Skip to main content
sharethis

กลุ่ม 24 มิถุนาฯ ออกแถลงการณ์โต้สกัดการชุมนุม


เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น - กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย ออกแถลงการณ์ตอบโต้กองทัพบก กรณีการสกัดกั้นกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย รณรงค์คว่ำรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา ด้วยการนำสมาชิก 60 คน เดินขบวนจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยไปที่กองทัพบก เพื่อทำพิธียิงธนูสันติภาพ เชิญชวนทหารร่วมกันคว่ำร่างรัฐธรรมนูญปี 2550 และยกเลิกกฎอัยการศึก แต่กิจกรรมดังกล่าวถูกสกัดกั้นด้วยกำลังตำรวจปราบปรามจลาจล โดยมีคำสั่งเด็ดขาด ห้ามการเดินขบวนทั้งบนถนน ฟุตบาธ พร้อมทั้งแจ้งว่าธนูไม้ที่นำมานั้นเป็นอาวุธสงคราม จึงห้ามไม่ให้เดินขบวนไปที่กองทัพบก


         


แถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่า การที่ทหารสั่งการให้ตำรวจปราบปรามจลาจลติดอาวุธครบมือ พร้อมอุปกรณ์สลายม็อบ ปิดกั้นกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย เป็นการคุกคามปราบปรามประชาชนที่รณรงค์คว่ำรัฐธรรมนูญ เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน ละเมิดสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐาน การยิงธนูเป็นกิจกรรมสื่อความหมาย คันธนูและลูกธนูเป็นไม้ขนาดเล็ก ไม่สามารถทำอันตรายให้เกิดกับทรัพย์สินหรือผู้คนได้ ไม่ใช่อาวุธสงคราม ส่วนการแต่งกายชุดนักรบโบราณมีเพียง 6 คนเท่านั้น เป็นเพียงการสื่อความหมายการรณรงค์ ไม่ใช่การท้าทายก่อสงครามกับกองทัพบก และไม่อาจก่อเหตุรุนแรง


         


ทั้งนี้กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย เป็นการรวมตัวของนักกิจกรรมสังคม ประกอบด้วย ผู้ใช้แรงงาน นักศึกษา และประชาชนผู้รักชาติ รักประชาธิปไตย มีจำนวนเพียง 100 คน ได้เข้าร่วมกับแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) มาอย่างต่อเนื่อง และเป็นส่วนหนึ่งของแกนนำรุ่นที่ 2 มีเป้าหมายในการคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) และขับไล่เผด็จการ คมช.เท่านั้น ไม่ใช่กลุ่มการเมืองแต่อย่างใด


 


 


"อุกฤษ"ชี้ รธน.50 บกพร่องเขียนเอาใจคมช.


เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น -นายอุกฤษ มงคลนาวิน อดีตประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ กล่าวถึงการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ในวันที่ 19 สิงหาคมนี้ ว่า จะผ่านหรือไม่ ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก เพราะไม่ทราบถึงผลกระทบที่จะเกิดตามมา และเชื่อว่าจะมีผู้มาใช้สิทธิ์น้อย เพราะส่วนใหญ่ยังขาดความเข้าใจในเนื้อหาและสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ที่มีถึง 309 มาตรา มีรายละเอียดมาก ทั้งชาวบ้านทั่วไป คนชั้นกลาง หรือแม้แต่นักวิชาการ ก็มีน้อยคนที่จะได้อ่านร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ


 


ส่วนตัวมองว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ถูกต้องตั้งแต่ที่มา เนื้อหาก็รับได้ยาก แค่มาตรา 309 เรื่องเดียวก็แย่แล้ว ผู้ที่นิรโทษกรรมให้ตัวเองไม่เคยมีปรากฎในระดับสากล รวมทั้งการจำกัดการปฎิบัติต่อผู้แทนราษฎรและนักการเมือง ว่าด้วยสิทธิทางการเมืองซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน ไม่มีใครจำกัดได้ เมื่อผู้ที่สนใจจะทำงานการเมืองเสนอตัวเข้ามาลงสมัครรับเลือกตั้ง เหนื่อยแทบตาย เสียสละทุกอย่าง วันดีคืนดีคนกลุ่มหนึ่งที่ไม่เคยลงสมัครรับเลือกตั้งก็ออกกฎหมาย หรือคำวินิจฉัยตัดสิทธิ์คนเหล่านี้ไม่ให้ลงเลือกตั้ง ไม่ให้มีส่วนร่วมทางการเมือง ทำอะไรก็ไม่ได้ ยิ่งกว่าประชาชนชั้น 3 แล้วอย่างนี้ประชาธิปไตยจะเกิดขึ้นได้อย่างไร ยิ่งถ้าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ส่งเสริมประชาธิปไตยอย่างแท้จริงดังที่ยกตัวอย่างข้างต้น ก็ถือว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีข้อบกพร่อง และด้อยกว่ารัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 อย่างมาก จึงไม่ควรนำมาใช้


