Skip to main content
sharethis


เมื่อวันที่ 19 ม.ค.51 ที่โรงแรมสุโขทัย เวลา 14.00 น. แกนนำพรรคร่วมรัฐบาล 6 พรรคคือนายสมัคร สุนทรเวช นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี หัวหน้าและเลขาธิการพรรคพลังประชาชน,พล.ต.สนั่น ขจรประศาส์น ที่ปรึกษาพรรคชาติไทย,นายสุวิท คุณกิตติ หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน,นางอนงวรรณ เทพสุทิน เลขาธิการพรรคมัฌชิมาธิปไตย,พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา และนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาล มีเพียงนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย และนายประชัย เลี่ยวไพรัช หัวหน้าพรรคมัฌชิมาธิปไตย ที่ไม่ได้เดินทางมาเอง

 



นายสมัคร กล่าวขอบคุณ กกต.ที่ได้ประกาศรับรองส.ส.ไป 99 % ทำให้สามารถเปิดสภาได้ และได้ขอขอบคุณพรรคชาติไทยและพรรคเพื่อแผ่นดินที่มาร่วมรัฐบาล เพื่อทำให้การเมืองเดินต่อไปได้ ซึ่งจะทำให้รัฐบาลชุดนี้มีความแข็งแกร่ง และทำให้แก้ไขปัญหาของบ้านเมืองได้นาน


 



อย่างไรก็ตาม หัวหน้าพรรคของแต่ละพรรคได้มีการแถลงเข้าร่วมรัฐบาลคนละประมาณ 2 นาที โดยส่วนใหญ่ได้ระบุว่าที่เข้าร่วมเพื่อต้องการให้บ้านเมืองเดินต่อไปได้ และเราต้องยึดตามระบอบของประชาธิปไตย โดยเมื่อพรรคพลังประชาชนได้เสียงข้างมากก็ต้องเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล


 



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจาก 6 พรรคการเมืองแถลงข่าวร่วมจัดตั้งรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน เปิดโอกาสให้ผู้สื่อข่าวได้ซักถาม โดยคำถามที่น่าสนใจคำถามหนึ่งคือ ผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าวต่างประเทศ ได้สอบถามนายสมัคร ว่ากล้าบอกหรือไม่ว่า ใครจะมาเป็นนายกฯ เพราะการแถลงข่าวร่วมในวันนี้ต้องมีความชัดเจนว่าใครจะเป็นนายกฯ


 



นายสมัคร ย้อนถามกลับไปว่า คำถามนี้ ต้องตอบในสภา ไม่ใช่ตอบในห้องนี้ ไม่รู้ว่าจะเดือดร้อนหรือไม่ หากไม่ตอบคำถามนี้ในวันนี้ ถามยั่วยวนกวนประสาทแบบนี้จะถามทำไม โดยผู้สื่อข่าวคนนั้นได้ย้อนถามกลับไปว่า แสดงว่าอายที่ไม่กล้าบอกในวันนี้ เพราะมันต้องมีความชัดเจนเกิดขึ้น เพื่อความมั่นใจของประชาชนและนานาชาติ นายสมัคร ได้บอกว่า คำถามนี้ไม่ตอบแล้วถามยั่วยวนกวนประสาท


 



ผู้สื่อข่าวถามว่า 5 พรรคร่วมจะใช้หลักการใดในการเลือกนายกฯ นายสมัคร ตอบแทน 5 พรรคร่วมว่า คำถามนี้ ยาว ไม่ขอตอบ เมื่อถามอีกว่า จะรับข้อเสนอ 5 ข้อของพรรคชาติไทยและพรรคเพื่อแผ่นดินหรือไม่ นายสมัคร ไม่ตอบคำถามนี้และช่วงเดียวกันกองเชียร์พรรคพลังประชาชน ได้ตะโกนว่า คำถามแบบนี้ไม่ต้องถามหรอก


 



ผู้สื่อข่าวถามว่า นโยบายรัฐบาลจะเป็นอย่างไร นายสมัคร กล่าวว่า จะไปตอบในสภา เมื่อถามว่า ประเมินหรือไม่ ว่ารัฐบาลชุดนี้จะมีอุปสรรคในการทำงาน และจะมีอายุการทำงานยาวเท่าใด นายสมัคร กล่าวว่า ตนไม่ใช่หมอดู แล้วคุณรู้หรือไม่ว่า พรุ่งนี้หนาวหรือร้อน ตนไม่ใช่นักพยากรณ์อากาศ การทำงานร่วมกัน ก็ต้องทำต่อไปให้นานที่สุด เพราะปัญหาของประเทศมีมาก ต้องคุยกันก่อนว่าจะต้องทำอะไรบ้าง เช่น แก้รัฐธรรมนูญว่า จะเอากันหรือไม่ ถ้าไม่เอาก็จบไป


 



นายสมัคร ให้สัมภาษณ์หลังการแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาล 6 พรรค ที่โรงแรมสุโขทัย ว่า อีก 15 วัน จะเห็นหน้าตาของรัฐบาลชุดใหม่ ส่วนการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีนั้น จะมีการตั้งคณะกรรมการประสานงานขึ้นมา เพื่อที่จะไปประสานกับพรรคอื่นๆ และคณะกรรมการชุดนี้จะนำผลมาหารือมาให้ตนทราบ วันนี้สบายใจไม่หนักใจอะไรแล้ว


