พันธมิตรฯ ชุมนุมเป็นวันที่ 5 ตำรวจยันไม่จับแกนนำ

ตร.ยืนยันไม่จับ 5 แกนนำม็อบ

เมื่อเวลา 14.00 น. วานนี้ (29 พ.ค.) ที่บช.น. พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี รองผบ.ตร.ได้ประชุมสรุปสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ วันที่สี่ ร่วมกับพล.ต.ท. อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น.

 

จากนั้นพล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รองโฆษกสำนัก งานตำรวจแห่งชาติ แถลงว่า กระแสข่าวลือการสลายกลุ่มผู้ชุมนุม การจับแกนนำ รวมทั้งการปฏิวัติ ได้นำเรียนมาตลอดว่านายกรัฐมนตรียังไม่มีแนวความคิด และให้สัมภาษณ์มาโดยตลอดว่าจะไม่ใช้กฎหมายความมั่นคงในการจับแกนนำตามข่าวปล่อย ในส่วนของตร. ยังคงยืนยันเรื่องมาตรการอำนวยความสะดวก รักษาความปลอดภัย อำนวยการจราจรบริเวณที่มีการชุมนุม และยังคงความพยายามเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อหาทางแก้ไขต่อไป รวมทั้งพยายามนำเสนอความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับจากการชุมนุมให้กลุ่มผู้ชุมนุมได้ทราบและนำไปประกอบการตัดสินใจเรื่องการปิดกั้นการจราจร

 

พล.ต.ต.สุรพลกล่าวว่า ส่วนความห่วงใยการระดมแนวร่วมมาร่วมชุมนุมในวันที่ 30 พ.ค. ตร.ยังคงยืนยันการรักษาความปลอดภัย และการอำนวยการจราจร โดยจะเพิ่มกำลังจากหน่วยต่างๆ จัดเตรียมรถขนผู้ต้องขังไว้สนับสนุนกรณีมีการกระทำผิดกฎหมาย เพิ่มความเข้มการตรวจตราการพกพาอาวุธ โดยคำนึงถึงสิทธิเสรีภาพของกลุ่มผู้ชุมนุม และจะป้องกันไม่ให้เกิดการปะทะ

 

 

ประเมินม็อบวันนี้ไม่เกิน 1.5 หมื่น

พล.ต.ต.สุรพลกล่าวว่า การชุมนุมใหญ่ในวันที่ 30 พ.ค. ตำรวจประเมินสถานการณ์และยอดการชุมนุมจากข้อมูลเก่าในอดีตเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา ยอดสูงสุดในตอนนั้นอยู่ที่ประมาณ 10,000-15,000 คน เพื่อความไม่ประมาทในการอำนวยความสะดวกและการรักษาความปลอดภัย จึงระดมกำลังตำรวจจากบช.ภ.1, 2, 7 เพิ่มเติม และเตรียมพร้อมกำลังของบช.ตชด. และบช.ก.ไว้เสริมในการป้องกันเหตุร้าย

 

พล.ต.ต.สุรพลกล่าวว่า ในส่วนผลกระทบของประชาชนที่เดือดร้อนกรณีมีการปิดถนน ขณะนี้ตร. และบช.น.ยังคงได้รับการร้องเรียนจากประชาชนที่ต้องใช้เวลาเดินทางนานกว่าปกติ เสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางเพิ่มขึ้น รวมทั้งหน่วยงานราชการต่างๆ อาทิ โรงเรียนสตรีวิทยา โรงเรียนราชวินิตมัธยม โรงเรียนวัดมกุฏกษัตริย์ องค์การสหประชาชาติ กองทัพบก รวมถึงบริษัทห้างร้านต่างๆ ส่วนที่เกิดความเสียหายมากที่สุดโรงเรียนวัดมกุฏกษัตริย์ ได้ประกาศปิดโรง เรียนตั้งแต่วันที่ 29 พ.ค. เนื่องจากนักเรียนไม่สามารถเดินเข้าโรงเรียนได้ และโรงเรียนเกรงจะไม่ได้รับความปลอดภัยจากเหตุปะทะกันอันเนื่องมาจากการชุมนุม

 

 

โต้ตร.ไม่จัดฉากแจ้งจับพันธมิตร

พล.ต.ต.สุรพลกล่าวว่า มีประชาชนจำนวนมากมาแจ้งความร้องทุกข์ที่สน.ดุสิต เมื่อมีการร้องทุกข์หน้าที่ของตำรวจก็ต้องสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมายทุกเรื่อง ฝากพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อน สามารถแจ้งมายังศูนย์ผลิตรายการและข่าว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 44 สถานี โทร. 0-2205-1008 และทางสวพ.91 ตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนของประชาชนที่อาจไม่เข้าใจเส้นทางจราจร สามารถสอบถามได้ที่ศูนย์บก.จร. โทร. 1197

 

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีการกล่าวหาว่าตำรวจอยู่เบื้องหลังข้าราชการเข้าแจ้งความ พล.ต.ต.สุรพลกล่าวว่า ตำรวจไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปจัดฉากให้ผู้เดือดร้อนมาแจ้งความ สื่อมวลชนเองคงทราบว่าขณะนี้ประชาชนเดือดร้อนมากน้อยแค่ไหน อย่างที่เรียนว่าประชาชนที่ต้องใช้เส้นทางจราจรต้องเสียค่ารถเพิ่ม เปิดเครื่องขยายเสียงดังจนชาวบ้านละแวกนั้นไม่สามารถนอนหลับได้ ทั้งหมดเป็นความเดือดร้อน ซึ่งมีจำนวนมาก คิดว่าเขาเหล่านั้นมีสิทธิตามรัฐธรรมนูญที่จะปกป้องสิทธิที่ถูกละเมิด ตำรวจคงไม่จำเป็นต้องไปกะเกณฑ์พยานหรือประชาชนมาแจ้งความ และการมาแจ้งความดำเนินคดี ถ้าตำรวจเกณฑ์มาก็เท่ากับเป็นการเพิ่มภาระของตัวเอง

 

 

ระดมนักรบศรีวิชัย-หนังสติ๊กเพียบ

ขณะที่การปักหลักชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ที่ดำเนินมาเป็นวันที่ 5 นั้น มีกลุ่มผู้ชุมนุมพักค้างคืนตามเต็นท์อยู่กว่า 100 คน กระทั่งช่วงสายเริ่มมีประชาชนทยอยมาร่วมชุมนุมมากขึ้น โดยเฉพาะหลังเลิกงานในเวลา 16.00 น. โดยหนังสือพิมพ์ข่าวสดระบุว่ามีประชาชนมาร่วมชุมนุม 2,000 คน

 

นอกจากนี้ได้มีกลุ่มนักรบศรีวิชัย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวใต้ มาอาสาเป็นการ์ดให้กลุ่มพันธมิตรฯ โดยได้เตรียมหนังสติ๊ก 600 อันและหมวกกันน็อกหลายร้อยใบ พร้อมซ้อมรับสถานการณ์ โดยการ์ดส่วนใหญ่จะสวมเสื้อสีดำ สกรีนคำว่านักรบศรีวิชัย แต่ละคนจะถือโล่และหนังสติ๊ก ทั้งนี้ ได้กันพอค้าแม่ค้าไม่ให้เข้าบริเวณที่ชุมนุม โดยจัดให้อยู่ตรงด้านถนนติดยูเอ็น เนื่องจากเกรงจะมีบุคคลแปลกปลอมเข้ามา ทั้งนี้ ในแต่ละจุดของทางเข้าจะมีการตรวจตราอย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันคนเข้ามาก่อกวน

 

 

จำลองโต้ม็อบไม่ได้ทำรถติด

เวลา 11.00 น. พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ แถลงว่าสาเหตุที่แถลงเนื่องจากสถานการณ์ขณะนี้เพิ่มมากขึ้น และการปักหลักชุมนุมที่ถนนราชดำเนิน สะพานมัฆวานฯ รถติดไม่ใช่เพราะพวกเราแต่เป็นเพราะรัฐบาลไม่ยอมให้เราไปทำเนียบรัฐบาล การชุมนุมเราทำตามกฎหมายทุกอย่าง ตนไม่กลัวจะถูกจับเพราะติดคุกมาหลายครั้งแล้ว ทั้งคุกทหารและคุกตำรวจ อย่างไรก็ตาม ทางกลุ่มพันธมิตรฯไม่ได้เพิ่มข้อเรียกร้องใดๆกับรัฐบาล แต่ก่อนหน้านี้เราขอให้รัฐบาลหยุดแก้รัฐธรรมนูญและให้นำเวลาไปแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชน แต่รัฐบาลไม่ฟัง สุดท้ายผลกระทบตกอยู่กับประชาชน ตอนนี้จึงเปลี่ยนแนวทางมาขับไล่รัฐบาลแทน

เมื่อถามว่าจะมีคนกลางมาช่วยไกล่เกลี่ย พล.ต. จำลอง กล่าวว่า ไม่จำเป็น การส่งคนกลางมาไกล่เกลี่ยแสดงว่าทั้งสองฝ่ายทำผิดใช่หรือไม่ ใครพูดมาขอให้พูดใหม่ ซึ่งคนกลางต้องเข้าข้างคนดี ไม่เช่นนั้นไม่เรียกว่าคนกลาง ฉะนั้นการไกล่เกลี่ยควรเลิกคิดไปเลย ตนอยากถามว่าฝ่ายที่ออกมาต่อต้านกลุ่มพันธมิตรฯ มีจุดประสงค์อะไร ทำไมถึงมาตั้งใกล้เรา อย่างนี้เขาเรียกว่านรกป่วนกรุง และเรายืนยันว่าจะปักหลักอยู่ที่นี่

 

ต่อข้อถามว่าท่าทีของรัฐบาลไม่ปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของพันธมิตรฯ พล.ต.จำลอง กล่าวว่า เราจะสู้จนกว่ารัฐจะปฏิบัติตาม และเราไม่ได้ทำตามอำเภอใจ ทุกครั้งที่มีการเดินขบวนเรียกร้อง เราก็ถามมติของผู้ชุมนุมตลอดตั้งแต่วันแรกๆแล้วว่าจะอยู่หรือกลับบ้าน ซึ่งทุกคนก็อยู่ และคืนวันศุกร์ที่ 30 พ.ค. เราจะถามประชาชนอีกว่าจะเดินไปข้างหน้าอีกหรือไม่ หากเดินเราจะลุยต่อไปยังจุดหมายอื่น แต่จะเดินไปจุดไหน เราจะถามความเห็นจากผู้ชุมนุมก่อน

 

 

ยันรัฐบาลลงประชามติก็ไม่ยุติการชุมนุม ขู่ใครป่วนเข้าไอซียู

เมื่อถามถึงรัฐบาลยืนยันจะทำประชามติในการแก้รัฐธรรมนูญ พล.ต.จำลอง กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่การนำเงิน 2,000 ล้านบาทมาทำประชามติจะทำให้เสียหายแก่บ้านเมือง ต่อข้อถามว่าหากรัฐยุติการทำประชามติจะหยุดชุมนุมหรือไม่ พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ไม่มีทางเพราะเลยจุดนั้นมาแล้ว

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนั้นพล.ต.จำลอง ได้นำเอกสารลับ เกี่ยวกับการสลายการชุมนุมมาแจกจ่ายให้สื่อมวลชน โดยพล.ต.จำลองอ้างว่าได้มาจากเพื่อนตำรวจ ซึ่งเป็นเอกสารของทางราชการ ลงวันที่ 27 พ.ค. ซึ่งมีเนื้อหาว่าอาจใช้แก๊สน้ำตาสลายการชุมนุม ทั้งนี้ ตนไม่ขอเปิดเผยว่าใครเป็นคนสั่งการ ตนขอฝากเพื่อนตำรวจที่คิดจะสลายการชุมนุมโดยใช้กระบองและแก๊สน้ำตา รวมทั้งรถดับเพลิง จำให้ดีว่าพวกคุณไล่เราไม่ได้ และขอบอกอีกว่าแก๊สน้ำตาที่นำมาใช้เป็นเงินภาษีของประชาชนทั้งสิ้น

 

พล.ต.จำลอง กล่าวถึงมาตรการดูแลความปลอดภัย ให้กลุ่มผู้ชุมนุมว่า หากเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้ามาบริเวณ ถ้าแต่งกายเต็มยศก็เดินเข้าออกได้ 24 ชั่วโมง แต่หากเป็นนอกเครื่องแบบจะต้องมาพบตนก่อนในฐานะผู้ดูแลที่นี่ ส่วนคนที่มาป่วนในกลุ่มพันธมิตรฯหรือพวกนรกป่วนกรุง ขอให้ถามใจว่าพร้อมจะเสียรถจักรยานยนต์และพร้อมไปอยู่ห้องไอซียูแล้วหรือ เราทำอย่างนี้เพราะตำรวจพึ่งไม่ได้ เราต้องป้องกันตัวเอง และขอให้กลุ่มที่ต่อต้านไปชุมนุมที่อื่น อย่ามาเบียดเบียนเรา เราไม่ได้ท้าแต่ถ้ามาจริงก็คงเชิญออก หากไม่ออกก็ไปนอนห้องไอซียู

 

 

หนุ่มใหญ่ซวยพกปืนปลอม การ์ดพันธมิตรฯ รุมยำน่วม จำลองสอนสู้แก้สน้ำตา

ต่อมาเวลา 13.00 น. พล.ต.จำลอง ได้ขึ้นเวทีปราศรัยโดยขอให้ผู้ชุมนุมจับตาดูบุคคลที่จะเข้ามา ป่วน หรือพวกที่พยายามเป่าหูไม่ให้มาร่วมการชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯ และหากมีการสลายการชุมนุมโดยใช้แก๊สน้ำตา ขอให้ทุกคนนอนคว่ำ หากแก๊สน้ำตาทำ ให้ระคายเคืองให้ไปล้างหน้าแล้วกลับมาใหม่ ส่วนอาวุธที่ควรมีไว้ป้องกันตัวเองนั้น ส่วนใหญ่เป็นหนังสติ๊กและเหล็กแป๊บ หากรัฐบาลต้องการแพ้เร็วก็ให้เข้ามาสลายโดยเร็ว เราพร้อมขึ้นศาลได้ทุกที่ หากต้องการจับก็มาจับได้เลยที่นี่

 

เวลา 14.00 น. ได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อนายวิทยา นันทนานนท์ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 84 หมู่ 4 ต.บางขุนกอง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ได้ถือกระเป๋าสะพายเข้ามาร่วมชุมนุมบริเวณกลางลานถนนราชดำเนิน และแสดงท่าทางมีพิรุธ ทางการ์ดของพันธมิตรฯได้เข้าไปตรวจค้นกระเป๋า แต่นายวิทยาได้แสดงท่าทางขัดขืน จึงเกิดการต่อสู้กันขึ้น และถูกการ์ดของพันธมิตรฯใช้เหล็กตีบริเวณท้ายทอยจนล้มลง      ฟุบกับพื้นก่อนจะนำตัวไปไว้ที่ปฐมพยาบาล จากนั้นแพทย์ของสันติอโศกเข้ามาดูแต่ไม่สามารถห้ามเลือดและสมานแผลให้ได้เนื่องจากเป็นแผลฉกรรจ์ จึงนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง ส่วนในกระเป๋าพบอาวุธปืนปลอมสีดำ ติดแสงเลเซอร์จำนวน 1 กระบอก อาวุธมีดปลายแหลม 1 เล่ม

 

 

สุริยะใสโต้ปาบึ้มสร้างสถานการณ์

เมื่อเวลา 16.00 น. นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรฯ แถลงกรณีร.ต.อ.เฉลิมไม่อยากให้ประชาชนร่วมชุมนุมเนื่องจากจะมีการวางระเบิดสร้างสถานการณ์ว่า ขอยืนยันเรื่องดังกล่าวไม่มีทางเกิดขึ้นได้ เพราะพันธมิตรฯ ยืนยันโดยยึดหลักสันติ อหิงสา และเป็นการชุมนุมตามสิทธิของรัฐธรรมนูญ นอกจากนี้ ยังมีหน่วยรักษาความปลอดภัยที่เฝ้าอยู่ส่วนหน้าและหลัง และมีหน่วยที่พร้อมเข้าปะทะหากมีใครที่จะเข้ามาทำร้ายประชาชนที่มาร่วมชุมนุม เรื่องระเบิดคนที่จะทำได้ต้องเป็นมืออาชีพ มีความเชี่ยวชาญผ่านการฝึกปรือ ถ้าไม่ใช่ตำรวจ ทหาร หรือผู้มีอำนาจ ประชาชนทั่วไปคงทำไม่ได้ ร.ต.อ.เฉลิมปล่อยข่าวเพื่อสกัดกั้นการชุมนุมใหญ่วันที่ 30 พ.ค. เพื่อให้เกิดการตื่นตระหนกจนประชาชนไม่เข้าร่วม

 

นายสุริยะใสกล่าวว่า ขณะนี้มีความพยายามจัด      ฉากให้ประชาชน ร้านค้า ข้าราชการในละแวกสถานที่ชุมนุมเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับพันธมิตรฯ อย่างกรณีของข้าราชการกระทรวงศึกษาธิการก็ไม่แปลกใจเพราะ รู้อยู่แล้วว่า รมว.ศึกษาธิการ เป็นใคร ส่วนที่โรงเรียน วัดมกุฎฯต้องปิดเรียน เรื่องนี้เจรจาพูดคุยกันได้ พันธมิตรฯ ก็พร้อมเปิดเส้นทางจราจรเพื่ออำนวยความสะดวก

 

 

ตร.ยึดไม้เบสบอล จำลองรีบไปขอคืนอ้างไว้ออกกำลังกาย

นายสุริยะใสกล่าวว่า วันที่ 30 พ.ค. เวลา 11.30 น. ตนและแกนนำพันธมิตรฯ จะนำรายชื่อยื่นถอดถอน ส.ส. และ ส.ว. ที่ร่วมลงญัตติแก้รัฐธรรมนูญ จำนวน 2.6 หมื่นรายชื่อไปมอบให้ประธานวุฒิสภา และช่วงเย็นจะมีการชุมนุมใหญ่ ซึ่งจะมีประกาศแนวทางการเคลื่อนไหวบนเวทีด้วย ไม่คิดว่าจะมีความรุนแรงเกิดขึ้นเพราะเท่าที่เห็นฝ่ายต้านก็ซาๆ ไปแล้ว ก็หวังว่าคงไม่มีใครเข้ามาก่อกวนหรือแม้แต่กลุ่มต้านจะไปจัดเวทีก็สนับสนุน เพราะถือเป็นสิทธิ และจะพยายามห้ามคนของเราไม่ให้ไปก่อกวนหรือสร้างความวุ่นวาย

 

เวลา 16.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.นางเลิ้ง ได้ควบคุมทีมงานพันธมิตรฯ 2 คน พร้อมไม้เบสบอล 48 อันไปไว้ที่ สน.นางเลิ้ง เมื่อพล.ต.จำลองทราบเรื่องจึงเดินทางไปเจรจา โดยระบุว่าเป็นของที่ประชาชนบริจาคมา ดังนั้น เป็นทรัพย์สินของพันธมิตรฯ และเอาไว้ออกกำลังกาย พ.ต.ท.ภูเบศร์ เส้นขาว รองผกก.สน.นางเลิ้ง ระบุว่า อุปกรณ์ดังกล่าวเป็นอุปกรณ์ล่อแหลมที่จะเกิดความรุนแรงหากเอากลับไปขอให้ระมัดระวังและเก็บให้ดี

 

 

ฝนถล่มม็อบ ฝ่ายต้านพันธมิตรตั้งเวทีสู้ที่สนามหลวง พิชิตนำทีมปราศรัย

เมื่อเวลา 19.10 น. มีฝนตกลงมาอย่างหนัก ขณะที่ผู้ชุมนุม 1,000 คน สวมเสื้อกันฝนและกางร่มปักหลักฟังการปราศรัย เพียงครู่เดียวไฟบนเวทีก็ดับ กลุ่มผู้ชุมนุมจึงเปลี่ยนมาเคาะกลองและยังจับกลุ่มชุมนุมกันต่อ โดยแกนนำได้ขึ้นไปนำร้องเพลง ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมได้เต้นและร้องเพลงอย่างสนุกสนาน

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงที่ผู้ชุมนุมลุกขึ้นหลบฝนไปอยู่ใต้ต้นไม้ ปรากฏว่าบริเวณหน้าเวทีมีกระเป๋าเอกสารสีดำวางอยู่ และไม่มีใครแสดงตนเป็นเจ้าของ ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมแตกตื่น ทางการ์ดของพันธมิตรฯ จึงนำยางรถยนต์มาครอบกระเป๋าไว้พร้อมกันผู้ชุมนุมให้ออกจากบริเวณนั้น อย่างไรก็ตาม เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าภายในกระเป๋ามีเสื้อผ้าและเอกสาร บรรยากาศจึงกลับสู่ปกติ

 

กระทั่งเวลา 20.00 น. ฝนเริ่มซาลง พล.ต.จำลองได้เดินเยี่ยมผู้ชุมนุมและแจกเสื้อกันฝน ขณะที่บนเวทีได้มีการต่อไฟเริ่มมีการปราศรัย โดยยังมีผู้ชุมนุมจับกลุ่มรอฟังอยู่ประมาณ 1,000 กว่าคน

 

ขณะที่กลุ่มต่อต้านพันธมิตรฯ ภายใต้ชื่อสภาสนามหลวงต่อต้านเผด็จการ นำโดยนายสุรชัย แซ่ด่าน และกลุ่มพลเมืองภิวัฒน์ นำโดย รศ.ดร.พิชิต ลิขิตจิตสมบูรณ์ อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และนายวิภูแถลง พัฒนภูไท รวมถึงแกนนำชมรมวิทยุคนรักแท็กซี่ ได้ผลัดกันขึ้นปราศรัยบนเวทีที่ท้องสนามหลวง โดยเนื้อหาส่วนใหญ่ปราศรัยโจมตีแกนนำพันธมิตรฯ และพรรคประชาธิปัตย์

 

 

แฉต่อไฟฟ้าไว้ชอร์ตผู้บุกรุก สุริยะใสไม่ทราบ หากตรวจพบจะสั่งถอด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณด้านหลังกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ หน้าบก.ทบ. ที่ขึงลวดสะลิงไว้ 2 ชั้นเพื่อป้องกันผู้ชุมนุม โดยมีการนำป้ายเขียนข้อความระบุว่า "อันตรายไฟฟ้าแรงสูง" ซึ่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของพันธมิตรฯ บอกว่าจะปล่อยกระแสไฟฟ้าเข้าลวดสลิง หากมีกลุ่มต่อต้านเข้ามาก่อกวนเท่านั้น

 

นายสุริยะใส ให้สัมภาษณ์กรณีการต่อกระแสไฟเข้ากับลวดสะลิง ว่า ไม่ทราบเรื่องดังกล่าว แต่จะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบทันที หากเกิดขึ้นจริงจะสั่งให้ถอดกระแสไฟทั้งหมดออก เพราะไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว

 

เมื่อถามถึงกรณีพ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางไปงานศพมารดาผบ.ทบ. และได้พูดคุยกับพล.อ.เปรม นายสุริยะใส กล่าวว่า อย่าพยายามตีความเรื่องดังกล่าว เป็นเรื่องปกติที่คนพบเจอกันในงานศพก็มีการทักทายกัน เป็นเรื่องธรรมดา แต่หากมีการเจรจาขึ้นจริงก็ไม่ส่งผลอะไรต่อการชุมนุม กลุ่มพันธมิตรฯ ยังคงมีแนวทางในการชุมนุมเช่นเดิมเพื่อเรียกร้องให้ถอดถอนการยื่นญัตติแก้รัฐธรรมนูญ และเปิดโปงปัญหาความล้มเหลวช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาของรัฐบาล พันธมิตรฯ ยืนยันจะเดินหน้าสู้ต่อ

 

 

ย้ำเดินหน้าถอดถอนส.ส.-ส.ว.

ส่วนกรณีพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. จะเป็นกาวใจระหว่างประธานองคมนตรีกับอดีตนายกฯ ทักษิณ หรือไม่ นายสุริยะใส กล่าวว่า สามารถทำได้ แต่ต้องไม่กระทบกับกระบวนการยุติธรรมในชั้นศาลซึ่งขณะนี้เดินหน้ามาไกล และต้องมีการพิสูจน์ความจริงในชั้นศาลให้เกิดขึ้นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ทุจริตจริงหรือไม่ เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะพูดคุยอย่างไรก็ไม่เกี่ยวกับพันธมิตรฯ

 

เมื่อถามถึงการที่กลุ่มส.ว. ยื่นข้อเสนอให้กลุ่มพันธมิตรฯ เลิกชุมนุมแลกกับการยื่นถอดถอนส.ส.-ส.ว. ที่ลงชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายสุริยะใส กล่าวว่า ขณะนี้พันธมิตรฯ รวบรวมรายชื่อได้มากกว่า 2 หมื่นรายชื่อแล้ว การเดินหน้าถอดถอนจะยังคงมีต่อไป ข้อเสนอดังกล่าวไม่สามารถนำมาแลกกันได้และไม่มีผลต่อการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ อยากเตือนส.ส. ส.ว. อย่านำเรื่องนี้มาฉวยโอกาสต่อรองและหาประโยชน์ให้ตนเอง

 

ส่วนที่มีการกล่าวหาว่ากลุ่มพันธมิตรฯ สร้างความวุ่นวาย นายสุริยะใส กล่าวว่า ขณะนี้ทราบว่ามีการจัดฉากเกณฑ์คนเข้ามายื่นชื่อร้องเรียนว่าพันธมิตรฯ สร้างความวุ่นวาย กลุ่มพันธมิตรฯจะไม่สนใจการจัดฉากเหล่านี้ ส่วนปัญหาหยุดเรียนของโรงเรียนวัดโสมนัสวิหารนั้น พันธมิตรฯ พร้อมเจรจาและปรับเปลี่ยนเพื่อให้เกิดความเดือดร้อนน้อยที่สุด

 

 

สนธิเผยต้องฉีดยาก่อนปราศรัย ลั่นยืนตากฝนคนเดียวก็จะสู้จนตาย

ต่อมาในเวลา 21.30 น. แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทั้ง 5 ได้ขึ้นเวทีปราศรัย โดย นายสนธิ ลิ้มทองกุล กล่าวว่าวันนี้เป็นไข้ฉีดยาไปแล้ว 1 เข็มตอนเช้า พูดเสร็จจะไปฉีดอีก พิษไข้สูงแต่สติปัญญาครบถ้วน และกล่าวว่าได้ลั่นสัจวาจาว่าสงครามนี้เป็นสงครามครั้งสุดท้าย ไม่ทางโน้นไป ผมก็ไป ผมจะไม่ลุกและถอยหนี ผมให้สัจจะวาจากับฟ้าดิน จุดธูป 19 ดอกปักลงบนพื้นดินวันที่ 25 ถ้าผมจะกลับบ้านพระอาทิตย์อีกครั้งหนึ่งต้องกลับมาพร้อมชัยชนะ ผมกำลังเรียกแผ่นดินไทยที่ศักดิ์สิทธิกลับคืนมาให้กับพี่น้องที่มีจริยธรรม คุณธรรม ศีลธรรม

 

เมื่อผมทำเช่นนี้แล้ว ผมต้องยืนตากฝน สู้อยู่คนเดียวในแผ่นดินไทยก็จะสู้จนตัวตาย แต่อย่าดูถูกความศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินนี้ที่มีคนไทยอีกมากหลายพร้อมมาร่วมกระบวนการกับผมและพันธมิตรฯ เพื่อเรียกแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์กลับคืนมา

 

นายสนธิยังยืนยันว่าแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทั้ง 5 คนจะไม่หนีไปไหน อยู่ร่วมกับพี่น้อง ถ้าพี่น้องอยู่ร่วมกับแกนนำ ถึงพี่น้องบางส่วนจะอยู่หรือไม่อยู่แกนนำทั้ง 5 คนก็จะอยู่ นายสนธิยังกล่าวว่าโจรจะกลัวประชาชนที่ฮึดสู้ นอกจากนี้ยังบอกว่ารัฐบาลไม่มีน้ำยา ไม่มีปัญญา และคนในรัฐบาลเวลาไม่มีอำนาจรัฐก็เหมือนสัตว์เลื้อยคลาน เหมือนจิ้งจก เอาอะไรทุบโต๊ะเบาๆ ก็ไต่ฝาผนังหนี แต่เวลามีอำนาจรัฐเบ่งท้องตัวเองพยายามทำเป็นจระเข้ ทำเท่าไหร่ก็กลายเป็นไอ้จิ้งจกท้องป่อง และกล่าวว่าคนอย่าง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเวลาไม่มีอำนาจ ไม่มีอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว

 

 

ยังอ้าง "ทักษิณ" จะตั้งราชวงศ์ใหม่ ท้าให้รัฐบาลสลายชุมนุม ก่อนนำม็อบโห่ 2 นาที

นายสนธิยังระบุว่า กรณีของนายจักรภพ เพ็ญแข เป็นกระบวนการที่เกิดมานานแล้ว ตั้งแต่ พ.ต.ท.ทักษิณลี้ภัยไปต่างประเทศหลังรัฐประหาร 19 ก.ย. 2459 และเขายังกล่าวหาว่า พ.ต.ท.ทักษิณหว่านเงินให้ น.ป.ก. และหว่านรากหญ้าเพื่อซื้อเสียง ซื้อข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่ขายชาติ และส่วนที่จ้องล้มล้างสถาบันกษัตริย์ และกล่าวว่าเนื่องจากทักษิณยังคงเป็นปัญหาของแผ่นดิน จึงต้องฟื้นพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง

 

นายสนธิยังกล่าวเช่นทุกครั้งว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นการเคลื่อนไหวครั้งสุดท้าย "การสู้ครั้งนี้จะต้องเหน็ดเหนื่อย ผมบอกแล้วว่าผมอายุมากแล้วผมขอสู้ครั้งสุดท้าย ถ้ามันจะตายเพราะการสู้ครั้งนี้ก็ให้มันตายไป ผมไม่ต้องการลุกขึ้นมา สู้แล้วสู้อีก สู้แล้วสู้อีก สู้ไปทำไม ให้มันได้เสียกันไปเลยงานนี้ พี่น้องพร้อมจะสู้กับผมหรือเปล่า สู้มั้ยย"

 

นายสนธิยังกล่าวว่า รัฐบาลไม่มีความสามารถในการบริหารเศรษฐกิจ ทำแต่เรื่องให้ทักษิณกลับมามีอำนาจ จะได้รวบประเทศไทยให้ตกอยู่ในมือทักษิณสร้างราชวงศ์ใหม่อีก ตัวเขาไม่มีวันยอม และหากมีอะไรเกิดขึ้นขอให้ประชาชนจำชื่อ พล.ต.อ.พัชรวาทย์ วงศ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติต้องรับผิดชอบ

 

โดยนายสนธิ ได้ท้าทายว่า "ผมอยากให้รัฐบาลชุดนี้จบลงด้วยการสลายพวกเรา จบแล้วเราเช็คบิลเป็นรายตัว" และก่อนเลิกปราศรัยนายสนธิ ได้เชิญชวนให้ประชาชนที่มาชุมนุมส่งเสียงโห่ไล่รัฐบาลชุดนี้เป็นเวลา 2 นาที ให้คนในรัฐบาลได้ยิน

 

 

"ภูวดล" เรียกร้องไล่ "เกี๋ยวกุ้ย" ทำลายระบบเส็งเคร็งถวายเป็นราชพลี

ศ.ดร.ภูวดล ทรงประเสริฐ คณะสังคมศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ กล่าวว่า ขอให้พี่น้องใน กทม. อย่าลังเลใจมาร่วมมือกับพี่น้องชาวภูธรที่กำลังเข้า กทม. มาทำสงครามอันศักดิ์สิทธิ์ เพราะไม่เคยมียุคสมัยใดที่บ้านเมืองตกต่ำขนาดนี้ ขอร้องคน กทม. เป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่น้องลูกหลานชาวจีนโพ้นทะเลทุกท่าน อาเจก อาม่า อาซิ้ม อาเฮีย อาแปะ กรุณาเถอะครับให้ลูกหลานของท่านพรุ่งนี้จงมาร่วมมือกันขับไล่ทรราชย์ให้หมดไปจากประเทศไทยให้ได้ คนแบบนี้ เกี๋ยวกุ้ย (อันธพาล) แบบนี้ อาเจก อาแปะอย่าได้ลังเลใจ ปิดบริษัทมาร่วมกับมหาประชาชน ร่วมกันทำลายระบบเส็งเคร็งนี้ให้หมด ถวายเป็นราชพลีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวหรือสถาบันอันสูงสุดของเรา

 

"บ้านนี้เมืองนี้มันต่ำสุดๆ อยู่แล้ว ดูได้จากพฤติกรรมลูกหลานของเรา มันถูกมอมเมาจนจบสิ้นไปแล้วหรือ เราจะปล่อยให้มันตายอย่างเขียดอย่างนี้หรือ เราต้องมาสร้างกรรมดีให้ลูกหลานของเรา ส่วนลูกหลานคนอัปรีย์ช่างแม่งมันไม่ต้องไปสนใจ มันตายอยู่แล้ว ไม่ต้องไปพูดถึงว่ามันจะลาออกหรือจะไม่ ภารกิจศักดิ์สิทธิของเราคือจะขุดรากถอนโคนระบอบทักษิณให้หมดไปจากประเทศไทยให้ได้"

 

