ข่าวมอนิเตอร์ประจำวันที่ 26 พฤศจิกายน 2550

 

 





การเมือง

 

ปชป.จี้ กกต.ทำความชัดเจนกรณีจ้างคนฟังปราศรัยว่าผิดหรือไม่

ผู้จัดการ - นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีการจับได้ว่า มีพรรคการเมืองบางพรรคที่ จ.นครราชสีมา ใช้เงินจ้างคนไปฟังการปราศรัย ว่า ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน เพราะมีรายงานจาก คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ว่า การใช้เงินจ้างคนไปฟังปราศรัยนั้นเป็นสิ่งที่กระทำได้ ไม่ผิดกฎหมาย จึงทำให้เกิดความสับสน ดังนั้น อยากเรียกร้องให้ กตต.ชี้แจงเรื่องนี้ให้ชัดเจนว่าการที่พรรคหรือนักการเมืองไปใช้เงินจ้างคนไปฟังการปราศรัยทำได้หรือไม่ เพราะการไปฟังการปราศรัยคือการโน้มน้าวชักจูงเพื่อให้ไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ดังนั้นการใช้เงินเพื่อโน้มน้าวให้เกิดการไปลงคะแนนเสียง ถือว่าเป็นสิ่งที่ทำได้หรือไม่ เพราะในอดีตที่ผ่านมา จะเห็นได้ชัดว่าการใช้เงิน จ้างคนไปฟังปราศรัยรวมทั้งการใช้เงินเหมารถพาคนไปเลือกตั้ง ไม่สามารถกระทำได้ จึงอยากให้ กกต.ยืนยันสิ่งเหล่านี้เพราะต้องถือว่าเรื่องนี้ถ้าเป็นความผิด ก็เป็นความผิดที่ชัดเจน เพราะมีการจับกุมหลักฐานทั้งเงินและบัตรผู้สมัครที่สังกัดพรรคการเมืองอย่างชัดเจน

      

นายองอาจ กล่าวอีกว่า มีการเปิดเผยทั้งจากเจ้าหน้าที่ กตต. นักวิชาการและผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ในพรรคการเมืองต่างๆ ว่า ขณะนี้ได้มีขบวนการในการใช้เงินในการซื้อเสียงในหลายรูปแบบ มีการนำเสนอรูปแบบวิชามาร หลายวิธี ซึ่งนักวิชาการบางคนระบุว่ามีถึง 20 กว่าวิธี ในการใช้เงินซื้อเสียงการเลือกตั้งที่ผ่านมา แต่สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ กังวลคือยังเห็นการทำหน้าที่ของ กกต. รวมทั้งเจ้าหน้าที่บ้านเมืองน้อยเกินไป ในการที่จะเข้ามาหาวิธีการจัดการกับสิ่งเหล่านี้ เพราะดูเหมือนกับว่ายอมรับ ว่าสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น แต่ไม่ยอมทำอะไร กลับ ปล่อยไว้เฉยๆ

 

จี้หยุดลาก "ตากใบ-กรือเซะ" หาเสียง

 นายสุรศักดิ์ มณี ประธานกลุ่มสองเลใต้ ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา เขต 3 พรรคพลังประชาชน ออกมาเรียกร้องให้ผู้สมัคร ส.ส.ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และพื้นที่เขต 3 สงขลา หยุดนำเหตุการณ์ความรุนแรงที่ตากใบและมัสยิดกรือเซะ มาเป็นประเด็นในการหาเสียงเลือกตั้งเพื่อหวังผลทางการเมืองเพื่อโจมตีคู่แข่ง เพราะจะเป็นการตอกย้ำความเจ็บปวดให้กับพี่น้องชาวไทยมุสลิม และสร้างความเกลียดชังในตัวเจ้าหน้าที่ เพราะจะกลายเป็นเงื่อนไขที่ทำให้เหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นมาอีก โดยผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือข้าราชการที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ โดยเฉพาะตำรวจและทหาร

