Skip to main content
sharethis

การเมือง


ยุติธรรมเสนอชะลอต่ออายุราชการอัยการ


เว็บไซต์คมชัดลึก- นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีสำนักงานอัยการสูงสุดเสนอเรื่องขอต่ออายุราชการข้าราชการอัยการจาก 60 ปี เป็น 70 ปี ตามรัฐธรรมนูญปี 2550 ว่า  สำนักกฎหมาย กระทรวงยุติธรรม ได้ทำความเห็นขอให้ชะลอการต่ออายุราชการอัยการ โดยระบุว่าขณะนี้ยังไม่เหมาะสมที่จะเสนอต่ออายุของข้าราชการอัยการ เนื่องจากศาลซึ่งเป็นหลักในมาตราเดียวกันยังไม่มีการเสนอ อัยการจึงควรทำไปพร้อมกับศาล และเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ 2550 เห็นว่าน่าจะต่ออายุในรัฐบาลหน้าไม่ใช่รัฐบาลนี้ ดังนั้น กระทรวงยุติธรรมจะนำความเห็นส่งให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง



 


กคพ.เร่งดีเอสไอสาง 125 คดีค้างเน้นฆ่าตัดตอน


เว็บไซต์คมชัดลึก- นายสุนัย มโนมัยอุดม อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ แถลงภายหลังประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ว่า กคพ.ได้ติดตามคดีพิเศษซึ่งดีเอสไอรับไว้ดำเนินการ พบว่ามีคดีที่อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนจำนวน 125 คดี กคพ.จึงเร่งรัดให้ดีเอสไอเร่งสอบสวนทุกคดีให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว โดยเฉพาะคดีฆ่าตัดตอน ซึ่งมีปัญหาและอุปสรรคจากการขาดพยานหลักฐาน เนื่องจากเป็นคดีแห้งที่ผ่านการทำสำนวนและการสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาแล้วในหลายคดี ไม่มีพยานในที่เกิดเหตุ อีกทั้งเหตุเกิดเป็นเวลานาน ญาติของผู้เสียหายก็ไม่มีหลักฐาน เพียงแต่สงสัยว่าเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องกับการฆ่าตัดตอน ทั้งนี้ หากคดีใดไม่สามารถนำหลักฐานมาพิสูจน์ได้ว่าเจ้าหน้าที่รัฐคนใดเกี่ยวข้องก็จะต้องขอให้อัยการสั่งยุติคดี



 


จากนั้นจะส่งรายละเอียดทั้งหมดในสำนวนคดีให้คณะกรรมการอิสระตรวจสอบ ศึกษา และวิเคราะห์ การกำหนดนโยบายปราบปรามยาเสพติดให้โทษและการนำนโยบายไปปฏิบัติจนเกิดความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย ชื่อเสียงและทรัพย์สินของประชาชน (คตน.) ให้พิจารณาต่อ นอกจากนี้ กคพ.ยังมีมติรับคดีพิเศษเพิ่ม 3 คดี ซึ่งเป็นคดีความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร มีการสำแดงเท็จและหลบเลี่ยงภาษีอากรมูลค่าความเสียหายกว่า 300 ล้านบาท


 


"ป๋าเปรม"ชี้ผบ.ทบ.ต้องเป็นคนดี


ผู้จัดการรายวัน - เมื่อเวลา 11.30 น. วานนี้ (7ส.ค.) พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ กล่าวให้โอวาทชาวชุมพรกว่า 1,000 คน นำโดยนายศรีชัย วีระนรพานิช นายกเทศมนตรี อ.เมือง จ.ชุมพร ที่เดินทางเข้าเยี่ยมคารวะโดยพล.อ.เปรม กล่าวถึง การทำความดี ว่าเป็นเรื่องยาก แต่สิ่งที่ยากกว่า และยากที่สุดในโลกคือ การรักษาความดีที่เคยทำไว้ให้คงอยู่ คนเราทำความดีมา10-20 ปี แต่เผลอไปทำความไม่ดีเพียงครั้งเดียว ความดีที่ทำไว้ก็จะเสียหายหมด จึงอยากให้ทุกคนทำความดีอย่างต่อเนื่อง เพราะความดีเท่านั้น ที่จะรักษาบ้านเมืองของเราไว้ได้


 



