Skip to main content
sharethis

 






การเมือง


 


"หมัก" ลั่นแก้ รธน.ก่อนพ้นเก้าอี้


ผู้จัดการรายวัน - "สมัคร สุนทรเวช" เผยงานชิ้นแรกผลักดันระบบขนส่งมวลชน ชี้บีทีเอสต้องขยายให้ได้ 100 กิโลเมตร เร่งสร้างรถไฟฟ้า 9 สาย 9 แฉกภายใน 3 ปี กู้เงินออมประชาชน 5 แสนล้าน ดอกเบี้ย 5% พร้อมขุดอุโมงส่งน้ำไฮโดรชิลจากแม่น้ำโขงให้ชาวอีสานใช้ บอกผ่านสื่อ ถ้า "สุรยทธ์" อยากคุยก็ให้นัดมา ลั่นจะแก้ไข รธน.ก่อนพ้นเก้าอี้นายกฯ 3 เดือน ครป.ตั้งฉายารัฐบาลสมัคร 1 เป็น ครม.หลงทำเนียบฯ เตือน 5 เดือนแก้ปัญหาไม่ได้เจอม็อบแน่ พร้อมแนะให้ดู 10 บทเรียนรัฐบาลทักษิณ เป็นอุทาหรณ์


 


ครป.เตือน "สมัคร 1" ระวัง 4 ม็อบใหญ่ เคลื่อนไหว หากผลงานไม่เข้าตา


แนวหน้า - นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการคณธกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) ได้ตั้งฉายาคณะรัฐมนตรีนายสมัคร สุนทรเวช ว่า "ครม.หลงทำเนียบ" เนื่องจากตำแหน่งต่างๆ ในรัฐบาลส่วนใหญ่เป็นนอมินีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พร้อมให้จับตาม็อบเกษตรกร กรรมกร ชนชั้นกลาง และพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่อาจออกมาเคลื่อนไหว หากในช่วง 3 - 5 เดือน ยังไม่สามารถสะสางปัญหาได้ ขณะที่เห็นว่า การที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ระบุ การหาตัวบุคคลภายนอกมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีเป็นเรื่องยากนั้น ถือว่าโกหก อีกทั้งเป็นการส่งสัญญาณว่า นายสมัครไม่ได้เป็นผู้จัดคณะรัฐมนตรีด้วยตนเอง นอกจากนี้ เลขาธิการ ครป.ยังเสนอแนะให้นายสมัครใช้บทเรียนของระบอบทักษิณเป็นข้อเตือนใจ 10 ข้อ อาทิ การคอร์รัปชั่นเชิงนโยบาย การอุ้มฆ่าใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ การฆ่าตัดตอน การทำลายกระบวนการตรวจสอบ การขายรัฐวิสาหกิจ รวมถึงการสร้างความแตกแยกทางสังคม เป็นต้น


 


"สมัคร" ไม่กลัวปฏิวัติ ยันไม่ล้วงโผกองทัพ


คมชัดลึก - สมัคร" ไม่กลัวโดนปฏิวัติ เหตุไม่ได้เข้าไปล้วงลูกโผโยกย้ายกองทัพ "สุรยุทธ์" เชื่อไม่มีย้ายทหารล้างบาง ด้าน ครป.วิเคราะห์ ครม. "หมัก 1" ตั้งฉายา "ครม.หลงทำเนียบ" เหตุอำนาจสั่งการอยู่นอกประเทศ ฟันธงประชานิยมแตกฟองทันตาในยุคนี้แน่ เตือนระวังประชาชน 4 กลุ่มรวมตัวเป็นม็อบไล่ ขณะที่ ปชป.ชี้เป็นกรรมของประชาชนได้ ครม.ขี้เหร่


 



"บุญรอด" ชี้ "สมัคร" ควบกลาโหมเป็นเจตนาดี


เดลินิวส์ - พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นพลเรือน จะควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมด้วยนั้น ไม่มีความกังวลแต่อย่างใด เพราะเห็นว่า นายสมัคร เป็นผู้ที่เข้าใจอะไรง่าย และการที่เลือกมาควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการรกระทรวงกลาโหมเองก็เพื่อไม่ต้องการให้เกิดปัญหารุ่นพี่รุ่นน้อง ซึ่งถือเป็นเจตนาที่ดี และคงไม่มีปัญญหาการแทรกแซงกิจการภายในของกองทัพ พร้อมย้ำ ทั้งตนและนายสมัคร ต่างเข้าใจในเจตนาของกันและกันดี


 


รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยังชี้แจงถึงกรณีพระราชบัญญัติ ว่าด้วยการจัดระเบียบกระทรวงกลาโหมออกมาในช่วงนี้ว่า ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นและมีการดำเนินการมาก่อนที่ตนจะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไม่ได้เป็นเกมการเมืองแต่เป็นเรื่องบังเอิญที่ออกมาในช่วงนี้ อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าวได้พูดคุยกับนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีแล้ว ซึ่งนายสมัคร แสดงความเข้าใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น



 


 






เศรษฐกิจ


 


ปธ.หอปัตตานีวอนรัฐบาลใหม่เร่งเมกะโปรเจกต์กระตุ้น ศก.ใต้


ผู้จัดการรายวัน - นายศิริชัย ปิติเจริญ ประธานหอการค้าจังหวัดปัตตานี เปิดเผยถึงการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของนายสมัคร สุนทรเวช ต่อการแก้ปัญหาเศรษฐกิจชายแดนภาคใต้ว่า อยากให้รัฐบาลใหม่คงนโยบายในเรื่องมาตรการความช่วยเหลือ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของรัฐบาลที่ผ่านมา โดยเฉพาะการสานต่อในเรื่องนโยบายเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจต่อไป เพราะถือเป็นเรื่องที่ช่วยเหลือให้ผู้ประกอบการในพื้นที่ สามารถดำรงอยู่ได้ในสถานการณ์ความไม่สงบ


 


รัฐบาลใหม่อาจจะมีการพิจารณามาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติม เพื่อให้เกิดการลงทุนเพิ่มขึ้นในระยะเวลาอันสั้น เพื่อสร้างความมั่นใจให้เกิดในพื้นที่ว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่ได้ทอดทิ้งหรือไม่เหลียวแลคนภาคใต้ เพราะการลงทุนในพื้นที่ชายแดนภาคใต้นั้นมีความละเอียดอ่อน ภาคเอกชนจะนำการลงทุนคงเป็นไปได้ยาก


 


ดังนั้น ภาครัฐต้องเป็นผู้ถือธงนำในการเข้ามาลงทุนแทนภาคเอกชน เพราะต้องยอมรับว่าที่ผ่านมามีนักธุรกิจย้ายออกจากพื้นที่ไปเป็นจำนวนมาก หากไม่มีการลงทุนเพิ่มเติมก็อาจจะสายเกินไปหากไม่มีนักลงทุนเหลืออยู่ในพื้นที่ ซึ่งก่อนหน้านี้ที่ทางสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(BOI) ได้เพิ่มมาตรการพิเศษส่งเสริมการลงทุนในชายแดนภาคใต้เป็นกรณีพิเศษ แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากนักเพราะมีอุปสรรคจากสถานการณ์ในพื้นที่


 


 


 






ความมั่นคง


 


2 นักศึกษายอมรับร่วมกลุ่มอาร์เคเค เตรียมทำแผนยิง


คมชัดลึก - เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.อ.อัคร ทิพโรจน์ ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการข่าวสาร กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า  กล่าวว่า กองทัพภาคที่ 4 ยังยึดมั่นในนโยบายที่จะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นธรรม แต่กรณีผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ ที่มีทั้งพยานและหลักฐานการกระทำผิดชัดเจนก็จำเป็นต้องดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะกลุ่มนักศึกษา 7 คน ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ศูนย์วิวัฒน์สันติ ค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ซึ่งในชั้นการสืบสวนสอบสวน ผู้ต้องหา 2 คนในจำนวนดังกล่าว รับสารภาพว่า เป็นสมาชิกกลุ่มอาร์เคเค และเคยก่อเหตุความไม่สงบทั้งยิงและลอบวางระเบิดในพื้นที่ อ.เมือง จ.ยะลา มาแล้วหลายครั้ง ซึ่งได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ.เมืองยะลา ในการนำนักศึกษาสมาชิกอาร์เคเคทั้งสองคนไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพแล้ว


 



"เป็นสิทธิของสหพันธ์นิสิตนักศึกษาฯ ที่ต้องการเรียกร้องให้องค์กรที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบในกรณีดังกล่าว ซึ่งกองทัพภาคที่ 4 พร้อมให้ความร่วมมืออยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม อยากจะเตือนไปยังกลุ่มแนวร่วมที่อยู่ในคราบนักศึกษาให้หยุดใช้สถาบันการศึกษาและสถาบันศาสนาเป็นฉากบังหน้าในการกระทำผิด"  พ.อ.อัคร กล่าว


 



พ.อ.อัคร กล่าวด้วยว่า ในกรณีที่กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาหรือผู้ปกครองของนักศึกษาต้องการร้องเรียนเรื่องราวต่างๆ ที่อ้างว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่สามารถโทรศัพท์สายตรงมายังกองทัพภาคที่ 4 ตามหมายเลขสายด่วน 1341, 1881 ซึ่งเจ้าหน้าที่พร้อมที่จะให้ความเป็นธรรม หรือให้ข้อแนะนำเกี่ยวกับขั้นตอนในกระบวนการยุติธรรมต่างๆ และหากต้องการเข้าเยี่ยมผู้ต้องหากลุ่มนี้ เจ้าหน้าที่ได้อนุญาตให้เข้าเยี่ยมได้ตั้งแต่วันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา เนื่องจากครบ 72 ชั่วโมงหลังการจับกุม


 



รปภ.เพิ่ม 2 เท่าช่วงตรุษจีนสกัดโจรใต้ลอบก่อเหตุป่วน


ผู้จดการรายวัน - ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายมะกอเซ็ง กายียุ และนายมะรอเซะ กายียุ ซึ่งถือเป็นแกนนำระดับมันสมองที่อยู่ระดับบนขององค์กรหรือขบวนการก่อความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า วานนี้ (3 ก.พ.) พ.อ.(พิเศษ) ประยงค์ กล้าหาญ รอง ผบ.ฉก.4 สงขลา ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความรัดกุมในการปฏิบัติหน้าที่ให้มากขึ้น โดยเฉพาะการเฝ้าระวังการตอบโต้ของสมุนและลูกน้องของรองหัวหน้ากองโจรรายนี้หลังจากที่หัวหน้าของเขาถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัว ที่สำคัญได้วางแผนปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย โดยเฉพาะ ต.จะแหน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เนื่องจากเชื่อว่าแนวร่วมกลุ่มผู้ไม่หวังดียังคงเคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่


 


"ทางเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าจะไม่มีการเหวี่ยงแหจับกุมผู้ต้องสงสัยอย่างแน่นอน เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นการทำลายความเชื่อมั่นและสูญเสียมวลชน ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วมได้เกือบ 100% แล้ว เนื่องจากพวกเขา เกรงกลัวต่อความจริงใจของเจ้าหน้าที่ ที่สามารถดึงแนวร่วมที่เคยหลงผิด กลับมาเป็นผู้บริสุทธิ์ และให้ความร่วมมือกับรัฐได้ ซึ่งมีทั้งการแจ้งเบาะแสและรายงานข่าวการเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้าม ส่วนนี้นับว่าเป็นยุทธวิธีการรบที่นิ่มนวลแต่ได้ผลดี กระทั่งสามารถควบคุมเหตุรุนแรงไม่ให้บานปลายและสามารถควบคุมตัวรองหัวหน้ากองโจรได้"


 


ส่วนการรักษาความสงบเรียบร้อยในช่วงเทศกาลตรุษจีนนี้นั้น พ.อ.(พิเศษ) ประยงค์ บอกว่า จะมีการวางกำลังเจ้าหน้าที่คุมเข้มพื้นที่เพิ่มเป็น 2 เท่า โดยเฉพาะเส้นทางที่เชื่อมต่อกับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จะมีการทั้งการตั้งจุดตรวจจุดสกัด วัตถุต้องสงสัยและบุคคลที่ถูกขึ้นบัญชี เพื่อป้องกันการแฝงตัวเข้ามาก่อเหตุในพื้นที่ จ.สงขลา


 


ทหารตำรวจสรุปสถานการณ์ใต้ในรอบปีจับโจรได้แล้ว1,900คน


สยามรัฐ- เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ 3 ก.พ.51ที่ห้องประชุมสำนักงานเทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา พล.ท.วิโรจน์   บัวจรูญ  แม่ทัพภาคที่ 4   พร้อมด้วย พล.ต.ท.อดุลย์  แสงสิงแก้ว ผช.ผบ.ตร.  พร้อมด้วย นายพระนาย  สุวรรณรัฐ  ผอ.ศอ.บต. และ นายธีระ  มินทราศักดิ์  ผวจ.ยะลา ได้เข้าร่วมประชุมตามโครงการพบปะกับผู้นำชุมชน ผู้ประกอบการ และประชาชนในพื้นที่จังหวัดยะลา เพื่อให้แต่ละหน่วยงานทั้งทหาร ตำรวจ และพลเรือน ได้ชี้แจงนโยบายผลงานในการดำเนินการในรอบปีที่ผ่านมาและนโยบายในปี 2551 นี้ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหา เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้


 



ภายหลังจากการประชุม พล.ท.วิโรจน์  เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้มีการสั่งกำชับหน่วยกำลังในพื้นที่ที่ตั้งชุดเฉพาะกิจอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะในเขตเมืองที่มีประชาชนอยู่หนาแน่น ให้ดูแลความความสงบเรียบร้อยอย่างเข้มงวด และเฝ้าระวังการก่อเหตุร้ายของกลุ่มก่อความไม่สงบที่จะเข้ามาลอบทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์  แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ในเรื่องดังกล่าวนี้ หากไม่ได้รับความร่วมมือกับประชาชนการแก้ไขปัญหาก็คงลำบาก แต่หากประชาชนให้ความร่วมมือเป็นหูเป็นตาและคอยแจ้งเบาะแสให้กับฝ่ายเจ้าหน้าที่ได้ทราบ การแก้ไขปัญหาก็ง่ายขึ้นและก็จะสามารถจับกุมคนร้ายได้มากขึ้นด้วย


 



ทางด้าน พล.ต.ท.อดุลย์   กล่าวต่อไปว่า จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ความรุนแรงได้เริ่มลดลงไปมากกว่าเมื่อก่อนมาก เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทราบถึงวิธีการการก่อเหตุของคนร้ายได้มากขึ้น และรู้ถึงกลุ่มแกนนำที่ปฏิบัติการอยู่ในพื้นที่ จนสามารถจับกุมตัวมาได้แล้วหลายคน จนสามารถขยายผลและออกหมายจับกลุ่มก่อความไม่สงบ จนถึงขณะนี้มีจำนวน 4,000 คดี  จับได้แล้วจำนวน 1,900 คน และคนร้ายตามหมายจับได้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ปะทะกับเจ้าหน้าที่ที่ผ่านมามีจำนวน 66 ราย  ดังนั้นในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบขณะนี้มีความคืบหน้าไปมาก


 


 


 






คุณภาพชีวิต & สิ่งแวดล้อม


 


สปสช.แจงผู้ประกันตนพิการ  ติดกฎหมายใช้บัตรทองไม่ได้


กรุงเทพธุรกิจ - นายแพทย์วินัย สวัสดิวร รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ขณะนี้ มีประชาชนจำนวนหนึ่งซึ่งเดิมใช้สิทธิระบบประกันสังคม แต่ทุพพลภาพ ความเป็นผู้ประกันตนได้สิ้นสุดลง และคิดว่าสามารถใช้สิทธิรักษาพยาบาลจากระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ทางสปสช.ขอชี้แจงว่า โดยหลักการแล้วยินดีให้ผู้ประกันตนที่ทุพพลภาพใช้สิทธิระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า แต่ติดขัดทางข้อกฎหมาย เพราะผู้ประกันตนที่ทุพพลภาพนั้นมีสิทธิได้รับค่ารักษาพยาบาลไม่เกิน 2,000 บาทต่อเดือนตลอดชีวิต ตามประกาศของสำนักงานประกันสังคม ดังนั้น แม้ความเป็นผู้ประกันตนจะสิ้นสุดลงหรือไม่ก็ตาม หากผู้ทุพพลภาพนั้นได้รับค่ารักษาพยาบาลจากสำนักงานประกันสังคม ก็ถือได้ว่าเป็นผู้มีสิทธิตามกฎหมายว่าด้วยการประกันสังคม


 



รองเลขาธิการสปสช. กล่าวต่อว่า กฎหมายว่าด้วยหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ มีเจตนารมณ์มิให้เกิดความซ้ำซ้อนในระบบการให้ความช่วยเหลือในด้านการรักษาพยาบาล อีกทั้งในการขอรับเงินงบประมาณแผ่นดินของสปสช. ดังนั้น ผู้ทุพพลภาพจึงไม่สามารถใช้สิทธิรักษาพยาบาลในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าได้ นายแพทย์วินัย กล่าวว่า เพื่อให้ผู้ที่ทุพพลภาพในกรณีดังกล่าว สามารถได้สิทธิรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้น สปสช.มีข้อเสนอว่า ให้สำนักงานประกันสังคมเสนอต่อคณะกรรมการประกันสังคมให้มีการตกลงกับคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เพื่อขยายบริการ หรือให้แก้ไขประกาศของสำนักงานประกันสังคม


 


"ฮู" ชี้อีก 23 ปี มะเร็งคร่าทะลุ 11 ล้านคน


คมชัดลึก - เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ นพ.มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดรณรงค์ป้องกันโรคมะเร็งเนื่องในวันมะเร็งโลก เพื่อสร้างกระแสการตื่นตัวและดูแลใส่ใจ เพื่อป้องกันปัญหาเกี่ยวกับโรคมะเร็งมากขึ้นโดยองค์การอนามัยโลก หรือฮู กำหนดให้วันที่ 4 กุมภาพันธ์ทุกปี เป็นวันมะเร็งโลก ว่า ขณะนี้โรคมะเร็งกำลังเป็นปัญหาทั่วโลก ล่าสุดในปี 2550 ทั่วโลกเสียชีวิตจากโรคนี้เกือบ 8 ล้านคน หรือร้อยละ 13 ของผู้เสียชีวิตทั้งหมด กว่า 2 ใน 3 ของผู้เสียชีวิต อยู่ในประเทศที่มีฐานะยากจนและมีรายได้ระดับปานกลาง


 



นพ.มงคล กล่าวต่อว่า มะเร็ง 5 ชนิดที่พบมากที่สุด อันดับ 1 ได้แก่ มะเร็งปอด เสียชีวิต ปีละ 1.3 ล้านคน รองลงมาคือมะเร็งกระเพาะอาหาร ปีละเกือบ 1 ล้านคน มะเร็งตับปีละ 6.62 แสนคน มะเร็งลำไส้ใหญ่ปีละ 6.55 แสนคน และมะเร็งเต้านมปีละ 5.02 แสนคน องค์การอนามัยโลกคาดการณ์โรคมะเร็งจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ ในปี 2558 จะมีคนเสียชีวิตเพิ่มเป็น 9 ล้านคน และในอีก 23 ปีหรือ พ.ศ. 2574 จำนวนผู้เสียชีวิตจะเพิ่มเป็น 11.4 ล้านคน ส่วนประเทศไทยในปี 2549 มีผู้เสียชีวิตจากโรคมะเร็ง 6.6 หมื่นราย โดยในผู้ชายพบมะเร็งปอดมากที่สุด 5,535 ราย รองลงมาคือโรคมะเร็งตับ ส่วนผู้หญิงพบมะเร็งปากมดลูกมากที่สุด 1,484 ราย รองลงมาคือ มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม


 



อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายการป้องกันและควบคุมโรคมะเร็งระดับชาติที่มีความเชื่อมโยงเชิงนโยบายในระดับโลกร่วมกับองค์การอนามัยโลก โดยเน้นที่การสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันไม่ให้เกิดโรค โดยเฉพาะบุหรี่พบว่าเด็กประมาณ 700 ล้านคนหรือครึ่งหนึ่งของเด็กทั่วโลก ได้รับพิษจากควันบุหรี่โดยผู้สูบบุหรี่รอบข้างหรือบุหรี่มือสอง ทำให้มีปัญหาสุขภาพหลายด้านคือ ปอดมีการเจริญเติบโตช้า ติดเชื้อทางเดินหายใจ ติดเชื้อที่หูส่วนกลาง และเป็นโรคภูมิแพ้ง่ายกว่าเด็กที่ไม่ได้รับควันบุหรี่มือสอง



        


 


 






ต่างประเทศ


 


ญี่ปุ่นเจอพายุหิมะถล่มหนักสุดในรอบ 50 ปี


แนวหน้า - เกิดเหตุหิมะตกหนักที่สุดนรอบ 50 ปี ในกรุงโตเกียว ส่งผลให้การจราจรติดขัด การแข่งขันกีฬาหลายรายการต้องถูกยกเลิก สายการบินต้องประกาศยกเลิกเที่ยวบินในประเทศ 50 เที่ยวทั้งเข้าและออกจากสนามบินฮาเนดะ รถไฟหลายขบวนต้องหยุดให้บริการ รถไฟชินคังเซนต้องเลื่อนการให้บริการออกไป รายงานระบุว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุต่างๆ แล้ว 16 คน ซึ่งทางสำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นแจ้งว่ามีหิมะปกคลุมโตเกียวหนา 3 เซ็นติเมตร เมื่อช่วงเที่ยงวันที่ผ่านมา ขณะที่ความกดอากาศต่ำกำลังเคลื่อนไปทางตะวันออกเฉียงเหนือตามแนวชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิค


 


ฑูตไทยในเกาหลีเตือนสาวไทยโดนหลอกนับหมื่นคน


สยามรัฐ - นายวศิน ธีรเวชญาณ เอกอัครราชทูตไทยประจำเกาหลีใต้ ได้เปิดเผยหลัง นพ.สมชัย ภิญโญพรพาณิชย์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค นำคณะผู้บริหารและสื่อมวลชนเข้าพบที่กรุงโซล ว่า ปัจจุบันมีแรงงานไทยทำงานในเกาหลีใต้ประมาณ 47,000 คน ในจำนวนนี้เป็นแรงงานลักลอบเข้าเมืองประมาณ 14,000 คน พบว่า มีคนไทยถูกหลอกไปทำงานในเกาหลีใต้และเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองส่งกลับประเทศไทยแทบทุกวัน โดยเฉพาะการถูกหลอกไปทำงานนวด ซึ่งอาชีพนี้ ถือเป็นอาชีพสงวนสำหรับคนตาบอดชาวเกาหลีเท่านั้น


 


นายวศินกล่าวว่าถ้าใครชัดชวนให้ไปทำงานนวดที่เกาหลีต้องขออนุญาตให้แรงงานต่างชาติเข้าไปทำงานได้ ต้องผ่านกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน หากมีบุคคลใด หรือกลุ่มบุคคลใดแอบอ้างว่า มาชักชวนว่าสามารถช่วยให้ไปทำงานกับนายจ้างที่ประเทศเกาหลีได้ อย่าได้หลงเชื่อโดยเด็ดขาด  จุดอ่อนของแรงงานไทยคือเรื่องของภาษา ส่วนใหญ่สื่อสารด้วยภาษาเกาหลีไม่ได้ ขณะที่ชาวเกาหลีนิยมไปเที่ยวประเทศไทยโดยปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวถึง 1.13 ล้านคน ขณะที่คนไทย 180,000 คนเดินทางไปท่องเที่ยวเกาหลี และคาดว่าปีนี้จะมีชาวเกาหลีมาเที่ยวประเทศไทยเพิ่มขึ้นด้วย อยากฝากให้คนไทยสนใจภาษาเกาหลีด้วย


 


เพนตากอนเสียงแตกเรื่องอิรัก-บุชดันงบเพิ่ม


ไทยรัฐ - สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างได้รับเอกสารจากระทรวบกลาโหมสหรัฐฯที่ระบุประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู.บุช เตรียมเสนองบเพื่อกระทรวบกลาโหม 515,400 ล้านดอลลาร์ หรือราว 17 ล้านล้านบาท สำหรับปีงบประมาณ 2552 ซึ่งในจำนวนนี้รวมงบประมาณด้านปรับปรุงแสนยานุภาพของกองทัพ และการเพิ่มขนาดกองทัพ ตัวเลขงบประมาณดังกล่าวเพิ่มขึ้น 7.5% เมื่อเทียบกับงบกลาโหมที่สภาคองเกรสอนุมัติในปีนี้ ขณะเดียวกัน ผู้นำสหรัฐฯ ยังจะขอสภาคองเกรสให้อนุมัติเงินกองทุนฉุกเฉิน 70,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 2.3 ล้านล้านบาท) เพื่อใช้ในสงครามอิรักและอัฟกานิสถานอีกด้วย


 


รายงานระบุเจ้าหน้าที่ระดับสูงในกลาโหมสหรัฐฯ เริ่มมีความคิดเห็นแตกต่างกันออกไปเกี่ยวกับการถอนทหารออกจากอิรัก ยิ่งเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นล่าสุดเมื่อกลุ่มก่อความไม่สงบใช้หญิงสติไม่สมประกอบ 2 คน ติดระเบิดกับตัวและระเบิดพลีชีพที่ตลาดค้าสัตว์ในกรุงแบกแดด ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบศพ ก็ยิ่งตอกย้ำความเห็นที่แตกต่าง โดยฝ่ายหนึ่งเห็นว่าการถอนทหารเร็วเกินไปจะบ่อนทำลายความมั่นคงที่กำลังพัฒนาดีขึ้นในอิรักในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ทั้งนี้ สหรัฐฯ กำลังจะส่งทหาร 5 กองพันกลับบ้านในไม่กี่เดือนนี้ ด้านนายโรเบิร์ต เกตส์ รมว.กลาโหม กล่าวว่า เขาคาดวังสถานการณ์ในอิรักจะทำให้เพนตากอนส่งทหารกลับสหรัฐฯ ได้ 10 กองพันภายในสิ้นปีนี้ ขณะที่ พล.อ.เดวิด พีเทรียส ผู้บัญชาการอาวุโสอิรัก ระบุควรมีการหยุดประเมินสถานการณ์ในช่วงกลางปีก่อน หลังจากนั้นค่อยตัดสินใจอีกทีว่าจะเดินหน้าหรือไม่ถอนทหาร


 


อิรักตาย-เจ็บพุ่ง 300 ช็อกมือบึ้ม '2 หญิงเอ๋อ'


โพสต์ทูเดย์ - เอพี รายงานเมื่อวันที่ 2 ก.พ.ว่าเหตุระเบิดนองเลือดครั้งใหญ่ที่สุดในปีนี้กลางตลาดกรุงแบกแดดของอิรักซึ่งมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 99 คนบาดเจ็บ 208 คนเมื่อวันที่ 1 ก.พ. ที่ผ่านมาเป็นฝีมือของผู้หญิงที่มีปัญหาทางจิต 2 คนที่ถูกกลุ่มก่อการร้ายนำระเบิดผูกติดตัวใช้เป็นมือระเบิดพลีชีพโดยที่เจ้าตัวไม่รู้


 


พลจัตวา กัสซิม อัล มูสซาวีหัวหน้าโฆษกกองทัพอิรักกล่าวว่าจากการตรวจสอบพบว่า มือระเบิดหญิงทั้ง 2 คนเป็นผู้ป่วยทางจิตดาวน์ซินโดรม และอาจไม่รู้ตัวเลยว่าถูกใช้เป็นมือระเบิดพลีชีพในโศกนาฏกรรมดังกล่าว ที่มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก โดยกลุ่มก่อการร้ายผูกเข็มขัดติดระเบิด 15 กิโลกรัมที่ตัวหญิงทั้งสองก่อนจะกดชนวนด้วยรีโมตคอนโทรล


 


มูสซาวี กล่าวว่าหลังจากที่มีการรักษาความปลอดภัยเข้มงวดมากขึ้นโดยเฉพาะในกรุงแบกแดดทำให้การลงมือก่อเหตุโจมตีทำได้ยากขึ้นกลุ่มก่อการร้ายจึงหันไปใช้มือระเบิดหญิงกันมากขึ้น


 


ด้าน พล.อ.เจฟฟรีย์ แฮมมอนด์ผู้บัญชาการกองกำลังสหรัฐในกรุงแบกแดด ได้กล่าวประณามวิการก่อเหตุครั้งนี้ซึ่งเชื่อว่าเป็นฝีมือของกลุ่มอัลกออิดะห์ และว่าเป็นการกระตุ้นทางจิตวิทยาครั้งใหญ่เพื่อส่งผ่านความหวาดกลัวไปยังหัวใจของชาวอิรัก


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net