Skip to main content
sharethis


เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. วันที่ 1 กันยายน 2550 บนถนนสาย 410 ปัตตานี - ยะลา หมู่ที่ 4 บ้านต้นมะขาม ตำบลเมาะมาวี อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี ขณะที่นายปิยพงศ์ เพชรเงิน นักศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ชั้นปี 4 เอกพัฒนาสังคม คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ อายุ 22 ปี ขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้า โดยมีนางสาวนอัสมา มะลูลีม เพื่อนนักศึกษาซึ่งเป็นลูกของนายอิมรอน มะลูลีม อดีตสมาชิกวุฒิสภากรุงเทพมหานคร นั่งซ้อนท้าย ถูกคนร้าย 2 คนแต่งชุดดำ ขับรถจักรยานยนต์ตามประกบยิงด้วยปืนสั้นขนาด 9 มม.กระสุนเข้าศีรษะ ลำตัวและต้นขา ได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลยะรัง และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนเพื่อนนักศึกษาสาวปลอดภัย


 


ในที่เกิดเหตุยังพบกระสุน 9 ม.ม. 2 ปลอก และแผ่นปลิวทิ้งในที่เกิดเหตุประณามว่ารัฐจับผู้บริสุทธิ์ และข่มขู่จะเอาชีวิตครู


 


จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายพร้อมเพื่อนนักศึกษาอีก 3 คน มีนายพงษ์เทพ แก้วเสถียร, น.ส.อัสมา และ น.ส.อาชรี (ไม่ทราบนามสกุล) ทั้งหมดเป็นนักศึกษาชั้นปี 4 เอกพัฒนาสังคม กำลังเดินทางไปจังหวัดยะลา ด้วยรถจักรยานยนต์ 2 คัน เพื่อพบพ่อของ น.ส.อัสมา ที่เดินทางมาประชุมในจังหวัดยะลา จนกระทั่งเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น


 


หลังเกิดเหตุนายอิมรอนได้เดินทางไปพบลูกสาวและเพื่อนๆ ที่สถานีตำรวจภะรอำเภอยะรัง ก่อนจะเดินทางกลับกรุงเทพมหานครในวันเดียวกัน ส่วนศพของนายปิยพงศ์ ถูกนำไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดใหม่ตำบลรูสะมิแล อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี โดยผู้ปกครองของ นายปิยพงศ์ ได้เดินทางมาจากจังหวัดนครศรีธรรมราชเพื่อนำศพกลับประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิดในคืนวันเดียวกัน


 


พ.อ.วันชัย พ่วงขุมทรัพย์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจที่ 2 รับผิดชอบพื้นที่จังหวัดปัตตานี สันนิษฐานเป็นการก่อเหตุของกลุ่มก่อความไม่สงบ โดยในบริเวณดังกล่าว มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นบ่อยครั้งมาก คาดว่าผู้ก่อเหตุน่าจะอยู่ในพื้นที่ ซึ่งในการตรวจค้นและจับกุมนั้น ต้องรอให้พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอยะรังตรวจสอบหลักฐานและรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ก่อน


 


สำหรับนายปิยะพงษ์นั้น ภูลำเนาเดิมอยู่บ้านเลขที่ 184 หมู่ที่ 4 ตำบลชะไม อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยบิดาเป็นนายทหารประจำอยู่ในจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นนักศึกษาที่นิสัยดีและเป็นนักกิจกรรมในมหาวิทยาลัย เข้าร่วมโครงการและเดินทางไปเยี่ยมครอบครัวผู้ที่ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้บ่อยครั้ง ล่าสุดได้รับมอบหมายจากอาจารย์ให้ทำรายงานเกี่ยวกับการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบด้วย


 


ต่อมาในช่วงเย็น ที่งานรดน้ำศพนายปิยะพงษ์ ที่วัดใหม่ ตำบลรูสะมิแล อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี น.ส.อัสมา มะลูลีม บุตรสาวนายอิมรอน เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า หลังจากที่ถูกยิง ตนเข้าใจว่านายปิยะพงษ์ยังมีสติและเป็นห่วงเพื่อน จึงได้ชะลอรถจักรยานยนต์ ก่อนที่จะจอดลงช้าๆ และเซล้มลง


 


ส่วนนายพงษ์เทพ แก้วเสถียร เพื่อนสนิทของนายปิยะพงษ์ ซึ่งขี่จักรยานยนต์ตามหลังมา เล่าว่า ขณะเกิดเหตุ เป็นช่วงเวลาที่มีรถสัญจรผ่านไปมาตามปกติ หลังเกิดเหตุแล้ว ตนและเพื่อนๆ ได้พยายามขอความช่วยเหลือจากผู้ที่ขับขี่รถผ่านไปมา แต่ไม่มีใครกล้าจอด แม้ตนจะเอาหมวกกันน็อคไปวางไว้กลางถนน จนกระทั่งเกือบ 10 นาทีผ่านไป ตนจึงกระโดดลงไปขวางรถที่กลางถนน โดยมีรถคันหนึ่งซึ่งมีผู้หญิงเป็นคนขับยอมจอดและพานายปิยะพงษ์ซึ่งยังมีลมหายใจไปโรงพยาบาล ขณะที่ตนได้ขี่จักรยานยนต์ไปแจ้งเจ้าหน้าที่ทหารที่ด่านใกล้ที่เกิดเหตุ


 


"สิ่งที่ผมอยากจะพูดมากที่สุดในตอนนี้คือ อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และประชาชน ร่วมมือกันมากกว่านี้ เพราะหลังจากที่ร้องขอความช่วยเหลือไปแล้ว ความช่วยเหลือมาถึงช้ามาก ทั้งที่มีเจ้าหน้าที่มากมาย แต่ทำไมไม่มีใครมาช่วยเพื่อนผม"


 


ด้านน.ส.อลิสา หะสาเมาะ อาจารย์คณะคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี กล่าวว่า นายปิยะพงษ์เป็นเด็กนักเรียนที่ดีมาก เป็นคนมีความตั้งใจทำงานเพื่อชุมชน และไม่กลัวที่จะลงไปในพื้นที่เพื่อพูดคุยกับชาวบ้าน แม้สถานการณ์ในปัจจุบันจะทำให้นักศึกษาหลายคนลาออกจากมหาวิทยาลัยไปแล้ว


 


"ถ้าดูในหลายๆ สถานการณ์สูญเสียที่เกิดขึ้น จะพบว่าคนที่ช่วยได้มากที่สุดคือภาคประชาสังคม อย่างเช่นในกรณีของปิยะพงษ์ที่เจ้าหน้าที่มาถึงที่เกิดเหตุล่าช้า คนที่จะช่วยได้ก็คือประชาชนทั่วไป นี่คือสิ่งที่เราเสียใจว่าทำไมไม่มีใครมาช่วยปิยะพงษ์ แม้จะเข้าใจว่าในภาวะเช่นนั้นการที่คนจะออกมาช่วยกันมันมีข้อจำกัด แต่ถ้าเราไม่ช่วยกัน เราจะอยู่กันได้อย่างไร" น.ส.อลิสา กล่าว


 


ผู้สื่อข่าวรายงายว่า บรรยากาศในงานรดน้ำศพนายปิยะพงษ์เป็นไปอย่างโศกเศร้า โดยเพื่อนนักศึกษา ครูอาจารย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทยอยเดินทางมารดน้ำศพตั้งแต่ช่วงเย็น หลังจากที่พระสงฆ์สวดอภิธรรมเสร็จ เวลาประมาณ 22.30 น. บิดาและญาติของนายปิยะพงษ์ซึ่งมาจาก อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เดินทางมาถึงและรับศพนายปิยะพงษ์กลับไปดำเนินพิธีทางศาสนายังบ้านเกิด


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net