 

"ผู้สมัครจากทุกพรรคไม่ควรหยิบเอาเรื่องนี้มาหาเสียง เพราะแม้จะชนะการเลือกตั้ง  แต่จะทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้นในพื้นที่ตามมาภายหลัง ผู้สมัครควรนำนโยบายที่ดีของแต่ละพรรคมาใช้ในการหาเสียง บอกว่าประชาชนจะได้ประโยชน์อะไรจากการเลือกตั้งพรรคตัวเองเข้าไปเป็นรัฐบาลมากกว่า หรือถ้าจะโจมตีคู่แข่ง ก็ควรโจมตีจุดอ่อนในเรื่องของนโยบายที่ทำไม่สำเร็จ ไม่ใช่เอาเรื่องนี้มาหาเสียงกัน"

 

แจกเงินโคราช พปช.จ่อรับใบแดง อาจซวยถึงโดนยุบพรรค

ผู้จัดการ - จ่ายเงินปราศรัยที่เขต 3 โคราช ผู้สมัครพรรคพลังประชาชนส่อถูกใบแดง เผยหลักฐานพฤติการณ์ใกล้เคียงใบแดงใบแรกของ กกต. ชุด"สวัสดิ์ โชติพานิช" ขณะที่พรรคมีสิทธิซวยฐานปล่อยปละละเลยให้ผู้สมัครกระทำ อาจถูกยุบได้ นอกจากนี้กกต.ได้รับรายงานว่า ในพื้นที่ภาคเหนือมีซื้อเสียงรูปแบบใหม่ ผ่านทางธนาณัติไปรษณีย์ หัวละ1 พันบาท  ระบุหากพรรครู้เห็นมีสิทธิถูกยุบเช่นกัน

 

 

 





เศรษฐกิจ

 

สภาพัฒน์เสนอ 9 มาตรการ แก้สังคมบริโภคนิยม ชูวัฒนธรรมเยียวยา !

ไทยรัฐ - คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ รมว.วัฒนธรรม กล่าวภายหลังประชุมคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (กวช.) ว่า ตามที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เป็นหน่วยงานหลักในการจัดทำความเห็นเรื่อง การอนุรักษ์และพัฒนาวัฒนธรรม : วัฒนธรรมที่พึงประสงค์ตามที่สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เสนอแนะให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาวิกฤติวัฒนธรรมต่างๆ ในสังคมนั้น ล่าสุด สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) เตรียมเสนอ 9 มาตรการต่อคณะรัฐมนตรี ดังนี้

 

1.รัฐบาลควรกำหนดใช้มิติทางวัฒนธรรมในการพัฒนาคนให้มีคุณภาพและคุณธรรม 2.ควรส่งเสริมวัฒนธรรมที่พึงประสงค์ 3.เพิ่มศักยภาพของ วธ.ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 4.ควรปฏิรูปการศึกษา เพื่อให้การศึกษาเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญในการอนุรักษ์และพัฒนาวัฒนธรรม สนับสนุนให้ครู อาจารย์ปฏิบัติตามวัฒนธรรมที่พึงประสงค์ เป็นแบบอย่างที่ดีแก่นักเรียน นักศึกษา 5.ควรนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปฏิบัติเป็นวัฒนธรรมประจำชาติ เพื่อดำรงชีวิตของคนทุกระดับให้เกิดผลเป็นรูปธรรม 6.ส่งเสริมสภาวัฒนธรรมและประชาชนที่รวมกลุ่มอนุรักษ์และพัฒนาวัฒนธรรมทั้งด้านการเงิน วิชาการ บุคลากร และขวัญกำลังใจ 7.ควรใช้มิติทางศาสนาและพหุวัฒนธรรมแก้ปัญหาความขัดแย้งในสังคม 8.ส่งเสริมวัฒนธรรมทางจิตใจมากกว่าทางวัตถุ และ 9.มีมาตรการกำกับดูแลไม่ให้สื่อทำลายวัฒนธรรม และส่งเสริมให้สื่อเผยแพร่ข่าวสารที่นำไปสู่วัฒนธรรมที่พึงประสงค์

 

 





สิ่งแวดล้อม&คุณภาพชีวิต

 

ขึ้นทะเบียนนำเข้าสารพิษล่ม รักษาการอธิบดีเผ่น! โยนลูกรอรัฐบาลใหม่

 ไทยรัฐ - นายสุขวัฒน์ จันทรปรรณิก ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะรักษาการอธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า ตามข้อเท็จจริงมีสารเคมีอีกหลายชนิดที่ทางเอกชนได้ขอขึ้นทะเบียนมาตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว และผ่านกระบวนการตรวจสอบทั้งเรื่องของความเป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม และการทดสอบประสิทธิภาพในการใช้ โดยมีเรื่องที่ค้างการพิจารณาอยู่อีกจำนวนมาก แต่ก็ถือเป็นขั้นตอนปกติในการพิจารณา อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 30 พ.ย.ซึ่งคณะกรรมการขึ้นทะเบียน จะต้องประชุมพิจารณาตามวาระปกตินั้น ตนเองในฐานะที่เป็นรักษาการอธิบดีกรมวิชาการเกษตร และเป็นประธานคณะกรรมการขึ้นทะเบียน มีราชการต่างประเทศ จึงต้องเลื่อนการพิจารณาออกไปก่อน ส่วนจะประชุมอีกครั้งเมื่อใด ก็ขึ้นอยู่กับฝ่ายเลขานุการคือ สำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร กรมวิชาการเกษตร จะเป็นผู้จัดทำรายละเอียด

 

ส่วนกรณีที่มีการกล่าวหาว่ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยังไม่ยอมแต่งตั้งอธิบดีกรมวิชาการเกษตรเพราะมีเรื่องของผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง ต้องการให้รักษาการอธิบดีกรมวิชาการเกษตรไฟเขียวออกใบอนุญาตนำเข้าสารเคมี โดยมีการเรียกรับผลประโยชน์นั้น นายสุขวัฒน์กล่าวว่า ตามอำนาจแล้ว การออกใบอนุญาตขึ้นทะเบียนสารเคมี อธิบดีกรมวิชาการเกษตรเป็นประธานคณะกรรมการขึ้นทะเบียนโดยตำแหน่งก็จริง แต่ยังมีบุคคลภายนอกเข้ามาร่วมเป็นคณะกรรมการขึ้นทะเบียนด้วยอีกหลายส่วน ทั้งนักวิชาการจากมหาวิทยาลัย เอกชนผู้มีส่วนได้เสีย เป็นการทำงานในรูปคณะกรรมการ จึงมีจุดยืนที่ชัดเจนของแต่ละฝ่าย ไม่มีใครมาสั่งได้อย่างแน่นอน

 

