ภาพการแถลงข่าว

เมื่อวันที่ 19 ม.ค.2551 ชมรมเยาวชนมอญกรุงเทพร่วมกับวัดบ้านไร่เจริญผล แถลงข่าวยืนยันการจัดงาน "วันรำลึกชนชาติมอญ ครั้งที่ 61" ที่จะมีขึ้นในวันที่ 2-3 ก.พ.2551 ณ วัดบ้านไร่เจริญผล ตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร

การแถลงข่าวเริ่มต้นเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. พระวิทย์ ชื่นมีศรี พระมอญวัดบ้านไร่เจริญผล กล่าวถึงอุปสรรคในการจัดงานว่า ก่อนหน้าที่จะมีการแถลงข่าว ทางผู้ว่าราชการจังหวัดสมุรสาครไม่ทราบว่ามอญมีความเป็นมาอย่างไร และถามมาว่าวัดบ้านไร่เจริญผลจะจัดงานอย่างนี้ได้อย่างไร จึงได้ชี้แจงไป แต่ต่อมากองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ก็มาถามแบบเดียวกัน ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 ม.ค. ทางเลขาธิการสำนักนายกรัฐมนตรีก็มาถามอีกหน่วยงานหนึ่ง ดังนั้น คนมอญต้องรวมพลังกัน เพราะเรามีประเพณีและวัฒนธรรมที่สืบเนื่องมาช้านาน จึงต้องทำให้สืบต่อไปได้อีกนานๆ

นายบุญส่ง โคมลอย รองประธานฝ่ายกิจกรรมชมรมเยาวชนมอญกรุงเทพ แถลงจุดประสงค์ในการจัดงานรำลึกวันชาติมอญครั้งที่ 61 ว่า "อยากให้สื่อมวลชนและรัฐเข้าใจ การจัดงานนี้คืองานที่ใช้พบปะ สืบสานประเพณีและวัฒนธรรมมอญ หรือใช้สำหรับทำกิจกรรมร่วมกันคนของไทยเชื้อสายมอญที่มีอยู่ประมาณ 35 จังหวัด"

นายบุญส่ง กล่าวต่อว่า งานรำลึกวันชาติมอญ ครั้งที่ 61 ยังจัดขึ้นเพื่อทำบุญอุทิศส่วนกุศลถวายแก่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และบรรพชนมอญ เป็นการรำลึกถึงความดีงาม ความกล้า ความเสียสละของบรรพชนมอญที่สร้างอารยธรรมให้ลูกหลานมอญมาจนทุกวันนี้

อีกประการหนึ่ง การจัดงานยังเพื่อเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมมอญ ภาษามอญ ตัวหนังสือมอญ การแต่งกายแบบมอญ และรวมไปถึงเรื่องคุณธรรม จริยธรรมของคนมอญด้วย และประการสุดท้าย การจัดงานรำลึกวันชาติมอญครั้งที่ 61 คือการประกาศให้โลกรู้ว่ายังคงมีชนชาติมอญอยู่และจะมีอยู่ต่อไป

นายปรีดี คกมิ กรรมการสมาคมไทย - รามัญ กล่าวในฐานะคนมอญจังหวัดสมุทรปราการว่า งานรำลึกวันชาติมอญคือการจัดงานหมุนเวียนกันไปทุกปีในแต่ละจังหวัด และครั้งที่ 61 ก็เวียนมาถึงจังหวัดสมุทรสาคร การจัดแถลงข่าวในวันนี้ไม่ใช่เรื่องที่ผิดกฎหมายและเราอยู่ที่นี่มานานแล้ว เราร่วมทั้งสร้างชุมชนและประเทศไทย

"ในจังหวัดสมุทรสาครมีชนชาติมอญอาศัยอยู่มากกว่าจังหวัดอื่น คาดว่าในปีนี้คงมีคนมาร่วมงานมาก อยากให้มาเห็นประเพณีเก่าๆ ที่เป็นการสืบสายต่อกันมา เพื่อให้ได้รู้ว่าบรรพชนเรามาจากไหน" นายปรีดีกล่าว

ในขณะที่ นายทวี แก่นดำ รองประธานจัดงานฝ่ายประชาสัมพันธ์ ชี้ว่าอยากให้เข้าใจการจัดงานครั้งนี้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยเฉพาะข้าราชการ ซึ่งการแสดงความกตัญญูต่อบรรพชนด้วยการทำบุญอุทิศให้ ซึ่งไม่ขัดกับกฎหมายไทยใดๆทั้งสิ้น

นายองค์ บรรจุน ประธานชมรมเยาวชนมอญกรุงเทพ กล่าวถึงรายละเอียดของงานว่า ในวันที่ 2 ก.พ. รูปแบบงานเป็นการสังสรรค์พบปะ มีการแสดงทางประเพณีและวัฒนธรรม ส่วนในวันที่ 3 ก.พ. คาดว่าคงมีคนมอญไม่น้อยกว่า 30 จังหวัดมารวมตัวกัน นางเตือนใจ ดีเทศน์ กุญชร ณ อยุธยา สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะมาเป็นประธานเปิดงาน ทั้งนี้ นางเตือนใจ เองมีเชื้อสายมอญที่สืบเชื้อสายมาจากมเหสีในรัชกาลที่ 1 สายตระกูล กุญชร ณ อยุธยา

"ที่สำคัญที่สุดคือการทำบุญเลี้ยงพระในเช้า วันที่ 3 ก.พ. เพื่ออุทิศส่วนกุศลแก่บรรพชนมอญ ซึ่งเป็นปีพิเศษที่ทำเพื่ออุทิศส่วนกุศลถวายแก่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯด้วย ถือเป็นงานใหญ่ที่บรรพบุรุษเคยมาพึ่งพาจนมีอาชีพที่มั่นคงในทุกวันนี้ และเราก็รักพระมหากษัตริย์ไทยอย่างยิ่ง"

หลังการแถลงข่าว ทางงานจัดการแสดงทางวัฒนธรรมเป็นตัวอย่าง ด้วยการแสดงรำมอญ 3 ชุด การแสดงแรกมีชื่อว่า ระบำหงส์ทอง เป็นรำคู่แสดงโดยเยาวชนจากศูนย์พัฒนาชุมชนมอญบางหญ้าแพรก ซึ่งเป็นศูนย์ที่แรงงานมอญที่มาทำงานในไทยส่งลูกหลานไปเรียนและทำกิจกรรมร่วมกับชุมชน การแสดงชุดนี้บอกเล่าถึงตำนานการตั้งเมืองหงสาวดี

การแสดงชุดที่ 2 เป็นการรำมอญ 4 คน แสดงโดยเยาวชนจากชุมชนมอญวัดคลองครุ ลักษณะการร่ายรำมีการประยุกต์เข้าการท่วงทำนองแบบไทย ส่วนการแสดงชุดที่ 3 เป็นการรำเดี่ยวในชุดรำหงส์ ที่ใช้จังหวะทำนองแบบมอญฝั่งรัฐพม่า แสดงโดยเยาวชนจากศูนย์พัฒนาชุมชนมอญวัดบางหญ้าแพรก

ทั้งนี้ "งานวันรำลึกชนชาติมอญ ครั้งที่ 61" จะมีการแสดงอีกมายมาย ซึ่งชุมชนมอญแต่ละจังหวัดทั่วประเทศได้จัดชุดการแสดงทางวัฒนธรรมของพื้นที่แต่ละแห่งมาเข้าร่วม

รำเดี่ยว

ระบำหงส์ทอง

ปิดการแถลงข่าว