Skip to main content
sharethis

พ่อค้าและผู้ประกอบการในตลาดกลางขายส่งข้าวบายินนองที่สุดในประเทศซึ่งตั้งอยู่ในย่างกุ้งฝั่งตะวันตก เปิดเผยว่าข้าวคุณภาพชั้นดีมีราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเกือบสองเท่าตัวหลังจากเกิดพายุไซโคลนนาร์กีส


 


ข้าวพันธุ์ปองซาน มเว(ข้าวหอม) ซึ่งเป็นข้าวคุณภาพดีที่สุดของพม่ามีราคาเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 2 - 3 เดือนพฤษภาคมที่เกิดพายุไซโคลนนาร์กีส จากเดิมราคา 23,000 จั๊ต(657 บาท)ต่อหนึ่งกระสอบ (38 กิโลกรัม) เพิ่มขึ้นเป็น 39,000 จั๊ต (1,114 บาท)ขณะที่ผู้ค้าข้าวในเมืองบายินนองเปิดเผยว่า ไร่นาในพื้นที่ราบลุ่มแม่น้ำทั้งหมด รวมไปถึงโกดังข้าวของเกษตรกรถูกไซโคลนนาร์กีสและน้ำทะเลทำลายเสียหายย่อยยับ ซึ่งข้าวที่ปลูกในพื้นที่ดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นข้าวคุณภาพชั้นดี


 


อย่างไรก็ตามพบว่า พันธุ์ข้าวที่นิยมปลูกมากที่สุดในพม่า ได้แก่ ข้าวพันธุ์ปองซาน มเว, ปอง กเว และตองเปียน ซึ่งเขตพื้นที่ปากแม่น้ำอิระวดีมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับการเพาะปลูกข้าวพันธุ์ดีมากที่สุดในประเทศ โดยเกษตรกรจะเริ่มปลูกข้าวในช่วงเดือนพฤษภาคมและเดือนมิถุนายนก่อนฤดูมรสุม แต่ผลกระทบจากนาข้าวถูกน้ำเค็มท่วมและมีฝนตกชุกอยู่ตลอดเวลาหลังจากนาร์กีส ทำให้ไม่สามารถหว่านเมล็ดข้าวได้ทันในฤดูนี้ ส่งผลให้หกเดือนหลังจากนี้ไม่มีผลผลิตข้าวจากภาคอิระวดี ทั้งนี้ ปกติแล้วราคาข้าวจะสูงที่สุดในช่วงเดือนสิงหาคมและกันยายน


 


เจ้าของโกดังข้าวในเมืองลานมะดอว์กล่าวว่า นับตั้งแต่เหตุการณ์พายุไซโคลนพัดถล่ม ยังไม่มีรถบรรทุกข้าวจากเขตอิระวดีมายังโกดังของเขาเลย ขณะที่แหล่งข่าวจากตลาดกลางค้าส่งข้าวในบายินนองคาดการณ์ว่า ข้าวจะขาดตลาดในอีกไม่ช้า ซึ่งจะทำให้ราคาข้าวพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ ไปจนกว่าเขตภัยพิบัติจะสามารถทำการเพาะปลูกได้ตามปกติ


 


ขณะเดียวกัน ประชาชนในย่างกุ้งเริ่มวิตกว่าข้าวสารจะขาดตลาด ทำให้ประชาชนบางส่วนเริ่มกักตุนข้าวสารไว้แล้ว ทั้งนี้พบว่า ประชาชนในกรุงย่างกุ้งมีความต้องการข้าวอย่างน้อยวันละ 2 ล้านกิโลกรัมหรือ 60,000 กระสอบ โดยข้าวสารกว่า 75 เปอร์เซ็นต์ในย่างกุ้งมาจากภาคอิระวดี


 


นายโซตา รัฐมนตรีด้านการวางแผนและพัฒนาเศรษฐกิจของพม่าเปิดเผยว่า อุปกรณ์การเกษตรไม่ว่าจะเป็น ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง เครื่องมือ และเมล็ดพันธุ์ข้าวมูลค่ากกว่า 220.78 ล้านดอลลาร์ รวมทั้งข้าวอย่างน้อย 1.9 ล้านตันและพื้นที่เพาะปลูกข้าวอีกกว่า 2.4 ล้านเอเคอร์ซึ่งคิดเป็น 10 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่เพาะปลูกทั้งหมดในประเทศได้รับความเสียหายจากพายุนาร์กิส


 


ด้านองค์การอาหารและเกษตรของยูเอ็นหรือเอฟเอโอเตือนว่า ความมั่นคงด้านอาหารของพม่าอาจได้รับผลกระทบ ในขณะที่รัฐบาลพม่าออกมาปฏิเสธว่าประเทศจะไม่ขาดแคลนอาหารหลังจากนาร์กีสพัดถล่มแน่นอน (Irrawaddy/11มิ..51)


 


...........


ที่มาข่าว:


CHUEM NEWS โดย ศูนย์ข่าวสาละวิน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net