Skip to main content
sharethis


ประชาไท - วานนี้ (2 ส.ค.50) เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุ มีรถแท็กซี่ส่วนบุคคล เลขทะเบียน มง 6389 กทม. ซึ่งจอดอยู่หน้าศูนย์ซ่อมรถยนต์พาสสตาร์ หรือตรงข้ามโรงเรียนศิลปะวัฒนา ในซอยเจริญกรุง 69 ได้เกิดเพลิงไหม้ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ทราบชื่อเจ้าของรถชื่อนายสมเกียรติ  สาระเนียม อายุ 44 ปี อาชีพคนขับแท็กซี่  สอบถามได้ความว่า นายสมเกียรติ ซึ่งปกติมีอาชีพขับรถแท็กซี่ ได้นำรถมาจอดไว้ในซอยเจริญกรุง 69 ตรงข้ามโรงเรียนศิลปะวัฒนา ก่อนจะเดินกลับเข้าบ้านที่อยู่ในซอย เจริญกรุง 66 ฝั่งตรงกันข้าม ซึ่งทุกครั้งที่กลับจากรับผู้โดยสารในทุกวันก็จะนำรถมาจอดที่ดังกล่าวเป็นปกติทุกวัน จนเมื่อช่วงสายเวลาประมาณ 9.00 น. เพื่อนบ้านซึ่งเป็นแม่ค้าอยู่บริเวณนั้นได้โทรศัพท์ไปบอกว่ารถไฟไหม้ จึงรีบมาดู พบว่าครึ่งหน้าของรถอยู่ในสภาพไหม้เกรียม กระจกแตก กระโปรงหน้ารถบุบ และสีตัวถังลอก  นอกจากนี้ รถของนายสมเกียรติยังได้ผูกป้ายผ้าที่มีคำว่า "คมช. ออกไป" ตรงเสาอากาศรถด้วย


 


เมื่อสอบถามนายสมเกียรติ ทราบว่านายสมเกียรติ เป็นหนึ่งในผู้ที่เข้าร่วมชุมนุมกับนปก.ที่สนามหลวงเป็นประจำ เช่นเดียวกับภรรยา และบุตรชายบุตรสาว  และตัวนายสมเกียรติเองยังเป็นอาสาสมัครสันติวิธี ซึ่ง มีหน้าที่เป็นแนวหน้าเมื่อมีการชุมนุมเคลื่อนขบวนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความรุนแรง


 


นายสมเกียรติยังได้เปิดเผยว่า ส่วนตัวและครอบครัวไม่เคยมีเรื่องกับใคร แต่ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนที่แล้ว เคยถูกข่มขู่ โดยมีมือลึกลับเขียนข้อความใส่กระดาษวางทิ้งไว้หน้ารถว่า " นึกว่ามึงฉลาดนักหรือ ไอ้ควาย!" และครั้งที่สองข้อความว่า " ระวังตัวนะ ไอ้ควาย" แต่นายสมเกียรติก็ยังคงไปร่วมชุมนุมและขับรถมาจอดไว้ที่เดิมตามปกติ จนเกิดเหตุดังกล่าวนี้ขึ้น  


 


อย่างไรก็ตาม เมื่อเจ้าหน้าที่และกองพิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบ ในขั้นแรกสันนิษฐานว่าเกิดจากระบบไฟภายในตัวถังรถเกิดขัดข้องจึงเป็นเหตุให้เกิดเพลิงไหม้ ไม่น่าจะเกิดจากการลอบวางเพลิง และลักษณะของกระโปรงหน้ารถที่มีรอยยุบเหมือนถูกทุบนั้น เมื่อสอบถามเจ้าหน้าที่ได้ความว่าเมื่อคืนขณะที่เพลิงกำลังลุกไหม้ภายในกระโปรงหน้ารถนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจได้ขับรถผ่านจึงหาอุปกรณ์มาทุบและงัดฝากระโปรงให้เปิดขึ้นเพื่อจะดับไฟ ไม่ใช่รอยทุบจากผู้ไม่หวังดีแต่อย่างใด  เจ้าหน้าที่กล่าวก่อนจะเก็บชิ้นส่วนสายไฟจำนวนหนึ่งไปตรวจสอบ เพื่อยืนยันผลต่อไป


 


นายสมเกียรติกล่าวภายหลังเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบแล้วว่า เจ้าหน้าที่ดูและตัดสินอย่างรวดเร็วมากเกินไป อย่างไรก็แล้วแต่ หากเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าเป็นอุบัติเหตุไม่ใช่การกระทำจากบุคคลไม่หวังดี ตนเองก็คงต้องยอมรับแต่โดยดี  และยังยืนยันว่าจะยังเข้าร่วมชุมนุมที่สนามหลวง และยังเป็นอาสาสมัครกลุ่ม 24 มิถุนา ประชาธิปไตย


 


นอกจากนี้ แหล่งข่าวภายในกลุ่ม 24 มิถุนา ประชาธิปไตย ซึ่งเป็นกลุ่มที่นายสมเกียรติเข้าร่วมเป็นอาสาสมัครและเพิ่งไปร่วมเรียกร้องให้ปล่อยตัวนักโทษการเมืองทั้ง 15 คนด้วยกันมานั้น ยืนยันกับผู้สื่อข่าวว่า ได้มีการพูดคุยกันเพื่อจะหาทางช่วยเหลือนายสมเกียรติอย่างเร่งด่วน เพราะรถแท็กซี่คันที่ไหม้ไปนี้เป็นเครื่องมือทำมาหากินเพียงอย่างเดียวของครอบครัวอาสาสมัครครอบครัวนี้ และถือว่าตลอดมานายสมเกียรติเข้าร่วมด้วยหัวใจ ไม่เคยได้รับอามิสสินจ้างใด ๆ เหตุที่เกิดครั้งนี้ หากไม่ใช่อุบัติเหตุแต่เป็นการกระทำของผู้ไม่หวังดี ก็ต้องถือว่า เป็นการเสียสละและทางกลุ่ม 24 มิถุนา ประชาธิปไตยย่อมไม่ยอมปล่อยให้นายสมเกียรติและครอบครัวต้องเดือดร้อนโดยลำพังอย่างแน่นอน


 


เว็บไซต์ผู้จัดการายงานว่านายสมเกียรติระบุว่าตอนแรกที่มีการเขียนข้อความข่มขู่หน้ารถนั้นก็คิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา เพราะรถของเขาติดสติกเกอร์เชียร์ทักษิณ และขับไล่ คมช.อย่างชัดเจน ถือเป็นเรื่องปกติที่จะมีคนที่มีความเห็นต่างกัน จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net