พันธมิตรฯ ชุมนุมใหญ่ 25 พ.ค.เพื่อพิทักษ์ รธน. 50 และระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

วันนี้ (22 พ.ค.) พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ออกแถลงการณ์ ดังต่อไปนี้

 

แถลงการณ์ฉบับที่ 9/2551
       พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
       เรื่อง
       ชุมนุมใหญ่ต่อต้านการล้มล้างรัฐธรรมนูญ




       
       ตามที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคพลังประชาชนจำนวน 117 คน พรรคเพื่อแผ่นดิน 5 คน พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา 4 คน พรรคมัชฌิมาธิปไตย 2 คน พรรคประชาราช 1 คน และสมาชิกวุฒิสภาอีกจำนวน 21 คน รวมกันทั้งสิ้น 150 คน ได้ยื่นหนังสือต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันพุธที่ 21 พฤษภาคม 2551 เพื่อล้มล้างรัฐธรรมนูญ พุทธศักราช 2550 ทั้งฉบับที่มาจากการลงประชามติของคนส่วนใหญ่ในประเทศ 14 ล้าน 7 แสนเสียงนั้น
       
       จากเนื้อหาการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ เป็นหลักฐานชัดเจนว่า ฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหาร ได้ดำเนินการเป็นอันตรายต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ตามรัฐธรรมนูญ ตลอดจนประชาชนอย่างชัดเจนดังต่อไปนี้
       
       สำหรับอันตรายต่อสถาบันชาตินั้นได้ปรากฏในการล้มล้างรัฐธรรมนูญครั้งนี้ว่า กระทำไปเพื่อลบล้างความผิดของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรและพวกพ้องไม่ให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และช่วยเหลือนักการเมืองให้หลบหนีคดียุบพรรคการเมืองจากกรณีกรรมการบริหารพรรคได้กระทำผิดต่อกฎหมายเลือกตั้ง สะท้อนให้เห็นว่า อำนาจตุลาการกำลังถูกทำลายด้วยฝ่ายนิติบัญญัติที่ไร้จริยธรรมสมคบกับฝ่ายบริหาร ตลอดจนดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อทำให้กระบวนการตรวจสอบนักการเมืองอ่อนแอลง องค์กรตรวจสอบอิสระตามรัฐธรรมนูญอยู่ภายใต้การคัดสรรจากอิทธิพลทางการเมืองจนไม่สามารถตรวจสอบฝ่ายการเมืองได้ และจะนำไปสู่ความล่มจมของชาติดังที่เคยได้เกิดขึ้นมาแล้วในระบอบทักษิณจากการใช้รัฐธรรมนูญ พุทธศักราช 2540
       
       เมื่อรวมกับพฤติกรรมก่อนหน้านี้ของรัฐบาลหุ่นเชิด ที่บริหารบ้านเมืองจนเข้าสู่ความสุ่มเสี่ยงต่อการเสียอธิปไตยของชาติ กรณีพื้นที่รอบเขาพระวิหารเพื่อแลกกับผลประโยชน์ของนักการเมืองขายชาติในระบอบทักษิณ ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงต่อการแก้ไขปัญหาความไม่สงบชายแดนภาคใต้ ปล่อยให้คนไม่ดีมาบริหารปกครองบ้านเมือง โอบอุ้มนักการเมืองที่มีพฤติกรรมอันพาล โยกย้ายข้าราชการอย่างไม่เป็นธรรม ตัดตอนและลดทอนอำนาจในกระบวนการยุติธรรม และวางแผนฉีกรัฐธรรมนูญเพื่อตัวเองและพวกพ้องอย่างไร้ยางอาย ย่อมเป็นการพิสูจน์ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้จะนำพาชาติไปสู่วิกฤติครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย
       
       สำหรับอันตรายต่อสถาบันศาสนานั้น คณะผู้ล้มล้างรัฐธรรมนูญจงใจใช้วิธีสกปรกนำพุทธศาสนามาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างไร้จริยธรรม ทำให้เกิดความแตกแยกของศาสนิกชนของคนในชาติอย่างกว้างขวาง
       
       สำหรับอันตรายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์นั้น รัฐบาลและรัฐสภาชุดนี้ที่มีพรรรคพลังประชาชนเป็นแกนนำ มิได้มีการดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น นับตั้งแต่เริ่มมีกระบวนการจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างกว้างขวาง
ที่มาในหลายรูปแบบ เช่น เว็บไซต์จำนวนมาก สื่อสิ่งพิมพ์ ซีดี แผ่นปลิว ฯลฯ มิหนำซ้ำรัฐมนตรีในรัฐบาลหุ่นเชิดชุดนี้ยังไปบรรยายและพูดจาในที่ต่างๆ ต่างกรรมต่างวาระทั้งในประเทศและต่างประเทศ เป็นเนื้อหาจงใจแสดงทัศนคติที่เป็นอันตรายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน การกระทำต่างๆเหล่านี้มีมาอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลานานแล้ว และหนักข้อ เหิมเกริมยิ่งขึ้นในช่วงรัฐบาลชุดนี้ โดยที่รัฐบาลไม่ใส่ใจทั้งสิ้น อันเป็นการไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 175 ที่บัญญัติเอาไว้ว่า ก่อนเข้ารับหน้าที่รัฐมนตรีต้องถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์ด้วยถ้อยคำดังต่อไปนี้ "ข้าพระพุทธเจ้า (ชื่อผู้ปฏิญาณ) ขอถวายสัตย์ปฏิญาณว่า ข้าพระพุทธเจ้าจะจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ" การล้มล้างรัฐธรรมนูญอย่างฉ้อฉลครั้งนี้ได้สำเร็จเมื่อใด ก็ย่อมเป็นการพิสูจน์ว่าฝ่ายการเมืองได้แสดงแสนยานุภาพของระบอบเผด็จการรัฐสภา ที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขเมื่อใดก็ได้
       
       สำหรับอันตรายต่อประชาชน นอกจากปัญหาทางด้านเศรษฐกิจที่คนไทยทั้งชาติต้องประสบกับปัญหาข้าวยากหมากแพงภายใต้การบริหารของรัฐบาลที่ไร้ความสามารถ
จนทำให้เกิดการชุมนุมของเกษตรกร ผู้ใช้แรงงาน และผู้ประกอบการรายย่อย ที่เดือดร้อนไปอย่างกว้างขวาง รัฐบาลหุ่นเชิดกลับดำเนินการล้มล้างแนวนโนยายพื้นฐานแห่งรัฐ ที่จะช่วยเหลือสร้างให้ประชาชนพึ่งพาตัวเองได้ ลบล้างปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงออกจากรัฐธรรมนูญ และลดอำนาจประชาชนในการตรวจสอบฝ่ายการเมือง
       
       วิกฤติต่อสถาบันชาติ สถาบันศาสนา สถาบันพระมหากษัตริย์ และประชาชน ดังที่ปรากฏข้างต้นนั้น เป็นเพราะรัฐบาลหุ่นเชิดมุ่งแต่จะหาทางล้มล้างรัฐธรรมนูญ เพื่อฟอกความผิดของตัวเองและพวกพ้องโดยไม่สนใจต่อวิกฤติการณ์ที่เกิดขึ้น
       
       แม้ว่านายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีหุ่นเชิด หัวหน้าพรรคพลังประชาชน จะกลับลำให้ประธานรัฐสภาชะลอการบรรจุวาระในการล้มล้างรัฐธรรมนูญ โดยอ้างว่าจะดำเนินการขอมติคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ทำประชามติสอบถามประชาชนว่าจะเห็นชอบให้แก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ ทั้งๆ ที่นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน สามารถสั่งให้ลูกพรรคพลังประชาชนถอนญัตติการล้มล้างรัฐธรรมนูญให้ออกจากวาระการประชุมได้ แต่ก็ไม่ได้ทำ แสดงให้เห็นว่านี่คือเล่ห์เพทุบายของฝ่ายบริหารที่ยังสมคบกับฝ่ายนิติบัญญัติซึ่งเป็นพวกเดียวกัน เล่นละครสองหน้าตบตาหลอกลวงประชาชน
       
       การล้มล้างรัฐธรรมนูญครั้งนี้เป็นการฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ พุทธศักราช 2550 ในมาตรา 68 ที่กำหนดเอาไว้ว่า บุคคลจะใช้สิทธิเสรีภาตามรัฐธรรมนูญเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญนี้ หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญนี้ มิได้
       
       พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จึงยืนยันอีกครั้งหนึ่งว่า วิกฤติต่อสถาบันชาติ สถาบันศาสนา สถาบันพระมหากษัตริย์ และประชาชน ตลอดจนการล้มล้างรัฐธรรมนูญได้เกิดขึ้นเป็นที่ประจักษ์แล้ว จึงขอใช้สิทธิพิทักษ์รัฐธรรมนูญ ตลอดจนการดำเนินตามหน้าที่ของชนชาวไทยในการพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ พุทธศักราช 2550 ตามมาตรา 69 และ 70 ทุกประการ
    
       พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จึงมีมติดังต่อไปนี้
       
       1. ให้จัด "ชุมนุมใหญ่" เพื่อพิทักษ์รัฐธรรมนูญ พุทธศักราช 2550 และระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ในวันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคม 2550 ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเวลา 15.00 น.
       
       2. ดำเนินการถอดถอนนักการเมืองที่มีพฤติกรรมขัดกันแห่งผลประโยชน์ และอาศัยมาตรา 68 วรรสองยื่นต่ออัยการสูงสุดเพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้เลิกการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือยุบพรรคการเมืองดังกล่าว และมีมติใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญมาตรา 164 ในการรณรงค์และรวบรวมรายชื่อประชาชนที่มีสิทธิ์เลือกตั้งจำนวนไม่น้อยกว่า 2 หมื่นคน เพื่อใช้สิทธิร้องขอต่อประธานวุฒิสภาให้วุฒิสภามีมติตามมาตรา 274 ถอดถอนสมาชิกรัฐสภาที่ลงชื่อทุกคน ตามมาตรการที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้เคยประกาศเอาไว้แล้วในแถลงการณ์ ฉบับที่ 5/2551 ลงวันที่ 2 เมษายน 2551
       
       3. ขอให้พี่น้องประชาชนเข้าร่วมการชุมนุมครั้งนี้อย่างพร้อมเพรียง พร้อมเตรียมทั้งเตรียมสำเนาบัตรประชาชนเพื่อถอดถอนนักการเมืองที่ล้มล้างรัฐธรรมนูญดังกล่าวด้วย
       
       พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและองค์กรเครือข่าย จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนที่รักชาติ รักประชาธิปไตย และประชาชน ทุกท่าน ได้มาเข้าร่วมสืบสานภารกิจอันศักดิ์สิทธิ์ ในการพิทักษ์รัฐธรรมนูญ และทำหน้าที่ปกป้องระบอบประชาธิปไตยอันพระมหากษัตริย์ จนถึงที่สุด
       
       ด้วยจิตคารวะ
       
       พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
       22 พฤษภาคม 2551


 

 

…………………………………..

ที่มา: พันธมิตรฯ ดีเดย์ชุมนุมใหญ่ 25 พ.ค.ต้านแก้ รธน. ผู้จัดการออนไลน์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท