Skip to main content
sharethis

การเมือง


กกต.เผยไม่เกิน2สัปดาห์ส่งสำนวนคดียุบพรรคให้อสส.


กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ - นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยถึงขั้นตอนการดำเนินการภายหลังจาก กกต.มีมติยุบพรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตยว่า ขั้นตอนขณะนี้ อยู่ที่ฝ่ายกิจการพรรคการเมืองของสำนักงาน กกต.ที่กำลังทำสรุปเรื่อง พร้อมทั้งรวบรวมเอกสารหลักฐานต่างๆ ซึ่งหมายความรวมถึงความเห็นของ กกต.ทุกคนด้วย เพื่อเตรียมส่งให้อัยการสูงสุดพิจารณา ซึ่งคาดว่าน่าจะใช้เวลาไม่เกิน 1-2 อาทิตย์นี้ อย่างไรก็ตาม นายสุทธิพล ยืนยันว่า หากภายใน 30 วันนับแต่ อัยการสูงสุดรับเรื่องทั้งหมดไปแล้ว แต่ละฝ่ายยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ ก็ต้องตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างอัยการและ กกต.ขึ้นมาเพื่อพิจารณาอีกครั้ง แต่ท้ายที่สุดหากไม่สามารถหาข้อสรุปได้อีก กฎหมายก็ให้อำนาจไว้ว่า นายทะเบียนพรรคการเมืองสามารถสรุปเรื่องส่งศาลรัฐธรรมนูญเองได้เลย แต่ทั้งนี้ต้องผ่านความเห็นชอบจาก กกต.ก่อนด้วยเช่นกัน


 


3 คดีทุจริต "ทักษิณ-แอร์พอร์ตลิงค์-บ้านเอื้ออาทร" สรุปสำนวน คตส.ก่อน มิ.ย.นี้


เว็บไซต์คมชัดลึก - (15เม.ย.) นายแก้วสรร อติโพธิ คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ในฐานะคณะอนุกรรมการไต่สวนกรณีกล่าวหา พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติราชการแผ่นดินโดยมิชอบก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ เพื่อประโยชน์ให้แก่ตนเองและพวกพ้อง กล่าวถึงการเชิญ พล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี และอดีตนายกรัฐมนตรี เข้าให้ถ้อยคำในฐานะพยาน ในกรณีพ.ต.ท.ทักษิณ ซื้อสโมสรแมนเซสเตอร์ซิตี้ว่า ขณะนี้ยังคงให้เจ้าหน้าที่ติดต่อและประสานไปยัง พล.อ.สุรยุทธ์ เพื่อให้เข้าให้ถ้อยคำต่ออนุกรรมการฯ แต่ยังติดต่อไม่ได้ ซึ่งการเชิญมาครั้งนี้เป็นการให้ถ้อยคำในฐานะพยาน แม้พล.อ.สุรยุทธ์ จะมีตำแหน่งเป็นองคมนตรีก็ตาม


 


ส่วนความคืบหน้าคดีการทุจริตโครงการแอร์พอร์ตลิงค์นั้น นายแก้วสรร ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนคดีการทุจริตโครงการแอร์พอร์ตลิงค์ เปิดเผยว่า อยู่ระหว่างการสรุปสำนวนเพื่อเสนอต่อที่ประชุมคตส. ทั้งนี้เหตุที่ล่าช้าเนื่องจากนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีต รมว.คมนาคม หนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาได้ขอชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่ออนุกรรมการไต่สวน ซึ่งทางอนุกรรมการยังไม่ได้กำหนดวันในการชี้แจงเพิ่มเติมแต่อย่างไร โดยในคดีนี้เหลือเพียงการชี้แจงเพิ่มเติมของนายสุริยะเท่านั้น


 


นายแก้วสรร ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนการทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทร เปิดเผยความคืบหน้าการไต่สวนว่า ยังไม่สามารถสรุปผลการไต่สวนได้ เนื่องจากยังอยู่ระหว่างการพิจารณาคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาของผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมด อย่างไรก็ตามตนขอยืนยันว่าทุกคดีที่ตนได้รับผิดชอบจะสามารถสรุปผลการไต่สวนและเสนอต่อที่ประชุมใหญ่คตส.ได้พิจารณาเพื่อส่งอัยการสูงสุดพิจารณาสั่งฟ้องต่อไปได้ภายในกรอบวาระการทำงานของคตส.ในเดือนมิถุนายนนี้แน่นอน


 


รับ "รถดับเพลิง" สรุปไม่ทันอายุ คตส.22 เม.ย.


เว็บไซต์เดลินิวส์ - นายนาม ยิ้มแย้ม ประธาน คตส.เปิดเผยว่า คตส.จะหมดวาระการทำงานในเดือน มิ.ย. ซึ่งในเวลา 2 เดือน ยอมรับว่าคดี ที่ คตส.รับไว้ตรวจสอบอาจจะมีบางคดีที่ไม่สามารถสรุปได้ทันในอายุ คตส.เช่นคดีการจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงของ กทม. ที่ตนเป็นประธานคณะอนุกรรมการฯ เพราะยังไม่แน่ใจว่าจะสามารถสรุปได้ทันหรือไม่ อาจจะต้องมีการส่งให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. รับไปดำเนินการต่อหรือไม่ สำหรับความคืบหน้าในการไต่สวนคดีการจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงนั้น หลังจากที่คณะอนุกรรมการไต่สวนฯ ได้แจ้งข้อกล่าวหาบุคคลเพิ่มเติมนั้น ปรากฏว่าได้มีนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. และนาย ราเชนทร์ พจนสุนทร ไม่ใช้สิทธิคัดค้านรายชื่อคณะอนุกรรมการฯ และได้รับทราบข้อกล่าวหาไปแล้ว โดยขณะนี้กำลังรอการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาของนายอภิรักษ์ อยู่ ส่วนนายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พาณิชย์และ คุณหญิง ณัษฐนนท ทวีศิลป์ อดีตปลัดกทม.นั้น ตนได้เซ็นหนังสือแจ้งข้อกล่าวหาส่งไปให้บุคคลทั้งสองแล้วเมื่อวันที่ 11 เม.ย.


 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นายอภิรักษ์ ได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาในคดีดังกล่าวด้วยตนเอง และระบุว่าจะเดินทางเข้าชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายในวันที่ 22 เม.ย.นี้ โดยยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเข้าชี้แจงด้วยตนเองหรือชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาเป็นเอกสาร


 


วุฒิสภาเตรียมให้ความเห็นชอบ 4 ตลก.ศาลรธน.ศุกร์นี้


เว็บไซต์คมชัดลึก - (15เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมวุฒิสภาวันศุกร์ที่ 18 เม.ย. มีวาระสำคัญ คือการให้ความเห็นชอบบุคคลให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งคณะกรรมาธิการตรวจสอบประวัติและความประพฤติและพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้พิจารณาเสร็จแล้ว โดยมีรายชื่อผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อ 4 คน ประกอบด้วย1.นายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม 2.นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ผู้พิพากษาศาลอาวุโสในศาลอุทธรณ์ภาค 4 3.นายสุพจน์ ไข่มุกด์ อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) 4.นายเฉลิมพล เอกอุรุ อดีตรองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ


 


เศรษฐกิจ


รมว.คลังนำทัพโรดโชว์นิวยอร์ก ดึงกองทุนขนาดใหญ่มาไทย


เว็บไซต์คมชัดลึก - (15เม.ย.) นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกฯและรมว.คลัง นำผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ 4 แห่ง อาทิ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บริษัท แอ๊ดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยาจำกัด (มหาชน)และธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) โดยมีบริษัท หลักทรัพย์ภัทร จำกัด (มหาชน) และบริษัท เมอร์ริล ลินซ์ เป็นผู้ร่วมการจัดโรดโชว์ที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ในวันที่ 14 เม.ย. 2551 ซึ่งการโรดโชว์ในครั้งนี้ มีผู้จัดการกองทุนขนาดใหญ่ 32 ราย ที่ดูแลสินทรัพย์มากกว่า 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เข้าร่วมโรดโชว์ ซึ่งปัจจุบันผู้จัดการกองทุนและนักลงทุนเหล่านี้ ลงทุนอยู่ในตลาดหุ้นทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทยด้วย


 


นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า นักลงทุนมีการสอบถามภาวะเศรษฐกิจและสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศไทยว่า มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ซึ่งนักลงทุนก็มีความพึงพอใจเพราะได้รับทราบข้อมูลจากรัฐบาลไทยโดยตรง ซึ่งได้ชี้แจงต่อนักลงทุนว่า ปัญหาทางการเมืองเรื่องของกรรมการบริหารพรรคทำผิดกฎหมายการเลือกตั้งและจะมีการลงโทษถึงขั้นยุบพรรคการเมืองนั้น กำลังอยู่ในขั้นตอนที่พรรคร่วมรัฐบาลดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้การเมืองมีเสถียรภาพมากขึ้นและคนไทยก็ไม่ต้องการเห็นปัญหาทางการเมืองขยายวงกว้าง โดยคนไทยห่วงปัญหาเศรษฐกิจและต้องการให้เศรษฐกิจไทยเดินหน้า ดังนั้นจึงเชื่อมั่นว่าไม่ว่าสถานการณ์ทางการเมืองจะเป็นอย่างไรเศรษฐกิจต้องเดินหน้าได้และไม่ให้ปัญหาการเมืองมาบั่นทอนเศรษฐกิจเหมือนที่เกิดในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา


 


นอกจากนี้ได้ย้ำว่า สภาพเศรษฐกิจไทย เปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อ 2 ปี หลังจากเกิดเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงการปกครอง เพราะรัฐบาลได้มีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งระยะสั้นและระยะยาว ปรับปรุงและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งการเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน ขณะเดียวกัน นักลงทุนต่างชาติยังเป็นห่วงอัตราเงินเฟ้อและค่าครองชีพที่สูงขึ้น ซึ่งได้ชี้แจงว่า รัฐบาลได้ดูแลเป็นอย่างดี พยายามลดผลกระทบจากราคาสินค้าที่สูงขึ้นและย้ำว่ามาตรการตรึงราคาสินค้าเป็นเพียงมาตรการระยะสั้น


 


นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า นักลงทุนมีการตอบรับที่ดีและเชื่อมั่นว่าพื้นฐานเศรษฐกิจไทยแข็งแกร่ง และได้มีการติดตามภาวะเศรษฐกิจไทยมาอย่างต่อเนื่องและอยากเห็นรัฐบาลเริ่มดำเนินโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ ทั้งนี้หากนักลงทุนมั่นใจก็จะเพิ่มการลงทุนในไทย เพราะตลาดหลักทรัพย์ของไทย ยังมีเสน่ห์น่าจูงใจ โดยมีราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิ (พีอี เรโช) ต่ำ ถ้าเทียบกับตลาดหุ้นในหลายประเทศเพื่อนบ้าน ดังนั้นจะต้องเร่งสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนต่างชาติ โดยในวันที่ 23 เมษายน จะมีการประชุมคณะกรรมการพัฒนาตลาดทุนไทย โดยจะแจ้งให้คณะกรรมการทราบถึงข้อเสนอแนะของนักลงทุนต่างชาติ ทำการปฏิรูปตลาดทุนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพิ่มสิทธิประโยชน์ทางภาษีลดการเก็บภาษีซ้ำซ้อน เพิ่มธรรมาภิบาล


 


                                                                   คุณภาพชีวิต


คนขับรถบรรทุกพม่า 54 ศพมอบตัว ยันได้ค่าจ้าง 8 หมื่นบ.


เว็บไซต์คมชัดลึก - (15เม.ย.) เวลา 14.301 น. สภ.เมือง จ. ระนอง ได้จัดให้มีการแถลงข่าวการคุมตัว นายสุชล บุญปล้อง อายุ 38 ปี คนขับรถบรรทุกสิบล้อห้องเย็นที่ทำให้ต่างด้าว 54 ราย เสียชีวิต ขณะจะเดินทางจากจังหวัดระนองไปยังจังหวัดภูเก็ต โดยมีนางกาญจนาภา กี่หมัน ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง พล.ต.ท.ธานี ทวิชศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธร 8 พล.ต.ต.อภิรักษ์ หงษ์ทอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระนอง เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจจากประเทศพม่าเข้าร่วม


 


พล.ต.ท.ธานี กล่าวว่า ครอบครัวนายสุชลได้ประสานมายังผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง จึงจัดเจ้าหน้าที่ไปรับตัวนายสุชล ที่อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี จากนี้คงต้องขยายผลไปให้ถึงตัวผู้ร่วมขบวนการอื่นๆ "เบื้องต้นนายสุชลให้การรับสารภาพถึงผู้ที่ร่วมขบวนการค้ามนุษย์ ทั้งในส่วนที่เจ้าหน้าที่ได้จับกุมไปแล้วและกำลังจะออกหมายจับ นอกจากนี้ยังมีผู้ร่วมขบวนการคนอื่นอีก" พล.ต.ท.ธานี ระบุ


 


นางกาญจนาภา กล่าวว่า การเข้าขอมอบตัวของนายสุชลครั้งนี้ เริ่มจากเวลา 17.30 น.วันที่ 14 เม.ย.นางสุนีย์พี่สาวนายสุชล พร้อมญาติๆ ได้เดินทางมาพบที่จวนผู้ว่าฯ เพื่อแจ้งความต้องการว่านายสุชลต้องการจะมอบตัว และขอให้ผู้ว่าฯส่งเจ้าหน้าที่ไปรับที่กรุงเทพฯจึงได้ประสานไปยังผู้เกี่ยวข้อง และนัดสถานที่มอบตัวคือ ที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี


พล.ต.ต.อภิรักษ์ กล่าวว่า การได้ตัวนายสุชลจะเป็นกุญแจสำคัญของคดี


 


โดยการสอบสวนเบื้องต้นนายสุชลรับสารภาพว่าได้ร่วมกับขบวนการทำการค้าแรงงานต่างด้าวจริง โดยวันเกิดเหตุนายดำรงค์ ผุสดีหรือโก้รัน ได้เรียกให้มาขับรถ เพราะว่าได้รับการติดต่อจากนายหน้าคนหนึ่งที่เจ้าหน้าที่กำลังออกหมายจับว่ามีแรงงานพร้อมแล้ว ให้มารับด้วยที่แพโชคเจริญชัย จากนั้นเวลา 20.00 น.ได้ขับรถสิบล้อไปที่แพปลาโดยมีคนเปิดประตูให้ จากนั้นได้มีผู้ชายอีกคนพร้อมผู้หญิงที่ตำรวจกำลังจะออกหมายจับเช่นกันมาเป็นคนพาและนับจำนวนแรงงานพม่าขึ้นรถ โดยได้ค่าจ้างขับรถไปส่งแรงงานต่างด้าวจำนวน 80,000 บาท เพื่อไปส่งที่บ้านอ่าวมะขาม ถ.ศักดิเดช ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต


 


นายสุชล กล่าวว่า ในขั้นตอนเคลื่อนย้ายแรงงาน เมื่อนำตัวขึ้นรถเป็นที่เรียบร้อยแล้วผู้หญิงที่ทำหน้าที่นับจำนวนแรงงานพม่าขึ้นรถ ได้ให้เบอร์โทรศัพท์กับตนเพื่อเอาไว้โทรถามสถานการณ์ต่างๆและสอบถามเรื่องอากาศและแอร์ว่ามีความพอดีหรือไม่ ช่วงแรกไม่มีปัญหาอะไร มีการสอบถามตลอดทาง มีรถขบวนการอีกคันวิ่งคอยคุมเชิงเพื่อดูเหตุการณ์อยู่ห่างๆ จนมาใกล้ถึงที่เกิดเหตุ ตนไม่ได้รับโทรศัพท์เพราะทางมืดมาก แต่แรงงานพม่าก็จะโทรซ้ำตลอดเวลาพร้อมทุบตัวรถ จึงตัดสินใจเลี้ยวเข้าซอยข้างทางแล้วเปิดประตู เมื่อเห็นว่ามีแรงานพม่าล้มตายจำนวนมาก จึงเดินไปที่ตรงข้ามกับที่มีการตั้งด่านของทหารซ่อนตัวที่นั่น รุ่งเช้าจึงโบกรถเช้าราชกรูด อ.กะเปอร์ จากนั้นนั่งรถต่อไป อ.หลังสวน จ.ชุมพร แล้วนั่งรถต่อไปยัง จ.นครศรีธรรมราช ต่อรถเข้ากรุงเทพฯ