หยุดกิจการไปวันสองวันไม่มีปัญหาหรอกครับ จะได้หมดสิ้นเสียที ระบบการเมืองแบบโสโครกโสมมจะได้หมดไปเสียที ถ้าระบอบทักษิณดำรงอยู่ต่อไปจะยิ่งกว่า Countdown คือมันหมดสิ้นเลย ผมไม่โกรธ ไม่โทษคนชนบท เพราะไอ้พวกนายทุนสามานย์ได้มอมเมาพี่น้องชนบท ลองพี่น้องชนบทได้มีโอกาสรับรู้ข่าวสารข้อเท็จจริงคงไม่ปล่อยคนจัญไรมีอำนาจปกครอง วันนี้บุคคลคนนี้มาในวัดโสมมัสผมก็รู้ มันยังล็อบบี้กระทั่งในงานศพคุณแม่ ผบ.ทบ. พูดตรงนี้ มันก็อาจยังนั่งฟังอยู่ อีกไม่ช้าไม่นานมันก็คงเป็นศพ เพราะคนๆ นี้ไม่ได้สร้างกรรมดีให้ชาติบ้านเมืองเลย

 

 

"เทิดภูมิ" ชี้แนวทางพันธมิตรฯ ถูกต้อง รับประกัน "จำลอง&สนธิ" ยอมตาย

นายเทิดภูมิ ใจดี กล่าวว่า การต่อสู้ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยยึดถือประชาชนเป็นสำคัญ ประชาชนเป็นผู้กำหนดการต่อสู้ บัดนี้พี่น้องประชาชนได้กำหนดแล้วว่าจะต่อสู้ต่อไป ประวัติศาสตร์การต่อสู้ของประชาชนไม่ว่าที่ไหนในโลกนี้ประชาชนไม่เคยแพ้ การต่อสู้ของพันธมิตรฯ มีพร้อมทุกอย่าง พี่น้องเราสนับสนุนอาหารการกิน ไม่มีที่ไหนจะอุดมสมบูรณ์อย่างนี้อีกแล้ว คือพี่น้องสนับสนุนซึ่งกันและกัน มีทิศทางที่ถูกต้อ

 

 ในทางการเมืองทฤษฎีกำหนดว่าถ้าหากเราต่อสู้ในทิศทางที่ถูกต้อง จากไม่มีสู่มี จากอ่อนไปสู่แข็ง จากเล็กไปสู่ใหญ่ จะเห็นว่าทิศทางการต่อสู้ของพวกเราถูกต้อง ถ้าหากไม่ถูกต้อง จากใหญ่ไปสู่เล็ก จากมีไปสู่ไม่มี เหมือนพวกผู้แทนฯ ที่มีเสียงในมือ 300 กว่าเสียงแต่ทำงานไม่สอดคล้องผลประโยชน์ประชาชนคนส่วนใหญ่ แต่พวกเราต่อสู้อย่างสอดคล้องผลประโยชน์ประชาชนคือสู้กับพวกชั่วครองเมือง รัฐบาลเหี้ย เป็นเป้าหมายที่เราต้องสู้ และโค่นล้มให้ได้

 

ความขัดแย้งกับประชาชนไม่สามารถประนีประนอมได้ แม้เขาจะถอนร่างรัฐธรรมนูญ แม้จะไล่นายจักรภพไป พวกเราก็ไม่ยอม ถ้าพวกเราไม่ยอมทุกสิ่งทุกอย่างก็นำไปสู่ชัยชนะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ยืนหยัดกล้าหาญที่เราต้องยอมรับอย่าง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง พี่น้องต้องปรบมือให้ ถ้าไม่มีคนๆ นี้ตำรวจเข้ามาระรานใหญ่แล้ว ตำรวจกลัวเพราะคนๆ นี้สู้ทุกรูปแบบ ไม่ใช่อาวุธ

 

"ถ้าพี่น้องไม่ได้มาร่วมมือกันแบบนี้ คนชั่วก็ครองเมืองต่อไป เราจะไม่อนุญาตให้บ้านเมืองชิบหายต่อหน้าต่อตา ตราบใดที่เรามีผู้นำอย่าง พล.ต.จำลอง และคุณสนธิ ลิ้มทองกุลที่จะยืนหยัดเคียงบ่าเคียงไหล่กับพี่น้องประชาชน เขายอมตายครับ"

 

 

เลขา สรส. "สาวิทย์ แก้วหวาน" ประณามรัฐบาลปล่อยของแพงค่าแรงถูก

เมื่อเวลา 1.00 น. เศษ ของวันที่ 30 พ.ค. นายสาวิทย์ แก้วหวาน เลขาธิการสมาพันธ์รัฐวิสาหกิจสัมพันธ์แห่งประเทศไทย (สรส.) ได้ขึ้นเวทีพันธมิตรฯ เขากล่าวว่า เขาเคยขึ้นเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเมื่อปี 2549 และหากพี่สุวิทย์ วัดหนู อยู่จนถึงวันนี้คงมาทำหน้าที่เฉกเช่นที่เราทำทุกวันนี้ หลายคนพูดถึงความเลวร้ายของระบอบทักษิณที่บ่อนทำลายทุกอณู ประชาชนทุกพื้นที่อยู่ภายใต้ภาวะอดอยาก ยากแค้น แสนเข็ญ ซึ่งเรื่องนี้พันธมิตร พล.ต.จำลองและพันธมิตรฯ พูดกันมาตั้งแต่ต้น และรัฐบาลนี้ไม่ได้แก้ปัญหาอะไรเลย ราคาน้ำมันดีเซลที่เป็นต้นทุนและปัจจัยการผลิตสำคัญก็ดีดตัวถึงลิตรละ 40 บาท วันนี้เรามีรัฐบาลแบบนี้เราก็เห็นความเป็นไปของบ้านเมืองเป็นแบบนี้ เราต้องการเห็นสิ่งเหล่านี้ดำรงอยู่ต่อไปหรือเปล่า

 

นายสาวิทย์กล่าวต่อว่า การเปลี่ยนผ่านรัฐบาลอยู่ได้หรือไม่ได้อยู่ที่พฤติกรรมรัฐบาล ถ้ารัฐบาลไม่แก้ไขปัญหาสังคมเราก็มีสิทธิขับไล่รัฐบาล ในทางรัฐศาสตร์รัฐบาลไม่มีสิทธิเกลียดประชาชน แต่ประชาชนมีสิทธิเกลียดรัฐบาล เพราะประชาชนเลือกรัฐบาล หลังการเลือกตั้งรัฐบาลต้องดำเนินการบำบัดทุกข์บำรุงสุขของประชาชน ภารกิจนี้เป็นภารกิจแห่งรัฐ ถ้ารัฐบาลละทิ้งหน้าที่เหล่านี้ก็เปล่าประโยชน์ที่จะมีรัฐบาล

 

เขากล่าวต่อว่า มีผู้กอบโกยหวังผลประโยชน์และสั่งสมความร่ำรวย มีการเก็งกำไรราคาน้ำมัน เมื่อปี พ.ศ.2545 ที่ผ่านมา สรส. และภาคปรชาชนต่อสู้เพื่อยุติการแปรรูป ปตท. น่าเสียดายที่ไม่อาจทัดทานการแปรรูปไว้ได้ ในเวลาเพียง 1 นาที 17 วินาทีจากการขายหุ้นแบบสุ่ม ทำให้ หุ้น ปตท. ไปอยู่ในมือตระกูลชินวัตร จึงรุ่งเรืองกิจ ดามาพงศ์ อยู่ในแวดวงนักการเมืองทั้งสิ้น หายนะและวิบากกรรมในบ้านเมือง เป็นสิ่งที่เราขบคิดและทบทวน ถึงเวลาที่เราจะเอา ปตท. กลับคืนมาหรือยัง

 

นายสาวิทย์ยังกล่าวว่าประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกข้าว ชาวนาเป็นกระดูกสันหลังของชาติ ราคาข้าวสารมาเลเซียถูกกว่าไทยเป็นไปได้อย่างไร คนหน้าเหลี่ยมบอกว่าจะฟื้นฟูชาวนาไทยแต่เอาแขกซาอุมาทำนาคิดได้อย่างไร นอกจากนี้ผู้ใช้แรงงานก็ได้รับค่าแรงไม่สอดคล้องกับค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้น ต่างจังหวัดได้รับค่าแรงน้อยกว่ากรุงเทพทั้งที่ค่าครองชีพก็พอกัน

                                    

 

ยันการชุมนุมเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน ชักชวนพนักงานรัฐวิสาหกิจร่วมชุมนุมศุกร์นี้

"สิทธิการชุมนุมเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน สื่อบางชนิดบอกว่าทำให้เดือดร้อน พี่น้องที่รักทั้งหลายเชื่อหรือเปล่า การชุมนุมของเราทำให้การจราจรติดขัดเชื่อหรือเปล่า หลังเสร็จการชุมนุมพี่น้องที่รักทั้งหลาย จะเสร็จวันไหนไม่รู้ อยู่ที่พวกเรา เสร็จการชุมนุมพี่น้องกลับมาดูว่าถนนเส้นนี้รถติดหรือเปล่า ติดไม่ติด พี่น้องลองไปสีลมดูไม่มีการชุมนุมติดไม่ติด ถ้าไม่เชื่อฟัง จส.100 ก็ได้ เขารายงานในช่วงเช้าติดทุกสายใช่หรือเปล่า เพราะฉะนั้นอย่าเชื่อในข้ออ้างทั้งหลาย สิทธิการชุมนุมเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน ซึ่งจะบอกว่าประเทศนี้เป็นหรือไม่เป็นประชาธิปไตย ถ้าเรารักในประชาธิปไตยต้องออกมาชุมนุมใช่ไหม" นายสาวิทย์กล่าว

 

นายสาวิทย์ยังกล่าวว่า เขาและพนักงานรัฐวิสาหกิจมากันทุกวัน และตัวเขาเองก็อยู่หลังเวที ขอฝากไปถึงพนักงานรัฐวิสาหกิจว่า ในเวลา 17.30 น. วันพรุ่งนี้ (30 พ.ค.) ให้มาเข้าร่วมการชุมนุมกับพี่น้อง มาทำภารกิจปกบ้านป้องเมืองให้กับคนรุ่นต่อๆ ไป พรุ่งนี้ให้มากันเยอะๆ ให้มืดฟ้ามัวดิน ให้รู้ไปว่าทำเนียบแห่งนี้เราเข้าไปได้ เราไม่อยากไปเอง เพราะตำรวจมากั้นเราข้างหน้า ในความเป็นจริงถ้าต้องการจะไปเมื่อไหร่ก็ไปได้

 

ตำรวจเราก็ให้เกียรติ แม้จะมีการกระทบกระทั่งกันบ้าง แต่หากสถานการณ์จำเป็นคับขันไม่มีใครกลัวใคร คนตัวเล็ก ตัวใหญ่ เวลาโมโหก็เท่ากัน เป็นที่ทราบว่าประวัติศาสตร์การเมืองไทยกระสุนปืนและรถถังไม่อาจหยุดยั้งมหาชนได้ เราไม่ได้เรียกร้องให้เกิดความรุนแรง เราพยายามใช้แนวทางสันติวิธีในการต่อสู้ เรายืนหยัดมุ่งมั่นเพื่อรักษาชาติบ้านเมือง แกนนำอาจอยู่กับเราไม่นาน แต่บ้านนี้เมืองนี้ยังต้องอยู่กับเรา เพราะฉะนั้นเราจำเป็นต้องสืบสานภารกิจเหล่านี้ ไม่งั้นลูกหลานไทยวันข้างหน้าก็ไม่มีอะไรเหลือ นายสุวิทย์กล่าวในที่สุด

 

ที่มาของข่าวบางส่วน: หนังสือพิมพ์ข่าวสด

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท