เมื่อวันที่ 8 เม.ย. เวลาประมาณ 10.00 น. ผู้อาศัยในชุมชนป้อมมหากาฬจำนวนกว่า 100 คน พร้อมทั้งตัวแทนชุมชนวัดกัลยาณมิตร เครือข่ายสลัมสี่ภาค และเครือข่ายสิทธิชุมชนบ้านบาตร เดินทางไปศาลาว่าการกรุงเทพมหานครเพื่อสอบถามนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ เกี่ยวกับกรณีที่ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองผู้ว่าฯ เปิดเผยผ่านหนังสือพิมพ์ข่าวสด ฉบับวันที่ 3 เม.ย. ว่า จะดำเนินการตามพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดิน พ.ศ. 2535 คือจัดการที่ดินบริเวณป้อมมหากาฬให้กลายเป็นสวนสาธารณะตามเจตนารมณ์เดิม แต่ นายอภิรักษ์ ลากิจ จึงเข้าพบนายพุทธิพงษ์ แทน และได้เปิดห้องหารือกันในกรณีดังกล่าว
นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า จากการที่นายอภิรักษ์ ผู้ว่าฯ ลงพื้นที่ชุมชนป้อมมหากาฬ ทำให้มีแนวคิดอนุรักษ์ชุมชนนี้ไว้ และได้ใช้ทุนของกรุงเทพมหานคร จัดจ้างมหาวิทยาลัยศิลปากรทำการวิจัยเกี่ยวกับแนวทางจัดการร่วม แต่ด้วยเงื่อนไขความเป็นข้าราชการจึงต้องยื่นเรื่องให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความกรณีดังกล่าวว่าสามารถนำที่ดินนี้จัดทำพิพิธภัณฑ์มีชีวิตแทนสวนสาธารณะได้หรือไม่
ทางคณะกรรมการกฤษฎีกามีคำวินิจฉัยว่าไม่สามารถดำเนินการได้ ประกอบกับปลายปี 2550 มีหนังสือร้องเรียนถึงผู้ตรวจการแผ่นดินรัฐสภาว่า ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ละเลยการปฏิบัติหน้าที่ในเรื่องการดำเนินการเรื่องป้อมมหากาฬ กทม.ควรจะดำเนินการตามหน้าที่ จึงเป็นเรื่องกดดันที่ทำให้ฝ่ายบริหารของกรุงเทพฯ ต้องออกมาแถลงถึงการดำเนินงานต่อ
นายธวัชชัย วรมหาคุณ แกนนำชุมชนป้อมมหากาฬ กล่าวว่า การมาในครั้งนี้เพื่อหาช่องทางในการดำเนินการจัดการร่วมกัน ทางชุมชนป้อมมหากาฬเสนอแนวทางว่า ในขณะที่กรุงเทพมหานครยังไม่มีความชัดเจนในการดำเนินการ ก่อนนี้ทางชุมชนป้อมมหากาฬได้ยื่นเรื่องไปยัง คณะกรรมาธิการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัย สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หลังจากยื่นเรื่องไปจึงได้ไปชี้แจงต่อสภาที่ปรึกษาฯ และทางสภาที่ปรึกษาฯ ได้มาลงพื้นที่ชุมชนแล้ว โดย ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ คณบดีคณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เสนอความเห็นว่า ปัญหาเรื่องการจัดการชุมชนป้อมมหากาฬสามารถแก้ไขได้โดยการให้กรุงเทพมหานครออกพระราชกฤษฎีกาฉบับใหม่ เพื่อแก้พระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดิน พ.ศ.2535
ด้านนายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า หวังว่าชุมชนป้อมมหากาฬจะประสานงานกับทางสภาที่ปรึกษาฯ ต่อไป ทั้งนี้กรุงเทพมหานครไม่ได้ละเลยการปฎิบัติหน้าที่ เนื่องจากได้เคยจัดจ้างให้มหาวิทยาลัยศิลปากร ทำการวิจัยถึงแนวทางในการจัดการร่วม อย่างไรก็ตาม กรุงเทพมหานครยินดีจัดเวทีสาธารณะหาทางออกเรื่องการแก้ไขปัญหาชุมชนป้อมมหากาฬ