 


"กลางวันผมอยู่ที่สนามหลวง กลางคืนก็จะกลับเข้านอนโรงแรม ติดตามข่าวตลอด เกิดความสำนึกผิดประกอบกับกลัวว่าจะถูกฆ่าตัดตอนจึงติดต่อไปยังพี่สาวให้เข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เพื่อขอติดต่อมอบตัว" นายสุชล ระบุ จากนั้นเจ้าหน้าที่นำตัวนายสุชล ไปควบคุมตัวไว้ เพื่อขยายผลต่อไป


 


สรุป 4 วันอันตราย ตายแล้ว 229 ราย


เว็บไซต์เดลินิวส์ - วันนี้ (15 เม.ย.) ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) เปิดเผยถึง ยอดผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากอุบัติเหตุเทศกาลสงกรานต์ 7 วันอันตรายตั้งแต่วันที่ 11-14 เม.ย. มีผู้เสียชีวิตรวม 229 ศพ บาดเจ็บ 3,315 คน มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นรวม 2,949 ครั้ง ขณะที่จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด คือ จ.เพชรบูรณ์ จำนวน 11 ศพ รองลงมาคือ จังหวัดพิษณุโลก 10 ศพ ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุดยังคงเกิดจากการเมาสุราแล้วขับขี่ และพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ยังได้แก่ รถจักรยานยนต์ อย่างไรก็ตาม จากสถิติพบว่ายอดผู้เสียชีวิตรวม เริ่มลดลงจากปี 2550 ที่ในวันเดียวกัน เสียชีวิต 236 ศพ น้อยกว่าเดิม 7 ศพ


 


กทม.ระดม จนท.ล้างคราบแป้งสงกรานต์พรุ่งนี้


เว็บไซต์เดลินิวส์ - วันนี้ (15 เม.ย.) นายเรืองศักดิ์ โหราเรือง ผู้อำนวยการเขตพระนคร กทม. เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (16 เม.ย.) สำนักงานเขตพระนครกำหนดจะทำความสะอาดถนน ล้างทำความสะอาดคราบแป้ง และจัดเก็บขยะมูลฝอยต่าง ๆ ที่เกิดจากการฉลองสงกรานต์ ในบริเวณราชดำเนินกลาง ถนนข้าวสาร ย่านบางลำพู รามบุตรี จักรพงษ์ ไกรสรี สิบสามห้าง และถนนดินสอ เป็นต้น ตั้งแต่เวลา 07.30 น.เป็นต้นไป โดยระดมกำลังเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเขตใกล้เคียงมาสมทบกับเขตพระนคร ได้แก่ เขตดุสิต ป้อมปราบศัตรูพ่าย และสัมพันธวงศ์ รวมจำนวน 300 คน พร้อมรถน้ำ 20 คัน ซึ่งในปีนี้มีปัญหาคราบแป้งน้อยกว่าปีที่แล้ว โดยเฉพาะบริเวณถนนข้าวสารไม่มีปัญหาเรื่องคราบแป้ง เนื่องจากมีการห้ามนำแป้งเข้าไปเล่นในบริเวณดังกล่าว จะมีการเล่นแป้งบ้างที่บริเวณรอบนอกถนนข้าวสารแทน เช่น ถนนรามบุตรี ถนนสิบสามห้าง เป็นต้น ทั้งนี้ จะดำเนินการล้างทำความสะอาดถนนบริเวณให้เสร็จภายในวันที่ 16 เม.ย. เพื่อให้สะอาดเรียบร้อยเข้าสู่ภาวะปกติเมื่อเปิดทำงานในวันที่ 17 เม.ย.นี้


 


ต่างประเทศ


อนาคตราชวงศ์เนปาลใกล้อวสาน พรรคคอมฯ จ่อชนะเลือกตั้ง!


มติชนออนไลน์ - สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 15 เม.ย.ว่า การเลือกตั้งประวัติศาสตร์ของเนปาลเมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา จากการนับคะแนนล่าสุดที่ผ่านไป 1 ใน 3 พบว่า พรรคลัทธิเหมาได้ที่นั่งในสภา 104 ที่นั่ง จากทั้งหมด 601 นำพรรคการเมืองอื่น ๆ ซึ่งได้ราว 34 ที่นั่ง โดยนายแชนดรา ปรากาศ กาจุเรล สมาชิกระดับอาวุโสของพรรคกล่าวแสดงความยินดีต่อผลเลือกตั้งที่ออกมา ระบุว่ากลุ่มรู้สึกประหลาดใจมากที่พรรคได้รับการสนับสนุนจากประชาชน พร้อมทั้งประกาศว่า หากพรรคชนะเลือกตั้ง เนปาลจะต้องเดินหน้าสู่ระบบใหม่ พร้อมทั้งเตือนให้กษัตริย์คเยนทราและกลุ่มพันธมิตรเตรียมก้าวลงจากอำนาจด้วย


 


รายงานระบุว่า ผลเลือกตั้งที่ออกมาชี้ว่า พรรคลัทธิเหมาอาจตั้งตัวเป็นแกนนำของรัฐบาลผสมแม้ว่าก่อนหน้านี้จะประกาศว่าพร้อมจะร่วมจัดตั้งรัฐบาลผสมเพื่อร่วมทำงานกับพรรคอื่น ๆ ก็ตาม โดยก่อนหน้านี้ พรรคได้ประกาศปฏิญาณแผนที่จะปฏิรูปที่ดิน ยุบสถาบันกษัตริย์เนปาลลง และเปลี่ยนพระราชวังกษัตริย์ให้เป็นพิพิธภัณฑ์ด้วย


ทั้งนี้ สำหรับบรรยากาศในกรุงกาฐมาณฑุเมืองหลวง ได้มีประชาชนหลายคนที่สนับสนุนพรรคลัทธิเหมาพากันฉลองชัยชนะของพรรคด้วย


 


 "แบร์ลูสโคนี"กลับเข้ารับตำแหน่งนายกฯเป็นครั้งที่สาม


เว็บไซต์คมชัดลึก - ซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี่ อดีตนายกรัฐมนตรี 2 สมัย และมหาเศรษฐีเจ้าพ่อสื่อสารมวลชนผู้ยึดนโยบายอนุรักษ์นิยม วัย 71 ปี ประกาศชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปที่จัดขึ้นสองวันจนถึงเมื่อวานนี้ หลังคู่แข่งคนสำคัญ-อดีตนายกรัฐเทศมนตรีกรุงโรมหัวกลางซ้าย วอลเตอร์ เวลโตรนี่ ประกาศยอมรับความพ่ายแพ้ พร้อมประกาศยินดีทำงานร่วมกับพรรคฝ่ายค้านเพื่อเดินหน้านโยบายปฏิรูป ทั้งยังได้บอกกับตัวเองว่า หลังเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เขาจะไม่เข้านอนหากยังไม่ได้สร้างสิ่งที่เป็นประโยชน์ให้กับประเทศชาติและประชาชนอย่างเป็นรูปธรรมแล้ว


 


ผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ พบว่า พรรคของแบร์ลูสโคนีได้รับเสียงสนับสนุนจากประชาชนเหนือพรรคคู่แข่ง ได้ครองที่นั่งข้างมากทั้งในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา โดยในส่วนของสภาผู้แทนราษฎร พรรคของแบร์ลูสโคนีชนะไป 46.5 ต่อ 37.8% ส่วนการเลือกตั้งวุฒิสภา ชนะไป 47.2 ต่อ 38.1%


การเลือกตั้งทั่วไปครั้งนี้จัดขึ้นเร็วกว่ากำหนดถึง 3 ปี จากการล่มสลายก่อนถึงเวลาอันควรของรัฐบาลปีกซ้ายของนายโรมาโน่ โพรดิ หลังบริหารประเทศไม่ถึง 2 ปี และชัยชนะครั้งนี้จะทำให้แบร์ลูสโคนีได้กลับเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นครั้งที่สาม หลังก้าวเข้าสู่เส้นทางการเมืองเมื่อ 14 ปีก่อน


 



รัฐบาลชุดใหม่จะต้องเผชิญกับปัญหามากมายโดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจรวมถึงอัตราเติบโตทางเศรษฐกิจ ที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟ คาดการณ์ว่าอัตราเติบโตเศรษฐกิจของอิตาลี ประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 7 ของโลกในปีนี้ จะอยู่ที่ 0.3% เทียบกับ 1.4%ของ 15 ประเทศที่ใช้เงินสกุลยูโร นอกจากนี้อิตาลียังมีปัญหาเงินเฟ้อ งบประมาณขาดดุล รวมถึงการถดถอยของความสามารถในการแข่งขันและความเชื่อมั่นของผู้บริโภค


 


อินเดีย-บังกลาเทศสานต่อเดินรถไฟ


เดลินิวส์ - การบริการรถไฟสายตรงครั้งแรกระหว่างอินเดียและบังกลาเทศเริ่มขึ้นแล้วเมื่อวันจันทร์ (14เม.ย.) ซึ่งเป็นวันแรกของปีใหม่ของชาวบังกลาเทศ หลังจากถูกตัดขาดนานถึง 43 ปี เนื่องจากเกิดสงคราม


 


เจ้าหน้าที่กระทรวงคมนาคมของบังกลาเทศกล่าวว่า การเดินทางโดยรถไฟระหว่างกรุงธากาของบังกลาเทศไปยังนครกัลกัตตา ทางตะวันออกของอินเดีย ระยะทาง 345 กม.จะใช้เวลาประมาณ 12ชม.โดยในเที่ยวปฐมฤกษ์นี้ มีผู้โดยสารราว 450 คน รวมทั้งเจ้าหน้าที่รัฐบาล ที่ปรึกษาด้านการขนส่งของบังกลาเทศกล่าวว่า ขบวนรถไฟด่วน "ไมตรี เอ็กซ์เพรส" ไม่เพียงอำนวยความสะดวกในการเดินทาง แต่ยังจะช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ


 


ส่วนขบวนรถไฟเที่ยวจากนครกัลกัตตาไปยังกรุงธากาก็เริ่มบริการเช้าวันจันทร์เช่นกัน โดยมีนายประนาบ มุกเคอร์จี รัฐมนตรีต่างประเทศอินเดียเป็นผู้ปล่อยขบวนรถ อินเดียระดมกำลังตำรวจกว่า 200 นาย พร้อมสุนัขดมกลิ่นคอยรักษาความปลอดภัย ขณะที่ผู้โดยสารจะต้องผ่านการตรวจด้วยเครื่องตรวจโลหะ ทั้งนี้เมื่อเดือน ก.พ. 2550 ขบวนรถไฟมิตรภาพระหว่างอินเดียและปากีสถาน เคยถูกโจมตีด้วยระเบิด ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 68 คน สันนิษฐานว่าเป็นฝีมือของกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรง


 


รถไฟโดยสารได้หยุดวิ่งระหว่างอินเดียและปากีสถานในปี 2508 หลังจากทั้ง 2 ประเทศเข้าสู่สงคราม ซึ่งบังกลาเทศอยู่ด้านตะวันออกของปากีสถานในขณะนั้น แต่การบริหารรถไฟไม่ได้รื้อฟื้น หลังจากบังกลาเทศได้รับเอกราชในปี 2514


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net