         


นายอุกฤษ กล่าวฝากไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องด้วยว่า ข้อกำหนดหรือกฎหมายใดๆ จะเขียนให้คนเอาหัวเดินแทนเท้าก็ย่อมทำได้ แต่กฎหมายเหล่านี้จะใช้ได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น อีกทั้งผลที่ตามมาก็จะมีความรุนแรงมาก จึงอยากเตือนให้ต้องระวัง ถ้าอยากเห็นความสงบเรียบร้อยของบ้านก็ไม่ควรทำ อีกทั้งปีนี้เป็นปีมหามงคลเฉลิมพระชมน์พรรษา 80 พรรษา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงอยากวิงวอนให้คนไทยทุกคน ลด ละ เลิก กระทำสิ่งที่ทำให้ประเทศชาติวุ่นวาย คิดจะทำงานการเมืองก็ต้องกระทำตนเหมือนนักกีฬา เคารพกฎ กติกา เพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง


 


 


ทหารอาศัยประกาศกฎอัยการศึก ตรวจค้นแหล่งผลิตใบปลิวต้านร่างรัฐธรรมนูญ


กรมประชาสัมพันธ์ -เมื่อเวลา  17.00  น. วันนี้ (11 ส.ค.) พ.อ.โอภาส รอดเทศ ส่วนติดตามสถานการณ์ความมั่นคงภายในจังหวัดกำแพงเพชร พร้อมด้วย ทหารจากกองพันทหารราบที่  3  กองพลทหารราบที่  4  กองทัพภาคที่  3  ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีบ้านต้องสงสัยทำแผ่นใบปลิวต่อต้านร่างรัฐธรรมนูญ จึงอาศัยประกาศกฎอัยการศึกเข้าตรวจค้นร้านรัชเพชรดีไซน์ เลขที่  72  ถนนเกาะแขก ต.ในเมือง อ.เมืองกำแพงเพชร พบนายวิรัช  อินศรี  เจ้าของห้องเช่าและแผ่นใบปลิวจำนวน  8  กล่อง  มีใจความต่อต้านร่างรัฐธรรมนูญปี  2550  โดยแผ่นด้านหน้ามีข้อความว่า  ยกเลิกบัตรทอง 30  บาท รักษาทุกโรค  ส.ส.-ส.ว.ประกันตัว และช่วยชาวบ้านไม่ได้   ค้นบ้านไม่ต้องมีหมายศาล  ดักฟังโทรศัพท์ไม่ผิดกฎหมาย อันตรายจากรัฐธรรมนูญ 2550  อยากให้เลือกตั้งเร็วต้องคว่ำรัฐธรรมนูญ  2550 พร้อมด้วยเครื่องโรเนียว 1 เครื่อง



 


จากการสอบถามนายวิรัช  อินศรี กล่าวว่า ได้รับการว่าจ้างมาจากเพื่อนเป็นดาบตำรวจ อ. (นามสมมติ)  อดีตตำรวจติดตามนักการเมืองคนดังของจังหวัดกำแพงเพชร พร้อมนายจุ่น ตั้งแต่วันที่  9  สิงหาคม  2550  โดยทำกัน 3  คน ซึ่งมีเครื่องโรเนียวจำนวน  2 เครื่อง จนแล้วเสร็จ แต่เครื่องโรเนียว เสีย 1 เครื่อง ส่วนเครื่องดี ดาบตำรวจ อ. ได้นำไปก่อนหน้าที่ทหารจะเข้าตรวจค้น จนได้แผ่นเอกสารจำนวน  8  ลัง และกำลังรอดาบตำรวจ อ. มารับไป แต่มาถูกตรวจค้นก่อน


 



และเมื่อเวลา 17.30 น. นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร ได้เดินทางมาที่ร้านดังกล่าว พร้อมตรวจดูเอกสารแผ่นใบปลิว ซึ่งได้ซักถามจากนายวิรัช อินศรี และ พ.อ.โอภาส  รอดเทศ จากนั้นได้ให้ พ.ต.ท.อรรถชัย  ใจนักรบ  สารวัตรเวรอาญา สถานีตำรวจภูธรอำเภอ (สภ.อ.) เมืองกำแพงเพชร อาศัยประกาศกฎอัยการศึก นำแผ่นใบปลิวจำนวน 8 ลัง และเครื่องโรเนียวไปตรวจพิสูจน์ที่ สภ.อ.เมืองกำแพงเพชรต่อไป



 


กรมขนส่งฯรับมืออีสานแห่กลับบ้านลงประชามติ-ลั่นเชือดรถติดสติกเกอร์คว่ำ"รธน."
ผู้จัดการออนไลน์ - นายชัยรัตน์ สงวนชื่อ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดให้บริการรถยนต์รับจ้างหรือ แท็กซี่มิเตอร์ ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดนครราชสีมาแห่งที่ 2 ถ.มิตรภาพ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ถึงกรณีรถบริการสาธารณะติดสติกเกอร์ข้อความ ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 หรือ Vote No โดยเฉพาะรถแท็กซี่มิเตอร์ในกรุงเทพฯ ว่า ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากว่าการจะติดสติกเกอร์โฆษณาประชาสัมพันธ์จะต้องได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน โดยเฉพาะเป็นเรื่องความสงบเรียบร้อย ศีลธรรมอันดี เพราะสินค้าบางตัวล่อแหลม และสติกเกอร์ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องการไปชี้นำซึ่งจะไปผิดกฎหมายฉบับอื่นด้วย ซึ่งในความเป็นจริงแล้วกฎหมายเกี่ยวกับรถยนต์ทำไม่ได้ และการที่จะเอาโฆษณาต่างๆ มาติดรถบริการสาธารณะนั้น ต้องได้รับความเห็นชอบนายทะเบียนก่อน


ขณะนี้ได้เรียกผู้ประกอบการรถแท็กซี่ในกรุงเทพฯ ที่มีการติดสติกเกอร์ดังกล่าวมาพูดคุยตักเตือนแล้วหากยังไม่ดำเนินการลอกสติกเกอร์ออกก็จะดำเนินการตามกฎหมายทันที ซึ่งได้ประสานความร่วมมือกับฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ตำรวจจัดกำลังเข้าตรวจสอบรถแท็กซี่ทุกคันแล้ว


"วันนี้จะไม่มีการตักเตือนกันอีกแล้วเพราะได้ประชาสัมพันธ์และบอกกล่าวให้ทราบโดยทั่วกันแล้ว หากพบรถแท็กซี่หรือรถบริการสาธารณะทุกประเภทยังมีการติดสติกเกอร์อยู่อีกก็จะต้องจับกุมทันที" นายชัยรัตน์ กล่าว


สำหรับการจัดรถสาธารณะเพื่อให้บริการกับประชาชนในการเดินทางไปใช้สิทธิ์ลงประชามติร่าง รธน. 19 ส.ค. 2550 นั้น นายชัยรัตน์ กล่าวว่า รถไฟชั้น 2 ชั้น 3 และรถร่วมบริการ บขส.จะลดราคาพิเศษ 50% จากค่าโดยสารทั้งหมด ส่วนรถที่ให้บริการในกรุงเทพฯ จะให้บริการฟรีเฉพาะวันที่ 19 ส.ค. ส่วนรถของบริษัทขนส่งจำกัด หรือ บขส.จะเริ่มในวันที่ 17-20 ส.ค. รวม 4 วัน ฉะนั้นสำหรับประชาชนที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อมาลงประชามติจะได้รับความสะดวกและจะได้อัตราค่าโดยสารพิเศษจากทางราชการด้วย


ในส่วนของต่างจังหวัดนั้นกรมการขนส่งจะทำหนังสือขอความร่วมมือผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทางในการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนหากไม่ลำบากจนเกินไปก็ขอให้ลดอัตราค่าโดยสารให้กับประชาชนเพื่อสนองนโยบายของภาครัฐ แต่ทั้งนี้ภาคเอกชนมีปัญหาเรื่องต้นทุนราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ภาครัฐจึงทำได้เพียงขอความร่วมมือเท่านั้น


อย่างไรก็ตามคาดว่าในช่วงวันหยุดยาว 3 วัน (18-20 ส.ค.) เพื่อลงประชามติ นั้นจะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะประชาชนทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กรมการขนส่งทางบกจึงได้สั่งการให้สำนักงานขนส่งจังหวัดทุกจังหวัดพร้อมทั้งสถานีขนส่งทุกแห่งเตรียมพร้อมในการจัดเตรียมรถโดยสาร เพื่อรองรับและอำนวยความสะดวกการเดินทางของประชาชนในวันดังกล่าว อย่างพอเพียง ไม่ให้มีปัญหาตกค้างและมีความปลอดภัย โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ขนส่งต้องอยู่ปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวกให้กับประชาชนอย่างเต็มที่ห้ามขาดหรือลาในช่วงดังกล่าวอย่างเด็ดขาด นายชัยรัตน์ กล่าวในที่สุด


 


 


"ป๋าเหนาะ" ชวน ปชช.รับ รธน.50 กลางงานวันเกิด "สุชาติ"


เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น-ช่วงสายวันนี้ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ได้เดินมาร่วมอวยพรวันเกิดนายสุชาติ บรรดาศักดิ์ ครบรอบ 52 ปี โดยมีประชาชนทั่วเขตปากเกร็ด มาร่วมอวยพรและให้กำลังใจนายสุชาติด้วย


         


ส่วนช่วงค่ำเวลา 19.00 น. นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ได้เดินทางมาเป็นประธานงานคล้ายวันเกิดนายสุชาติ พร้อมนายพายัพ ปั้นเกตุ, นายบุญถึง ผลพาณิชย์, นายอนันต์ ฉายแสง และนายพงษ์เทพ เทพกาญจนา อดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย เข้าร่วมอวยพร


         


โดย นายเสนาะ ได้กล่าวบนเวทีตอนหนึ่งถึงการลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญว่า ขอให้ประชาชนทุกคนไปใช้สิทธิ์ลงประชามติวันที่ 19 สิงหาคมนี้ รัฐธรรมนูญปี 2550 ไม่ได้สำคัญอะไร แต่ความสำคัญอยู่ที่คนใช้ ถ้าผลการลงประชาสมติไม่ผ่านจะเกิดปัญหามากกว่า


 


 


"ป๋าเปรม" ระบุ ผลประชามติ รธน.ชี้อนาคตการเมืองไทย


เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น -พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ เป็นประธานเปิดงาน "สีสรรพรรณไม้ เทิดไท้บรมราชินีนาถ" เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ 12 สิงหาคม 2550 ที่สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์


         


พล.อ.เปรม ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวถึงกรณีการสร้างความรักความสามัคคี เพื่อถวายสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ว่า โดยส่วนตัวสิ่งที่ควรทำมากที่สุดคือ การทำให้เกิดความสามัคคีปรองดองของคนในชาติบ้านเมือง อันไหนที่ละเว้นไม่พูดถึง ก็น่าจะไม่พูดถึง อันไหนที่พอจะให้อภัยกันได้ ก็ให้อภัยกัน เพื่อให้เกิดความรักความสามัคคีในบ้านเมืองของเรา


         


ต่อข้อถาม ใกล้ถึงวันลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ในวันที่ 19 ส.ค.นี้ อยากให้มีการเชิญชวนประชาชนออกมาใช้เสียงลงประชามติ เพื่อเปลี่ยนอนาคตของประเทศไทย พล.อ.เปรม กล่าวว่า ก็พูดกันทุกวันไม่ใช่หรือ เรื่องการชักชวนให้มาลงประชามติกันเยอะ ๆ ก็พูดกันอยู่ทุกวัน และมีการชักชวนกันอยู่ทุกวัน ก็คิดว่าน่าจะไปกันเยอะ ๆ นะ


         


ผู้สื่อข่าวถามว่า ประชาชนออกไปลงประชามติเป็นจำนวนมาก จะทำให้อนาคตการเมืองไทยเปลี่ยนแปลงหรือไม่ พล.อ.เปรม กล่าวว่า "ยังไม่ทราบผล ยังพูดไม่ได้ ต้องให้ทราบผลก่อนว่าจะรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ จึงจะพอมองเห็นแนวทางว่าควรจะทำอะไรต่อไป"


 


 


คมช.เกาะติดกลุ่มค้านสกัดแจกเงินคว่ำรธน.


เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น -พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กล่าวถึงความพร้อมในการรณรงค์ให้ประชาชนไปใช้สิทธิ์ลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ 2550 ว่า ปัจจุบันทุกภาคส่วนมีการรณรงค์อย่างเต็มที่ ซึ่งน่าดีใจที่จากข้อมูลซึ่งบรวมรวมได้ทราบว่าประชาชนมีความเข้าใจการลงประชามติ และจะมาใช้สิทธิเพิ่มจากเดิมอีกร้อยละ 40 ของยอดเดิม ถือว่าขณะนี้ทุกอย่างกำลังลงตัวไปในทางที่ดี คมช.เชื่อมั่นว่าประชาชนจะออกมาใช้สิทธิจำนวนมาก และเชื่อว่ารัฐธรรมนูญฉบับ 2550 จะผ่านการลงประชามติแบบผ่านฉลุย แต่จะมีส่วนต่างเท่าใดนั้นไม่สามารถระบุได้


         


พ.อ.สรรเสริญ กล่าวด้วยว่า จากข้อมูลแต่ละกองทัพภาคทราบว่า คนที่ล้มร่างรัฐธรรมนูญ 2550 พยายามเต็มที่ ซึ่งการสกัดเม็ดเงินทำได้ลำบาก แต่กองทัพได้ให้ทหารชุดเกาะติดของ กอ.รมน.เข้าไปฝังตัวในพื้นที่ เพื่อให้เขาใช้จ่ายเงินลำบากขึ้น โดยจากการตรวจสอบพบมีการใช้จ่ายเงินในภาคอีสานให้ล้มร่างรัฐธรรมนูญจริง แต่ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าเป็นกลุ่มไหน ส่วนที่ว่าเป็นข้อมูลออกมาจาก คมช. เป็นความพยายามดิสเครดิตฝ่ายตรงข้ามนั้น ที่ผ่านมายังไม่มี คมช. พูดเช่นนี้ แต่กำลังให้ชุดเกาะติดไปทำความเข้าใจกับประชาชนว่าไม่มีใครลงทุนเอาเงินมาให้เปล่า โดยไม่หวังผลตอบแทน


         


ทั้งนี้ คมช.มีหนังสือเวียนถึงกำลังพลให้มาใช้สิทธิลงประชามติ ถือเป็นการบังคับให้กำลังพลมาลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่ โฆษก คมช. กล่าวว่า คมช.บังคับไม่ได้ ไม่ทำ และเมื่อทหารทุกคนเข้าไปในคูหาเราก็ไม่รู้ว่าใครลงคะแนนอย่างไร เพราะไม่ได้ให้ทุกคนหันหลังโล่แล้วรู้ว่าใครลงคะแนนอย่างไรเหมือนอดีตรัฐบาลที่ผ่านมา ถือเป็นสิทธิของกำลังพล คมช.ไปบังคับไม่ได้  เพียงแต่ทำความเข้าใจกับกำลังพลและครอบครัวต่อการลงประชามติ


         


ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยังเคลื่อนไหวอยู่ในต่างประเทศ มีผลต่อการลงประชามติหรือไม่ พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ มี 2 สถานะ คือเป็นเจ้าของทีมฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี้ และเป็นผู้ถูกกล่าวหาจากองค์กรตรวจสอบ ถูกติดตามตัวจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อนำตัวมาเอาผิด เพราะเป็นจำเลยของสังคม ซึ่งท่านอยู่ต่างประเทศไม่สะทกสะท้านต่อการตรวจสอบ แต่เราก็ต้องทำตามขั้นตอนกฎหมาย ซึ่งไม่ทราบว่าขณะนี้ถึงกำหนดเวลาที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องมารายงานตัวรับฟังข้อกล่าวหาการทุจริตตามหมายเรียกหรือยัง ซึ่งคงต้องไปตรวจสอบต่อไปว่าหากครบกำหนดเวลาจะต้องถูกดำเนินการอย่างไรต่อไป


 


 


พระเปรมศักดิ์ เรียกร้องพลังเงียบใช้สิทธิรับร่างฯ


ไอ.เอ็น.เอ็น. - พระเปรมศักดิ์ เปมสักโก เทศนาในการเสวนาหัวข้อธรรมะกับประชาธิปไตย โดยเรียกร้องให้กลุ่มพลังเงียบออกมาใช้เสียงลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 19 ส.ค. นี้ กันอย่างพร้อมเพรียง เพื่อร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์ต่อต้านกลุ่มอำนาจเก่าและกลุ่มผู้มีอิทธิพล ที่คอยสร้างกระแสและหวังที่จะล้มล้างร่างรัฐธรรมนูญ ด้วยการจ่ายเงินแจกจ่ายให้กับประชาชน โดยที่ประชาชนนั้นไม่ทราบถึงข้อเท็จจริง และไม่รู้ลึกถึงแผนการสืบทอดอำนาจในการเลือกตั้งที่จะมาถึง


         


พร้อมกันนี้พระเปรมศักดิ์ ยังกล่าวถึงการล้มร่างรัฐธรรมนูญ ว่าเป็นการหลงผิดของกลุ่มคนบางกลุ่ม ซึ่งถือเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่า เนื่องจากแผนการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ของรัฐบาล จะกระตุ้นให้ประชาชนได้รับทราบและเข้าในในรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550


 


 


แฉรัฐขู่ย้าย ขรก. หากผลประชามติไม่ตรงใจ


เว็บไซต์เดลินิวส์-ที่สถาบันปรีดีพนมยงค์  " กลุ่มเพื่อนจาตุรนต์" ได้เชิญนายจาตุรนต์  ฉายแสง  ประธานที่ปรึกษากลุ่มไทยรักไทย กล่าวปาฐกถาเรื่อง "รัฐธรรมนูญของใคร ?ทำไมจึงไม่รับ" โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า โดยส่วนตัวเห็นว่าเราไม่ควรเทียบร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ว่ารัฐธรรมนูญ เพราะมีข้อบกพร่องอยู่มาก โดยเฉพาะกรณีที่ประชาชนไม่ได้มีความเท่าเทียมกันตามกฎหมาย และเชื่อมโยงกับเงื่อนไขอื่นๆ ยิ่งเห็นชัดเจน  ถึงแม้จะมีการเขียนให้ประชาชนมีสิทธิ เสรีภาพเพิ่มมากขึ้นขึ้นทั้งในเรื่องของการลงชื่อเสนอกฎหมาย แก้ไขรัฐธรรมนูญหรือถอดถอนองค์กรอิสระ แต่ เวลาแก้ไขจริงๆทำได้ยากเพราะต้องผ่านขั้นตอนของสภาผู้แทนราษฎร โดยเฉพาะ ส.ว.กว่าครึ่งหนึ่งก็มาจากการแต่งตั้ง จึงไม่แปลกหากจะเกิดการฮั้วทางการเมืองเหมือนที่ผ่านๆมา ท้ายที่สุดเรื่องก็ต้องไปตกอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญหรือศาลปกครอง ถ้านำไปตีความ 2-3 ครั้งก็จะกลายเป็นบรรทัดฐานหรือเป็นกลายเป็นรัฐธรรมนูญไป อย่างไรก็ตามตนยืนยันที่จะไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้และนำรัฐธรรมนูญปี 2540 มาปรับแก้จะเป็นทางออกที่ดีที่สุด ส่วนการปราศรัยใหญ่ของกลุ่มไทยรักไทยที่ท้องสนามหลวงในวันที่ 15 ส.ค.นี้ เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนไม่รับร่างรัฐธรรมนูญนั้น อาจทำให้เกิดการลงคะแนนที่พลิกล็อคตามมาได้


 



นายจาตุรนต์  ยังกล่าวถึงการลงประชามติในวันที่ 19 ส.ค.นี้ว่า หากร่างรัฐธรรมนูญปี50 ดีจริง และรัฐบาลมั่นใจว่าจะผ่านการลงประมาติแน่อนน   ตนก็อยากถามกลับว่า ทำไมรัฐบาลจึงต้องกลัวฝ่ายตรงข้าม และพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ร่างรธน.ผ่าน และเกณฑ์ประชาชนให้ออกมาลงประมาติรับร่าง รธน. นอกจากนี้ก็มีไปการข่มขู่ประชาชนให้ไปรับร่างรัฐะรรมนูญไม่เช่นนั้นจะเป็นพวกไม่รักชาติทำเหมือนกับต้องเป็นหน้าที่  ทั้งๆที่การเผยแพร่ความรู้ เนื้อหาสาระ ของรัฐธรรมนูยก็ยังมีน้อยเกินไป ทำเพียงด้านเดียวเฉพาะกลุ่มที่เห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญเท่านั้น  ตรงนี้สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่า การลงประชามติบิดเบือนจากข้อเท็จจริงไปหมด ไม่มีความชอบธรรม ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง และสิ้นเปลืองงบประมาณโดยใช่เหตุ


 



นายจาตุรนต์ กล่าวต่อว่า ล่าสุดทราบข้อมูลมาว่า กกต. สั่งย้ายครูจำนวน 3 คนที่ จ.บุรีรัมย์เพราะอ้างว่าฝักใฝ่ไปเป็นหัวคะแนนให้กับนักการเมือง รวมถึงรณรงค์คว่ำ ร่าง รธน. .ในขณะที่ จ.นครราชสีมา ก็มีข้าราชการฝ่าปยกครอง ผู้ว่าฯ นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่ ออกมารณรงค์ให้ประชาชนรับร่างรัฐธรรมนูญ แต่ยังไม่เกิดอะไรขึ้น  ตนก็อยากถามว่า กกต.มีความเป็นกลางแค่ไหนเพราะตัว กกต. เองมีข้อครหา เพราะ 2 ใน 5 เป็น ส.ส.ร นอกจากนี้ กกต.จังหวัด กว่า 60-70% ก็เป็นข้าราชการประจำ


 



"ขณะนี้ข้าราชการประจำทั่วประเทศไม่ว่าจะเป็นทหาร  ตำรวจ  ผู้ว่าราชการจังหวัด  นายอำเภอ  และฝ่ายปกครองถูกสั่งไว้หมดแล้วว่าถ้าผลคะแนนการลงประชามติออกมาไม่ดี จะได้รับผลกระทบในการโยกย้ายด้วย ดังนั้นทุกคนก็ต้องทำยังไงก็ได้ให้รับร่างรัฐะรรมนูญถึงขนาดให้เอารถไปขนชาวบ้านโดยมีกำนัน ผู้ใหญ่บ้านไปรับ ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่เคยมี แต่ครั้งนี้เกิดอุตริและ กกต. ก็ยอม  จึงทำให้การลงประชามติในครั้งนี้ไม่ชอบธรรมข่มขู่และหลอกหลวงประชาชน  " นายจาตุรนต์ กล่าว


 


 


มั่นใจ รมว.คลังแจง สนช.เคลียร์มาตรการสกัดบาทแข็ง


เว็บไซต์เดลินิวส์ -พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ในรายการ "เปิดบ้านพิษณุโลก" ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ เป็นครั้งที่ 14 โดยมีนายอภิรักษ์ ชาญพิชิตวณิชย์ เป็นผู้ดำเนินรายการ ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงการตอบกระทู้ของ รมว.คลังต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในเรื่องค่าเงินบาทเมื่อวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมาว่า ตนคิดว่า รมว.คลังได้ชี้แจงอย่างครบถ้วนแล้วว่าควรจะเป็นอย่างไร


 



อย่างไรก็ตามวิชาเศรษฐศาสตร์และแนวคิดทางเศรษฐศาสตร์นั้น ไม่มีสูตรสำเร็จที่แน่นอนชัดเจน ขึ้นอยู่กับหลายๆ สิ่ง หลาย ๆ อย่าง ซึ่งผู้ที่ทำหน้าที่โดยตรง คือผู้ที่ติดตามสถานการณ์ ผู้ที่วิเคราะห์สถานการณ์ มีข้อมูลที่ต่อเนื่อง และทันสมัย จะเป็นผู้ที่สามารถตัดสินใจได้ดีกว่าผู้ที่ไม่มีข้อมูลหรือมีข้อมูลที่ไม่ทันสมัย ยิ่งในยุคโลกาภิวัตน์เช่นปัจจุบันเราจะต้องติดตามสิ่งต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องตลาดการเงินระหว่างประเทศ การลงทุนของต่างประเทศ ตลาดหุ้น ตลาดพันธบัตร แล้วถึงจะตัดสินใจได้ว่าเราควรจะทำอะไร การบริหารความเสี่ยงที่ดีที่สุด คงอยู่ที่การพิจารณาจากข้อมูลที่ถูกต้อง เป็นไปตามเวลา



 


นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า สำหรับมาตรการรับมือกับค่าเงินบาทนั้น รัฐบาลคงจะไปบอกไม่ได้ว่าค่าเงินของเราจะไม่ไปแตะที่ 30 บาท เพราะคงไม่มีการตั้งเป้าแน่นอน แต่ที่เราพูดกันคือเรื่องการบริหารในปัจจุบันนี้คือการที่จะให้มีเสถียรภาพทางการเงิน ค่าเงินต้องไม่เปลี่ยนแปลงในระยะสั้น ๆ อย่างรวดเร็วมากนัก เพื่อไม่ให้กระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวม แต่เราไม่สามารถบอกได้ว่าค่าเงินจะอยู่ที่ระดับไหน เพราะถ้าบอกแล้วจะมีผู้ที่สามารถที่จะใช้ข้อมูลเหล่านั้นให้เป็นประโยชน์ในการลงทุนล่วงหน้าได้  ซึ่งบุคคลที่มีความรู้ความสามารถทางด้านนี้มีมาก


 



เมื่อถามถึงร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจคนต่างด้าวที่มีการตั้งคำถามมากว่าตกลงประเทศไทยจะเปิดโอกาสให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าว ร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวได้ผ่านการพิจารณาของครม.ไปแล้ว เข้าสู่ สนช. ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงในชั้นกรรมาธิการเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา โดยกรรมาธิการเสียงข้างน้อยเห็นว่าควรจะมีการพิจารณาคำนิยามของคำว่า "คนต่างด้าว" ให้เข้มข้นขึ้นกว่าเดิม แต่ร่าง พ.ร.บ.ที่รัฐบาลเสนอเข้าไป เราได้มีการรวบรวมข้อมูล พูดคุย ทำความเข้าใจกับนักลงทุนต่างด้าวมาพอสมควร และได้ข้อสรุปที่น่าจะเป็นจุดที่สมดุล ซึ่งเชื่อว่าทุกฝ่ายจะต้องปรับตัวทัน เพราะเราเปิดโอกาสให้ปรับตัวกันอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามตนได้พูดกับ รมว.พาณิชย์ว่า เราคงจะต้องรอฟังการตอบรับจากทุก ๆ ภาคส่วน ในช่วงเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ว่าจะเป็นอย่างไร และหาทางที่จะดูกันว่า เราควรจะปรับแก้อย่างไร แต่แน่นอนว่าสิ่งที่ได้มีการลงมติไปแล้ว เราไม่สามารถที่จะไปแก้ไขในส่วนนั้นได้แล้ว เพราะเป็นน้ำที่ได้ไหลผ่านไปแล้ว


 


 


สหรัฐฯ คุมเข้มแรงงานต่างด้าว


ศูนย์ข่าวแปซิฟิค -รัฐบาลสหรัฐฯ ออกมาตรการใหม่ เพื่อปราบปรามปัญหาการจ้างแรงงานต่างด้าวเข้าทำงานโดยผิดกฎหมาย โดยเพิ่มบทลงโทษและค่าปรับให้มากขึ้น ขณะเดียวกันยังให้เวลานายจ้าง 90 วัน ในการตรวจสอบข้อมูลพนักงานของตนว่า มีใบอนุญาตพักอาศัยในสหรัฐฯ อย่างถูกต้องหรือไม่ เพราะหากไม่มี นายจ้างก็ต้องเลิกจ้างพนักงานคนนั้นทันที นายจ้างใดฝ่าฝืน อาจจะต้องถูกปรับเป็นเงินสูงสุด 12,500 เหรียญสหรัฐฯ หรือราว 425,000 บาทต่อลูกจ้างผิดกฎหมาย 1 คน และค่าปรับจะเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 25 หากมีความผิดในคดีเพิ่มขึ้น นายมิเชล เชอร์ตอฟ กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ กล่าวแสดงความเชื่อมั่นต่อมาตรการใหม่นี้ว่าเป็นมาตรการที่จะสามารถแก้ปัญหาแรงงานต่างด้าวได้


         


ขณะเดียวกัน รัฐบาลสหรัฐฯ ยังได้สั่งเพิ่มภารกิจการตรวจค้นบริษัท หรือโรงงานต่างๆ ที่มีการลักลอบจ้างแรงงานผิดกฎหมาย และสอบสวนแรงงานต่างด้าวมากขึ้นด้วย อย่างไรก็ตาม มาตรการดังกล่าวเป็นเพียงส่วนหนึ่งในกฎหมายปฏิรูปแรงงานต่างด้าวฉบับใหม่ที่เพิ่งผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรสเมื่อเดือนมิถุนายน ขณะที่นายคาร์ลอส กูเตียร์เรซ รัฐมนตรีพาณิชย์ ของสหรัฐฯ กลับแสดงความเห็นว่า มาตรการดังกล่าวอาจจะกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศได้ เนื่องจากในภาคการเกษตร อุตสาหกรรม การก่อสร้าง และงานโรงพยาบาลล้วนต่างจ้างแรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมายทั้งสิ้น


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net