Skip to main content
sharethis


 



 



 



 


 


2 กุมภาพันธ์ 2551 สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) ร่วมกับองค์กรภาคี ออกแถลงการณ์ 2 ฉบับ ฉบับแรก กรณีทหารพรานยิงชาวบ้าน เรียกร้องให้รัฐถอนทหารพรานออกจากพื้นที่โดยด่วน พร้อมกับสอบสวนชี้แจง ส่วนฉบับที่สอง เป็นแถลงการณ์เรื่องการซ้อมทรมานนักศึกษาจังหวัดยะลาเพื่อให้รับสารภาพ เรียกร้ององค์กรสิทธิมนุษยชน ทนายความ และญาติของนักศึกษาที่ถูกจับกุมยื่นมือตรวจสอบข้อเท็จจริง


 


สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) ร่วมกับ เครือข่ายนักศึกษาเพื่อพิทักษ์ประชาชน (คพช.), กลุ่มกิจกรรมนักศึกษาเพื่อสังคมมหาวิทยาลัยรามคำแหง, ครือข่ายนิสิตนักศึกษาไทยมุสลิม (คนท.) , เครือข่ายนักศึกษาเพื่อสันติภาพ, สมาพันธ์นิสิตนักศึกษา ปัตตานี ยะลา สงขลา และนราธิวาส, ศูนย์ประสานงานนักศึกษาและประชาชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ ออกแถลงการณ์สองฉบับ ฉบับแรกเรื่อง "กรณีทหารพรานยิงชาวบ้าน" โดยมีเนื้อหาว่า จากเหตุการณ์ที่คนร้ายแต่งกายคล้ายทหารพรานยิงชาวบ้านบาดเจ็บ และถูกชาวบ้านยิงสวนดับคาที่หนึ่งศพ เมื่อเวลา 20.08 . ตรงกับวันพุธ ที่ 30 มกราคม 2551 ปรากฎว่าในวันรุ่งขึ้นความชัดเจนของเหตุการณ์ได้ออกมาว่า คนร้ายที่แต่งกายคล้ายทหารพรานซึ่งถูกชาวบ้านยิงตอบโต้จนเสียชิวิตขณะไล่ยิงชาวบ้าน เป็นทหารพรานจากกรม ทพ.41 ซึ่งเป็นหน่วยเฉพาะกิจที่ปฏิบัติการทางทหารในเขตพื้นที่บันนังสะตา


 


โดยแถลงการณ์ยังระบุด้วยว่า ชุด ฉก.ชุดนี้เคยมีพฤติการณ์คุกคามและใช้ความรุนแรงอย่างปราศจากกฎเกณฑ์ทางมนุษยธรรมต่อชาวบ้านผู้บริสุทธิ์ จนนำไปสู่การชุมนุมที่มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานีเมื่อต้นเดือนมิถุนายนปีที่ผ่านมา ในนามของเครือข่ายนักศึกษาเพื่อพิทักษ์ประชาชน (คพช.) สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย(สนนท.) และศูนย์ประสานงานนักศึกษาและประชาชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งชนวนเหตุที่เป็นฟางเส้นสุดท้ายบีบรัดชาวบ้านให้ต้องชุมนุมในครั้งนั้นก็คือ ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นการกระทำของทหารพราน และอีกหลายๆเหตุการณ์ เช่น กรณีการข่มขืนแล้วฆ่านางสาวนูรฮายาตี อันฉาวโฉดที่บ้านบาซาลาแป ตำบลปะแต อำเภอยะหา จังหวัดยะลา (เดือนพฤษภาคม 2550), กรณีการซ้อมทรมาน นายาซาการียา ปะโอ๊ะมาน ในระหว่างการควบคุมตัวอย่างป่าเถื่อนที่บ้านคอลอบาแล อำเภอบันนังสะตา (เดือนมิถุนายน2550) ฯลฯ


 


ทั้งนี้ในกรณีการกล่าวหาว่ามีการยิงชาวบ้าน ที่เกิดขึ้นที่บ้านตันหยง อำเภอบันนังสะตา จังหวัดยะลาในครั้งนี้ สนนท. และองค์กรภาคี ระบุถือเป็นวีรกรรมอันเหี้ยมหาญล่าสุด ของกรมทหารพรานที่41 ผู้เป็นต้นขั้วของวาทกรรม "ทหารพรานยิงชาวบ้าน"เป็นการเน้นย้ำถึงรูปธรรมของความรุนแรงที่ทหารเองเป็นภัยคุกคามความสุขสงบของประชาชนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ อีกทั้งสิ่งที่น่าละอายอย่างที่สุดนั่นก็คือการออกมาปฏิเสธความผิดอย่างไม่รับผิดชอบของ พันเอก ทีม เรือนโต ผู้การกรมทหารพรานที่ 41 ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของชุดอาสาสมัครทหารพรานชุดดังกล่าว ด้วยการกล่าวว่าเป็นเรื่องส่วนตัวที่มีมานานแล้วระหว่างทหารอันตพาลกับชาวบ้านที่ถูกไล่ยิง และหากเป็นเช่นนั้นจริงก็เป็นการพิสูจน์ถึงความไร้ระเบียบและประสิทธิ ภาพการบังคับบัญชาของฝ่ายความมั่นคงเอ


 


"ความเชื่อมั่นและความไว้วางใจต่อทหารในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่พอจะเคยมีอยู่บ้างนั้น ถูกแทนที่ด้วยความหวาดระแวงและไม่ไว้วางใจเสียแล้วจากพฤติกรรมและระเบียบวินัยของทหารเอง หากแต่ที่ผ่านมาภาครัฐและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องไม่เคยตระหนักและให้ความสำคัญในเรื่องนี้ แต่กลับมองประชาชนด้วยความหวาดระแวงและไม่ไว้วาง ใจ ซึ่งตรงข้ามกันกับความจริงโดยสิ้นเชิง จากความจริงข้อนี้ถ้าหากจะมีการก่อการร้ายในประเทศไทยตามที่ภาครัฐนำ เสนอต่อประชาคมโลก ก็คงไม่เป็นการยากที่จะเข้าใจว่าโจรก่อการร้ายที่แท้จริงคือทหารนั่นเอง"


 


ทางสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย(สนนท.) จึงมีข้อเรียกร้องเพื่อเป็นแนวทางการแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ บนพื้นฐานของความเป็นจริง 3 ประการ คือ


 


1.ขอเรียกร้องให้รัฐถอนทหารพรานออกจากพื้นที่โดยด่วน และภาครัฐควรทบทวนนโยบายและแนวทางในการแก้ ปัญหาโดยเฉพาะบทบาทของทหารต้องลดลงจากที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน, 2.ขอเรียกร้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องดำเนินการสอบสวนในกรณีบ้านตันหยง ตำบลบาเจาะ อำเภอบันนังสะตา จังหวัดยะลา โดยต้องมีผู้รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งชี้แจงต่อสาธารณชนอย่างเปิดเผย และ สนนท.ขอให้คดีนี้เป็นกรณีศึกษาของสังคมไทย 3.ขอให้คนในสังคมไทยปรับเปลี่ยนทัศนคติเกี่ยวกับปัญหาชายแดนภาคใต้ ด้วยการทำความเข้าใจกับเหตุการณ์อย่างเป็นจริงและเป็นธรรม โดยเฉพาะบทบาทของทหารและอำนาจรัฐที่ใช้ไปอย่างเต็มที่  แต่ล้มเหลวในการแก้ปัญหา


 


ในท้ายแถลงการณ์ยังบอกด้วยว่า สนนท. เห็นว่าพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้ถูกอำนาจรัฐคุกคามอยู่ตลอดมาโดยไม่ได้แบ่งแยกว่าใครคือผู้ก่อความไม่สงบ ใครคือผู้บริสุทธิ์ และนี่เป็นการส่งสัญญานว่าเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อาจนำไปสู่การทำสงครามกับประชาชนในอนาคต ซึ่งไม่ได้เป็นความต้องการของสังคมไทยเลย หากแต่เป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องตระหนักถึง


 


ส่วนแถลงการณ์อีกฉบับ เป็นกรณีที่เกิดขึ้นจากการจับกุมนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฎยะลา และสถาบันพลศึกษา วิยาเขตยะลา จำนวน 9 คน และต่อมามีข่าวว่าถูกซ้อมและทรมาน สนนท.จึงเรียกร้องให้องค์กรสิทธิมนุษยชน ทนายความ และญาติของนักศึกษาที่ถูกจับกุมเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ และหากมีการพิสูจน์แล้วว่ากลุ่มนักศึกษาดังกล่าวถูกซ้อมทรมานเพื่อให้รับสารภาพ  ภาครัฐต้องแสดงความรับผิดชอบ เพื่อความเป็นธรรมกับนักศึกษากลุ่มดังกล่าว

เอกสารประกอบ

กรณีจับควบคุมตัวนักศึกษาสถาบันราชภัฏยะลา

แถลงการณ์การซ้อมทรมานนักศึกษาจังหวัดยะลาเพื่อให้รับสารภาพ

แถลงการณ์กรณีทหารพรานยิงชาวบ้าน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net