เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 8 พฤศจิกายน 2550 ที่ห้องประชุมใบไม้สีทอง อาคารสำนักงานประชาสัมพันธ์ จังหวัดนราธิวาส คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนราธิวาส เชิญว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จังหวัดนราธิวาส เข้าประชุมเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับระเบียบการเลือกตั้ง รวมทั้งขอให้ช่วยรณรงค์ให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง มีว่าที่ผู้สมัครจากหลายพรรคเข้าร่วมกว่า 50 คน

นายเจะอามิง โตะตาหยง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 จังหวัดนราธิวาส พรรคประชาธิปัตย์ ได้สอบถามต่อที่ประชุมว่า ในการเลือกตั้งวันที่ 23 ธันวาคม 2550 คณะกรรมการการเลือกตั้งได้เตรียมให้ชาวมุสลิมที่จะเดินทางไปประกอบพิฮัจย์ที่เมืองมักกะห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย จำนวน 15,000 คน ได้ใช้สิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งหรือไม่ เนื่องจากผู้แสวงบุญจะทยอยเดินทางไปตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน 2550 เป็นต้นไป จนกระทั่งเสร็จสิ้นพิธีในช่วงสิ้นเดือนธันวาคม 2550

ด้านนายไพฑูรย์ เจ๊ะแฮ ผู้อำนวยการเลือกตั้งจังหวัดนราธิวาส ชี้แจงว่า คณะกรรมการการเลือกตั้งได้ประสานไปยังทางการของประเทศซาอุดีอาระเบีย เพื่อขอเปิดหน่วยเลือกตั้งในเมืองมักกะห์ เพื่อให้ผู้แสวงบุญชาวไทยได้ลงคะเสียงเลือกตั้งแล้ว แต่ทางการของประเทศซาอุดีอาระเบียไม่อนุญาต เนื่องจากช่วงสัปดาห์ที่ตรงกับวันที่ 23 ธันวาคม 2550 ซึ่งเป็นวันเลือกตั้งนั้น ตรงกับช่วงการประกอบพิธีฮัจย์ของผู้แสวงบุญ เกรงอาจจะไม่สะดวก

อย่างไรก็ตาม นายไพฑูรย์ ไม่ได้ระบุว่าคณะกรรมการการเลือกตั้งจะดำเนินการอย่างไรเพื่อให้ผู้แสวงบุญชาวไทยเสียสิทธิ์ในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง รวมทั้งไม่ได้ระบุว่าผู้ที่จะเดินทางไปแสวงบุญในช่วงหลังจากวันที่ 16 ธ.ค. ซึ่งเป็นวันลงคะแนนล่วงหน้า และสามารถไปลงคะแนนล่วงหน้าได้ในวันดังกล่าวได้ แต่คาดว่าผู้ประสงค์จะไปแสวงบุญอาจเดินทางไปหมดแล้ว เนื่องจากโดยทั่วไปผู้แสวงบุญมักเดินทางไปอาศัยอยู่ที่ประเทศมักกะห์ล่วงหน้าประมาณ 40 วันก่อนเสร็จสิ้นพิธี

นายเจะอามิง กล่าวกับประชาไทหลังการประชุมว่า ในจำนวนผู้แสวงบุญชาวไทยทั้งหมดนั้น เป็นคนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ประมาณ 10,000 คน ซึ่งพอๆ กับจำนวนผู้มีสิทธิออกเสียงทั้งอำเภอ ดังนั้นหากคณะกรรมการการเลือกตั้งไม่จัดเตรียมให้ผู้แสวงบุญเหล่านี้ได้ออกเสียงเลือกตั้ง จะทำให้ยอดผู้ใช้สิทธิ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้น้อยลง อาจถูกมองว่าประชาชนในพื้นที่ไม่ให้ความสำคัญหรือไม่ให้ความร่วมมือ

นายเจะอามิงเสนอด้วยว่า เพื่อไม่ให้ผู้แสงบุญเหล่านี้เสียสิทธิ์ จึงเสนอให้คณะกรรมการออกระเบียบพิเศษให้ผู้แสวงบุญสามารถออกเสียงลงคะแนนได้ก่อนขึ้นเครื่องบิน โดยให้สามารถใช้หนังสือเดินทางเป็นหลักฐานในการลงคะแนนเสียงได้

นายโชติ ชัวชมเกตุ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดนราธิวาส ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมีความเป็นห่วงใน 2 เรื่อง คือ เรื่องบัตรเสียซึ่ง เกรงว่าอาจมีจำนวนมาก ซึ่งอาจจะมากกว่าการออกเสียงประชามติรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 เนื่องจากการเลือกตั้งครั้งนี้มีช่องให้ลงคะแนนจำนวนมากกว่า ประชาชนอาจจะไม่เข้าใจ ดังนั้นจึงต้องเร่งประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับประชาชน โดยได้ขอความร่วมมือจากว่าที่ผู้สมัครแต่ละพรรคการเมืองด้วย

นายโชติ เปิดเผยอีกว่า เรื่องที่สองคือความปลอดภัย ซึ่งจะมีการขอกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยมากกว่าอัตราปกติถึง 3 เท่า เช่นเดียวกับการลงประชามติรัฐธรรมนูญครั้งที่ผ่านมา อีกทั้งยังให้ราษฎรอาสาเข้ามาช่วยสอดส่องดูแลรักษาความปลอดภัยด้วย เชื่อว่าวันเลือกตั้งคงสามารถป้องกันเหตุร้ายที่อาจะเกิดขึ้นได้