พล.อ.เปรม กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ดีเลิศที่สุดในโลก และได้ทรงพระราชทานกระแสรับสั่งให้ประชาชน ก็อยากให้ทุกคนได้ไปอ่าน และประพฤติตาม ซึ่งนอกจากจะเป็นสิริมงคลกับตัวเองแล้ว เมื่อประพฤติดีตามแล้วก็จะเป็นผลดีกับตนเอง ครอบครัว ชุมชน และชาติบ้านเมือง ทั้งนี้ มีพระบรมราโชวาทหลายประการที่ล้วนแต่เป็นสิ่งดีๆ ทั้งนั้น อย่างพระบรมราโชวาทที่เกี่ยวกับคนดี คนไม่ดี พระองค์ทรงรับสั่งว่า ในชาติบ้านเมืองของเรามีทั้งคนดี คนไม่ดี เราไม่สามารถทำให้คนไม่ดี กลายเป็นคนดีได้ทั้งหมด เพราะฉะนั้นในประเทศของเราย่อมมีคนไม่ดีปะปนอยู่บ้าง จึงอย่าไปหวังว่าเราจะทำให้คนทั้งประเทศเป็นคนดีได้ทั้งหมด


 


"เมื่อมีคนไม่ดีปะปนอยู่ เราต้องแยกแยะว่า เมื่อคุณเป็นคนไม่ดี คุณก็อยู่ในส่วนของคุณ อย่ามายุ่งกับพวกผม อย่ามายุ่งกับชาติบ้านเมืองหรือเข้ามายุ่งกับคนอื่น ซึ่งเขาเป็นคนดีอยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นบ้านเมืองจะเสียหาย" พล.อ.เปรม กล่าว


         


พล.อ.เปรม ให้สัมภาษณ์ถึงความแตกต่างของคนดี กับคนไม่ดีในสังคมไทยว่า สามารถมองได้ง่ายมาก แต่จะนิยามคำว่า คนดีหรือไม่ดีนั้นเป็นเรื่องยาก แต่การดูมันง่าย คบค้าสมาคมเพียงพักเดียวก็จะรู้และแยกแยะออก


         


เมื่อถามว่าจะป้องกันคนไม่ดีไม่ให้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับคนดีได้อย่างไร พล.อ.เปรม กล่าวว่า ถ้าเรารู้ว่าใครเป็นคนไม่ดี โดยไม่ได้เป็นการกล่าวหาแบบเลื่อนลอย ถ้าแน่ใจว่าเขาเป็นคนไม่ดีจริง ถ้าเป็นตนก็จะบอกตรงๆ ว่าอย่ามายุ่งเลย ส่วนเขาจะเชื่อหรือไม่นั้น เป็นเรื่องของเขา แต่เรื่องของเราคือ ต้องไม่ให้เขาเข้ามายุ่ง


          


ต่อข้อถามว่า ตอนนี้คนไม่ดียังมีผลต่อชาติบ้านเมืองของเราหรือไม่ พล.อ.เปรม กล่าวยอมรับว่า ยังมีผล ซึ่งการแก้ไขต้องดูที่ตัวปัญหา ตนไม่ค่อยห่วงเท่าใดนัก เพราะคนไทยสามารถแยกแยะคนดี และคนไม่ดี ความถูกต้อง ความไม่ถูกต้องได้ด้วยตัวเอง จึงไม่เป็นห่วง เมื่อถามว่า กลัวคนไม่ดีจะกลับมาสร้างปัญหาในบ้านเมืองอีกหรือไม่ พล.อ.เปรม เพียงแต่ยิ้ม และไม่ตอบคำถาม


         


ผู้สื่อข่าวถามว่า คุณสมบัติของคนที่จะมาเป็น ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) คนใหม่ จะต้องเป็นคนดีหรือไม่ ประธานองคมนตรี กล่าวว่า "คนดีกับคนเก่งไม่เหมือนกัน คนดีบางทีก็เก่ง บางคนก็ไม่เก่ง แต่ดีกว่าคนเก่งที่ไม่ดี"


         


เมื่อถามว่า อยากได้ผู้นำกองทัพเป็นคนดีมากกว่า ใช่หรือไม่ พล.อ.เปรม หัวเราะก่อนจะกล่าวว่า ใครๆ ก็อยากคบและอยากได้คนดี ๆ กันทั้งนั้น ส่วนข้อสังเกตคนดี คนไม่ดี จะต้องมองกันอย่างไร เพราะบางคนแอบแฝงเข้ามาในแบบที่เป็นคนดี พล.อ.เปรม กล่าวว่า คนเราในปัจจุบันต้องมองรู้ว่า ใครเป็นคนดี หรือไม่ดี แต่ตนไม่สามารถบอกวิธีมองได้ว่าจะต้องมองอย่างไร เพียงแต่ตัวเราจะรู้ว่า คนที่เราคุยด้วยเป็นคนดีหรือไม่ ซึ่งเราพอที่จะให้คะแนนได้ ตรงนี้ต้องอาศัยประสบการณ์ในการมองด้วย


         


ต่อข้อถามว่า อยากได้ ผบ.ทบ. ประเภทใดในยุคที่บ้านเมืองยังมีปัญหา ประธานองคมนตรี หัวเราะพร้อมปฏิเสธที่จะตอบคำถามนี้


 


เศรษฐกิจ


รมว.อุตฯ ชี้รัฐบาลยังเน้นใช้เงินออมในประเทศเพื่อลงทุน


ศูนย์ข่าวแปซิฟิค -นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ยืนยันว่า รัฐบาลจะดูแลให้การลงทุนที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ใช้เงินออมในประเทศให้มาก อย่างไรก็ตาม หากเงินออมในประเทศไม่พอลงทุน จำเป็นต้องกู้ยืมจากต่างประเทศ จะดูแลให้การขาดดุลบัญชีเดินสะพัดอยู่ในระดับไม่เกินร้อยละ 3-4 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ซึ่งการขาดดุลระดับนี้ยอมรับได้   ส่วนการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ หรือเมกะโปรเจกต์ เช่น รถไฟฟ้าสายสีแดงและสีม่วงนั้น ในส่วนของสายสีแดง ได้มีการจัดทำร่างหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการลงทุน (ทีโออาร์) เสร็จแล้ว ส่วนรถไฟฟ้าสายสีม่วง กระทรวงคมนาคมจะต้องพิจารณารายละเอียดโครงการให้กับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) คาดว่า หากมีการส่งรายละเอียดภายในต้นเดือนกันยายนนี้ สศช.จะใช้เวลาพิจารณาอีก 6 สัปดาห์ จากนั้นจะเสนอเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีปลายเดือนตุลาคมนี้


 


คลัง-ธปท.ล็อบบี้"สนช." ผ่านพรบ.การเงิน 2 ฉบับ


สยามรัฐ -นายฉลองภพ สุงสังการญจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่ากระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะประชุมร่วมกับสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อทำความเข้าใจกับพ.ร.บ.เงินตรา และพ.ร.บ.สถาบันคุ้มครองเงินฝาก ในวันที่ 10 ก.ย.นี้ที่สหประชาชาติ จากนั้นในวันศุกร์ จะเชิญ สนช.ประมาณ70-80 คน ร่วมหารือเกี่ยวกับกฎหมายทางการเงินทั้งหมด เพื่อทำความเข้าใจร่วมกันเพื่อให้ขั้นตอนการพิจาณาเดินหน้าต่อไปได้เพราะเมื่อมีความมั่นใจแล้วคงจะไม่ถอนกลับออกมาอีกเนื่องจากกฎหมายทางการเงินได้ชะลอมา10 ปีแล้วหลังจากเกิดปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจ


         


สำหรับการค้ำประกันเงินฝาก 1 ล้านบาทนั้น ทีดีอาร์ไอ ได้ศึกษามาแล้ว ว่าเมื่อกฎหมายผ่านการเห็นชอบสภาแล้ว คงต้องเว้นระยะเวลาในการบังคับใช้ คงไม่ต้องมีผลตั้งแต่ประกาศในราชกฤษจานุเบกษา จึงต้องออกบทเฉพาะยกเว้นให้อยู่ในเวลาที่เหมาะสมจึงค่อยประกาศใช้เมื่อเศรษฐกิจอยู่ในสภาพมั่นคงและเข็มแข็ง และสถาบันการเงินขนาดเล็กต้องยกระดับให้มั่นคงมากขึ้น ซึ่งจากการหารือกับหลายฝ่าย คิดว่าคงไม่บังคับได้ในช่วงนี้ และการค้ำประกันสามารถแก้ไขเพิ่มเติมได้ ดังนั้นจะใช้เวลาที่เหมาะสมอย่างไรอาจต้องให้รัฐบาลชุดต่อไปเป็นผู้ประกาศบังคับใช้แม้กฎหมายจะผ่านการเห็นชอบจากสภาแล้ว


         


"ยืนยันว่าการทำงานร่วมกันของกระทรวงการคลัง ธปท.และสนช.ประสานงานร่วมกันได้ดีโดยเฉพาะการพิจารณางบประมาณปี 51 ซึ่งผ่านการเห็นชอบจากสภาไปได้ ส่วนร่างแก้ไขพ.ร.บ. สำนักงานสลากฯคงไม่เสนอทีประชุมสภาอีกแล้วเพราะถูกต่อต้านอย่างมากจากสภา ทำให้การเดินหน้าออกหวยบนดินต้องอิงกับกฎหมายในปัจจุบัน คือต้องรอให้กฤษฎีกาพิจารณาว่าสามารถดำเนินการได้หรือไม่ คาดว่าจะพิจารณาเสร็จทันรัฐบาลนี้"


 


คุณภาพชีวิต


"ระยอง"เดินหน้าประท้วงโรงไฟฟ้า-ยื่นนายกฯ11ก.ย.


เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ-เครือข่ายชาวระยองต้านโรงไฟฟ้าประมาณ 100 คน ได้เปิดแถลงข่าวที่ศาลาอนามัย บ้านก้อนหนอง ตำบลบ้านแลง อำเภอเมือง จังหวัดระยอง  มี นายสุทธิ อัชฌาศัย แกนนำได้กล่าวขออภัยทุกฝ่าย ที่เครือข่ายทำให้จังหวัดระยองวุ่นวาย พร้อมประกาศว่าชาวระยองจะดำเนินการ คัดค้านสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินอย่างต่อเนื่อง เพราะแม้ว่าไออาร์พีซีจะรับปากแล้วว่าจะไม่ยื่นซองเข้าประมูลสร้างโรงงานไฟฟ้าดังกล่าว แต่ก็มีข่าวออกมาตลอดเวลาว่าในพื้นที่จังหวัดระยองจะมีการสร้างโรงงานไฟฟ้าถ่านหินภายใน 4 ปี อีกอย่างน้อย 2 แห่งในพื้นที่อำเภอบ้านค่าย


 


"การที่ ไออาร์พีซี ประกาศไม่ยื่นซองประมูลสร้างโรงไฟฟ้า ในสายตาของชาวระยองแล้วถือว่าเป็นคำตอบที่น่าพอใจระดับหนึ่งเท่านั้น เพื่อความรอบคอบให้เกิดผลในทางปฏิบัติอย่างแท้จริง เราจึงต้องกำหนดทิศทางการทำกิจกรรมเคลื่อนไหวภาคประชาชนชาวระยองต่อไป"


 


โดยจะรวบรวมรายชื่อประชาชนผู้คัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน เสนอต่อพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ในวันที่ 11 ก.ย. 2550 นี้ ที่ทำเนียบรัฐบาล, เชิญชวนชาวระยองร่วมขบวนไปสักการะถวายความขอบคุณสาบานตนว่าจะรักษาสิ่งแวดล้อมร่วมกัน ณ ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ในวันที่ 9 ก.ย. 2550, และจะจัดปราศรัยใหญ่แสดงจุดยืนร่วมกันของชาวระยอง ต่อภารกิจปกป้องผืนแผ่นดินเกิดของบรรพบุรุษในวันที่ 15 ก.ย. นี้ ณ ลานเทศบันเทิง อ.เมือง


 


รวมทั้งจะขอสลายความเป็นเครือข่ายชาวระยองต้านโรงไฟฟ้า เปลี่ยนเป็นเครือข่ายชาวระยองรักษ์สิ่งแวดล้อมและผืนแผ่นดินมาตุภูมิ เพื่อขับเคลื่อนภารกิจดูแลสิ่งแวดล้อมของชาวระยองต่อไป


 


สายการบินไทย-เทศจวก ทอท.  เก็บค่าธรรมเนียมมลพิษทางเสียง


เว็บไซต์คมชัดลึก -นายไบรอัน ซินแคลร์-ทอมป์สัน ประธานสมาคมตัวแทนธุรกิจสายการบิน หรือบาร์ เปิดเผยว่า กรณีที่บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. มีแนวความคิดจัดเก็บค่าธรรมเนียมพิเศษจากผู้ที่ก่อให้เกิดมลภาวะทางเสียง ซึ่งได้แก่สายการบินและผู้โดยสาร โดยให้เหตุผลว่าประเทศออสเตรเลียและญี่ปุ่นมีการจัดเก็บในลักษณะดังกล่าวเช่นกัน ซึ่งในฐานะที่เป็นตัวแทนของสายการบินต่างชาติกว่า 60 สายการบินเห็นว่าการจัดเก็บค่าธรรมเนียมดังกล่าวเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม และควรเรียกผู้ประกอบการเข้าหารือก่อนที่จะออกมาตรการใดๆ มาบังคับ


 


ด้าน นายอุดม ตันติประสงค์ชัย ประธานกรรมการสายการบินวันทูโก กล่าวว่า การผลักภาระดังกล่าวมาให้ผู้โดยสารและสายการบินนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะเป็นการเพิ่มต้นทุนให้สายการบิน ขณะที่คู่แข่งที่ให้บริการสนามบินไม่ว่าจะเป็น สนามบินฮ่องกง และสนามบินสิงคโปร์ ต่างเล่นกลยุทธ์ด้านราคาให้แก่สายการบินเพื่อดึงดูดสายการบินใช้บริการของสนามบินมากขึ้น หากมีการจัดเก็บจริงจะส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขันของสนามบินสุวรรณภูมิและกระทบกับภาพลักษณ์ของประเทศเป็นอย่างมาก


 


 


ต่างประเทศ


โพลชี้ คนทั่วโลกต้องการให้สหรัฐฯ ถอนทหารออกจากอิรัก


ผู้จัดการออนไลน์  - ผลสำรวจความคิดเห็นของแดนผู้ดี ที่ตีพิมพ์ในวันนี้ (7) ชี้ว่า 2 ใน 3 ของผู้คนทั่วโลกต้องการให้กองกำลังทหารที่นำโดยสหรัฐฯ ถอนตัวออกมาจากอิรักภายใน 1 ปี ทว่า น้อยกว่าครึ่งเชื่อว่าพวกเขาจะไม่ถอนกำลังออกมา


         


โพลของบีบีซีเวิลด์เซอร์วิส ที่สำรวจประชาชน 23,000 คนใน 22 ประเทศ พบว่า 67% ของผู้ร่วมในการสำรวจให้ความเห็นสนับสนุนการถอนทหารออกจากอิรักภายใน 1 ปี ขณะที่ 49% เชื่อว่าสหรัฐฯ จะทิ้งทหารไว้ที่นั่นเป็นการถาวร


         


3 ใน 5 ของชาวอเมริกัน หรือประมาณ 61% คิดว่า กองกำลังของสหรัฐฯ ควรออกจากอิรักภายใน 1 ปี ส่วน 24% อยากให้ถอนทหารออกมาทันที รวมถึง 32% ที่บอกว่าเหล่าทหารอเมริกันควรอยู่ปฏิบัติหน้าที่จนกว่าความมั่นคงในประเทศอิรักจะเข้มแข็งขึ้น


         


ขณะที่ มีเพียง 3 ประเทศเท่านั้นคือ 17% ของคนอินเดีย 44% ของคนฟิลิปปินส์ และ 45% ของคนเคนยา ที่เสียงข้างมากไม่ได้สนับสนุนการถอนทหาร


         


สำหรับ ประชากรทั้งหมดที่ร่วมในการสำรวจความเห็นประมาณ 1 ใน 4 หรือ 23% คิดว่า กองทัพต่างชาติควรคงอยู่ในอิรักจนกว่าความมั่นคงในประเทศจะดีขึ้น ตามผลการสำรวจ ที่จัดทำขึ้นโดยบริษัทโกลบสแกน ร่วมกับโครงการเกี่ยวกับทัศนคติต่อนโยบายระหว่างประเทศ หรือพีไอพีเอ ประจำมหาวิทยาลัยแมริแลนด์ ในสหรัฐฯ เพื่อให้แก่สำนักข่าวบีบีซี


         


ด้าน ดัก มิลเลอร์ ประธานของโกลบสแกนกล่าวว่า สารจากการศึกษา ซึ่งทำขึ้นตั้งแต่สิ้นเดือนพฤษภาคม ถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม นั้นค่อนข้างชัดเจนว่าความเห็นของคนทั่วโลก รวมถึงชาวอเมริกันเองคัดค้านนโยบายของรัฐบาลบุชในปัจจุบัน ที่ปล่อยให้สภาพความมั่นคงในอิรักเป็นตัวกำหนดเวลาถอนกำลังทหารของสหรัฐฯ


         


ทั้งนี้ โพลชิ้นดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่นายพลเดวิด เปตราอุส ผู้บัญชาการทหารระดับสูงของสหรัฐฯ ในอิรัก บอกเป็นนัยว่าอาจมีการถอนทหารอเมริกันในเดือนมีนาคมปีหน้า ขณะที่ตัวเขาเองเตรียมรายงานเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ส่งทหารของบุช ต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์หน้า

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net