รองผู้ว่าฯ เชียงใหม่ สั่งรื้อชุมชนบ้านใหม่หนองผึ้งภายใน 30 วัน!

 

เหตุการณ์ "จับทันทีไม่มีเจรจา" เมื่อ 3 เม.ย. ที่ผ่านมา

 

 

สภาพของชุมชนบ้านใหม่หนองผึ้ง ไม่ว่าชาวบ้านจะทราบกฎหมายหรือไม่ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าบ้านเรือนเหล่านี้เกิดจากการทำงานหนักอาบเหงื่อแลกกับค่าแรงของพวกเขา บัดนี้ที่ประชุม ส.ป.ก. เชียงใหม่มีมติให้รื้อถอนภายใน 30 วัน ไม่เช่นนั้นเจ้าหน้าที่จะรื้อเอง

 

 

ความคืบหน้ากรณีที่ชาวบ้านบ้านใหม่หนองผึ้ง หมู่ 18 ต.อินทขิล อ.แม่แตง ซึ่งตั้งชุมชนอยู่บนที่ ส.ป.ก. 4-01 ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจป่าไม้ ตำรวจ ตรวจคนเข้าเมือง ตชด. เข้าตรวจค้นและจับกุมผู้ที่ถือบัตรบุคคลบนพื้นที่สูง และผู้ไม่มีเอกสารแสดงสถานะบุคคลจำนวน 60 คน เมื่อวันที่ 3 เม.ย. นั้น

 

ล่าสุด เมื่อวันที่ 18 เม.ย. ในการประชุมของคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมี น.ส.เรืองวรรณ บัวนุช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธาน ได้มีมติให้ผู้ครอบครองที่ดิน ส.ป.ก.4-01 จำนวน 2 แปลงรวมพื้นที่กว่า 70 ไร่ ได้แก่นางอรทัย รัตนพจน์ และนางกนกรัฐ อึ้งศรีวงศ์ ที่นำที่ดิน ส.ป.ก.4-01 ไปจัดสรร แบ่งขายให้กับแรงงานต่างด้าวชาวพม่ากว่า 200 แปลง

 

ให้ทั้งสองรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง และปรับปรุงพื้นที่ให้อยู่ในสภาพเดิมภายใน 30 วัน หากครบกำหนด ยังไม่ดำเนินการ เจ้าหน้าที่ก็จะเข้าไปรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง พร้อมทั้งเพิกถอนสิทธิ์ การครอบครองที่ดินทั้งหมด นอกจากนั้น ยังได้แจ้งความดำเนินคดีกับแรงงานข้ามชาติที่เข้าไปบุกรุกพื้นที่ ปลูกสร้างบ้านรวมทั้งหมด 177 ราย

 

นายปกรณ์ สุริวรรณ ปลัดอำเภอแม่แตง ฝ่ายความมั่นคง ชี้แจงว่า ชาวบ้านหนองผึ้งใหม่บางส่วน ย้ายมาจากอำเภอตามแนวชายแดน ซึ่งมีบัตรเขียวขอบแดง หรือบัตรบุคคลบนพื้นที่สูง แล้วยังชักชวนบุคคลต่างด้าวเข้ามาพักอาศัยอยู่อีกเป็นจำนวนมาก จนเป็นชุมชนขนาดใหญ่ มีประชากรมากกว่า 1,700 คน บางส่วนทางอำเภอได้ออกหลักฐานถิ่นที่อยู่ให้แล้ว หากมีการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง จะต้องมีการหาที่อยู่ใหม่ ให้กับแรงงานต่างด้าว ตามหลักสิทธิมนุษยชนด้วย

 

ด้าน พ.ต.อ. ประยุทธ ชมมาลี ผู้กำกับด่านตรวจคนเข้าเมืองเชียงใหม่ กล่าวว่า ขณะนี้แรงงานต่างด้าวและบุคคลบนพื้นที่สูงที่ออกนอกเขตควบคุมทั้งหมดที่เข้ามาปลูกบ้านพักอาศัย ในที่ดิน ส.ป.ก.4-01 ในหมู่บ้านหนองผึ้งใหม่ ตำบลอินทขิล อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ถูกจับกุมตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย. รวมกว่า 60 คน และยังควบคุมตัวไว้ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ และสถานีตำรวจภูธรอำเภอแม่แตง เพื่อรอสอบปากคำในฐานะพยานเพื่อเอาผิดผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด

 

คาดว่า จะสรุปสำนวนเอาผิดผู้เกี่ยวข้องได้ภายในสิ้นเดือนเมษายน ส่วนนายส่างมน ตียะ ผู้นำชุมชนดังกล่าว หากพบเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ก็จะเสนอถอนหนังสือถิ่นที่อยู่ ซึ่งเป็นหนังสือสำคัญในการออกสัญชาติไทยด้วย

 

ด้าน น.ส.ประดิษฐา ปริยแก้วฟ้า เจ้าหน้าที่มูลนิธิเพื่อสุขภาพและการเรียนรู้ของแรงงานกลุ่มชาติพันธุ์หรือ Map กล่าวว่าไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงควบคุมตัวชาวบ้านรายหนึ่งที่มีอายุมากถึง 90 ปี แม้จะอ้างว่าเพื่อกันเป็นพยาน แต่ก็ฟังดูไม่มีเหตุผล เพราะคนแก่อายุมากแล้วขังไว้ตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย. จนบัดนี้ก็ยังไม่ปล่อย ระยะยาวจะมีปัญหาสุขภาพ และถ้าปล่อยตัวไปคนที่เหลือก็สามารถเป็นพยานได้

 

อนึ่ง สำหรับชุมชนบ้านใหม่หนองผึ้งดังกล่าวตั้งขึ้นในปี 2547 เมื่อเจ้าของที่ ส.ป.ก. เดิม ที่มีที่ดินแปลงติดกันรวม 3 ราย พื้นที่กว่า 70 ไร่ ต้องการขายสิทธิที่ดิน คนเฝ้าสวนซึ่งเป็นชาวไทใหญ่ ถือบัตรสถานะบุคคลบนพื้นที่สูง (เขียวขอบแดง) จึงขอซื้อต่อ แต่เงินไม่พอจึงพากันชักชวนครอบครัวและญาติพี่น้องช่วยกันซื้อที่ดินคนละแปลงๆ ละประมาณ 80-100 ตารางวา ราคาแปลงละ 20,000 บาท โดยไม่รู้ว่าที่ดิน สปก. ตามกฎหมายข้ามซื้อขาย แบ่งแยก โอนสิทธิ์ และต้องใช้ประโยชน์ด้านเกษตรกรรมเท่านั้น

 

และจากเดิมที่มีชาวบ้านไทใหญ่เข้ามาอาศัยไม่กี่สิบราย ต่อมาก็มีการชักชวนญาติพี่น้องที่เป็นชาวไทใหญ่ด้วยกันซึ่งอาศัยอยู่แถบ ต.เปียงหลวง อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ ซึ่งถือบัตรสถานะบุคคลบนพื้นที่สูง (สีเขียวขอบแดง) และส่วนหนึ่งถือบัตรอนุญาตทำงานแรงงานแต่งด้าวมาร่วมซื้อที่ดินเพื่อสร้างที่พักอาศัย

 

จนปัจจุบันชุมชนบ้านใหม่หนองผึ้งมีบ้านกว่า 150 หลังคาเรือน ประชากรกว่า 1,000 คน ส่วนใหญ่ชาวบ้านรับจ้างทำเกษตรกรรมตามฤดูกาล โดยเมื่อปี 2547 ชุมชนแห่งนี้เคยได้รับการแต่งตั้งจากนายสุวัฒน์ ตันติพัฒน์ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงใหม่ ในขณะนั้น ให้เป็นหมู่บ้านชุมชนเข้มแข็งด้วย

 

และเมื่อวันที่ 2 เม.ย. ได้เคยทำหนังสือร้องเรียนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดให้ชะลอการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง แต่ไม่เป็นผล โดยในวันถัดมา ส.ป.ก. และเจ้าหน้าที่ตำรวจสนธิกำลังเข้าตรวจสอบและจับกุมดังกล่าว

 

ที่มาของข่าว: ข้อมูลบางส่วนจากผู้จัดการออนไลน์

 

ข่าวประชาไทย้อนหลัง

ชาวไทใหญ่ร้องจนท.ระงับรื้อถอนชุมชน, ประชาไท, 3 เม.ย. 51

จับทันทีไม่มีเจรจา บ้านใหม่หนองผึ้งร้องระงับการรื้อถอนไม่เป็นผล, ประชาไท, 4 เม.ย. 51

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท