สรุปสถานการณ์เกี่ยวกับประเทศพม่า ประจำวันที่ 24 - 30 พ.ค. 2551

24 พ.ค.51

 

เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นไล่ผู้ประสบภัยกลับบ้าน

 

เจ้าหน้าที่ทางการพม่าในตัวเมืองโบเลและเมืองเมาะละ มยาย จูนไล่ผู้ประสบภัยที่เดินทางมาจากเขตชนบทที่ถูกพายถล่มกลับบ้าน นอกจากนี้ยังห้ามผู้ประสบภัยสร้างที่พักและอยู่ตามท้องถนนในช่วงที่กลุ่มบรรเทาทุกข์และผู้นำระดับสูงเยือนในพื้นที่ เนื่องจากเจ้าหน้าที่หวั่นจะเสียภาพพจน์ที่ไม่สามารถดูแลผู้ประสบภัยได้ทั่วถึง

 

นอกจากนี้มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ดังกล่าวได้บังคับผู้ประสบภัยไปทำงานในเมืองโมบิน โดยจ่ายค่าจ้างให้วันละ 1,000 จั๊ต(28 บาท)เท่านั้น ขณะที่ชาวบ้านในเมืองโบกาเลเปิดเผยว่า ผู้ประสบภัยไม่ได้รับความช่วยเหลือด้านอาหารและที่พักที่เพียงพอจากทางการพม่า ด้านยูเอ็นระบุ พื้นที่ในเมืองโบกาเลได้รับความเสียหายจากพายุไซโคลนนาร์กีสไปกว่า 95 เปอร์เซ็นต์ (Irrawaddy/ภาพAFP)

 

 

 

25 พ.ค.51

ทหารพม่าบังคับใช้แรงงานในรัฐชิน

 

ทหารพม่าจากกองพันที่ 289 ในเมืองปะแล้ตวา รัฐชิน บังคับให้ชาวบ้านในพื้นที่ซ่อมแซมโรงเรือนทหารและขุดคลองตั้งแต่วันที่ 19 ของเดือนนี้ โดยชาวบ้านจะต้องไปทำงานให้กับทหารตั้งแต่เวลา 06.00 น.ไปจนถึงช่วงบ่ายโดยไม่ได้รับค่าจ้างและอาหารจากทหารแต่อย่างใด (Kaladan)

 

26 พ.ค. 51

ไฟไหม้สถานทูตพม่าในกรุงเทพฯ

 

เกิดเหตุไฟไหม้ในสถานทูตพม่าเมื่อเวลา 07.45 น.ของเช้าวันจันทร์ที่ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยเพลิงไหม้ได้ทำลายอาคารไปกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะสามารถควบคุมเพลิงได้ในเวลา 09.00 น. อย่างไรก็ตามไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุไฟไหม้ครั้งนี้(Mizzima)

 

ทหารพม่าเรียกเก็บเงินชาวบ้านซื้อวัวควายให้ผู้ประสบภัยนาร์กีส

 

ศูนย์บัญชาหารทหารพม่าประจำภาคตะวันออกซึ่งมีฐานที่มั่นอยู่ในเมืองตองจี เมืองหลวงของรัฐฉาน ออกคำสั่งให้กองบัญชาการในทุกพื้นที่ของรัฐฉานเรียกเก็บเงินชาวบ้านให้ได้ แห่งละ 1 ล้านจั๊ต(28,401 บาท)  เพื่อนำไปซื้อวัวควายจำนวน 500 ตัวมอบให้กับผู้ประสบภัยจากพายุไซโคลนาร์กีสในพื้นที่ปากแม่น้ำอิระวดี โดยคำสั่งดังกล่าวเป็นคำสั่งโดยตรงจากรัฐบาลพม่าในกรุงเนย์ปีดอว์ อย่างไรก็ตาม ประชาชนในรัฐฉานต่างเกรงว่าทหารพม่าในแต่ละพื้นที่จะยักยอกเงินดังกล่าว (S.H.A.N/ภาพผู้จัดการ)

 

 27 พ.ค. 51

ทางการพม่าชี้ประชาชนในพื้นที่ประสบภัยเห็นชอบรธน.ท่วมท้น

ทางการพม่าประกาศว่าประชาชนใน 47 พื้นที่ประสบภัยเห็นชอบรัฐธรรมนูญอย่างท่วมท้นในการลงประชามติในวันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยคิดเป็น 92.93 เปอร์เซ็นต์ของผู้มีสิทธิลงประชามติจำนวน 4, 580,393 คน เช่นเดียวกับผลการลงประชามติเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งรัฐบาลก็ได้ออกมาประกาศว่าประชาชนเห็นชอบรัฐธรรมนูญคิดเป็นร้อยละ 92 เช่นกัน

 

ขณะที่มีรายงานว่า ในการลงประชามติในวันที่ 24 ที่ผ่านมา ชาวบ้านนั้นถูกบังคับและข่มขู่จากทางการให้เห็นชอบกับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ อีกทั้งเจ้าหน้าที่ตามหน่วยลงประชามติได้ทำเครื่องหมายถูกเห็นชอบกับรัฐธรรมนูญไว้แล้ว (DVB)

 

28 พ.ค. 51

แรงงานพม่าในระนองและพังงาตกงาน เหตุเรือประมงหยุดหาปลา 3 เดือน

 

แรงงานพม่าในจังหวัดระนองและพังงาอาจต้องตกงานเพิ่มมากขึ้นหลังนายจ้างและผู้ประกอบการประมงมีแผนจะหยุดเดินเรือหาปลาเป็นเวลา 3 เดือน เนื่องจากแบกรับค่าน้ำมันไม่ไหวในขณะที่สามารถจับสัตว์ทะเลได้เล็กน้อยไม่คุ้มทุน นอกจากนี้ยังหวาดกลัวภัยกับพิบัติทางธรรมชาติ อย่างไรก็ตามพบว่า ในจังหวัดพังงามีเรือประมงที่เตรียมหยุดเดินเรือถึง  80 เปอร์เซ็นต์  (IMNA)

 

เอ็นแอลดีเรียกร้องรัฐบาลชี้แจงเหตุขยายเวลากักขังซูจี

 


พรรคเอ็นแอลดีของนางอองซาน ซูจีเรียกร้องให้รัฐบาลชี้แจงเหตุผลการขยายระยะเวลากักขังนางอองซาน ซูจีต่อไปอีกหกเดือน ขณะที่นักวิเคราะห์เชื่อว่ารัฐบาลพม่าน่าจะขยายระยะเวลาการกักขังนางซูจีไปอีหนึ่งปี

 

ด้านนายจอร์จ ดับเบิ้ลยูบุช ประธานธิบดีสหรัฐกล่าวรู้สึกแสดงความเสียใจต่อการตัดสินใจของรัฐบาลพม่าครั้งนี้  อย่างไรก็ตามสหรัฐจะยังคงเรียกร้องให้รัฐบาลพม่าปล่อยตัวนักโทษการเมืองทั้งหมด พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลพม่าหันหน้าเจรจากับพรรคฝ่ายค้านและชนกลุ่มน้อยในประเทศต่อไป ขณะที่สมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมืองพม่าหรือ AAPP เรียกร้องให้รัฐบาลพม่าปล่อยตัวนางอองซาน ซูจีโดยด่วน (Irrawaddy)

 

 29 พ.ค.51

ทหารพม่าประกาศนาร์กีสลูกใหม่จะเข้าถล่มรัฐมอญ

ทหารพม่าในเมืองตานพิวซยัดและเมืองมุเดิงประกาศว่าพายุไซโคลนนาร์กีสลูกใหม่จะพัดเข้าถล่มในพื้นที่ดังกล่าวในอีกไม่กี่วัน สร้างความแตกตื่นและหวาดกลัวให้กับชาวบ้านบางส่วนไม่กล้าออกไปทำงาน  ขณะที่ชาวบ้านส่วนใหญ่ในพื้นที่ยังไม่ได้อพยพหนีภัยเนื่องจากไม่เชื่อคำประกาศของทหารพม่าในพื้นที่ โดยสถานีโทรทัศน์ของรัฐบาลพม่าเองไม่ได้เสนอข่าวพายุลูกใหม่จะถล่มในพื้นที่แต่อย่างใด (IMNA)

 

30 พ.ค. 51

สภาคองเกรสชี้ อาจเกิดการปะท้วงใหญ่หลังนาร์กีส

สำนักงานวิจัยแห่งสภาคองเกรสชี้ว่า ความมั่นคงในพม่าอาจสั่นคลอนและเกิดการประท้วงรอบใหม่ หลังเหตุการณ์พายุไซโคลนนาร์กีสพัดถล่มพม่า เนื่องจากพื้นที่ประสบภัยนั้นเป็นแหล่งผลิตอาหารที่สำคัญของประเทศ  ความเสียหายในพื้นที่ดังกล่าวจะทำให้ประชาชนในประเทศขาดแคลนอาหารอย่างหนัก  ส่งผลให้สินค้าอุปโภคและบริโภคในประเทศปรับขึ้นราคา บวกกับประชาชนไม่พอใจที่รัฐบาลทำการช่วยเหลือผู้ประสบภัยล่าช้า

 

 

โดยในขณะนี้ราคาอาหารในพม่านั้นปรับขึ้นคิดเป็นร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว และคาดว่าจะพุ่งสูงขึ้นต่อไปอีกหลายเดือน ซึ่งอาจจะมีการประท้วงรอบใหม่เช่นเดียวกับเหตุการณ์ประท้วงใหญ่ในรอบ 20 ปีเมื่อเดือนกันยายนของปีที่แล้ว ที่มีสาเหตุมาจากการปรับขึ้นราคาน้ำมันอย่างพรุ่งพรวดของรัฐบาล(Irrawaddy/ภาพAFP)

 

 

---------------

CHUEM NEWS โดย ศูนย์ข่าวสาละวิน

ติดตามสถานการณ์ในพม่าและบทความต่าง ๆ ที่น่าสนใจได้ที่     www.salweennews.org  

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท