Skip to main content
sharethis

วันนี้ (28 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.00 น. การชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในชื่อ "เวทีรายการยามเฝ้าแผ่นดิน ภาคพิเศษ" ที่ หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้เริ่มขึ้นแล้ว โดยมี นายสำราญ รอดเพชร เป็นผู้ดำเนินรายการ โดยมีประชาชนส่วนหนึ่งยังยืนอออยู่ทางเข้าประตูหอประชุม เพราะที่นั่งเต็ม อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าของกลุ่มพันธมิตรฯ ได้จัดเตรียมจอมอนิเตอร์ 2 จุดภายนอก


 


 


 



 


กลุ่มต้าน-หนุนพันธมิตรฯ ด่าทอกันไปมาหน้า มธ.-สนามหลวง


ขณะที่ภายนอก มีชุมนุมประมาณ 300 คน ในชื่อกลุ่ม "ประชาธิปไตยพาประเทศไทยก้าวหน้า" ปราศรัยโจมตีแกนนำพันธมิตรฯ พร้อมกับถือป้ายข้อความโจมตีกลุ่มพันธมิตรฯ ว่า "เทิดทูนเผด็จการ รวมกลุ่มกันประหารชาติไทยรอบสอง กำจัดประชาธิปไตย กลุ่มพันธมาร" และขึ้นป้ายผ้าขนาดใหญ่มุ่งโจมตีแกนนำฝ่านพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย อาทิ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง, นายสุริยะใส กตะศิลา รวมถึง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ


 


ขณะที่มีมวลชนของพันธมิตรฯ ซึ่งอยู่ฝั่งหอประชุมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ตะโกนด่าทอ และชูป้าย "ทุนสามานย์" "ไอ้จมูกหมู ปากหมา ปัญญาควาย" อยู่ตรงข้ามกับผู้ชุมนุมฝั่งสนามหลวง ทำให้ต่อมาเกิดโต้เถียงกันข้ามฝั่งถนนไป-มา และมีการขว้างสิ่งของและขวดน้ำพลาสติกใส่กัน จนตำรวจต้องเข้ามาห้ามปราม


 


ขณะที่บรรยากาศโดยรวมนอกห้องประชุม มีการเปิดร้านขายของมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน มีร้านขายหนังสือการเมือง และเสื้อรณรงค์ รวมทั้งมีการแสดงละครการเมืองล้อเลียนการเมือง "หมัก 1" ที่พยายามจะโยกย้ายข้าราชการอย่างไม่เป็นธรรม นอกจากนี้ ตัวแทนพันธมิตรฯ จ.ชัยภูมิ ได้มอบเงินผ้าป่าสนับสนุนการเคลื่อนไหวให้กับ นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ จำนวน 64,500 บาท


 


และที่ด้านหน้าหอประชุม มีการตั้งโต๊ะรวบรวมรายชื่อของประชาชนเพื่อยื่นถอดถอน นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.สาธารณสุข ด้วย โดยมีการนำเครื่องถ่ายเอกสารมาตั้งที่หน้าหอประชุมใหญ่ และมีกลุ่มนักศึกษา มาตั้งซุ้มเปิดตัวหนังสือพิมพ์ทำมือ "Democracy" โปรยหน้าปกว่า "ไม่มีหมัก ไม่มีแม้ว แล้วสิ้นชาติ?" ด้วย โดยนักศึกษากลุ่มนี้กระจายหนังสือพิมพ์โดยวิธีขอรับบริจาคสมทบทุนค่าพิมพ์จากประชาชนที่มาร่วมเวทีพันธมิตรฯ ด้วย


 


ด้านนายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่าช่วงหัวค่ำวันนี้ จะมีการเปิดตัวโครงสร้างพันธมิตรรูปแบบใหม่ และกล่าวว่าวันนี้ไม่ใช่การชุมนุมเพื่อขับไล่รัฐบาล แต่เป็นการสัมมนาตรวจสอบรัฐบาล เพื่อให้รัฐบาลแก้ปัญหาให้ประชาชน และยืนยันว่าจะไม่ยืดเยื้อ


 


 


 


อะจิงดิ สองไม่เอา ทำเซอร์ไพรส์ขึ้นเวทีพันธมิตร!


ขณะที่ภายในหอประชุมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อเวลา 16.10 น. ได้มีเวทีอภิปรายโดยนักศึกษาเรื่อง "เสียงสะท้อนคนรุ่นใหม่... จะฝ่าข้ามการเมืองที่น่าอึด เบื่อหน่าย และไร้ความหวังได้อย่างไร" โดยมี นายแสงธรรม ชุนชฎาธาร เป็นผู้ดำเนินรายการ


 


นายษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี นิสิตชั้นปีที่ 4 คณะรัฐศาสตร์ สาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จากกลุ่มสังคมวิจารณ์ กล่าวว่า "ในฐานะนักกิจกรรมนักศึกษาที่เติบโตมากับค่ายอาสาพัฒนาชนบท วันนี้ผมรู้สึกหดหู่มาก เมื่อผมเดินเข้ามาที่ประตูใหญ่ธรรมศาสตร์ เห็นชาวบ้านชาวชนบทมาตะโกนไล่ผม ในฐานะความผิดอย่างเดียวของผมคือเราต้องการตรวจสอบรัฐบาล เป็นเรื่องที่หดหู่มากครับ"


 


เขากล่าวต่อว่า เมืองไทยของเรา เมื่อใดที่เราคิดต่าง ก็เหมาว่าเป็นคนละพวกกับเรา เมื่อคิดไม่เหมือนกันก็เห็นเป็นศัตรูจะเข่นฆ่ากันไม่รู้จักจบ ไม่รู้จักสิ้น นักศึกษาคือลูกหลานประชาชนคือสิ่งที่เราชาวกิจกรรมนักศึกษาท่องไว้ตลอด


 


"นักศึกษามีหน้าที่ตรวจสอบว่าอะไรคืออะไร ตอนที่คุณทักษิณยังเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ ผมก็ไม่ได้เห็นด้วยกับกลุ่มพันธมิตรฯ ในทุกข้อ แต่ผมเห็นว่าคุณทักษิณเกินเยียวยาแล้วครับ ผมถึงได้เข้าร่วมในการขับไล่คุณทักษิณออกไป (เสียงปรบมือ) การฆ่าตัดตอน การวิสามัญฆาตกรม การละเมิดสิทธิมนุษยชนในสมัยคุณทักษิณมีมากมาย มีมากกว่าผู้ที่ตายด้วยฝีมือของรัฐในสมัย 6 ตุลา และ 14 ตุลาเสียอีก พี่น้องครับสิ่งนี้ทำให้ผมยอมไม่ได้" 


 


เผยร่วมต้านรัฐประหาร แต่ถูกชี้หน้าด่าดัดจริต "เกลียดทักษิณกว่าเผด็จการ"


"แต่เมื่อเกิดการรัฐประหาร ในฐานะนิสิตที่ร่ำเรียนประชาธิปไตยมา ในฐานะผู้ศึกษาประชาธิปไตย ผมก็ไม่สามารถยอมรับได้ ผมเข้าร่วมการต่อต้านการรัฐประหาร แน่นอนที่สุดก็ร่วมกับม็อบที่อยู่ข้างหน้าตรงนี้ เพราะเราก็ใฝ่หาจิตวิญญาณประชาธิปไตย แต่พี่น้องครับ สิ่งที่ผมได้รับกลับมาจากม็อบข้างนอก ม็อบไล่เผด็จการที่ผมคิดว่าในฐานะที่เขาเป็นชาวบ้าน เป็นประชาชน และหิวหาประชาธิปไตยไม่น้อยกว่าผม เขาชี้หน้าด่าผมในที่ประชุม ว่า "พ่อแม่พี่น้องครับ ดูไอ้นักศึกษาคนนี้ มันดัดจริต มันเกลียดทักษิณมากกว่าเผด็จการ" พี่น้องครับนี่คือสิ่งที่ผมได้รับมา"


 


"และสิ่งที่ผมเป็นห่วงที่สุด สังคมไทยครับ เราอยู่ภายใต้แนวคิด "ความสมานฉันท์" มานานแค่ไหน ไม่ใช่คำว่าสมานฉันท์ไม่ดี แต่เมื่อใดเกิดความขัดแย้งกี่ครั้งแล้วครับ ที่เราเอาความขัดแย้งของเราเก็บไว้ใต้พรม และแสร้งเป็นว่าไม่มีความขัดแย้งเกิดขึ้น ผมไม่ได้หมายความว่าให้มีการเผชิญหน้ากัน ไม่ได้หมายความว่าจะต้องมาเข่นฆ่า ฆ่าฟันกัน แต่พี่น้องครับ เราไม่ต้องการอะไรมากมายครับ ขอเพียงแค่พื้นที่ๆ เราจะมาถกเถียงกันได้ แต่ทุกวันนี้ไม่ใช่ เมื่อใดที่เราคิดต่าง เขาก็หมายหัว เมื่อใดที่เราก่อม็อบ เขาก็ว่าไม่หวังดีต่อประเทศชาติ"


