วัฒนา นาคประดิษฐ์
29 พฤษภาคม 2550 คณะรัฐมนตรีในรัฐบาลพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ มีมติให้เปิดประตูเขื่อนปากมูลทั้งแปดบาน โดยเริ่มเปิดประตูเพื่อระบายน้ำในวันที่ 7มิถุนายน 2550 และเปิดสุดบานทั้ง 8 บาน ในวันที่ 17 มิถุนายน 2550 ชาวบ้านจึงจัดเตรียมซื้อเรือ และเครื่องมือประมง พร้อมกับตั้งความหวังว่า ในช่วงสี่เดือนนี้จะมีรายได้จากการหาปลา พอให้ใช้หนี้ใช้สิ้น และมีเหลือออมสำหรับค่าเล่าเรียนลูกในเทอมต่อไป ค่ารักษาพยาบาลยามความป่วยไข้มาเยือน กับค่าใช้จ่ายจิปาถะที่จะมีในแต่ละวัน แต่แล้วความหวังก็พังทลาย ชาวประมงหลายคนแทบล้มทั้งยืน อยู่หน้าสันเขื่อน หนี้สิ้นที่มองเห็นทางปลดได้ กลับพอกพูนขึ้นมาอีกเท่าตัว เมื่อมีมติคณะรัฐมนตรี 12 มิถุนายน 2550 มาล้มล้างไม่ให้มีการเปิดประตูเขื่อน โดยอ้างว่าเพื่อรักษาระดับน้ำไว้ที่ระดับการปั่นไฟฟ้าปกติ คือ 106-108 เมตรจากระดับน้ำทะเล และยกเลิกคณะกรรมการภาคีชุดต่างๆ โดยให้โอนอำนาจการจัดมารวมศูนย์ไว้ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.)
สังคมไทยมีรัฐบาลหลายชุดที่เป็นนำเสนอภาพต่อสาธารณว่าเป็นคนดี มีศีลธรรม รักครอบครัว ไม่คดโกง ไม่มีการคอรัปชั่น ทำงานด้วยความโปร่งใส (แต่เบื้องหลังที่ไม่มีใครรู้ อาจเป็นสิ่งที่ตรงข้ามกับภาพที่เห็นก็เป็นได้) สิ่งเหล่านี้ประชาชนเห็นได้จากสื่อต่างๆ ที่มีอยู่ทุกวัน บางครั้งมีการนำเสนอซ้ำไปซ้ำมาจึงผู้คนซึมซับเอาไว้ในตัว และเชื่ออย่างสนิทใจว่าผู้มีอำนาจเหล่านั้นเป็นคนดี ไม่มีใครเถียงว่าสังคมไทยไม่ต้องการคนดีแบบนี้ แต่มันน้อยเกินไป มันเป็นปัจเจกเกินไป ไม่เพียงพอสำหรับผู้นำประเทศ การเป็นคนดีต้องมีทั้งภายในและภายนอก ทั้งต่อหน้าและลับหลัง สิ่งสำคัญยิ่งคือ ความกล้าหาญที่จะยืนอยู่ข้างความถูกต้อง สมเหตุสมผล ยืนอยู่บนฐานข้อมูลข้อเท็จจริง
มติคณะรัฐมนตรีที่กลับไปกลับมา บนฐานข้อมูลจากนายทหาร แห่งกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ที่วันนี้ดูมีอำนาจหน้าที่ยิ่งใหญ่คับฟ้าคับแผ่นดินทั้งๆ ที่ พรบ.ความมั่นคงฯ เอง ยังเป็นเพียงร่างเท่านั้น คำพูดจากปากนายพลทหารคนนี้ น่าเชื่อถือกว่าสิ่งที่ชาวบ้านทำสืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน หรือน่าเชื่อถือกว่างานวิจัยที่ทำโดยคณะอาจารย์ที่เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี การวิจัยที่ใช้เวลาเป็นปีๆ กว่าจะมีข้อสรุปยืนยันว่า การเปิดประตูเขื่อนจะมีผลดีต่อระบบนิเวศน์ ต่อชาวบ้านสองฝั่งลำน้ำมูนเพียงใด หรือน่าเชื่อถือกว่างานวิจัยของคณะกรรมการเขื่อนโลก (World Commisstion on Dam) ที่สรุปว่า เขื่อนปากมูล ไม่มีความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจแต่อย่างใด
พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีที่มีแต่คนสรรเสริญถึงคุณงามความดีไม่ขาดปาก แต่มันมีประโยชน์อะไรเล่า หากเป็นคนดีมีจริยธรรม แต่ไม่มีความกล้าหาญในการตัดสินใจว่าอะไรควร หรือไม่ควร อะไรถูกอะไรผิด หรือเพียงเพราะว่า ชาวบ้านปากมูน ไม่ใช่นายพลทหารแห่งกองทัพ ไม่ใช่คนที่ทำการรัฐประหาร เพื่อให้ท่านมีอำนาจอยู่ทุกวันนี้ จึงมิอาจจัดประเภทให้มีความน่าเชื่อถือพอที่ท่านจะรับฟังได้
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)