"ที่ผ่านมา 9 ปี ที่มีการเข้ามาสังเกตการณ์เลือกตั้งของประเทศต่างๆ 7-8 ครั้งก็ไม่เคยร้องขอให้เซ็นต์เอ็มโอยู ซึ่งเราก็ไม่ได้ห่วงหรือกลัวการที่องค์กรต่างประเทศจะเข้ามาสังเกตการณ์การเลือกตั้งของไทย เพราะมั่นใจในการทำหน้าที่ของ กกต. ก่อนหน้านี้เราก็เคยเชิญองค์กรต่างๆ เข้ามาสังเกตการณ์เลือกตั้งของไทย และถือเป็นเรื่องที่ดีที่จะรับฟังข้อสังเกตที่มีประโยชน์ ซึ่งหลายประเทศก็พูดชมไทยในแง่บวก  แต่การเซ็นเอ็มโอยู และการที่เจ้าหน้าที่ของอียูที่จะเข้ามาจำนวนมากอาจจะกระทบต่อการทำงานของ กกต.และรัฐบาล  ดังนั้น ต้องระวังไม่ให้มีการแทรกแซงการทำงานของ กกต. และการเข้ามาก็ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายของไทยด้วย เพราะเราไม่เคยรับใบสั่งจากรัฐบาลไทย จึงไม่ควรจะถูกสั่งจากองค์กรต่างประเทศเช่นกัน" นายสุทธิพล กล่าวและขณะนี้มีประเทศที่สนใจติดต่อขอเข้ามาสังเกตการณ์เลือกตั้งแล้วประกอบด้วย รัสเซีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย และองค์กรระหว่างประเทศ คือ ไอเอฟอีเอส ยูเอ็นดีพี และอียู

นายสุทธิพล ยังได้เปิดเผยถึงการหารือในวันที่ 6 ก.ย. ว่าจะมีการหารือในเวลาประมาณ 10.00 น. โดยในฝ่าย กกต.จะมีประธาน กกต. เจ้าหน้าที่ กกต. ตัวแทนจากกระทรวงการต่างประเทศ  ส่วนเจ้าหน้าที่ของฝ่ายอียู ประกอบด้วย เอกอัครราชทูต หัวหน้าสำนักงานคณะกรรมาธิการการยุโรปประจำประเทศไทย พร้อมคณะทั้งหมด 6 คน ในส่วนของ กกต.อีก 4 คน โดยเฉพาะนางสดศรี สัตยธรรม กกต.ที่ออกมายืนยันว่าจะเข้าร่วมก็ได้แจ้งความจำนงค์ไม่ขอเข้าร่วมหารือ เพราะได้ให้ข้อสังเกตในเรื่องดังกล่าวต่อทีประชุม กกต.ไปหมดแล้ว

EU ยืนยันไม่มีเจตนารุกล้ำอธิปไตยไทย

นายเฟรดเดอริก แฮมเบอร์เกอร์ เอกอัครราชทูต หัวหน้าสำนักงานคณะผู้แทนคณะกรรมาธิการยุโรป ประจำประเทศไทย ยืนยันผ่านรายการตัวจริงชัดเจน ว่าการขอเข้ามาสังเกตการณ์เลือกตั้งในไทยเป็นไปด้วยมิตรภาพที่ต้องการสนับสนุนให้ประเทศไทยมีการฟื้นฟูระบอบประชาธิปไตย มีการเลือกตั้งที่โปร่งใส ซึ่งเป็นความตั้งใจตั้งแต่มีการยึดอำนาจ ไม่ได้รับอิทธิพลจากอดีตนายกรัฐมนตรี ส่วนการลงนามบันทึกความเข้าใจ จะขอหารือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ในวันที่ 6 ก.ย.นี้ และพร้อมยอมรับมติจากฝ่ายไทย และจะไม่เข้าไปแทรกแซงหรือล่วงล้ำอธิปไตยของไทย พร้อมทั้งจะนำผลของการสังเกตการณ์แถลงให้ทั่วโลกรับทราบถึงขั้นตอนและวิธีการเลือกตั้ง ที่เชื่อว่าจะเป็นผลดีกับไทย ซึ่งไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไรจะไม่มีมาตรการตอบโต้ หรือกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ พร้อมพูดติดตลกว่า เจ้าหน้าที่อียูจะติดป้ายระหว่างการทำงานว่า ไม่ใช่สปายหรือสายลับ

--------------------------

ที่มา : เว็บไซต์แนวหน้า, ผู้จัดการออนไลน์