สมัชชาฯ อีสานระดมพลประชุมใหญ่ - จี้แก้วิกฤตน้ำมัน-ที่ดิน-ต้าน พ.ร.บ.น้ำ

ผู้จัดการ - วันที่ 25 พ.ย. ที่หน้าอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) ถ.ราชดำเนิน อ.เมือง จ.นครราชสีมา กลุ่มประชาชน เกษตรกร และผู้ใช้แรงงานจากจังหวัดต่างๆ ในภาคอีสานกว่า 300 คน ในนามสมัชชาประชาชนภาคอีสาน 19 จังหวัด นำโดย ทพ.ศุภผล เอี่ยมเมธาวี เลขาธิการสมัชชาประชาชนภาคอีสาน 19 จังหวัด ได้รวมตัวประกาศเจตนารมณ์ทางการเมืองภาคประชาชนแห่งการปกป้องรักษาแผ่นดินและทรัพยากรของชาติ และเสนอข้อเรียกร้องการแก้ปัญหาที่ดินทำกิน ทรัพยากรน้ำ น้ำมัน และพลังงานทางเลือกต่อรัฐบาล พร้อมร่วมกันกราบสักการะอนุสาวรีย์ย่าโม ก่อนที่จะเคลื่อนขบวนไปประชุมใหญ่สมัชชาประชาชนภาคอีสาน 19 จังหวัด และร่วมกันสัมมนาระดมข้อมูลความคิดเห็นเสนอทางออกต่อปัญหาดังกล่าวที่โรงแรมดิไอยรา อ.เมือง จ.นครราชสีมาตลอดทั้งวัน

      

ทพ.ศุภผล เอี่ยมเมธาวี เลขาธิการสมัชชาประชาชนภาคอีสาน 19 จังหวัด เปิดเผยว่า จากที่ปัญหาราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อ 5 เดือนก่อน ราคาน้ำมันดิบ ดูไบอยู่ที่ 64.65 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล แต่วันนี้ ราคาน้ำมันดิบทะยานขึ้นไปเฉียด 100 เหรียญสหรัฐฯ โดยราคาขายปลีกน้ำมันเบนซิน 95 หน้าปั๊มอยู่ที่ 33 บาท/ลิตร ประชาชนเฝ้าดูราคาน้ำมันขึ้นรายวันอย่างเจ็บปวดใจและงุนงง เฝ้าฟังข่าวว่ารัฐบาลจะบริหารจัดการแก้ไขปัญหาอย่างไร แต่ข่าวที่ออกมากลับทำให้ประชาชนสับสนและสิ้นหวัง

      

ดังนั้น สมัชชาประชาชนภาคอีสาน 19 จังหวัด จึงขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลขิงแก่ โดยการนำของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เพื่อให้เร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าวนี้โดยด่วน คือ

      

1.ยุติการส่งเงินเข้ากองทุนน้ำมันโดยทันที ซึ่งจะทำให้ราคาน้ำมันลดลงไปอีกลิตรละ 4 บาท เพื่อลดภาระค่าขนส่ง และภาระจากการขึ้นราคาของสินค้าหลังปีใหม่ 2551

 

2.ลดภาษีน้ำมันที่ทำได้ และ ผลักดันนโยบายพลังงานทางเลือกอย่างจริงจัง เร่งด่วน

      

3.เร่งวางระบบการใช้พลังงานอย่างบูรณาการ โดยเฉพาะภาคการคมนาคมระหว่างทางบก น้ำ และระบบราง ให้สอดคล้องกันจะช่วยให้ประหยัดพลังงานได้ปีละไม่น้อยกว่า 2 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 15% ของ จีดีพี

      

4.เร่งนโยบายขนส่งมวลชน รถไฟรางคู่ทั่วประเทศ เพื่อสร้างที่พึ่งและลดการใช้รถยนต์ น้ำมัน และพลังงาน

      

5.คณะกรรมการพลังงานแห่งชาติ พึงทบทวนนโยบายด้านพลังงาน ให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนมากกว่าที่ดำเนินการอยู่ เช่น นโยบายที่เอื้อต่อทุนต่างชาติ เช่น การได้สัมปทานขุดเจาะแก๊ส ของ Chevron ในอ่าวไทย APICO EXXONMOBIL ในภาคอีสาน เป็นต้น

      

อย่างไรก็ตาม สมัชชาประชาชนภาคอีสาน 19 จังหวัด ขอเชิญชวนประชาชนชาวอีสานและทั่วประเทศ ให้หันมาใส่ใจพลังงานทางเลือก และแนวทางลดการใช้พลังงาน หันมาพึ่งพาธรรมชาติมากขึ้น ร่วมมือกันลดวิกฤตการณ์โลกร้อนเพื่อลูกหลานวันข้างหน้า, สร้างที่อยู่อาศัยที่ใช้พลังงานไฟฟ้าและฟอสซิล ให้น้อย, ใช้เครื่องอิเล็กทรอนิส์และอุปกรณ์ไฟฟ้า เท่าที่จำเป็น และปิดเมื่อเลิกใช้, เดิน ใช้จักรยาน หรือพาหนะถีบปั่นให้มากขึ้น, ใช้ชีวิตอย่างสมถะ พอเพียง และประหยัด และช่วยกันรณรงค์ปลุกเร้า ให้ชุมชน สังคมรอบตัว หันมาร่วมมือกันประหยัดพลังงานและกดดันหน่วยงานรัฐให้ทำตนเป็นตัวอย่างด้านการประหยัดพลังงาน เป็นต้น

 

 





ต่างประเทศ

 

ฮินดูในมาเลย์ฮือประท้วงอีกรอบ

ผู้จัดการ - เมื่อ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา ตำรวจมาเลเซียต้องใช้มาตรการเด็ดขาดยิงแก๊สน้ำตาเข้าสลายกลุ่มชาวมาเลเซียเชื้อสายอินเดียนับถือฮินดูมากกว่า 10,000 คน ที่ชุมนุมประท้วงอย่างสันติเพื่อเรียกร้องสิทธิความทัดเทียมกัน การชุมนุมดังกล่าวนำโดย  "กองกำลังปฏิบัติการเพื่อสิทธิของชาวฮินดู"  ซึ่งเป็นกลุ่มองค์กรเอกชนหรือเอ็นจีโอ  โดยผู้ประท้วงได้เดินเท้าไปตามถนนในกรุงกัวลาลัมเปอร์มุ่งหน้าไปยังสถานทูตอังกฤษ   และจำนวนหนึ่งปักหลักที่บริเวณอาคารแฝดปิโตรนาสเพื่อสนับสนุนการที่กลุ่มคนฮินดูในกรุงลอนดอนฟ้องร้องเมื่อเดือน ส.ค. ให้รัฐบาลอังกฤษจ่ายค่าเสียหาย 4 ล้านล้านดอลลาร์ ให้กับชาวฮินดูที่อยู่ในมาเลเซีย ในฐานะที่อังกฤษเป็นผู้นำแรงงานอินเดียมาใช้งานและถูกกดขี่ที่นี่ 

 

ชาวมาเลเซียเชื้อสายอินเดียมีสัดส่วนราว  7% ของประชากรมาเลเซีย 27 ล้านคน ผู้ประท้วงคนหนึ่งกล่าวว่า ในช่วง  50  ปีที่ผ่านมา ชาวฮินดูในมาเลเซียได้รับการปฏิบัติเยี่ยงพลเมืองชั้นสอง   และทำให้แลดูเหมือนไม่มีความสำคัญในสังคม รายงานระบุผู้ประท้วงซึ่งเป็นชาวฮินดูอีกจำนวนหนึ่งยังไปชุมนุมที่ถ้ำบาตูซึ่งเป็นวิหารของชาวฮินดูนอกกรุงกัวลาลัมเปอร์  แต่ถูกตำรวจใช้ไม้กระบองทุบตีและจับกุมผู้ประท้วงไปกว่า 100 คน 

 

กฎหมายมาเลเซียระบุห้ามไม่ให้มีการชุมนุมเกิน 5 คน หากจะชุมนุมต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ก่อน นายนาจิบ ราซัก รองนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กล่าวเตือนไม่ให้มีการชุมนุม   เพราะอาจนำไปสู่ความขัดแย้งทางเชื้อชาติหากมีการพูดจาปลุกระดม "ประชาชนสามารถแสดงออกได้แต่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย หากมีการปลุกระดมทำให้เกิดการปะทะ  คนเหล่านั้นก็จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย" นายนาจิบกล่าว

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท