่งต่างๆ จากความเสี่ยงเหล่านั้นโดยไม่รู้ตัว ซึ่งตรงนี้คือข้อดีของการพนัน แต่ไม่ได้หมายความว่าสนับสนุนให้ทุกคนเป็นนักการพนัน สิ่งที่จะกระทำได้คือทำให้สำนึกด้วยตัวเอง ไม่ใช้การห้ามปราม มันคือการป้องปราม เพราะถ้าห้ามเมื่อไหร่คือคุณมีวิญญาณของเผด็จการ ตราบใดที่เขาไม่ได้ทำความเดือดร้อนให้กับสังคม ไม่อยากให้ไปรบกวนสิทธิเสรีภาพของคนที่ชอบเล่น" พล.ต.อ.สุวรรณกล่าว

 

ทั้งนี้พล.ต.อ.สุวรรณ ได้เสนอทางออกว่า ทางออกมันมี 2 ทางคือ ยอมรับว่ามันไม่เป็นปัญหาก็ไม่ต้องแก้ เพราะถ้าเราบอกว่าการพนันถูกกฎหมายก็ไม่ต้องแก้ แต่ถ้าคิดว่ามันเป็นปัญหาเราก็ต้องหาทางแก้ไข บ้านไม่มีส้วมได้ไหม ทำไมทุกบ้านต้องมีส้วม คนอยากนอนกับอุจจาระหรือ คำตอบคือไม่ใช่ แต่มันเป็นเพราะเราต้องจำกัดความเหม็นความสกปรกไว้เพื่อให้ห้องอื่นๆสามารถอยู่ได้อย่างมีความสุข

 

ด้านนพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน จิตแพทย์และโฆษกกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า โรคติดการพนันเป็นโรคทางจิตชนิดหนึ่ง (pararoticalgimic) ซึ่งผู้ที่เข้าข่ายติดการพนันจะมี 3 ลักษณะดังนี้ 1.เล่นประจำ 2.เพิ่มจำนวนเพื่อให้เกิดความตื่นเต้นเร้าใจ 3.ทำให้เกิดความเดือดร้อนต่อตนเอง ครอบครัว สังคม

 

"ไม่ปฏิเสธถ้าจะมีการพนันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่เราต้องมีการจัดการ ต้องประเมินคนในสังคมว่ามีวุฒิภาวะเพียงพอหรือยัง ในเรื่องความยับยั้งชั่งใจ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่สามารถดูได้จากการศึกษาที่ดี สำหรับคนไทย ผมว่าวุฒิภาวะยังอยู่ในระดับอนุบาล ยังต้องดูและกันอีกนาน ซึ่งหากวันหนึ่งพร้อมแล้วจะมีก็ไม่เป็นไร" นพ.ทวีศิลป์กล่าว

 

ตัวแทนเครือข่ายแผนงานส่งเสริมชีวิตฯ 5 พื้นที่จังหวัดนำร่อง นายแข่งขัน สีตะธนี จ.นครราชสีมา กล่าวว่า การพนันไม่ใช่ความเสี่ยง แต่เป็นความโลภ ที่นำไปสู่การเห็นแก่ตัว ฉะนั้นเป็นเรื่องที่น่ากลัวที่สุดหากการพนันถูกยกระดับให้มาอยู่ในความถูกต้อง กระบวนการที่นำไปสู่ทางออก อยากให้มีการศึกษาข้อมูลด้วยชุมชนเองว่าอะไรคือปัญหา ผลกระทบคืออะไร ซึ่งทิศทางนโยบายในการแก้ไขมองว่าควรมีองค์ที่เข้ามาดูแลควบคุม ศึกษาวิจัย ร่วมกันทั้งภาครัฐและภาคประชาชน

 

สำหรับนายชูศิลป์ สรารธนะ ตัวแทนภาคประชาชนจาก จ.น่านกล่าวว่า หวยบนดินเป็นปัญหาแน่นอน จุดที่อยากให้แก้ไขคือไม่อยากให้ผู้ที่เล่นการพนันเป็นผู้ถูกเอาเปรียบ ในการถูกเอาเปรียบเป็นเพราะพวกเขาไม่รู้ ซึ่งเรื่องนี้ต้องใช้เวลาในการแก้ไขปัญหา

 

"ต้องเล่นที่ต้นตอด้วยคือคนที่ออกหวย และตัวกลางคือคนที่มีรายได้หรือผลประโยชน์จากการขายด้วย สุดท้ายคือตัวผู้เล่น เช่น กำหนดให้ข้าราชการที่เล่นการพนันเข้าข่ายเป็นการกระทำผิดวินัย เพื่อเป็นตัวอย่างให้กับภาคประชาชน เด็กและเยาวชนเป็นกลุ่มที่น่าเป็นห่วง ชุมชนเองพยายามทำให้ลูกหลานรอดพ้นจาการพนัน รู้สึกดีใจที่มีคนลุกขึ้นมาทำเรื่องนี้ ถือเป็นเรื่องที่เดินมาถูกทางแล้ว และต้องทำกันต่อไป" นายชูศิลป์กล่าว

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท