Skip to main content
sharethis

จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2550 ที่ พ.ต.อ.พันธ์ศักดิ์ ศาสนอนันต์, พ.ต.ต.ภัทร เดชะศิริพงษ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลได้เข้าทำการตรวจค้นร้านขายหนังสือการ์ตูน Akiba ในย่านสยามสแควร์ และได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ นายธวัชชัย พฤกษศรีสกุล และ นางวารุณี กำพลกาญจนา ผู้เป็นเจ้าของร้าน ว่ามีสิ่งพิมพ์เข้าข่ายลามกอนาจารในครอบครองเพื่อประสงค์แห่งการค้าหรือทำให้แพร่หลาย


 


ต่อมาในวันที่ 22 สิงหาคม แผนกกฎหมายของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกหนังสือเอกสารเรื่อง "ขอให้ขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกจากอาคาร" ให้กับบริษัท บานานา แอนด์ ซันส์ จำกัด และ บริษัท อากิบะ เรโวลูชั่น จำกัด ซึ่งเป็นผู้เช่าและผู้เช่าช่วงของร้าน "อากิบะ" ตามลำดับ ซึ่งในเนื้อหาของเอกสารมีคำสั่งให้ ระงับสัญญาเช่า และ บริษัท อากิบะฯ ผู้เช่าช่วงต้องขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกจากอาคารภายในเวลา 30 วัน มิเช่นนั้นจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย


 


โดยในเอกสารได้อ้างว่า บริษัท อากิบะฯ ผู้เช่าช่วง ได้ประกอบกิจการจำหน่ายสื่อสิ่งพิมพ์ลามก ซึ่งถือเป็นการกระทำโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ส่งผลเสียหายต่อภาพลักษณ์ของมหาวิทยาลัยเป็นอย่างมาก และถือเป็นการปฏิบัติผิดสัญญาเช่าตามข้อ 3 เป็นเหตุให้สัญญาเช่าระงับลงทันที


 


อนึ่ง ในวันที่ 7 สิงหาคม ได้มีผู้สอบถามข้อมูลจาก พ.ต.ต.ภัทร เดชะศิริพงษ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลหนึ่งในเจ้าหน้าที่ผู้เข้าร่วมตรวจค้นร้าน Akiba ในวัน 18 ก.ค. ผ่านทาง Blog ของ CartoneHg (http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=zogo) และ website Zogo Internet Radio (http://www.geocities.com/cartonehg/interview.html) ในเรื่อง "กรณีการจับกุมร้านอากิบะและแนวทางนโยบายในการปราบปรามสื่อลามกของเจ้าหน้าที่ตำรวจ" และได้เผยแพร่บทสัมภาษณ์ในเว็บไซท์ Pantip ในวันที่ 30 สิงหาคม


 


โดยเนื้อหาของบทสัมภาษณ์มีรายละเอียดเกี่ยวกับสาเหตุและวิธีการเข้าขอตรวจค้นร้าน, หลักการนิยาม "สื่อลามก" ของเจ้าหน้าที่ รวมถึงแนวทางในการควบคุมสื่อในอนาคตซึ่งเกี่ยวโยงกับร่าง พ.ร.บ. ที่จะมีขึ้นในอีกไม่นานนี้


 


พ.ต.ต.ภัทร เดชะศิริพงษ์ กล่าวในบทสัมภาษณ์ไว้ว่า ได้เข้าตรวจค้นร้านอากิบะตามข้อมูลจากเว็บเอ็กไซต์ของหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ และเข้าไปทำการตรวจสอบโดยบางส่วนไม่ได้แสดงตนว่าเป็นเจ้าหน้าที่ หลังจากนั้นจึงได้ยึดและดำเนินคดีตามที่คณะกรรมการได้ออกความเห็น ในรายละเอียดด้านอื่น ๆ ก็ออกตัวว่าไม่ทราบ เพราะเข้ามารับตำแหน่งภายหลังจากที่คณะกรรมการมีมติจากการประชุมเรื่องนี้ออกมาแล้ว


 


ในส่วนของการนิยาม "สื่อลามก" พ.ต.ต. ภัทร ได้กล่าวไว้ในบทสัมภาษณ์ว่า ต้องดูเจตนาของผู้ที่จัดพิมพ์แล้ว เอามาเข้าที่ประชุมของคณะกรรมการว่าเข้าข่ายเป็น "สื่อลามก" หรือไม่ และได้กำหนดมาตรฐานไว้ดังนี้คือ เป็นภาพเล้าโลมกันจนเห็นได้ว่ากำลังมีความรู้สึกทางกามารมณ์ ไม่ว่าผู้กระทำจะเป็นเพศเดียวกันหรือต่างเพศ , เป็นภาพแสดงความต้องการทางกามารมณ์ ได้แก่ ภาพที่แสดงท่าทางให้ผู้ดูเข้าใจได้ว่าผู้นั้นกำลังมีอารมณ์ทางกามารมณ์ , ภาพที่แสดงการเปลือยกายเปลือยยอดอกของหญิงซึ่งไม่มีลักษณะเป็นภาพศิลป์ รวมถึงภาพที่จะนำไปสู่ความเสื่อมเสียศีลธรรมอันดีงามและวัฒนธรรมแห่งชาติได้


 


พ.ต.ต.ภัทร ยังได้กล่าวในบทสัมภาษณ์อีกว่า แนวทางของคณะกรรมการการตรวจสอบจะไม่สุดโต่งจนเกินไปและจะพยายามอาศัยคนจากหลายๆ ภาคส่วนมาร่วมพิจารณากำหนดมาตรฐาน ขณะเดียวกัน ในบทสัมภาษณ์ พ.ต.ต.ภัทร ก็ได้พูดถึง พ.ร.บ.สิ่งยั่วยุฯ ซึ่งกำลังอยู่ในขั้นตอนการรับร่าง ว่ายังเหลืออีกสองวาระ ต้องผ่านการทบทวนว่ามาตราไหนควรผ่านหรือไม่ผ่าน จึงยังไม่ขอแสดงความเห็นจนกว่า กฎหมายฉบับนี้จะมีออกมา


 


 


เนื้อหาทั้งหมดของบทสัมภาษณ์ (จาก http://www.geocities.com/cartonehg/interview.html ) มีดังนี้...


 


บทสัมภาษณ์


 


สารวัตรภัทร เดชะศิริพงษ์


สารวัตรฝ่ายอำนวยการ 4


กองตำรวจสันติบาล


วันที่ 7 สิงหาคม 2550


 


 


เรื่อง กรณีการเข้าจับกุมร้านอากิบะและแนวนโยบายในการปราบปรามสื่อลามกของเจ้าหน้าที่ตำรวจ


 


ฉัตรวิทย์ - ขอแนะนำตัวท่านเป็นสารวัตรภัทร เดชะศิริพงษ์ สารวัตรฝ่ายอำนวยการ 4 กองบังคับการตำรวจสันติบาล ในส่วนของสารวัตรนี่ดูแลในเรื่องสิ่งพิมพ์


สารวัตรภัทร - ครับผม ในส่วนของสิ่งพิมพ์ทั้งหมด ตรวจสอบ รับแจ้งใบแจ้งความ ตรวจหัวหนังสือ


ฉัตรวิทย์ - หมายความว่าหนังสือทั่วไปจะต้องมาจดทะเบียนกับสารวัตร


สารวัตรภัทร - ใช่ครับ ต้องมีการแจ้ง เขาเรียกว่าใบแจ้งความ ก็จะมีการจดแจ้งความออกหนังสือ หัวหนังสือ


ฉัตรวิทย์ - ครับ ทีนี้ผมขอเข้าเรื่องของกรณีอากิบะสักนิดนึงนะครับ เพราะว่ามันเป็นกรณีที่ค่อนข้างเป็นที่ตื่นตัวและทุกคนให้ความสนใจกันมากในวงการอินเทอร์เน็ตนะครับ ไม่ทราบว่าจากวันที่ 18 กรกฎาที่ท่านพลเอกพันศักดิ์ผู้บังคับการกับท่านสารวัตรได้เข้าทำการตรวจค้นร้านอากิบะ มันมีที่มาที่ไปอย่างไรครับ ทำไมถึงต้องเป็นอากิบะ หรือว่ามีการแจ้งความหรือว่ายังไงครับ


สารวัตรภัทร - อ๋อ ในส่วนของพวกเรานี่นะครับ ท่านผู้การ ผู้กำกับ สารวัตรเป็นเจ้าพนักงานสื่อสิ่งพิมพ์ประจำจังหวัดกรุงเทพมหานคร


ฉัตรวิทย์ - ครับผม


สารวัตรภัทร - อันนี้เป็นตำแหน่งโดยตรงซึ่งเดี๋ยวจะต้องเข้าไปดู แล้วต้องคุยกันอีกนิดนึง


ฉัตรวิทย์ - ครับผม


สารวัตรภัทร - จะถามอะไรต่อ


ฉัตรวิทย์ - ครับ คือที่มีการสงสัยกันก็ตรงที่ว่า หนังสือหลายเล่มนี่ก็เป็นหนังสือที่ขายอยู่ทั่วไป แต่ว่าทำไมถึงมีการจับกุมที่ร้านอากิบะล่ะครับ ไม่ทราบว่าที่มาที่ไปของคดีนี้มันยังไงกันครับ


สารวัตรภัทร - เอ่อ ถ้าบอกว่าขายอยู่ทั่วไป เราเห็นอยู่ที่ไหนเราก็จับนะครับ เพราะว่านี่มันเป็นนโยบาย ผมอยากจะให้คุณฉัตรวิทย์ได้ดูนิดนึงก่อนที่จะมองในลักษณะว่า เจ้าหน้าที่ทำเกินไปหรืออะไรงี้นะครับ อย่างสมมติว่าเล่มนี้นะครับ เราพับไว้แล้ว คุณดูตรงนี้ มีกอดจูบลูบคลำ มีการร่วมเพศกัน ผมอยากจะทราบว่า แล้วเกิด... ในความรู้สึกจริงๆ แล้ว ถ้าเกิดสมมติว่า มีน้อง คุณมีน้องขึ้นมา เราสามารถซื้อไปฝากน้อง ไม่ว่าเป็นน้องผู้หญิงหรือผู้ชายให้อ่านไหม ถ้าเกิดเขายังอยู่วัยเรียนอยู่


ฉัตรวิทย์ - ครับ


สารวัตรภัทร - ครับ อันนี้มันเป็นประจักษ์พยานที่เราเห็นกันและเราได้แจ้งมา


ฉัตรวิทย์ - ครับผม มันเป็น...


สารวัตรภัทร - ไม่ว่าจะเป็นผู้ปกครองและก็พอดีหนังสือพิมพ์ เอ่อ มีผู้ปกครองได้แจ้งกับทางพวกเรามา คือ พวกเราได้มีข่าวมาว่าอยู่บริเวณโรงหนัง หลายครั้งที่เรานำกำลังไปดูก็ไม่มี


ฉัตรวิทย์ - ครับ


สารวัตรภัทร - นะครับ แล้วคราวนี้ ลงหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ของเอ็กไซต์ เช้าวันนั้นก็มาแปะไว้ที่โต๊ะเลย


ฉัตรวิทย์ - ครับ


สารวัตรภัทร - ผู้กำกับมาแปะไว้ที่โต๊ะเลย นะครับ แต่ก่อนที่จะมาแปะนั้น ผมนำกำลังไปวางไว้แล้วเรียบร้อย รอเวลาเปิดร้านเพื่อจะเข้าไปดูว่ามันมีจริงไหม


ฉัตรวิทย์ - ครับ ขออนุญาตแป๊บนึงนะครับ อันนี้เป็นหนังสือของสำนักพิมพ์บูรพัฒน์ เขียนโดยอิเคงามิ เรียวอิจิ (เรื่อง) คมเขี้ยวเพชฌฆาต ซาซึเกะยอดนินจาเหินเวหา อ๋อ เป็นอิเคงามิอีกเล่มนึง ครับผม


สารวัตรภัทร - แล้วคุณเห็นแบบนี้ ผมถามจริงๆ ถ้าเกิดคุณเป็นสื่อ แล้วคุณเป็นอะไรที่จะขยายความไปให้คนเรานั้นได้ดูได้ชมกันเนี่ย


ฉัตรวิทย์ - ครับ


สารวัตรภัทร - คุณสามารถจะซื้อไปให้ลูกให้หลาน ถ้าเกิดสมมติ เราต้องมองว่าเรามีน้อง ถ้าเกิดสมมติว่า มีเด็กคนหนึ่งเนี่ย ที่เราคิดว่าเป็นน้องเราจริงๆ คิดว่าเป็นลูกเราจริงๆ เราเป็นห่วงไหมถ้าเกิดเราส่งมาเรียนตรงที่บริเวณสยามสแควร์ เวลาว่างช่วงติวเรียนพิเศษเขาจะไปที่ไหน หาที่ไหนไปพักล่ะ ถ้าเกิดตรงนี้มีเพื่อนแนะ มีเพื่อนมาบอกว่าตรงนี้ มันน่าพัก เอ้อ มันมีสถานที่อ่านหนังสือ


ฉัตรวิทย์ - ครับ


สารวัตรภัทร - ฉัตรวิทย์ไปไหมครับ ถ้าเกิดเป็นฉัตรวิทย์ ฉัตรวิทย์ไปไหม


ฉัตรวิทย์ - ก็ไป


สารวัตรภัทร - นะครับ ตรงนั้นมีที่พักอ่ะ เย็นๆ มีอะไรกินเล็กน้อย มีโต๊ะ คล้ายคล้ายเหมือนกับ... อืม จะเรียกว่าไงดีล่ะ มันก็เป็นโต๊ะ อ่า... ประมาณนั้น เป็น coffee shop


 


 


ฉัตรวิทย์ - ทีนี้ เมื่อกี้ถึงตอนรอเวลาเปิดร้าน แล้วขั้นตอนการเข้าตรวจค้นนี่เป็นอย่างไรครับ ในเว็บไซต์ว่า เป็นการบุกล้อม มีการพยายามขัดขวางไม่ให้เข้า


สารวัตรภัทร - อ๋อ ใช่ ก็คือตอนแรกเราก็ คือ ในทีมงานเรา เรามีหน้าตามัน มันมีทั้งหน้าตาเหมือนตำรวจ ทั้งหน้าตาเหมือนโจร


ฉัตรวิทย์ - 555 ครับ


สารวัตรภัทร - นะ พวกเราคือทำงานแบบทำงานเป็นทีมนะครับ เพราะฉะนั้น บางคนนี่ไม่เข้าใจว่า เฮ้ยนี่มันตำรวจ มันคนธรรมดา หรือคนธรรมดาที่จะมาซื้อของเราหรือเปล่า แล้วมี... หรืออยากหาแบบพวกที่หน้าโจรๆ ก็มี เราก็เอาไป คล้ายๆ เราต้องการอยากจะซื้อมากกว่า


ฉัตรวิทย์ - ครับผม


สารวัตรภัทร - พอเราเข้าไปก็ไปถามหาลักษณะหนังสือนั้น พอเขาบอกว่ามี แล้วเพิ่งเริ่มเปิดขายครับ เพิ่งเปิดขาย เปิดไฟขาย เสร็จแล้ว ตำรวจอีกคนนึงหน้าตาเหมือนมันไม่ใช่ตำรวจขึ้นไป เขาดูแปลกหน้าก็เฮ้ยไอ้นี่มาทำไม


ฉัตรวิทย์ - ครับ


สารวัตรภัทร - ปิดไฟ


ฉัตรวิทย์ - อืม


สารวัตรภัทร - พูดกันจริงๆ แล้ว ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่แล้วนะครับอย่างนี้


ฉัตรวิทย์ - ครับ แต่ว่าทางตำรวจได้แสดงตัวหรือเปล่าครับ


สารวัตรภัทร - ตอนนั้นยัง เอ่อ ก็ว่าง่ายๆ คือเขารู้อยู่แล้ว ที่ไม่แสดงตัวเขาก็รู้อยู่แล้ว ใช่ไหมฮะ


ฉัตรวิทย์ - หรือครับ


สารวัตรภัทร - รู้อยู่แล้วครับ


ฉัตรวิทย์ - ครับ


สารวัตรภัทร - คุณจะมาทำไร คุณจะมาจับ คุณจะมีอะไรเงี้ย ขอหมายค้นหมายอะไรงี้ เรามีความรู้สึกว่า มันไม่ใช่ล่ะ


ฉัตรวิทย์ - ครับ


สารวัตรภัทร - เพราะว่าเป็นเวลาทำการที่เขาเปิดขายของ


ฉัตรวิทย์ - เมื่อกี้ที่บอกว่าทางตำรวจไปถามหาแล้วเขาก็แจ้งเลยว่ามีน่ะครับ มีเป็นหนังสือแนวนี้เลย


สารวัตรภัทร - มี บอกเราต้องการหนังสือแนวนี้


ฉัตรวิทย์ - ครับผม


รณชัย - ตอนที่ถามใช้คำพูดประมาณไหนหรือครับ


สารวัตรภัทร - อย่างนี้น่าจะต้องถามเจ้าตัวนะครับ เพราะอีกคนหนึ่งเป็นคนที่ไปล่อ


รณชัย - ครับผม


ฉัตรวิทย์ - ตอนนั้นที่อากิบะลงแถลงการณ์ไว้ก็คือว่า ก็จะมี


สารวัตรภัทร - การกลั่นแกล้ง


ฉัตรวิทย์ - เขาคิดว่าเขาบอกว่าเป็นการกลั่นแกล้งเพราะเขาถือว่าหนังสือนี้มันเป็นหนังสือลิขสิทธิ์ มันมีการตรวจลิขสิทธิ์ผ่านจากสำนักพิมพ์ออกมาแล้ว แล้วก็เป็นการวางจำหน่ายโดยทั่วไป แล้วส่วนนี้