 



 


รัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง แต่ไม่ฟังเสียงคนส่วนน้อยก็ไร้ความหมาย


ในช่วงท้ายนายษัษฐรัมย์ กล่าวว่า เป็นเรื่องดีที่รัฐบาลชุดนี้มาจากการเลือกตั้ง แต่ถ้าเขาไม่ฟังเสียงส่วนน้อย ถ้าเขาไม่ฟังเสียงประชาชน ก็ไร้ความหมาย ไม่ว่าจะถูกเลือกตั้งมากี่สิบ ยี่สิบล้านเสียงก็ไร้ความหมาย เขาไม่เคยตั้งคำถาม ถ้าพวกเรากินดีอยู่ดี ถ้าชีวิตพวกเราสุขสบายดี เราจะมาวันนี้กันทำไม


 


ก่อนที่รัฐบาลจะได้รับเลือกตั้งเขาก็ก่อม็อบ เขาเคยพูดด้วยน้ำเสียงประชาธิปไตยที่ฟังดูดีเหลือเกิน แต่วันนี้บอกว่าถ้ามีการก่อม็อบฝรั่งจะไม่กล้าลงทุน แต่ตัวอย่างใน ประเทศสวีเดนที่มีดัชนีความสุขมากที่สุดในโลก ที่คนกินดีอยู่ดี ที่ประเทศฝรั่งเศส หรืออิตาลียังมีการนัดหยุดงานทั้งประเทศ


 


"รัฐบาลต้องกลัวประชาชน ประชาชนไม่ต้องกลัวรัฐบาล ประเทศที่ไม่มีม็อบ เชี่ยวชาญการปราบม็อบคือประเทศพม่า อยากเป็นแบบนั้นกันไหมครับ" นายษัษฐรัมย์กล่าว


 



"กฤติน ดิ่งแก้ว" หยาม "ม็อบเติมเงิน" สนามหลวง วอนพันธมิตรฯอดทนเชื่อเงินหมดจะหายไปเอง


นายกฤติน ดิ่งแก้ว นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาธรรมศาสตร์ ให้ความเห็นกรณีเหตุการณ์ที่ พ.ต.ท. ทักษิณเดินทางกลับไปประเทศว่า ทักษิณไม่ได้จูบแผ่นดิน แต่ก้มลงไปถามแผ่นดินที่เขาโกงกินมาสองสามปี ว่า "อ้าวยังอยู่เหรอ" นายกฤตินยังกล่าวต่อว่า ขอให้พี่น้องอดทนกับม็อบเติมเงินข้างหน้า ถ้าเงินหมดม็อบก็หายไปเอง ขอให้ใจเย็นๆ


 


นายกฤติน กล่าวว่าไม่ได้ห้ามไม่ให้รัฐบาลแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ถ้าแก้เพื่อความอยู่รอดของชาวคณะ แก้ไขโดยไม่คำนึงถึงประชาชนที่เขาลงประชามติรับรัฐธรรมนูญ และไม่คำนึงถึงหลักจริยธรรม รัฐบาลจะอยู่ได้นานอีกกี่น้ำ นายกฤตินยังพาดพิงถึง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยว่า ให้ไปสอนให้ลูกจำชื่อพ่อให้ได้ จะได้ไปไม่ถามคนอื่นว่า "ข้าลูกใคร" และนายกฤตินยังได้กล่าวว่าที่พูดถึงสมานฉันท์กันนั้น ตนขอไม่สมานฉันท์กับคนชั่ว ไม่ประนีประนอมกับคนเลว


 


และยังกล่าวว่า รัฐบาลชุดนี้มีปัญหาชอบโทษมือที่มองไม่เห็น เหมือนโฆษณาที่เอะอะอะไรก็โทษแก๊สโซฮอล


 


พอกล่าวจบแสงธรรม ชุนชฎาธาร ผู้ดำเนินรายการ ได้กล่าวว่า "ได้ยินจากทางเวทีว่าคนดีชอบแก้ไข คนอะไรชอบแก้รัฐธรรมนูญ" ซึ่งเรียกเสียงฮือฮาจากผู้ชมทางเวที


 


 


นศ.ใต้น้อยใจ "เหลิม" ไม่ลง 3 จว.ภาคใต้ แต่ "จำเลย" กลับไทยไปรับถึงสนามบิน


ต่อมา นายจิระยุทธ์ ร่วมสุข นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะนิติศาสตร์ ม.รามคำแหง ชาว จ.สงขลา กล่าวว่า ร.ต.อ.เฉลิมไปแก้ปัญหาเรื่องสามจังหวัดภาคใต้ แต่ไปถึงแค่ จ.สงขลา ทำไมไม่กล้าลงสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ คุณพ่อเป็นจำเลยแต่ไปรับถึงสนามบิน แต่สามจังหวัดมีปัญหา ร.ต.อ.เฉลิมทำได้แค่เฉียด ขอถามว่ารักใครมากกว่ากัน รักคนไทยทั้งประเทศหรือรักคุณพ่อที่เป็นจำเลย


 


นายจิระยุทธ์ ยังฝากไปยัง ร.ต.อ.เฉลิมว่ารู้จักสัตว์ชนิดหนึ่ง เป็นสัตว์ครึ่งน้ำ ครึ่งบก อายุร้อยปี เรียกว่าเต่าหรือไม่ เวลามันอยู่กับพวกเดียวกันมันโผล่หัว ถ้าไปอยู่กับพวกอื่นจะหลบในกระดอง ถ้า ร.ต.อ.เฉลิมรู้หมดว่าผู้ก่อการร้ายเป็นใคร โทรศัพท์มาหาอย่างไร ทำไมไม่เจรจาล่ะ หรือกลัวเจรจาผิดคน


 



 


"ยศ ศูนย์ขาสั้น" ถามรัฐบาลจะแก้รัฐธรรมนูญถามประชาชนหรือยัง


ด้านนายยศ ตันสกุล นิสิตชั้นปีที่ 1 ม.เกษตรศาสตร์ อดีตประธานกลุ่มนักเรียนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีชุดนี้ตั้งขึ้นเพื่อแก้ปัญหาให้ตัวเอง เขายอมรับไม่ได้หากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับ 2550 ซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญฉบับแรกที่มาจากการลงประชามติของประชาชน ถึงแม้รัฐบาลจะอ้างว่ามาจากการเลือกตั้ง แต่ถ้าจะแก้รัฐธรรมนูญ ได้ถามประชาชนแล้วหรือยัง


 


นายยศกล่าวว่า หากรัฐบาลปล่อยให้มหาวิทยาลัยออกนอกระบบ ค่าเทอมจะแพงขึ้น ทั้งยังกล่าวถ้ารัฐบาลจะทำนโยบายเรียนฟรี 14 ปี ขอถามว่าทำให้เรียนฟรีจริงๆ 12 ปีได้หรือยัง ครูพอหรือยัง จะแจกคอมพิวเตอร์ล้านเครื่องให้เยาวชนอีก ตนเห็นว่าสู้เอาเงินไปให้คนไม่มีโอกาสดีกว่า โดยนายยศกล่าวว่าถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลควรใส่ใจ ทำประโยชน์ให้พี่น้องประชาชน


 


"ในฐานะเยาวชนคนหนึ่ง เป็นคนไทยคนหนึ่ง ขอประกาศเคียงคู่พ่อแม่พี่น้องต่อไป จนกว่ารัฐบาลชุดนี้จะออกไป" นายยศกล่าว


  


"โน้ต พารากอน" ชี้ทุกคนกำลังต่อสู้กับรัฐบาลเงา "เหลี่ยมๆ"


ต่อมา นายยุรชัฏ ชาติสุทธิชัย หรือ "โน้ต พารากอน" นักศึกษา ม.กรุงเทพ ผู้ประสานงานศูนย์ประสานงานนักเรียน นิสิต นักศึกษา และกรรมการกลุ่มแรงคิด ผู้เคยตะโกนไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อ 19 ส.ค. 2549 ได้ร่วมเสวนาบนเวทีด้วย


 


เขาได้กล่าวว่า คนในรัฐบาลชุดนี้เคยประกาศไม่รับรัฐธรรมนูญฉบับ 2550 แต่ยังใช้รัฐธรรมนูญชุดนี้เพื่อเลือกตั้งเข้ามา แล้วยังจะมาเปลี่ยนอีก ไม่รู้ว่าจะแก้รัฐธรรมนูญเพื่อประชาชนหรือเพื่อตัวเอง ทั้งยังกล่าวว่าที่พรรคประชาธิปัตย์ตั้งคณะรัฐมนตรีเงา และมีกลุ่มนักศึกษาออกมาตั้งรัฐบาลนักศึกษาเพื่อตรวจสอบการทำงานรัฐบาลนั้น ทุกคนกำลังสู้กับ รัฐบาลเงาที่มีเงาของคนชื่อทักษิณ ที่ขายชาติ มีเงาเหลี่ยมๆ ที่ปกคลุมอยู่แถวนี้ และพยายามคลุมประเทศ ดังนั้นหน้าเขาช่วงนี้เลยบานใหญ่เลย แม้จะดูซูบๆ ไปบ้าง


 


นายยุรชัฏยังกล่าวว่าวันนี้จะเอาขนมจีนมาฝาก แต่น้ำยาให้ไปหาเอง เพราะหาให้ไม่ได้ในรัฐบาลชุดนี้ นายยุรชัฏยังกล่าวว่ามีคนโจมตีว่าเขาใกล้ชิดกับนายสนธิ ลิ้มทองกุล ขอถามกลับว่าผมใกล้ชิดกับนายสนธิแล้วยังไง เป็นเรื่องธรรมดาที่คนเราต้องรู้จักผู้คน โดยเขากล่าวว่า บทความที่เขาเขียนให้สำนักข่าว INN ไม่ได้ลงมาสองอาทิตย์แล้ว เพราะมีเนื้อหาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล ซึ่งหากไม่ได้ลงอีก ก็ตัดสินใจว่าจะไม่เอาลงแล้ว 


 


เชื่อ "ทีวีทักษิณ" มีหลายช่อง แต่ "ASTV" จะเป็นพลังเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่


นักศึกษาผู้เคยไปตะโกนขับไล่ พ.ต.ท. ทักษิณ ผู้นี้ ยังกล่าวว่าฝ่ายทักษิณมีสื่อโทรทัศน์หลายช่อง ทั้ง TITV หรือ Thaksin Independent Television PTV ตั้งชื่อแบบนี้กลัวคนไม่รู้หรือว่าเป็นของพจนามาน หรือช่อง 11 โฉมใหม่ ก็จะกลายเป็น National Broadcasting of Thaksin ทั้งหมดนี้เขาตั้งขึ้นมาเพื่อสู้กับเรา ขณะเรามีสถานี ASTV ช่องเดียว แต่เป็นพลังเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่ โดยเขาเชื่อว่าคนกลุ่มนี้จะไม่ทอดทิ้งประชาชน ประเทศชาติ


 


ในช่วงท้ายนายยุรชัฏกล่าวว่า อยากบอกว่าพี่น้องฝากความหวังไว้กับคนรุ่นหลังได้ พวกเราพร้อมสู้ต่อ คนหนึ่งคนอาจเปลี่ยนคนเป็นร้อยไม่ได้ แต่คนหนึ่งคนค่อยๆ เปลี่ยนคนอื่นๆ ประเทศชาติก็จะดีเอง ช่วยกันเอาความรู้เข้าสู่ประชาชน ตอนนี้ประเทศไทยมีข้อเสียอย่างหนึ่งคือเอาความรู้ลงไปสู่ประชาชนไม่ได้ ความรู้กระจุกตัวในกรุงเทพ สื่ออยู่ในกรุงเทพ สื่อในต่างจังหวัดมีน้อยมาก


 




 


ขู่ "เหลิม" ระวังตัว "ไอ้ปื้ด" จับตาอยู่


เขายังกล่าวว่า แม้รัฐบาลจะอ้างว่าประชาชนเลือกเข้ามา แต่ต้องไม่ลืมว่าประชาชนเลือกเข้ามาก็เอาคุณออกได้ รัฐบาลมาแล้วไป แต่ประชาชนอยู่ตลอด และกล่าวส่งท้ายถึง ร.ต.อ.เฉลิม ว่า "ไอ้ปื้ด" ฝากบอกมาให้ระวังตัวด้วย "ไอ้ปื้ด" จับตาดูอยู่


 


พอกล่าวจบแสงธรรม ชุนชฎาธาร ผู้ดำเนินรายการ ได้กล่าวว่า รัฐบาลนี้อาจไม่มีน้ำยา แต่อาจมี "น้ำเงิน" ซึ่งต้องไปถามกลุ่มมหาประชาชน


 


 


ผู้ประสาน "ศูนย์ขาสั้น" เย้ย รมต.สาธารณสุขสนใจแต่เรื่อง "ตัดไข่"


ต่อมานายศตวรรษ อินทรายุธ ผู้ประสานงานศูนย์ประสานงานนักเรียน นิสิต นักศึกษา หรือ "ปริ๊นซ์ ศอนอศอ" นักศึกษาชั้นปีที่ 3 มหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวว่ารัฐบาลชุดนี้สร้างลีลาไว้มาก ทั้งวาทะ "เสพเมถุน" และ "6 ตุลาตายศพเดียว" ทั้งที่นายกรัฐมนตรีขณะนี้ ก็เคยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในขณะนั้น


 


นอกจากนี้การที่นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขบอกว่า ยาแพงให้คนไข้ไปกินดอกไม้จันทน์ คนแบบนี้ให้เป็นรัฐมนตรีได้หรือไม่ และในขณะที่เรื่องมาตราซีแอลรัฐมนตรีผู้นี้กลับไม่สน สนใจแต่เรื่อง "ตัดไข่" หรือกลัวว่ารัฐมนตรีบางคนจะไปตัดไข่


 


นายศตวรรษยังกล่าวต่อว่า เมืองไทยเป็นสังคมเกษตร ขณะนี้ชาวนากำลังขายข้าวได้ราคาดี ตนเห็นในนามีสัตว์ชนิดหนึ่ง ไม่เคยเรียนหนังสือ แต่ทำนาให้ข้าวประชาชนกิน มีลูกออกมาก็ให้ไถนาให้บ้านเมือง ผิดกับบางคนที่เรียนสูง รู้ดีไปหมด แต่เลี้ยงลูกตัวเองไม่ได้


 


นายศตวรรษ ยังกล่าวถึงการลงพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อประชุมแก้ไขปัญหาภาคใต้ของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทวงมหาดไทยว่า ลงไปหาดใหญ่เพื่ออะไร กลัวอะไร ทำไมไม่ลงไปสามจังหวัดภาคใต้ หรือกลัว "ไอ้ปื้ด" ไปดักยิง และนายศตวรรษยังกล่าวว่า ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยบอกว่าเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 เกิดจากตำรวจเมาเหล้าแล้วยิงปืน ตนเห็นว่าคล้ายๆ กับเหตุการณ์หนึ่ง ซึ่งตนเชื่อว่าตำรวจที่ทำปืนลั่นในเหตุการณ์ 6 ตุลา คนนั้นคงเป็น "พ่อไอ้ปื้ด" แน่นอน


 


 


สโรชาวอนแฟนๆ นั่งสงบ มีปัญหาเรียก จนท. ยันยึดอหิงสา


หลังจบเสวนาช่วงนี้ น.ส.สโรชา พรอุดมศักดิ์ พิธีกรกล่าวกับผู้ชมทางบ้านที่มีจาน ASTV ว่า สัญญาณวันนี้อาจขาดๆ หายๆ แต่ขอให้กดหาเราเรื่อยๆ เดี๋ยวก็เจอช่องสัญญาณที่ชมได้ชัดเจน


 


น.ส.สโรชา ยังเตือนประชาชนในห้องประชุมว่า หากมีอะไรผิดสังเกตอย่าลงมือเอง เพราะการจัดงานมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในห้องจำนวนไม่น้อย ถ้าเห็นอะไรผิดแปลก ยกมือเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย อย่าจัดการเอง ขอให้นั่งอย่างสงบ จะจัดการอย่างวิธีของเรา สงบ อหิงสา แบบพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย


 


โดยขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานอยู่นี้ นายสุรชัย จันทิมาธร หรือหงา คาราวานกำลังขึ้นร้องเพลง "ดอกไม้ให้คุณ" และ "หอมแผ่นดิน" และหลังการแสดง งิ้วธรรมศาสตร์ ตอน 2551 อันธพาลครองเมือง ในเวลา 20.50 น. 5 แกนนำพันธมิตร รวมทั้งนายสุริยะใส กตะศิลาจะขึ้นเวทีอภิปรายในหัวข้อ "บทบาทพันธมิตรฯ ในสถานการณ์ใหม่"

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net