 



ขณะที่นายสุทิน วรรณบวร ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวเอพี ให้สัมภาษณ์ถึงการตั้งคำถามนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ที่มีการปะทะคารมอย่างดุเดือด หลังจากที่ นายสุทิน สอบถามนายสมัครว่า พร้อมประกาศตัวว่าใครจะเป็นนายกฯได้หรือไม่ เพราะรัฐบาลชุดใหม่ต้องมีความชัดเจนในเรื่องนี้ แต่นายสมัคร กลับโต้กลับว่าไม่ตอบ คำถามนี้ เพราะคำถามกวนประสาท ยั่วยุ ว่า คำถามที่ตนสอบถามนายสมัครนั้นเป็นคำถามปกติ และทำไปตามหลักการสื่อมวลชนที่ต้องสอบถามเรื่องนี้ ไม่ได้ยั่วยวนนายสมัครตามที่นายสมัครอ้าง เพราะการจัดตั้งรัฐบาลนั้น มันต้องมีหัวก่อนมีหาง ต้องชัดเจนว่าใครจะมาเป็นผู้นำ ไม่ใช่นำไก่หรือหมูมาเป็นผู้นำ เรื่องแบบนี้มันต้องตอบได้ ตนสงสัยว่าคำถามนี้มันผิดหรือ ตนทำไปตามหน้าที่ หากคนที่จะมาเป็นนายกฯมีพฤติกรรมแบบนี้ ถามหน่อยว่าประเทศจะอยู่ได้อย่างไร เพราะจะเป็นการนำเผด็จการมาดูแลประเทศ


 



นายสมชาย วงษ์สวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างๆ ว่านายสมัครจะเป็นคนพิจารณาเรื่องนี้เอง ส่วนที่มีข่าวว่าตนจะไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยนั้น ไม่ทราบเรื่องนี้ รวมถึงข่าวว่านายสมัครจะควบ รมว.กระทรวงกลาโหมนั้นก็ไม่รู้เหมือนกัน ยอมรับที่ผ่านมาตนเองได้รับมอบหมายจากหัวหน้าพรรคให้ทำหน้าที่ในการประสานพรรคการเมืองต่าง ๆ เพื่อมาจัดตั้งรัฐบาลแต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับมอบหมายให้ประสานกับพรรคการเมืองอื่นในเรื่องตำแหน่งรัฐมนตรี ซึ่งจะมีการมอบหมายหน้าที่นี้ให้ตนอีกหรือไม่ก็แล้วแต่การพิจารณาของนายสมัคร


 



ด้านนายพิภพ ธงไชย ที่ปรึกษาคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย(ครป.) กล่าวถึงการจัดตั้งรัฐบาล 6 พรรค ว่า ถือเป็นบันไดขั้นแรกของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการตั้งรัฐบาลของตัวเองให้ได้เพื่อเคลียร์คดีของตัวเองและครอบครัว แต่หากสภาพรัฐบาลร่วม 6 พรรค ทำได้ไม่คล่องตัวก็จะใช้ความได้เปรียบทางการเมืองประกาศยุบสภาแล้วเลือกตั้งใหม่ แล้วกลับเข้ามาเป็นรัฐบาลพรรคเดียว โดย พ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีเอง เพราะเชื่อมั่นว่ายังคงได้รับความนิยมจากประชาชนจำนวนมาก ขณะที่นายสมัคร สุนทรเวช เป็นแค่เบี้ยตัวหนึ่งที่ถูกวางไว้คั่นอำนาจของพ.ต.ท.ทักษิณ เท่านั้น นายสมัคร รู้ดีว่าคนที่ทำให้เขาเป็นนายกรัฐมนตรี คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ดังนั้นนายสมัครจะทำได้แค่เพียงเป็นนายกรัฐมนตรีในเชิงสัญลักษณ์ ส่วนอำนาจในการบริหารจัดการรัฐบาลจะอยู่ที่คนของพ.ต.ท.ทักษิณ



 


"เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการที่จะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกรอบ เพื่อพิสูจน์ตัวเองว่าบริสุทธิ์ และต้องการทำลายความชอบธรรมของ คมช.และ คตส.รวมทั้งฝ่ายที่ต่อต้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งหมด หลังจากจัดตั้งรัฐบาลได้บันใดขั้นต่อไปคือเคลียร์คดีให้เรียบร้อยแล้วจัดการรื้อองค์กรอิสระใหม่ทั้งหมด เหมือนที่เคยทำหลังชนะคดีซุกหุ้น แล้วยุบสภาเพื่อเลือกตั้งกลับมาเป็นรัฐบาลพรรคเดียวอีกครั้งเหมือนที่เคยทำสำเร็จในการเลือกตั้งครั้งที่สองของพรรคไทยรักไทย"ที่ปรึกษา ครป. กล่าว


 


นอกจากนี้ในวันที่ 20ม.ค. เวลา 12.30 น. คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) จะจัดแถลงข่าว "ท่าทีและความเห็น  ครป. ต่อการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่" ที่สำนักงาน ครป. 143 ซอยรามคำแหง 53 แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กทม.



 


 


 


 



------------------------------------


ที่มา: http://www.komchadluek.net

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net