31 พ.ค. 2551 จากกรณีสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าพยายามผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางโรงถลุงเหล็ก เหล็กต้นน้ำ เพื่อรองรับการลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติจากกเนเธอร์แลนด์ ญี่ปุ่น และจีน อย่างเร่งด่วนและมีการผลักดันทั้งผลการศึกษาและคณะกรรมการชุดพิเศษ เตรียมไว้แล้วนั้น

นายสุพจน์ ส่งเสียง รองประธานกลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึงผู้คัดค้านโรงถลุงเหล็กสหวิริยา ที่อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์กล่าวว่า ความพยายามผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุนโรงถลุงเหล็กนั้น ถูกทำอย่างเป็นขบวนการมีการโยนลูกระหว่างสถาบันเหล็กและเหล็กกล้า สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และนักการเมือง  เป็นการผลักดันโดยไม่ได้คำนึงถึงผลประโยชน์แก่ประเทศชาติอย่างแท้จริง และจะเป็นต้นเหตุในการสร้างความยากจนแก่ชาวบ้านในพื้นที่เวสเทิร์นซีบอร์ดและเซาท์เทิร์นซีบอร์ดทั้งหมด

นี่เป็นเรื่องใหญ่ จำเป็นอย่างยิ่งที่เราในฐานะชาวบ้านที่จะเป็นผู้ได้รับผลกระทบในระยะยาวและเป็นผู้คัดค้านโรงถลุง ต้องให้ข้อมูลข้อเท็จจริงแก่นักลงทุนแบบวันสต๊อปเซอร์วิส เหมือนกัน  จะส่งตรงแก่นักลงทุนโดยไม่ผ่านระบบราชการและนักการเมือง ดังนั้นขอให้นักลงทุนต่างชาติมั่นใจได้ว่า เป็นของจริงจากพื้นที่ และเป็นความเสี่ยงในการลงทุนที่รัฐบาลเราคงไม่แจ้งให้ท่านทราบ และ นี่เป็นการให้ข้อมูลที่รอบด้านเพื่อช่วยประกอบการตัดสินใจที่ถูกต้องในการลงทุน

เราเห็นว่า สศช.กำลังอยู่ในสภาวะเหมือนคนจนแต้มที่จะรักษาตัวเลขจีดีพีให้ดูดีได้ จึงใช้โรงถลุงเหล็กมาเป็นหัวหอกของการพัฒนา ทั้งๆที่มีผลการศึกษาของทีดีอาร์ไอ.แล้วว่าโรงถลุงเหล็กเป็นอุตสาหกรรมที่ไทยไร้ราก เพราะต้องนำเข้าวัตถุดิบหลักคือถ่านหินและแร่เหล็กทั้งหมดและ ต้องนำเข้าเทคโนโลยีทั้งหมดเช่นกัน รวมทั้งต้องใช้ไฟฟ้าสูงมาก สร้างภาระให้กับรัฐต้องลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ สร้างความแตกแยกในชุมชนและสังคม แต่โรงถลุงเหล็กกลับสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศรษฐกิจน้อยมาก รัฐบาลจะต้องอุ้มอุตสาหกรรมนี้ตลอดไปเพราะไม่สามารถพึ่งตัวเองและไม่สามารถไปแข่งขันกับประเทศอื่นได้จริงโดยเฉพาะกับประเทศที่มีวัตถุดิบเองทั้งถ่านหินและเหล็กเช่นอินโดนีเซีย จึงเป็นธุรกิจที่บีโอไอไม่ควรส่งเสริมการลงทุนให้ไทยเป็นฮับด้านโรงถลุง เพราะยุทธศาสตร์ของคนไม่ฉลาดพอ

เราเห็นว่า จุดแข็งที่ดึงดูดใจแก่นักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาลงทุนสร้างโรงถลุงในไทยคือมีที่ทิ้งขยะพิษจากโรงถลุงราคาถูกๆ ไม่สามารถตรวจสอบและควบคุมมลพิษได้จริงและมีระบบราชการและนักการเมืองที่คอรัปชั่นอย่างเข้มแข้ง ทำให้สามารถลดต้นทุนได้