Skip to main content
sharethis

"วรพล" ยื่นชื่อ 11 อาจารย์เสนอรัฐบาลทบทวนกฎหมาย สนช. และคำสั่ง คปค.


นายวรพล พรหมิกบุตร พร้อมตัวแทนนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยต่างๆ นำรายชื่อนักวิชาการจำนวน 11 คนที่เข้าชื่อเสนอให้เพื่อขอให้รัฐบาลทบทวนกฎหมาย และรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 ที่ผ่านการพิจารณาจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งประกาศบังคับใช้ในช่วงที่ประเทศไทยถูกรัฐประหารต่อนายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี


 


โดยนายวรพล กล่าวว่า ขณะนีเรามีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งแล้ว จึงควรมาวิเคราะห์เนื้อหากฎหมายที่ผ่านการพิจารณาจากสนช.และมีผลบังคับใช้กว่า 200 ฉบับ เนื่องจากมีกฎหมายและบทบัญญัติจำนวนมากขัดแย้งกับการเมืองระบอบประชาธิปไตยและเป็นอุปสรรคต่อการพิจารณาการเมืองไทยในระบอบประชาธิปไตย เช่น ประเด็นการได้มาของวุฒิสมาชิกที่มาจากการสรรหา และพ.ร.บ.สภาองค์กรชุมชนที่อาจจะซ้ำซ้อนกับโครงสร้างการเมืองท้องถิ่นเป็นต้น


 


นายวีรพล กล่าวว่า หลังจากนี้จะไปยื่นหนังสือดังกล่าวต่อประธานสภาผู้ราษฎร ผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคการเมือง พร้อมทั้งขอสำเนากฎหมายจากสภาผู้แทนฯเพื่อศึกษาวิเคราะห์ต่อไป นอกจากนั้นกลุ่มนักวิชาการยังเห็นว่าคำสั่งคปค.ที่เกี่ยวข้องกับคตส.ขัดหลักนิติธรรมตามระบบประชาธิปไตย เพราะคตส.เป็นคณะบุคคลที่แต่งตั้งโดยอำนาจรัฐประหารแล้วมาใช้อำนาจทางการเมืองในการวินิจฉัยตัดสิน การกระทำตามกฎหมายหลายคนอาจจะเข้าใจว่าสิ่งที่ดำเนินการในช่วงคตส.เป็นกระบวนการยุติธรรม แต่พวกเราเห็นว่าเป็นกระบวนการที่ไม่ยุติธรรม มีการใช้ข้อเท็จจริงที่ไม่มีการพิสูจน์และใช้กฎหมายที่เป็นโทษย้อนหลัง


 


หากเราไปศึกษาและแก้ไขก็จะทำให้กระบวนการยุติธรรมกลับมา และในวันที่ 30 มี.ค. เวลา 08.30 -12.00 น. ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม ทางกลุ่มจะจัดสัมมนาวิชาการเรื่อกฎหมายกับการใช้อำนาจกฎหมายกับองค์กรที่เกี่ยวข้อง โดยจะยกกรณีการยุบพรรคไทยรักไทยมาเป็นกรณีศึกษา


 


นายชูศักดิ์ กล่าวว่าเห็นด้วยที่จะมีการทบทวนกฎหมายที่ออกมาในช่วงรัฐประหาร หากกฎหมายใดเป็นประโยชน์ก็ควรออกพระราชบัญญัติรับรองให้ถูกต้อง และควรจะศึกษาว่ากฎหมายใดที่ไม่เป็นไปตามหลักนิติธรรมและระบบนิติรัฐก็ควรมีการทบทวนปรับปรุงแก้ไขหรือยกเลิก ทั้งนี้ตนจะนำเรื่องนี้เสนอต่อวิปรัฐบาล เพื่อให้พิจารณาวาจะสามารถดำเนินการอย่างไรได้บ้าง ซึ่งอาจจะตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ เพื่อศึกษาปัญหาด้วยและอาจจะศึกษารวมไปถึงคำสั่งของคปค.ด้วย


 


เมื่อถามว่าจะศึกษาคำสั่งคปค.ที่เกี่ยวกับที่มาและอำนาจของคตส.ด้วยหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า โดยส่วนตัวตนเห็นว่าอาจจะต้องรวมไปถึงด้วยเพราะประกาศ คมช.หลายฉบับ สนช.ให้การรับรอง เช่น การต่ออายุคตส. เพราะฉะนั้นการศึกษาจะต้องเกี่ยวโยงกัน


 


ผู้สื่อข่าวถามว่า เกรงว่าจะเกิดข้อครหาว่ารัฐบาลพยายามตัดตอนกระบวนการยุติธรรมในช่วงรัฐประหารหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า เราไม่ได้บอกว่าจะยกเลิกหรือไม่ แต่ในเมื่อมีการเสนอจากนักวิชาการ เราก็ควรตั้งคณะกรรมการธิการมาศึกษาเรื่องนี้ ซึ่งอะไรที่ไม่เป็นไปตามหลักนิติธรรม ก็ต้องปรับปรุงแก้ไข


 


 


"ยามเฝ้าแผ่นดิน" ขวางแก้กฎหมาย สนช. ไล่ไปตั้งกลุ่ม "อาจารย์รักทักษิณ"


ขณะที่ รายการยามเฝ้าแผ่นดิน ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ ASTV News 1 เมื่อคืนที่ผ่านมา (17 มี.ค.) ได้กล่าวถึงความเคลื่อนไหวของนักวิชาการกลุ่มนี้ โดยกล่าวว่าถ้าจะดูประวัติของนักวิชาการกลุ่มนี้ ก็จะเห็นว่าเป็นนักวิชาการที่สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรมาตลอด โดยเฉพาะนายวรพลนั้นเคยขึ้นเวที นปก.และเรียกร้องให้สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ เรียกร้องให้ปล่อยแกนนำ นปก.ที่ถูกจับกุมหลังก่อความวุ่นวายหน้าบ้านพัก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เคยแถลงข่าวเรียกร้องให้ถอดนายธรยุทธ บุญมี ออกจากการเป็นนักวิชาการ เคยแถลงข่าวคัดค้านการยุบพรรคไทยรักไทยและเรียกร้องให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์


 


นอกจากนี้ นายวรพลยังเคยถูกทาบทามจากนายจักรภพ เพ็ญแข ให้เป็นโฆษกรัฐบาลชุดนี้ เคยได้รับการติดต่อให้เป็น ผอ.สถานีโทรทัศน์เอ็มวี 26 ที่ให้การสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ เคยไปแจ้งความที่กองปราบปรามร่วมกับนายพิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ให้ดำเนินคดีกับแกนนำพันธมิตรฯ ที่ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 2 และเคยอภิปรายปกป้องการโยกย้ายข้าราชการของรัฐบาลชุดนี้


 


ขณะเดียวกัน นายเมธาพันธ์ โพธิธีรโรจน์ ที่ร่วมลงชื่อยื่นหนังสือถึงนายชูศักดิ์ ก็เป็น 1 ใน 9 แกนนำ นปก.รุ่น 2 ที่เคยขึ้นเวทีปราศรัยโจมตี คมช.ที่ท้องสนามหลวงด้วย


 


ผู้ดำเนินรายการ กล่าวต่อว่า หากนายวรพลมีความคิดอย่างนี้ อย่าอ้างตัวเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เลย เพราะคนธรรมศาสตร์และลูกศิษย์จำนวนมากร็ทันหมดแล้ว ควรจะตั้งกลุ่มใหม่เลย จะตั้งเป็น"กลุ่มอาจารย์รักทักษิณ" ก็ให้ชัดเจนไปเลย


 


ทั้งนี้ จะเห็นว่านักวิชาการกลุ่มนี้ได้พุ่งเป้าไปที่การยกเลิกประกาศ คปค.ฉบับที่ 30 ที่เป็นคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ (คตส.) ทั้งนี้เพราะต้องการให้ คตส.และการกระทำทุกอย่างของ คตส.เกี่ยวกับการดำเนินคดี พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นโมฆะทั้งหมด สัญญาณแบบนี้ แสดงให้เห็นว่ามีความคิดที่จะปกป้องไม่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างแน่นอน นั่นเพราะมีความหวั่นเกรงว่า อาจจะแก้ข้อกล่าวหาไม่ได้ ขณะเดียวกันก็กลัวว่า จะมีคดีจาก คตส.ส่งไปถึงศาลมากขึ้นอีกหลายคดี กว่า คตส.จะหมดอายุในเดือนมิถุนายน ผู้ดำเนินรายการยามเฝ้าแผ่นดินกล่าว


 


ที่มา: เรียบเรียงจากเว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจและผู้จัดการออนไลน์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net