สารวัตรภัทร - เอ่อ อย่างงี้ หนังสือบางเล่มนี่ เราเคยได้มีคณะกรรมการออกมาให้ความเห็นว่า ต้องยึดและก็ดำเนินคดีนะครับ ก็มีบางเล่มแต่ผมไม่แน่ใจ เพราะว่าผมมาทีหลัง ก่อนที่ผมจะรับตำแหน่ง


ฉัตรวิทย์ - ครับผม


สารวัตรภัทร - รู้สึกจะเป็นเล่มนี้ (อิเคงามิ) นะครับ ถ้าจำไม่ผิด บางเล่มมีการที่แบบ คณะกรรมการได้ร่วมพิจารณาแล้วแล้วว่าเป็นหนังสือลามก แล้วก็มีการยึด แต่ว่าเวลานี้ก็ยังมี ถามน้องฉัตรวิทย์นิดนึง


ฉัตรวิทย์ - ครับ


สารวัตรภัทร - ถ้าเกิดสมมติว่า คนถ้าไม่มีเจตนาหรือไม่รู้ว่ามีคนกลั่นแกล้ง อย่างที่ผมเคยเรียนไปที่ว่า ถ้าจะมีคนกลั่นแกล้งกันจริงๆ แล้วเนี่ยนะครับ น้องชื่ออะไรนะ


รณชัย - รณชัย


สารวัตรภัทร - อย่างรณชัยขายอีกร้านนึง


รณชัย - ครับ


สารวัตรภัทร - แล้วบอกว่าร้านต่อวิทย์ขายหนังสือพวกนี้เลย ฉัตรวิทย์บอก อ้าว โอเค รณชัยบอกเนี่ยร้านฉัตรวิทย์ขาย แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเสร็จปุ๊บ ใช่ไหมครับ ถ้าผมไปตรวจของร้านฉัตรวิทย์ ถ้าร้านฉัตรวิทย์ไม่มีของ อันนี้ถึงจะเรียกว่ากลั่นแกล้ง ถึงจะมีของ ก็เรียกว่ากลั่นแกล้งก็จริงอยู่ แต่ถ้าเกิดสมมติว่ามีของผิดกฎหมายอยู่อ่ะ ถามจริงฉัตรวิทย์ออกตัวได้ยังไงล่ะ จะเรียกว่ากลั่นแกล้งไหม ถ้ากลั่นแกล้งก็โอเคล่ะ ถ้าเกิดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมันก็จริงอยู่ แต่ถ้าเกิดไม่มีหลักฐานขึ้นมาเนี่ย ถามว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจะดำเนินคดีได้ไหม


 


 


ฉัตรวิทย์ - ถามนิดนึงครับ อันนี้ เรื่องนี้นี่คมเขี้ยวเพชฌฆาตนี่คือ คณะกรรมการได้ลงมติกันแล้วว่า อันนี้จะไม่สามารถจำหน่ายได้


สารวัตรภัทร - อืม อันนี้ผมบอกแล้วฮะ ผมไม่ยืนยันเพราะผมมาทีหลัง เพราะได้ยินข่าวว่าตรงนี้ ได้มีคณะกรรมการ เอ่อ ได้มีมติในที่ประชุมแล้วว่าเป็นหนังสือลามก


ฉัตรวิทย์ - ครับ


สารวัตรภัทร - เพราะเคยได้ออกหนังสือไปว่า อันนี้ว่าออกมาแล้วว่าเป็นหนังสือลามก


ฉัตรวิทย์ - ได้แจ้งไปทางสำนักพิมพ์แล้วหรือเปล่าครับ


สารวัตรภัทร - อืม อันนี้แจ้งหรือเปล่า ผมไม่ทราบเพราะผมมาทีหลัง


ฉัตรวิทย์ - ผมยังสงสัยอย่างนึงก็คือว่า ในความเป็นการ์ตูนนี่ครับ มันจะมีหลายเล่มต่อหนึ่งเรื่อง เล่ม 1 เล่ม 2 เล่ม 3 สมมติว่าเล่ม 1 เป็นหนังสือลามก แต่ 2 3 4 มันไม่มีฉากลามกเลย เขาจะห้ามเป็นเล่มหรือห้ามทั้งเรื่องเลย


สารวัตรภัทร - ไม่มีฉาก ก็ไม่ห้ามอยู่แล้วครับ เราดูความเป็นจริงสิฮะ แล้วก็คุณต้องรู้จักคำว่าลามกด้วย


ฉัตรวิทย์ - ครับ


สารวัตรภัทร - ลามกก็คือหมายความว่า มีการสมสู่กันเห็น โดยภาพ คือเราเห็นก็คือ โดยภาพที่เราเห็นแล้วมันสมสู่ หรือปฏิบัติกิจอะไรแบบนั้นเขาเรียกว่าอะไร คือมีการเรียกว่า ผู้หญิงผู้ชายและมีการสมสู่กัน


ฉัตรวิทย์ - ครับ


สารวัตรภัทร - นั่นหนึ่ง หรือการแสดงออกท่าทาง เปิดเผย อันนี้เป็นการที่แบบเห็นภาพออกมานะครับ แต่อีกอย่างก็คือมีการบรรยาย อันนี้มองอย่างง่ายๆ ก็คือบรรยายให้เห็นภาพว่า เรากำลังทำอะไรกันอยู่ อาจจะใช้ถ้อยคำแบบสุภาพๆ อย่างเช่นว่า ยกตัวอย่าง ขณะนั้นร่างกายของผมได้เลื่อนลอยไปและหน้าได้ไปซุกอยู่ที่ไหมพรมอันอ่อนนุ่มบริเวณสามเหลี่ยมทองคำของเขา ฉัตรวิทย์พอจะเห็นภาพไหม


ฉัตรวิทย์ - ครับ


สารวัตรภัทร - มันคงไม่มีอะไรนอกจากบริเวณเรือนร่างของเราที่มันเป็นสามเหลี่ยมทองคำ นะฮะ หรือว่าเพียงแค่บอกว่าสามเหลี่ยมแต่ว่ามีไหมพรมอันปกนุ่มอยู่อะไรพวกนี้ แล้วก็ ผมได้ใช้ลิ้นชอนไชไปทั่วเรือนร่างเขา บริเวณตรงนั้น คือฟังแล้วมันบรรยายมาตรงนั้นมันลามกชัดๆ


ฉัตรวิทย์ - ครับผม อันนี้ผมถามนิดนึงตรง เอ่อ อันนี้มันเป็นภาพของการร่วมเพศ แต่ว่ากรณีภาพเปลือยของหญิงสาว หรือว่า คล้ายกับเปลือยใส่ชุดรัดรูปอย่างนี้นี่จะถือว่าเป็นสื่อลามกด้วยหรือเปล่า


สารวัตรภัทร - ไม่น่ะครับไม่ ก็คือเอาว่าง่ายๆ ดีกว่านะฮะ คือหนังสือต่างๆ นี่เราดูที่เจตนา เจตนาของผู้ที่จะมาทำการพิมพ์ด้วยนะครับ แล้วที่ออกมาในลักษณะแบบนั้น เราจะต้องเอามาเข้าที่คณะกรรมการประชุม อันนี้มันเข้าไหม ลามกไหม คือภาพบางภาพอย่างสมมติ อืม เดี๋ยวผมจะยกตัวอย่างให้ดู


 


สารวัตรภัทร - คือบางภาพนี่ บอกไว้ก่อนอย่างพี่นี่ก็ไม่สามารถที่จะตัดสินได้ ก็คือจะต้องซื้อมาแล้วก็มาเข้าคณะกรรมการประชุม พอคณะกรรมการประชุมแล้วว่า เฮ้ย มันใช่นะ


 


สารวัตรภัทร - ภาพอันลามกนะครับ เขาบอกว่า 1-ภาพแสดงการเล้าโลมกันไม่ว่าผู้กระทำจะเป็นเพศเดียวกันหรือต่างเพศกัน และไม่ว่าผู้กระทำจะมีเครื่องหมายแต่งกายหรือไม่ก็ตาม คือภาพเล้าโลมกันจนเห็นได้ว่ากำลังมีความรู้สึกทางกามารมณ์ เช่น ภาพหญิงจูบกับหญิง และสีหน้าแสดงความรู้สึกทางกามารมณ์ ภาพ ต่อไป..ก็คือภาพแสดงความต้องการทางกามารมณ์ ได้แก่ ภาพที่แสดงท่าทางให้ผู้ดูเข้าใจได้ว่าผู้นั้นกำลังมีอารมณ์ทางกามารมณ์ เช่นภาพหญิงนอนถ่างขามีสีหน้าแสดงความรู้สึกทางกามารมณ์ หรือภาพหญิงนอนบิดตัวหรือจับที่หน้าอกตัวเอง ภาพที่...


 


สารวัตรภัทร - ภาพที่แสดงการเปลือยกายเปลือยยอดอกของหญิงซึ่งไม่มีลักษณะเป็นภาพศิลป์ เช่น ภาพหญิงแต่งละครรำละครสวมชฎาแต่เปลือยอก ภาพดังกล่าวไม่ว่าจะมีการลบเลือนเฉพาะบริเวณปลายถันหรือไม่ ก็ถือว่าอาจนำไปสู่ความเสื่อมเสียศีลธรรมอันดีงามและวัฒนธรรมแห่งชาติได้


 


สารวัตรภัทร - อันนี้คือคำจำกัดความที่เราจะต้องตีตามนั้น ก็คือมาตรฐานนะครับ ก็คือว่าด้วยคณะกรรมการว่าด้วยการโฆษนาได้มีคำสั่งออกมา มาตรฐานการพิจารณาภาพอันอาจเข้าลักษณะลามกอนาจาร อาจจะนำไปสู่ความเสื่อมเสียศีลธรรมอันดีงามและวัฒนธรรมแห่งชาติครับ ถามอะไรอีกครับ



 


 


ฉัตรวิทย์ - ก็จะมี...หลังจากนั้นวันที่ 19 กรกฎาคม ทางสยามอินเตอร์คอมมิคเขาก็ได้เรียกหนังสือเก็บกลับคืนอีก 20 รายการ


สารวัตรภัทร - ผมว่านะ ไอ้บริษัทนี้ ผมว่าอาจจะๆ ได้รับคำบอกกล่าวหรือคำบอกเล่าจากคนที่ทำหนังสืออยู่ อาจจะมีการไปบอกว่าเฮ้ย คุณมีลักษณะที่มันหมิ่นเหม่ เขาก็รีบไปเก็บก่อนก่อนที่เราจะไปดำเนินการเก็บเอามาเพื่อเอามาดำเนินคดีนะครับ เพราะว่าฉบับบางฉบับขอบอกเลยว่าไม่เจอ ไม่ทันเจอ เพราะว่าเขาไวกว่าเรา


ฉัตรวิทย์ - ทีนี้ ถ้าในส่วนนี้เขาอ้างได้มั้ยว่าเขาไม่ทราบ


สารวัตรภัทร - เหรอ


ฉัตรวิทย์ - ครับผม


สารวัตรภัทร - เอายังนี้นะน้อง วันนั้นน่ะพี่ก็... ไม่ได้เอา คุณอะไรนะมันมีนี่เมื่อกี้นี้พี่อ่าน คุณอะไรนะคุณธวัชชัยรึเปล่าไม่แน่ใจดูซิ ผู้ชายๆ น่ะลองๆ ดูซิเมื่อกี้นี้เมื่อกี้ให้พี่อ่านดูน่ะมี น่าจะเป็นธวัชชัยนะไม่แน่ใจ


 


 (ท่านสารวัตรออกไปหยิบรายละเอียด)


 


สารวัตรภัทร - ชื่อธวัชชัย แต่นามสกุลอะไรไม่แน่ใจนะครับ วันนั้นที่พี่เข้าไปดำเนินการจับพี่ไปเองด้วยนะครับแล้วก็เลย... ส่วนหนึ่งลูกน้องพี่ก็ระดมกันนั่งอ่านแล้วเริ่มมีความรู้สึกว่าถ้าเราอ่านทุกๆ เล่มนี่มันจะเกิดความเสียหายแก่ของ


ฉัตรวิทย์ - ครับ


สารวัตรภัทร - น้องเข้าใจมั้ย เพราะเดี๋ยวนี้การ์ตูนมันจะแพ็คโดยใช้พลาสติกซีล เพราะเราก็จะต้องขอแกะนะครับ เมื่อเราแสดงตัวว่าเราเป็นเจ้าพนักงานที่จะมาดำเนินการจับกุมเพราะฉะนั้นเราก็ต้องแกะเพื่อที่จะเอามาอ่าน เราก็ไม่ต้องการที่จะให้มันเกิดความเสียหาย เราก็เลยบอกคุณธวัชชัยว่า ...พี่เองแหล่ะ... ไอ้น้องไปจัดการหา ไปเอาหนังสือประเภทแบบนี้มันอยู่ตรงมุมไหนให้เอามาจะได้ไม่เกิดความเสียหาย ถ้าพวกพี่ไปอ่านทุกเล่มเดี๋ยวมันจะเกิดความเสียหาย


ฉัตรวิทย์ - ครับ


สารวัตรภัทร - เขาก็ไปหยิบมา บริเวณที่มันมีหนังสือประมาณนี้ เอามาให้


ฉัตรวิทย์ - ก็เหมือนกับร้านเขาจัดเซ็กชั่นไว้แล้วเลยว่าอยู่ตรงไหน นั่นคือ...


 


 (ท่านสารวัตรไปพบท่านรองฯ สุทัศน์)


 


สารวัตรภัทร - ต่อครับ ว่าไงครับ


ฉัตรวิทย์ - ซักครู่นะครับ


สารวัตรภัทร - เมื่อกี้นี้เกี่ยวกับเรื่อง...ที่ว่ามีเจตนาหรือเปล่า ดูเจตนา ใช่มั้ยที่ที่พี่พูด ถ้าเกิดสมมติว่าเขาไม่รู้จริง พี่จะไปบอกให้เขาหยิบมาจากในชั้นได้ยังไง


รณชัย - ครับผมก็เลยอยากจะถามว่าตอนนั้นตอนไปถามหา ถามเขาว่ายังไงน่ะครับ บางทีคำพูดมันจะบอกผลคนละอย่าง อย่างเช่นบอกว่าอยากเอาการ์ตูน ถามเขาอย่างนี้ว่าอยากได้การ์ตูนที่มันติดเรทหรือว่าจะไปถามเขาว่าอยากได้การ์ตูนที่มันดุเดือดหน่อยอย่างนี้ ใช่มั้ยครับ


สารวัตรภัทร - ครั้งแรกเหรอ ที่พี่เข้าไป


รณชัย - ที่ไปถามเขาครับ ว่าอยากได้การ์ตูนติดเรทอย่างนี้


สารวัตรภัทร - ไม่ๆ แต่บอกนะ ครั้งแรกเนี่ยพี่ให้ลูกน้องเข้าไป แต่คือพี่ไม่ทราบว่าเขาไปพูดลักษณะแบบไหน เขาอยากจะได้การ์ตูนแบบไหน แต่คือน้องเข้าใจมั้ย คือแทบที่จะมันไม่มีผิดเพี้ยนแล้ว เพราะว่าทาง (เวป) เอ็กไซต์ของไทยโพสต์มันบอกมาอยู่แล้ว ว่าหนังสือประเภทนี้มันมีอยู่ที่นี่ เพราะว่าพวกเราก็ค่อนข้างที่จะมีแนวในลักษณะในการดูหนังสือพวกนี้อยู่แล้ว ก็คือถ้าจะพูดแล้วก็เป็นผู้ เรียกว่าผู้ชำนาญการพอสมควร ก็คือ.. ก็บอกต้องการอยากจะได้การ์ตูนญี่ปุ่นอะไรประมาณนี้มากกว่านะ น่าจะเป็นประเภทนี้มากกว่า คือตรงนั้น ต้องขอโทษว่าคือตรงนั้นเราไม่ได้พูดเอง แต่ว่าไอ้ตอนเข้าไปน่ะ หลังจากตอนสุดท้ายที่เรากำลังจะออกมา คือหมายความว่าเราเริ่มอ่านๆ ไปเรื่อยๆ บางทีมีความรู้สึกว่าเราก็เกรงใจว่าร้านเนี่ย ต่อไปมันจะเป็นคล้ายๆ เหมือนสินค้าเก่า น้องเข้าใจมั้ย ถ้าเกิดดึงพลาสติกออกมามีการอ่านขึ้นมา


ฉัตรวิทย์ - มันจะขายไม่ได้


สารวัตรภัทร - ใช่มั้ย ข้างในมันก็ไม่ได้ ถ้าเกิดต่อไปถุงพลาสติกขาด มันจะต้องไปซีล อย่างน้อยก็ต้องไปซีลใหม่ มันก็เลยมันค่อนข้างที่จะลำบาก ก็เลยบอกว่าน้องอย่า อย่ากระนั้นเลย น้องเอาหนังสือในแนวนี้น่ะ อยู่ตรงไหนบ้าง แบบนี้น่ะ ให้ไปเอามาจะได้ไม่ช้าประการหนึ่ง แล้วก็อีกเรื่องนึงก็คือของมันจะได้ไม่เสียหาย


 


 


รณชัย - เท่าที่ผมเข้าใจก็คือ ถ้าตามกฏหมายที่พี่ให้ผมมาเมื่อตะกี้ คือถึงแม้เจตนาโดยรวมของหนังสือเล่มนี้จะไม่ได้ส่อไปในทางนั้น (ทางลามกอนาจาร) แต่ว่ากฏหมายเขียนไว้อย่างนี้ เพราะฉะนั้นมันก็เลยต้องผิด


สารวัตรภัทร - น้องจ๋าไม่ใช่อย่างนั้น นี่ นี่ผิดตามประมวลกฏหมายอาญาเลยนะครับ


รณชัย - ครับ


สารวัตรภัทร - อันนั้นเป็น พ.ร.บ.เฉยๆ นะที่พี่พูดไปเมื่อตะกี้นี้ เข้าใจรึเปล่า จะให้ดูก็คือ จริงๆ แล้วก็คือมาตรา 287 นะครับ


 


สารวัตรภัทร - 1 เพื่อ ผู้ใด เพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ นำเข้า หรือยังให้นำเข้าในราชอาณาจักร ส่งออกหรือยังให้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พาไปหรือยังให้พาไป หรือทำให้แพร่หลายโดยประการใดๆ ซึ่งเอกสาร ภาพเขียน ภาพพิมพ์ ภาพระบายสี สิ่งพิมพ์ รูปภาพ ภาพโฆษณา เครื่องหมาย รูปถ่าย ภาพยนตร์ แถบบันทึกเสียง แถบบันทึกภาพ หรือสิ่งอื่นใดอันเป็นลามก


 


สารวัตรภัทร - 2 ประกอบการค้า หรือมีส่วน หรือเข้าเกี่ยวข้องในการค้าเกี่ยวกับวัตถุหรือสิ่งของลามกดังกล่าวแล้ว จ่ายแจกหรือแสดงอวดแก่ประชาชน หรือให้เช่าวัตถุหรือสิ่งของเช่นว่านั้น


 


สารวัตรภัทร - 3 เพื่อจะช่วยการทำให้แพร่หลาย หรือการค้าวัตถุหรือสิ่งของลามกดังกล่าวแล้ว โฆษณาหรือไขข่าวโดยประการใดๆ ว่ามีบุคคลกระทำการอันเป็นความผิดตามมาตรานี้ หรือโฆษณาหรือไขข่าวว่าวัตถุหรือสิ่งของลามกดังกล่าวแล้ว จะหาได้จากบุคคลใดหรือโดยวิธีใดนะครับ ไม่ว่าโดยวิธีใดนะครับ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


 


ฉัตรวิทย์ - เป็นความผิดที่ชัดเจนทางอาญา


สารวัตรภัทร - ชัดเจนมั้ยฮะ ชัดเจนมั้ย


ฉัตรวิทย์ - ครับผม


สารวัตรภัทร - ครอบคลุมครับ กฏหมายเขียนไว้ดีครับ ครอบคลุมหมด


ฉัตรวิทย์ - ครับ


สารวัตรภัทร - ไม่ว่าจะเป็นการค้า จ่ายแจก


 


 


ฉัตรวิทย์ - ทีนี้ผมมองว่าบางที..หนังสือมันเป็นการ์ตูนจากญี่ปุ่น


สารวัตรภัทร - ครับ


ฉัตรวิทย์ - คือการนำเข้ามา คือเราไม่ได้เป็นคนผลิตกันเอง เราเอาเข้ามาแล้วก็แปล บางทีก็มีปัญหาในการตัดภาพหรืออะไรพวกนี้ ทางตำรวจคิดว่าควรทำอย่างไรจะต้องให้ตำรวจดูก่อนหรือว่าจะต้อง..หรือว่าจะตัดทิ้งมันไปเลย หรือจะทำยังไงดี


สารวัตรภัทร - เอาง่ายๆ คือ 1.ไม่มีข้อความไม่มีภาพ (ลามก) นะครับ ก็โอเคแล้ว


ฉัตรวิทย์ - หมายความว่าไอ้เรื่องนี้ ถ้าตัดภาพพวกนี้ออกก็ขายได้


สารวัตรภัทร - ก็ผมก็ มันก็โอเคนะ ถ้าเกิดตัดภาพ ตัดในช่วงนั้นถ้ามันจะอ๊ากจะเอิ๊กจะโอ๊กจะเอ๊กอะไรกันตรงนี้ประมาณนั้น


ฉัตรวิทย์ - คือถึงแม้เราจะมีตัวอักษรมาบังก็ไม่ได้?


สารวัตรภัทร - ก็บอกแล้วไงด้วยตัวอักษร บรรยายด้วยตัวอักษร


ฉัตรวิทย์ - ก็ไม่ได้รึครับ


 


 


สารวัตรภัทร - อันนี้เมื่อกี้ลืมให้ดูพ็อคเกตบุ๊ค


ฉัตรวิทย์ - ครับ


สารวัตรภัทร - อันนี้เรา ตอนนี้ก็จับอยู่พ็อคเกตบุ๊ค บรรยายข้อความในลักษณะแบบนี้ ที่เมื่อตะกี้นี้นายพี่เรียกขึ้นไปเรื่องพ็อคเกตบุ๊ค


ฉัตรวิทย์ - แต่บางทีหนังสือทั่วไปก็จะมีหลุดออกมานะครับ อย่างหนังสือพวกตะวันหรือบางกอกที่พี่อ่าน ผมก็เคยอ่านตอนเด็กๆ มันก็จะมี มีบางเรื่องที่หลุดออกมา อย่างฉากพวกฉากมหัศจรรย์หรือฉากร่วมเพศทั้งหลาย


สารวัตรภัทร - คือก็ตอนนี้ก็ได้เริ่มเข้ามาเข้มงวดกับเรื่องแบบนี้ เพราะว่ามีคำสั่งมาเกี่ยวกับในเรื่องนี้ เข้มงวดมากๆ เลย


ฉัตรวิทย์ - ครับ เป็นคำสั่งเลยหรือครับ


สารวัตรภัทร - เป็นคำสั่ง... ก็คือคำสั่งคณะกรรมการสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ที่ 1/2550 เรื่องแต่งตั้งคณะอนุกรรมการสืบสวนปราบปรามสื่อที่กระทำผิดกฎหมาย


 


สารวัตรภัทร - ด้วยปรากฏว่าในปัจจุบัน เด็กและเยาวชนส่วนใหญ่กำลังได้รับผลกระทบจากการบริโภคสื่อจากช่องทางต่างๆ เช่น โทรทัศน์ ซีดี วีดีโอ อินเทอร์เน็ต หรือสิ่งพิมพ์อื่นๆ ซึ่งเป็นบ่อเกิดของปัญหาเด็กเยาวชนและสังคม รวมทั้งปัญหาอาชญากรรมต่างๆ ที่กำลังขยายตัว และมีความรุนแรงยิ่งขึ้น รัฐบาลจึงได้แต่งตั้ง คณะกรรมการสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ โดยมีรองนายกรัฐมนตรี นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรมเป็นประธานกรรมการ มีอำนาจหน้าที่กำหนดนโยบายระดับชาติ เพื่อขจัดสื่อร้าย ขยายสื่อดีและสร้างภูมิคุ้มกันให้เด็ก เยาวชน และครูอาจารย์เป็นต้น ตลอดจนจัดให้มีกลไกขับเคลื่อนการดำเนินงานระหว่างกระทรวง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้บังเกิดผลนโยบายที่กำหนดไว้นั้น ฉะนั้น เพื่อให้การขจัดสื่อที่กระทำผิดกฏหมาย บรรลุผลตามนโยบายด้วยความเรียบร้อย อาศัยอำนาจตามความในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 88/2550 ลงวันที่ 23 มีนาคม 2550 จึงแต่งตั้ง คณะอนุกรรมการการสืบสวนปราบปรามสื่อที่กระทำผิดกฎหมาย ดังต่อไปนี้


 


- 1.1 รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (งานสืบสวนปราบปรามอาชญากรรม) เป็นประธานอนุกรรมการนะครับ อันนี้โดยตรง สั่งมานะครับ


- 1.2 รองอธิปดีกรมสอบสวนคดีพิเศษที่ได้รับมอบหมาย เป็นรองประธานอนุกรรมการ


- 1.3 รองอธิปดีกรมการปกครองที่ได้รับมอบหมาย เป็นรองประธานอนุกรรมการ


- 1.4 ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติชาติ (งานสืบสวนปราบปรามอาชญากรรม) เป็นรองประธานอนุกรรมการ


- 1.5 ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เป็นอนุกรรมการ


- 1.6 ผู้บัญชาการตำรวจภูธร 1-9 เป็นอนุกรรมการ


- 1.7 ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เป็นอนุกรรรมการ


- 1.8 ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล เป็นอนุกรรมการ แล้วขอผ่านไปเลยนะครับ มันเยอะ


 


ฉัตรวิทย์ - เยอะมาก


สารวัตรภัทร - นะครับ อำนาจหน้าที่ก็คือวางแผนอำนวยการสั่งการ ควบคุมกำกับดูแล ตรวจสอบติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานสืบสวนปราบปรามสื่อที่กระทำผิดกฎหมาย ผู้ที่อยู่เบื้องหลังและเครือข่าย ให้เป็นไปตามนโยบายที่คณะกรรมการสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์มอบหมาย


 


สารวัตรภัทร - ข้อ2.3 สืบสวนปราบปรามจับกุมดำเนินคดีกับสื่อประเภทต่างที่กระทำผิดกฏหมาย รวมทั้งผู้ที่อยู่เบื้องหลังและเครือข่าย


ฉัตรวิทย์ - ครับที่นี้ผม..


สารวัตรภัทร - ลงชื่อ นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์


ฉัตรวิทย์ - ครับ เป็นคำสั่งลงมาจากรัฐมนตรีเลย


สารวัตรภัทร - ครับ แล้วสั่งมาท่าน ปรากฏชื่อผู้รับผิดชอบก็คือท่านรองฯวงกต มณีรินครับนะครับ สั่งลงมาผู้บัญชาการสันติบาลนะครับแล้วก็สั่งลงมาถึงผู้การ ผู้การมอบหมายให้ท่านรองสุทัศน์ อันทานนท์เป็นผู้ดูแลในเรื่องนี้ สั่งมายังหน่วย ฝ่ายอำนวยการ 4 ให้ติดตามเรื่องนี้โดยเข้มงวด


 


 


ฉัตรวิทย์ - ทีนี้ผม... นิดหนึ่ง ก็คือกรณีของคนที่กระทำความผิด เขาขายหนังสือโป๊ก็ถือว่าเป็นอาชญากรรมไปเลยใช่มั้ยฮะ


สารวัตรภัทร - จะเรียกว่าอาชญากรรมน่ะมันไม่ใช่นะครับ คำว่าอาชญกรรมนะ มันตรงนี้มันให้คำจำกัดความโดยรวมว่ามันไม่ถูกต้อง


ฉัตรวิทย์ - จากที่ผมฟังเมื่อตะกี้ เหมือนกับว่า... ขอสรุปนิดหนึ่งว่ามันเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือการเข้าถึงสื่อลามกของเด็กและเยาวชนใช่มั้ยครับท่าน


สารวัตรภัทร - หมายความว่าอย่างไร


ฉัตรวิทย์ - หมายความว่า ตอนนี้ปัญหาอยู่ที่ว่าเด็กและเยาวชนนี่น่ะเข้าถึงสื่อลามกได้ง่ายมาก ไปที่ไหนก็หาซื้อได้ ใช่มั้ยครับ


สารวัตรภัทร - ค่อนข้างจะเป็นเช่นนั้นนะ เพราะว่าตอนนี้จะออกมาแล้วแฝงซะส่วนมาก แล้วสื่อ สื่อสิ่งพิมพ์เหล่านี่น่ะมันอยู่ได้เป็น 10 ปี มันก็ยังคงความเป็นหนังสือของมันถ้า มันยังไม่โดนทำลาย


ฉัตรวิทย์ - ครับ


สารวัตรภัทร - อินเทอร์เน็ตยังมีการที่ข้อมูลหายไปอะไรไป แต่อันนี้ (หนังสือการ์ตูน) ผมคิดว่ามันอยู่เป็นสิบปี แล้วตอนนี้หน้าปกหน้าชวนอ่านมาก โดยบางทีพ่อแม่ผู้ปกครองไม่สามารถที่จะรู้เลยว่าลูกนี่น่ะอ่านหนังสืออะไร แนวไหน อาจจะเห็นว่า เอ๊ะ! ก็แค่การ์ตูนเล่มหนึ่ง อาจจะเห็นว่า เอ๊ะ! ก็แค่พ็อคเกตบุ๊คเล่มหนึ่ง อย่างกับพ็อคเกตบุ๊คที่ตอนนี้ทำ ก็อย่างเช่นเรื่องมัธยมสีดำ, บันทึกลับจากเกาหลี, AV Girlsที่ขายอยู่ตามสถานที่ต่างๆ


ฉัตรวิทย์ -แม้แต่ใน***ก็มี


สารวัตรภัทร - ผมไม่ระบุนะครับนี่คุณระบุเอง


 


 


ฉัตรวิทย์ - ทีนี้ที่ผมจะถามนิดหนึ่ง ก็คือว่าตรง...ในเมื่อการเข้าถึง...ในเมื่อเด็กสามารถเข้าถึงสื่อลามกได้ง่ายนี่น่ะ ถ้าเราป้องกันตรงนั้น อย่างเช่นว่าการ์ตูนการ์ตูนลามกนี่น่ะ ผมขึ้นหน้าปกห้ามขายให้เด็กจะสามารถถือว่าเป็นการป้องกันได้มั้ยครับ


สารวัตรภัทร - อันนี้ผม..ผมบอกนะครับ บ้านเรายังไม่มีกฏหมายบังคับตรงนี้ ถ้าเกิดว่ากฏหมายเราทางบ้านเราอาจจะ ในอนาคตอาจมีการที่ปรับหรือมีพระราชบัญญัติออกมาเพื่อในลักษณะนี้ว่าเหมือนกับอย่างญี่ปุ่นจั๊ม 1 อายุเท่าไหร่ จั๊ม 2 อายุเท่าไหร่ จั๊ม 3 อายุเท่าไหร่นะครับ อันนี้ผมก็ไม่ทราบ เพราะว่าเคยได้รับข่าวมาแบบปากต่อปากเขาเรตนี้แต่ว่าไม่รู้ว่าต่างประเทศเขาบังคับกันได้อย่างไร เพราะว่าบางทีเด็กๆ เขาก็เข้าใจว่าเขาจะต้องอ่านหนังสือแค่นี้


ฉัตรวิทย์ - ครับ


สารวัตรภัทร - สมมติว่าผมอายุเท่านี้ผมจะต้องอ่านหนังสือแค่นี้ซึ่งไม่ทราบว่าจะมีการที่แบบ..หยิบผ่านจั๊มหรือเปล่าผมไม่ทราบตรงนี้


ฉัตรวิทย์ - ครับผม คืออย่างเช่น...คือผมมองว่าในความเป็นธรรมชาติของผู้ชาย ถือเป็นเรื่องธรรมชาตินะเรื่องของเรื่องที่จะต้องการพวกรูปผู้หญิงหรืออะไรพวกนี้ อาจจะมีความต้องการเรื่องลามกนิดนึง แต่ว่าพอออกมาเป็นอย่างนี้ปุ๊บ กลายเป็นว่าการ์ตูนผู้ใหญ่ก็ต้องถูกตัดตอนและลดลงไปเพื่อให้เด็กอ่าน มันก็จะขัดใจผู้ใหญ่เหมือนกัน


สารวัตรภัทร - มันก็ใช่นะ คือถ้าคุยกันในลักษณะเหมือนอย่างเมื่อตะกี้ที่คุยกันว่าเฮ้ย! มันเป็นการขัดใจผู้ใหญ่นะ ข้อนี้ผมยอมรับนะ แต่ว่าตรงอื่นที่คุณพูดเกินมานี่ ผมไม่ได้ยอมรับทั้งหมดนะ ก็คือหมายความว่า คุยกันถ้าเกิดสมมติว่ามันออกมาเช่นนั้นจริงๆ นะครับ อาจจะเป็นความรู้สึกที่ว่าแหม อยากจะได้อ่านที่มันลึกกว่านี้ ที่มันมันกว่านี้สนุกกว่านี้ถึงกึ๋นกว่านี้ แต่ผมคิดว่าบ้านเรายังไม่มีตรงนี้มาแบ่งนะครับ เหมือนอย่างกับห้ามเด็กซื้อสุราอายุเท่าไหร่อย่างนี้ใช่มั้ยฮะ ตอนนี้เขาแบ่งซึ่งเมื่อก่อนไม่มีใช่มั้ยครับ ซึ่งถือว่าเป็นวิวัฒนาการทางบ้านเราที่พัฒนาปรับปรุงกฏหมายก็ค่อนข้างพอสมควร แต่ว่าคือถ้าเกิดคุยกันตรงที่ว่าเมื่อก่อนนี้เหล้าสองบาทก็ให้เด็กไปซื้อได้ใช่มั้ย สามบาทห้าบาทสามารถซื้อได้เหล้าขาวตามบ้านนอกแต่ไอ้นี่มันคนละเรื่อง เป็นคล้ายๆ เหมือนสินค้าต้องห้ามที่ห้ามเด็กหยิบถึง อันนี้มันจะต้องปลูกฝังพวกเราก่อนว่าเฮ้ย!สมควรที่จะหยิบยื่นให้เด็กขนาดไหน เรามีสามัญสำนึกขนาดไหน ถ้าสมมติเราเป็นคนขาย ถ้าสมมติว่าคนนี้ถ้าเป็นลูกเราล่ะเราจะกล้าหยิบมั้ยที่มันเขียนว่าเด็กอายุต่ำกว่าสิบแปดห้ามอ่าน มาขอซื้อแล้วเราหยิบยื่นไปนี่น่ะ ถ้าเกิดมันมีกฏหมายมาบังคับมีจริยธรรมในจิตใจของเราแล้ว สิ่งเหล่านี้ผมคิดว่ามันสามารถที่จะแบ่งเกรดหนังสือให้เด็กให้ผู้ใหญ่อ่านได้


 


 


ฉัตรวิทย์ - ทีนี้ตรงส่วนนี้ผมก็มองว่าเรื่องของการพัฒนาเรื่องกฏหมายและก็ความเข้าใจในการ ในเรื่องของการควบคุมสื่อลามกนี่น่ะ ตอนนี้ตำรวจทำได้แค่จับกุมและก็ตักเตือนแต่ว่าไอ้การที่จะเอาความรู้ตรงนี้ไปให้กับประชาชนทั่วไปแล้วก็ทางสำนักพิมพ์แล้วก็เด็กนี่น่ะจะมีหน่วยงานไหนที่จะ..ทำบ้างมั้ยครับ หรือว่าไม่สามารถทำได้


สารวัตรภัทร - ตรงนี้หน่วยงานของผมนี่มีการที่จัดแล้วก็ตอนนี้ได้มีการทำประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับเรื่องว่ามีการพบสื่อสิ่งพิมพ์แบบนี้จะต้องให้พวกเราไปดูไปตรวจสอบแล้วก็มีคู่มือการปฏิบัติหน้าที่ออกมาว่าแบบไหนจัดอยู่ในลามกแบบไหนจัดอยู่ในขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน



ฉัตรวิทย์ - คือทีนี้ผมก็มองว่าบางเรื่องเด็กกับผู้ใหญ่ก็คิดไม่เหมือนกันนะครับ บางทีบางอย่างที่ผู้ใหญ่เห็นว่ามัน..มองปุ๊ปมันลามกแต่เด็กเขาอาจไม่คิดอะไรก็ได้ซึ่งก็มีปัญหาเหมือนกัน อย่างเช่นถ้าผมพูดว่าอะไรนะแบบ...ถ้าผมคุยกับเพื่อนอะไรอย่างนี้ผมพูดขึ้นมาคำนึงว่าแข็งหรือแท่ง ปุ๊บ นี่น่ะ ไปแล้วครับเข้าเรื่องลามกทันที แต่ว่าถ้าพูดกับเด็กปุ๊บเขาอาจจะนึกถึงไอติมหรืออะไรก็ได้ ผมคิดว่าตรงนี้น่าจะมีประเด็นตรงนี้เหมือนกันนะครับ


สารวัตรภัทร - ก็เราอย่าไปคิดตรงนั้นซิครับ เราคิดถึงวิญญูชนหรือว่าเด็กๆ โดยทั่วไป ประชาชนโดยทั่วไปมากรองกัน แล้วก็เอาสังคมวัฒนธรรมในช่วงนั้นมาตัดสินกัน เราอย่าโบราณหรือเราจะสุดโต่งไปมันก็ไม่ใช่ ซึ่งตรงนี้เขาเคยบอกมาหรือมีคำพิพากษาศาลฏีกาออกมา ไม่ได้เอาคนที่แบบนับถือศาสนาเคร่งครัดจนมากมายมาตัดสินตรงนี้หรือว่าจะเอาคนแบบวัฒนธรรมตะวันตกมาตัดสินเลยทั้งหมดมันไม่ใช่ เอาความรู้สึกคนปานกลางครับ แล้วเอามาหาข้อยุติตรงนี้


ฉัตรวิทย์ - ครับผม เอ๊ะ!ตรงนี้การกำหนดควบคุมนี่มี...มีการรับฟังจากทางคนนอกทั้งทางเด็ก, ทางสำนักพิมพ์หรือทางผู้ผลิต?


สารวัตรภัทร - โอ้ ถ้าเกิดสมมติว่าเรารับฟัง รับฟังในแนวไหนครับ


ฉัตรวิทย์ - หมายถึงว่าการ...การกำหนดมาตรฐานขึ้นมาเลย อย่างที่เป็นมาตรฐานรูปลามกหรือมาตรฐานรูปที่ขัดศีลธรรมนี่น่ะ มีการเรียกสัมมนารวมกันมั้ยว่ามันจะแค่ไหนหรืออย่างไร


สารวัตรภัทร - มีกัน มีคณะกรรมการ มีเวลา ก็บอกเเล้วไงฮะว่าเวลาหนังสือเรานี่น่ะเอามาไปซื้อเอามาแล้วนี่น่ะมันลามกหรือไม่ลามกนี่เรามีคณะกรรมการเข้ามาพิจารณาเราไม่ได้ทำคนเดียวหรือว่าฝ่ายพี่ทำคนเดียวนี่ไม่ใช่


ฉัตรวิทย์ - เป็นคณะกรรมการเลย


สารวัตรภัทร - ทำเป็นรูปคณะกรรมการ


ฉัตรวิทย์ - มี...ประกอบด้วยคนจากหลายๆ ภาคส่วน


สารวัตรภัทร - ใช่ครับ ใช่


 


 


ฉัตรวิทย์ - แล้วก็ขอบเขตในการทำงานของตำรวจ เท่าที่ผมทราบคือแผนกนี้รับผิดชอบด้านสื่อสิ่งพิมพ์เป็นหลักใช่มั้ยครับ


สารวัตรภัทร - ใช่ครับ


ฉัตรวิทย์ - ในกรณีที่มีกิจกรรมที่เรียกว่า...คล้ายๆ กับการรวมตัวของกลุ่มวัยรุ่นอย่างนี้ แล้วมีพฤติกรรมที่ส่อในทางอย่างนี้ อาจแต่งกายล่อแหลม


ฉัตรวิทย์ - คือมันจะมีงานที่เขาเรียกว่างานโดจินหรืองานคอมมิคที่เป็นการรวมกันของนักเขียนการ์ตูนสมัครเล่น


สารวัตรภัทร - อันนี้เราๆ เราไม่ก้าวล่วงไปถึงตรงนั้น


ฉัตรวิทย์ - ครับผม


สารวัตรภัทร - เราไม่ได้มีนโยบายก็คืออันนี้มีหน้าที่ดำเนินการตรงนี้เราก็ทำแค่ตรงนี้


 


 


ฉัตรวิทย์ - ทีนี้ในเอ่อ...นิดนึงนะครับสารวัตร ตรงในบางสำนักข่าวเขาจะมองเขาจะเขียนไว้ว่าเหมือนกับว่าที่อากิบะเป็นแหล่งมั่วสุมของเหล่าคอสเพลย์ ท่านสารวัตรไม่ทราบรู้จักคอสเพลย์มั้ยครับ คอสเพลย์คือการแต่งตัวที่เลียนแบบตัวละคร ตรงนี้ส่วนนี้ท่านๆ สารวัตรได้ดูในส่วนนี้ด้วยรึเปล่าครับ


สารวัตรภัทร - อ๋อ ก็คงไม่ได้อยู่ในส่วนนี้นะ เกี่ยวกับว่าทางด้านวัฒนธรรมตรงนี้ ก็ไปว่าอาจจะเป็นที่กระทรวง


รณชัย - แต่ว่าในแผนกอื่นของทางตำรวจมีหน้าที่ไปดูแลงานส่วนนี้รึเปล่าครับ


สารวัตรภัทร - ไม่มีน่ะครับ ไม่ได้ก้าวล่วงเข้าไปตรงนั้น


รณชัย - งั้น ณ ปัจจุบันยังไม่มีกฏระเบียบเกี่ยวกับพวกพฤติกรรมกลุ่มนี้ใช่มั้ยครับ


สารวัตรภัทร - ยังๆ


รณชัย - คืองานอีเวนท์ต่างๆ หรือการแต่งตัวเลียนแบบตัวการ์ตูนก็ยังทำกันได้อยู่


สารวัตรภัทร - อือ...จะเรียกว่ายังไงล่ะครับ


 


 


รณชัย - อย่างเช่นถ้าผมแต่งตัวนุ่งน้อยห่มน้อยที่เรียกว่า...


ฉัตรวิทย์ - ทำท่าเซ็กซี่


รณชัย - ค่อนข้างเซ็กซี่อย่างนี้น่ะฮะแล้วมันเป็นกิจกรรมของกลุ่มวัยรุ่น อย่างเช่นผมต้องการเรียนแบบคาแรกเตอร์การ์ตูนในเรื่องนี้ แล้วคาแรกเตอร์ในเรื่องนี้จะใส่ชุดว่ายน้ำทูพีชเป็นประจำ แล้วชอบทำท่าเซ็กซี่อย่างนี้แล้วผมก็ไปทำท่านี้เลียนแบบแล้วให้ถ่ายรูปเป็นกิจกรรมอย่างนี้ ซึ่งเป็นวิธีการที่...


สารวัตรภัทร - ถ้าเกิดๆ ออกมา ถ้าเกิดเดินออกมาผมว่ามันน่าจะไปผิดกฏหมายอาญาในลักษณะอื่นมากกว่า


รณชัย - ครับ ถ้าเกิดว่าอยู่ในที่ปิดก็จะเหมือนว่าทำอะไรในบ้านไปใช่มั้ยฮะ ไม่ผิดกฏหมาย


สารวัตรภัทร - ถ้าเกิดในบ้านเป็น...เขาเรียกว่าไงล่ะ


รณชัย - ถ้าเกิดว่าผมไปทำกิจกรรมนี้ในร้านอากิบะอย่างนี้


สารวัตรภัทร - ก็ถือว่าอยู่ในที่มิดชิด แต่มันเป็นไอ้นั่นรึเปล่า สถานที่นี้มันเป็นที่รโหฐานรึเปล่าล่ะ ถ้าเกิดเป็นมันก็น่ามีนะมีนะครับ


รณชัย - มันจะไปโดนกฏหมายอีกตัวนึง


สารวัตรภัทร - ใช่ กฏหมายอาญานะครับ


รณชัย - อืมครับ เข้าใจครับ


สารวัตรภัทร - ก็คือ อาจจะไปโดนดำเนินคดีทางกฏหมายอาญาไป


 


 


สารวัตรภัทร - นี่ผมกำลังเปิดดูคณะกรรมการ คือตอนนี้เรากำลังจะประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ด้วยนะครับเนี่ย มันจะมีตัวอย่างในการให้ข้อความอนาจารเนี่ย แบบนี้น่ะคุณว่าลามกมั้ย


ฉัตรวิทย์ - ครับผม


สารวัตรภัทร - เป็นตัวการ์ตูนไม้


ฉัตรวิทย์ - เป็น (รูป) ตัวตุ๊กตาไม้ทำท่าร่วมเพศ


สารวัตรภัทร - ทำท่าร่วมเพศอยู่ ถ้าเกิดพูดแล้วจริงๆ เฮ้ยดูแล้วมันไม่อะไรเท่าไหร่อะ ใช่มั้ยฮะ แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่นะ มันเป็นปัญหาที่มาจากไหนล่ะ


 


 


สารวัตรภัทร - นี่ไงฮะ คณะกรรมการซึ่งในความรับผิดชอบของ บชน. ซึ่ง (อ่านคณะกรรมการ) อันนี้คือคณะกรรมการ หลายฝ่ายนะครับหลายฝ่ายไม่ใช่ว่าอันนี้ใช่อันนี้เราต้องมาเข้าคณะกรรมการ


ฉัตรวิทย์ - อันนี้ผมขอถามอีกเรื่องคือ พ.ร.บ.สิ่งยั่วยุฯ ซึ่งตอนนี้ยังไม่ออกมาแต่ว่าก็อยู่ในขั้นตอน ไม่ทราบว่า..


สารวัตรภัทร - น่าจะรับร่างเท่านั้นแหล่ะมั้ง


ฉัตรวิทย์ - ครับ อยู่ในขั้นตอนรับร่าง


สารวัตรภัทร - ครับผม ผมว่า..ยังไงหล่ะ จะถามผมในแนวไหน


ฉัตรวิทย์ - เท่าที่ผมอ่านดูมันค่อนข้างจะเป็น พ.ร.บ.ที่เข้มข้น ถึงขั้นว่ามีแค่มีในครอบครองหรือ...แค่มีครอบครองก็ผิดแล้ว


สารวัตรภัทร - อันนี้นะผมไม่อยากจะออกความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ ผมว่ามันยังไม่คลอดออกมาเราก็อย่าเพิ่งพูดอะไรกันดีกว่า


ฉัตรวิทย์ - ครับผม


สารวัตรภัทร - เพราะว่ามันจะต้องเหลืออีกตั้งสองวาระ


ฉัตรวิทย์ - ครับ ต้องรอดูตัวกฎหมายจริงๆ


สารวัตรภัทร - ครับผมอาจจะๆ ผ่านบางมาตรา ไม่ผ่านบางมาตรามากกว่า คือมีการทบทวน ก็ในที่ประชุมก็ทำงานเหมือนพวกเรานี่ มีการทบทวนเสร็จแล้วก็เอ้าคุณไปทำมาใหม่ ไปทำมาใหม่ดูซิเอ้าโอเคมั้ย โดยทั่วไปเขารับได้มั้ย ผมมองอย่างนั้นมากกว่า บางทีมันสุดโต่งแล้วก็ไม่ได้


ฉัตรวิทย์ - ครับ ผมดูว่ามันเข้มข้นแบบอย่างมาก


 


 


ฉัตรวิทย์ - เห็นว่าทางสันติบาลก็ขึ้นบัญชีดำหนังสือ 22 เล่ม


สารวัตรภัทร - ไม่ จะเรียกบัญชีดำมันก็คงไม่ใช่ล่ะมั้ง


ฉัตรวิทย์ - มีหนังสือ Cute, For him magazine, Penthouse, Gossipและอื่นๆ ทั้งหลาย


สารวัตรภัทร - อ๋อ อันนี้หรือฮะ อันนี้มันเป็นบางเล่มเราดำเนินคดี


ฉัตรวิทย์ - เป็นการเตือนหรือว่ายังไงครับ


สารวัตรภัทร - อันนี้มีส่วนบางส่วนเตือนบางส่วนดำเนินคดี


ฉัตรวิทย์ - เหรอครับ เกี่ยวกับเรื่องของสื่อลามกเลย


สารวัตรภัทร - ก็คือมีทั้งขัดศีลธรรมอันดี มีทั้งผิดตามประมวลมาตรากฏหมายอาญามาตรา 287 เลย ก็มีตักเตือน เรียกทางสำนักพิมพ์มาตักเตือนแล้วก็ในส่วนที่มันผิดก็ดำเนินคดี


 


 


ฉัตรวิทย์ - ในที่สุดท้ายนี้ ทางท่านสารวัตรมีอะไรจะบอกกล่าวน้องๆ หรือพวกๆ เยาวชนทั้งหลายผ่านทางรายการพวกผมมั้ยครับ


สารวัตรภัทร - ผมมีความรู้สึก ตอนนี้เป็นห่วงนะครับ ผมอยากจะให้ทุกๆ คนนะครับ อาจจะเป็นรุ่นพี่เป็นคุณพ่อคุณแม่นะครับ ให้มองไปถึงลูกของเราหลานของเรานะครับ ไม่มองว่าเป็นลูกคนนั้นหลานคนนี้ มองให้เขาเป็นลูกของเราจริงๆ หลานของเราจริงๆ ถ้าไปอยู่ตรงนั้นเราจะรู้สึกยังไงนะครับ เอาใจตรงนั้นไปวางไว้ว่าถ้าเป็นน้องเราล่ะเป็นลูกของเราล่ะจะรู้สึกพิษภัยตรงนี้มั้ย ไปเจอหนังสืออ่านแล้วถึงเป็นรูปการ์ตูนร่วมเพศกันถึงจะไม่เห็นอวัยวะเพศ เราอยากจะซื้อไปให้น้องเราหรือลูกเราหลานเราอ่านมั้ยล่ะ กล้าพอมั้ย นะครับ


 


ท้ายสุดนี้ก็อยากจะให้ทุกคนร่วม..ร่วมมือ ถ้าเกิดเห็นสิ่งไหนมันผิดไม่ผิด แจ้งมายังหน่วยงานของเรานะครับ หมายเลขโทร.0-2251-8967, 0-2205-1455 นะครับ ทางฝ่ายเราจะขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่งนะครับที่ทุกคนตื่นตัวกันช่วยกันคนละไม้คนละมือแล้วก็เพื่ออนาคตลูกหลานของเรานะครับ จบออกมาหรือร่ำเรียนออกมานะครับ ก่อนที่พ่อแม่อยู่ต่างจังหวัดส่งลูกมาเรียนมาไม่รู้เลยนะครับว่าลูกเราไปเรียนมั้ย ถ้าเกิดตรงนั้นพ่อแม่อยู่ต่างจังหวัดเรารู้ว่าสิ่งเหล่านี้ไม่มีเราก็สบายใจ ลูกไม่หลงทางเรียนมาก็จบตรงตามเวลานะครับ ตรงนี้น่ะฝากไว้


 


แหล่งที่มา


http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A5768857/A5768857.html#51


 


แหล่งที่มาดั้งเดิม


http://www.geocities.com/cartonehg/


http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=zogo (ไฟล์เสียง)


 


กฎหมายคำสั่งและมาตรฐานเกี่ยวกับภาพลามก (ไฟล์ PDF)


http://us.share.geocities.com/cartonehg/pdf/rules_p.pdf


 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


http://www.prachatai.com/05web/th/home/page2.php?mod=mod_ptcms&ContentID=9049&SystemModuleKey=HilightNews&SystemLanguage=Thai


http://www.prachatai.com/ireport/view.php?id=34


 


 


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net