Skip to main content
sharethis


สันติอาสาสักขีพยาน

 


 


ศาสนสถานเป็นสถานที่สำคัญและเป็นที่เคารพของศาสนิกชน กล่าวคือ มัสยิดเป็นศาสนสถานของชาวมุสลิม เป็นบ้านของพระเจ้า (อัลลอฮ) เป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจ เป็นที่ปลีกตน เพื่อความสันโดษ (อิอตีกาฟ) เพื่อความสงบ ขณะที่วัดเป็นสถานที่ฝึกฝนพัฒนาจิตใจสู่ความสงบและสันติ รวมทั้งประกอบศาสนกิจของผู้ที่นับถือศาสนาพุทธ ....


 


ขณะนี้ วัดและมัสยิดบางพื้นที่ของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ถูกทำร้ายด้วยการกราดยิง ขว้างระเบิด และเผาทำลาย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ศาสนิกชนเริ่มมองกันในแง่ร้ายเกิดความไม่พอใจ โกรธเคือง จากการกระทำที่โหดร้ายทารุณดังกล่าว


 


"กะรู้สึกโกรธและเคืองมาก เมื่อรู้ว่าสามีถูกระเบิดขณะกำลังละหมาดในมัสยิด คืนนั้นไม่รู้ว่ากะด่าอะไรไปบ้าง และที่โกรธมากกว่านั้น มีคนบอกอีกว่า ระเบิดมาจากคนที่ไปละหมาด มันจะเป็นไปได้อย่างไรในเมื่อคนจะไปละหมาด ไปทำความดี ไม่มีทางที่ใครจะพาระเบิดไป  และคนที่ไปละหมาดอายุก็มากแล้ว" เป็นความรู้สึกจากภรรยาของเหยื่อจากเหตุระเบิดในมัสยิด ลิปะสะโง ต.ลิปะสะโง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เกิดเหตุเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2551


 


เหตุระเบิดในมัสยิดครั้งนี้รุนแรงมากที่สุด เพราะมีผู้เสียชีวิต 2 คน บาดเจ็บสาหัส 5 คนและบาดเจ็บเล็กน้อยอีก 5 คน รวมทั้งหมด 12 คน หนึ่งในนั้นถูกตัดขาทั้ง 2 ข้าง  และส่วนใหญ่เป็นคนแก่อายุ 50 - 70 ปี และที่เป็นปัญหามากกว่านั้นคือเมื่อมีข่าวออกมาว่า ระเบิดดังกล่าวเป็นระเบิดที่มาจากคนไปละหมาดทำพลาดตกกลิ้งจนเกิดระเบิดขึ้น


 


พ.ต.อ.จีรวัฒน์ อุดมสุด รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี ให้สัมภาษณ์ในมติชนออนไลน์ วันที่ 2 พฤษภาคม 2551 ว่า เบื้องต้นตั้งประเด็นสอบสวนไว้ 3 ประเด็น คือ 1. การก่อเหตุสร้างสถานการณ์ของกลุ่มแนวร่วมก่อความไม่สงบ ที่ต้องการเบี่ยงแบนการติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุยิงถล่มฐานอาสาสมัครรักษาดินแดนอำเภอหนองจิก 2. แก้แค้นให้นายมะนาวี ปูลา ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีความมั่นคงที่หลบหนีเข้ามากบดานในพื้นที่ตำบลบางเขา อำเภอหนองจิก และถูกจับกุมช่วงเย็นวันที่ 1 พฤษภาคม 2551 สุดท้ายประเด็นที่ 3. อาจมีผู้ทำระเบิดตกหล่น เนื่องจากพบว่าวิถีแรงระเบิดได้กดลงล่างจึงอาจเป็นไปได้ที่มีผู้นำระเบิดเข้ามาแล้วเกิดความผิดพลาด


 


ภรรยาของผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์เล่าว่า "หลังเกิดเหตุการณ์ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ทหารก็มากันเต็ม ไม่รู้เป็นอะไรกันบ้าง แต่ไม่ได้อธิบายเหตุการณ์ให้ฟัง เราคิดว่า คนมุสลิมไม่ทำกับคนที่กำลังละหมาดในบาลาเซาะห์ (สุเหร่า) แต่เป็นใครก็ไม่รู้"


 


"ลูกชาย ซึ่งกำลังละหมาดในมัสยิดนี้ด้วย ยืนเป็นคนที่ 2 ของแถวใกล้หน้าต่าง ได้ยินคนเดินมาแถวหน้าต่าง และเห็นมือลาง ๆ ยื่นเข้ามาจากหน้าต่างที่เปิดตลอด ได้ยินเสียงหนักๆ ตกลงมาที่พื้นก็หันมาดู และเห็นลูกระเบิดลักษณะกลม กลิ้งไปข้างหน้า และกลิ้งไปถึงคนที่สามของหัวแถวอีกข้าง"


 


เธอยังกล่าวยืนยันเพิ่มเติมว่า "หลังเกิดเหตุไม่นานผู้ใหญ่บ้านเปิดไฟดูร่องรอยใกล้หน้าต่าง ปรากฏว่า เห็นหญ้าเป็นรอยยุบคล้ายคนเหยียบ หรือนั่งเป็นเวลานาน"


 


นอกจากนี้ภรรยาของผู้เสียชีวิตคนดังกล่าวยังตั้งข้อสังเกตว่า "ตอนเช้าเห็นในทีวีบอกว่า มีคนเอาระเบิดเข้าไป ขอถามว่า ทำไมเขาต้องพูดอย่างนั้น ทำไมข่าวต้องโกหกด้วย ที่จริงเจ้าหน้าที่เขาก็มากันเต็ม ถามชาวบ้านกันแล้วตั้งแต่คืนนั้น ถ้าออกอย่างนั้นก็ไม่ต้องมาให้เสียเวลา"


 


"อยากให้บอกความจริงว่าระเบิดมาจากหน้าต่างไม่ใช่มาจากคนมาละหมาด ก่อนเกิดเหตุมีฝนตก ได้เห็นร่องรอยคนเดินข้างหน้าต่างอย่างชัดเจน" เธอวิงวอนถึงสื่อและสังคม


 


เหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นภายใต้สถานการณ์ความขัดแย้ง ไม่ควรแถลงข่าวในลักษณะสันนิษฐาน เพราะข้อสันนิษฐานซึ่งยังไม่ใช่ความจริงนั้น อาจกระทบกับอารมณ์ของผู้เสียหาย ไม่เฉพาะกลุ่มคน แต่สามารถขยายเป็นวงกว้าง กลายเป็นความไม่พอใจของกลุ่มหรือชุมชน ตอกย้ำอคติที่เคยมีกับเจ้าหน้าที่รัฐ หรืออาจกลายเป็นเหตุของปัญหาใหม่


 


การก่อเหตุความรุนแรงในศาสนสถาน ไม่เฉพาะมัสยิดเท่านั้น ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2548 เกิดเหตุเผาวัดและฆ่าพระจำนวน 3 รูป ที่วัดพรหมประสิทธิ์ บ้านเกาะ หมู่ที่ 2 ตำบลบ้านนอก อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี โดยใช้วิธีการสังหารที่ทารุณ ในจำนวน 3 ศพ ประกอบด้วย ลูกศิษย์วัด 2 คน ถูกฆ่าราดน้ำมันแล้วเผา และพระสงฆ์อีก 1  รูป วัย 76 ปี ถูกฟันคอแล้วเผาซ้ำ


 


 


สถิติการทำร้ายศาสนสถาน


 


1.วันที่ 13 กรกฎาคม 2548 มีเหตุกราดยิง มัสยิด ไอปายง ตำบลโต๊ะเด็ง อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส หลังจากที่ชาวบ้านไอปายงกำลังทยอยออกจากมัสยิดภายหลังเสร็จละหมาดตอนค่ำ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คน


 


2.วันที่ 16 ตุลาคม 2548 เผาวัดและสังหารพระที่วัดพรหมประสิทธิ์ บ้านเกาะ หมู่ที่ 2 ตำบลบ้านนอก อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี ทำให้ลูกศิษย์และพระเสียชีวิตจำนวน 3 รูป


 


3.วันที่ 30 พฤศจิกายน 2548 เกิดเหตุยิงถล่มกุฎิ และเผารถยนต์ภายในบริเวณวัดตะเคียน หมู่ที่ 2 บ้านภูมี ตำบลไอยามู อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี มีรอยกระสุนที่กุฎิของรองเจ้าอาวาส ด้วยอาวุธปืนอาก้า ลูกซอง หลายรู แต่โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ


 


4.วันที่ 14 มีนาคม เวลา 20.30 น. คนร้ายขว้างระเบิดในมัสยิดอัลมูบาร็อค หรือเรียกว่า มัสยิดบ้านซีเซ๊ะ หมู่ 4 ตำบลบาโร๊ะ อำเภอเมือง จังหวัดยะลา ขณะที่ชาวบ้านกำลังเดินออกจากมัสยิดหลังเสร็จทำภารกิจ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 11 คน สาหัส 3 คน


 


5.วันที่ 5 เมษายน 2550 ยิงถล่มมัสยิด ศูนย์ดะวะห์ บ้านปอเนาะ ตำบลกาตอง อำเภอยะหา จังหวัดยะลา ยิงด้วยด้วยอาวุธสงคราม เป็นเครื่องระเบิด เอ็ม 79 จำนวน 3 นัด พร้อมยิงด้วยปืนอาก้าและ เอ็ม 16 ขณะเตรียมละหมาด ประมาณ 400 คน  ได้รับบาดเจ็บเกือบ 20 คน


 


หลังจากนั้น ยิงใส่มัสยิดบ้านอาสิน หมู่ที่ 5 ตำบลยะหา อำเภอยะหา จังหวัดยะลา ซึ่งห่างกันเพียงแค่ 1 กิโลเมตร แต่เสียหายเล็กน้อยและไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ


 


6.วันที่ 29 เมษายน 2550 ลอบวางระเบิดและกราดยิงมัสยิด อูแตบองอ และชาวบ้าน หมู่ที่ 6 บ้านปูโละปูโย อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ด้วยอาวุธปืนสงคราม ทำให้ผู้นำศาสนา คือ โต๊ะคอเต็บเสียชีวิต 1 คนและบาดเจ็บอีก 3 คน


 


7.วันที่ 31 พฤษภาคม 2550 กราดยิงมัสยิด คอลอมูดอ หมู่ที่ 1 ตำบลจะแหน อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ขณะที่ชาวบ้านกำลังทยอยออกจากมัสยิดหลังจากละหมาดตอนค่ำ ทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 7 คน


 


8.วันที่ 3 มิถุนายน 2550 กราดยิงมัสยิดบ้านไอบาตู ขณะที่ชาวบ้านกำลังละหมาด คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงจากด้านนอกมัสยิด ทำให้นางสาว อาอีซาตา อิบราฮิม อายุ 23 ปี ครูสอนตาดีกาประจำมัสยิดไอบาตู เสียชีวิตคาที่ และมีเหตุชุลมุนขณะที่เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบทำให้มีอีก 1 คนเสียชีวิต


 


9.วันที่ 28 มิถุนายน 2550 ขว้างระเบิดมัสยิดนูรุลฮูดาห์ บ้านปีซัด หมู่ที่ 1 ตำบลลำใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดยะลา ขณะที่ชาวบ้านกำลังละหมาด แรงระเบิดทำให้กำแพงด้านมัสยิดได้รับความเสียหายเป็นรูกว้าง 1 ฟุต กำแพง มัสยิดมีรูพรุน กระจกแตก 4 บาน และแตกร้าวจำนวน 2 บาน แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ


 


10.วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2551 ยิงสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลปากู อำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี ขณะละหมาดที่มัสยิดนูรุดดีน บ้านปาเสปูเต๊ะ หมู่ที่ 2  ตำบลปากู เสียชีวิตคาที่ ด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มิลลิเมตรเข้าศีรษะและลำตัว รวม 3 นัด และอีกคน ถูกลูกหลงที่ขาซ้าย 1 นัด


 


11.วันที่ 18 มีนาคม 2551 เหตุระเบิดภายในมัสยิดอัลมาดีละห์ บ้านลำดา หมู่ที่ 3 ตำบลยุโป มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คน กันสาดด้านหน้ามัสยิด ได้รับความเสียหายบางส่วน นอกจากนั้นตามผนังของมัสยิดมีรอยพรุนจากสะเก็ดระเบิดหลายจุด ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบกระเดื่องระเบิดชนิดเอ็ม 67 ตกอยู่ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คน


 


12.วันที่ 1 พฤษภาคม 2551 ขว้างระเบิดมัสยิดบ้านลิปะสะโง ต.ลิปะสะโง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ขณะที่ชาวบ้านประมาณ 12 คน กำลังละหมาดตอนค่ำในรอบที่ 2 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คนและบาดเจ็บสาหัส 5 คน และบาดเจ็บเล็กน้อย 5 คน


 


ทั้งนี้ การทำร้ายศาสนสถานขณะนี้ ไม่แน่ชัดว่าได้เกิดขึ้นอีกที่ไหนบ้าง แต่เชื่อว่ายังมีอีกหลายที่แต่ไม่ได้ปรากฏเป็นข่าวในสื่อมวลชน


ศาสนสถานเป็นสถานที่ซึ่งลดทอนความโลภ ความโกรธ ความหลง เพื่อสู่ความสงบของมนุษย์ ศาสนสถานกำลังถูกกระทำด้วยความรุนแรง เพื่อสร้างความโกรธ และมุ่งหวังความเกลียดชังระหว่างมนุษย์ ในฐานะที่เป็นศาสนิกต้องพยายามเท่าทันสถานการณ์ เท่าทันตนเอง ไม่ร่วมถลำเข้าไปในความเกลียดชังที่จะทำให้เราหาความสงบให้กับจิตใจตนเองไม่ได้ ส่วนผู้กระทำก็คงเป็นเรื่องยากที่จะหาความสงบให้กับชีวิต แต่จะทำอย่างไรที่จะหยุดก่อเวร สร้างกรรม ถ้าเราหยุดทำร้ายผู้อื่นก็เท่ากับเราหยุดทำร้ายตนเอง


 


ศาสนสถานไม่ว่าจะเป็นวัดหรือมัสยิด เป็นที่อันพึงละเว้น การทำร้ายกัน ในศาสนาอิสลามเองก็ห้ามทำร้ายพระสงฆ์แม้ว่าจะอยู่ในภาวะสงครามก็ตาม ในศาสนาพุทธ การฆ่าชีวิต แม้มิใช่การฆ่ามนุษย์ก็ยังผิดศีล ผู้ที่เข้าไปยังศาสนสถานล้วนมุ่งหวังความสงบ


 


ท่ามกลางความขัดแย้งและความรุนแรง ควรมีที่ว่างสำหรับผู้ที่แสวงหาความสงบ เป็นที่ซึ่งประกันความปลอดภัยให้กับทุกชีวิต (Peace Zone)

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net