Skip to main content
sharethis

ชำนาญ  จันทร์เรือง


                       


ในภาวะที่กำลังเกิดความสับสนวุ่นวายทางการเมืองในปัจจุบัน โดยที่ต่างฝ่ายต่างโบ้ยว่าเป็นความผิดของผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มพันธมิตร กลุ่มนักการเมือง กลุ่มนักวิชาการ กลุ่มสื่อมวลชน ฯลฯ หลายๆคนเริ่มคิดและเสนอทางออกให้หาคนกลางหรือเรียกร้องให้อัศวินม้าขาวออกมากู้บ้านกู้เมืองเสียที


                        


แนวความคิดที่เรียกร้องให้มีอัศวินม้าขาว(A Knight on a White Horse) ซึ่งหมายความรวมถึงซูเปอร์ฮีโร (Super Hero) นั้น ไม่ได้มีเฉพาะคนไทยเท่านั้น แต่มีอยู่ในความคิดของคนทั่วๆไป ที่ต้องการให้โลกมีสันติสุข ต้องการให้ฝ่ายธรรมะเป็นฝ่ายที่ครองโลกและฝ่ายอธรรมเป็นฝ่ายที่พ่ายแพ้และถูกทำลายไป


 


แต่เนื่องจากพื้นฐานแนวความคิดของปุถุชนที่ต่างคิดว่าความชั่วร้ายที่เกิดนั้น เกิดจากผู้อื่นซึ่งมีจำนวนมากมายและมีพลังอำนาจเหนือกว่าตนเองหรือเหนือธรรมชาติ ซูเปอร์  ฮีโรจึงต้องมีอิทธิฤทธิ์และพลังที่เหนือมนุษย์ธรรมดาเพื่อที่จะต่อสู้ความชั่วร้ายและเอาชนะอธรรมได้


 


นอกเหนือจากความเชื่อในอภินิหารของเทพเจ้าทั้งหลายที่สั่งสมกันมาช้านานแล้ว เรายังมีความใฝ่ฝันในความสารถพิเศษของซูเปอร์ฮีโรที่สร้างขึ้นโดยฝีมือของมนุษย์ด้วยกันเอง โดยเริ่มจาก แฟลช กอร์ดอน ที่กำเนิดขึ้นในอเมริกาเมื่อปี พ.ศ.๒๔๗๗ แต่ยังไม่โด่งดังมากนัก จวบจนปี พ.ศ. ๒๔๘๑ จึงได้มี ซูเปอร์แมน(คนที่ใส่กางเกงในไว้ข้างนอกนั่นแหละครับ) เกิดขึ้นในรูปของหนังสือการ์ตูนโดย เจอรรี ซีเกลและโจ ชัสเตอร์ ชาวอเมริกัน ซึ่งได้รับความชื่นชอบอย่างสูงยิ่งยาวนาน


 


จวบจนปัจจุบันมีเรื่องราวของซูเปอร์แมนถูกสร้างขึ้นมากมาย ซุปเปอร์แมนที่ฉายทางโทรทัศน์ที่เพิ่งจบไปไม่นานมานี้ คือ ลอยส์ แอนด์ คลาร์ก(ลอยส์ เลน-นางเอก กับคลาร์ก เคนท์ ซูเปอร์แมนในคราบมนุษย์) และภาพยนตร์ซูเปอร์แมนเรื่องล่าสุดที่เพิ่งฉายในอเมริกา คือ Smallville ที่กล่าวถึงเรื่องราวชีวิตของซูเปอร์แมนในช่วงวัยรุ่นขณะเติบโตอยู่ที่เมือง Smallville อันเป็นเมืองที่ยานอวกาศที่พาซูเปอร์แมนมาแล้วตกสู่โลก และซูเปอร์แมนก็เติบโตขึ้นที่นี่


 


จากยอดขายการ์ตูนซูเปอร์แมนในอดีตที่สูงลิ่ว จึงทำให้เกิดซูเปอร์ฮีโรตามมาอีกมากมายในอเมริกา เช่น มนุษย์ค้างคาว, กัปตันมาร์เวล , แฟลช-มนุษย์ลมกรด , กรีนแลนเทอร์น-ตะเกียงเขียว, กัปตันอเมริกา, ไอ้แมงมุม, สี่อภินิหาร ฮัลค์-จอมพลัง ,มนุษย์เหยี่ยว, เอ็กซ์เม็น(รวมกันเป็นทีม) ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่ผลิตโดยผู้ผลิตหนังสือการ์ตูนใหญ่สองค่ายในอเมริกา คือ ดีซีคอมมิกส์ และมาร์เวล


 


หลังจากที่ซูเปอร์ฮีโรสัญชาติอเมริกาเป็นผู้พิทักษ์โลกอยู่ผู้เดียวมาหลายสิบปี ญี่ปุ่นที่เพิ่งเริ่มฟื้นตัวจากการพ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่สองก็เริ่มสร้างซูเปอร์ฮีโรของตนเองบ้าง กอปรกับในช่วงนั้นได้เริ่มมีการผลิตโทรทัศน์ขาวดำออกมาใช้แล้ว การสร้างซูเปอร์ฮีโรของญี่ปุ่นจึงแตกต่างไปจากการสร้างซูเปอร์ฮีโรของอเมริกา โดยที่ที่อเมริกาจะจะทำเป็นหนังสือการ์ตูนก่อนแล้วจึงมาทำเป็นภาพยนตร์ทีหลัง แต่ซูเปอร์ฮีโรของญี่ปุ่นนั้นสร้างเป็นภาพยนตร์โทรทัศน์ก่อนแล้วจึงมาทำเป็นหนังสือการ์ตูน


 


ซูเปอร์ฮีโรของญี่ปุ่นที่โด่งดังมากในยุค พ.ศ.๒๕๐๐ ก็คือ อัศวินม้าขาว ซึ่งเป็นภาพยนตร์โทรทัศน์ฉายเป็นตอนๆ มีพระเอกเป็นซามูไร มีอยู่ ๒ ภาค คือภาคที่เป็นซามูไรธรรมดา กับภาคที่เป็นอัศวินม้าขาวออกมาปราบผู้ร้าย โดยออกมาในชุดขาวอยู่บนหลังมาสีขาว จึงได้ชื่อว่า "อัศวินม้าขาว" คำว่าอัศวินม้าขาวก็เลยเป็นสำนวนติดปากคนไทยมาตั้งแต่บัดนั้น โดยหมายความถึงผู้มากอบกู้บ้านเมืองยามมีปัญหาหรือผู้ที่มาช่วยแก้ไขสถานการณ์ที่คับขันให้กลับดีขึ้นตามคำนิยามของพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานฯนั่นเอง


 


ซูเปอร์ฮีโรของญี่ปุ่นก็เหมือนอเมริกา เมื่อซูเปอร์ฮีโรคนใดประสพความสำเร็จหรือได้รับความนิยม ก็จะมีซูเปอร์ฮีโรตามมาอีกมากมายเป็นร้อยๆคน และดูเหมือนว่าจะมีจำนวนมากกว่าซูเปอร์ฮีโรของอเมริกาหลายเท่า เช่น อัศวินหงส์ขาว, อ้ายเงาแดง, สี่เซียนซามูไร, อาราชิยอดนินจา, หน้ากากสีรุ้ง, อัศวินอาหรับ, ไอ้มดแดง(ตอนนี้มี ๒๐ กว่าไอ้มดแดงแล้ว), อุลตราแมน, กาโม่, มนุษย์ตาไฟ, มนุษย์ตาทอง ฯลฯ ซูเปอร์ฮีโรที่เป็นหุ่นยนต์ก็มี เช่น เจ้าหนูปรมาณู, หุ่นเหล็กหมายเลข ๒๘, หุ่นยนต์มาชินกาแซด, หุ่นยนต์เก็ตเตอร์, หุ่นยนต์กันดัม ฯลฯ


 


ซูเปอร์ฮีโรของญี่ปุ่นที่เป็นทีมก็มี เช่น ขบวนการซัลวาคัน, ขบวนการไดนาแมน, ขบวนการโกกุลไฟว์, ขบวนการเพาเวอร์เรนเจอร์, ขบวนการเมกาเรนเจอร์ ,ขบวนการโอเรนเจอร์, ขบวนการกิงกาแมน ฯลฯ


 


จะเห็นได้ว่าตราบใดที่โลกเรานี้ยังมีปัญหาอยู่ ซูเปอร์ฮีโรก็ยังคงผาดโผนอยู่บนจอโทรทัศน์ จอภาพยนตร์หรือในหนังสือการ์ตูนต่อไป และเช่นเดียวกันตราบใดที่การเมืองไทยยังคงสับสนวุ่นวายอยู่เช่นนี้จึงไม่แปลกอะไรที่มีผู้เสนอให้มีรัฐบาลแห่งชาติหรือเรียกร้องให้มีอัศวินม้าขาวออกมากู้ชาติ โดยลืมไปว่าอัศวินม้าขาวหรือซูเปอร์ฮีโรนั้นไม่ใช่เรื่องจริง เป็นเพียงเรื่องที่แต่งขึ้นเพื่อทำเป็นการ์ตูนหรือภาพยนตร์ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนั้นคือเรื่องจริง


 


ฉะนั้น การเรียกร้องให้อัศวินม้าขาวเช่นการทำรัฐประหารหรือเรียกร้องให้ทหารตำรวจในเครื่องแบบออกมาเดินขบวนสนับสนุนหรือแม้กระทั่งเรียกร้องให้มีซูเปอร์ฮีโรในรูปแบบของรัฐบาลแห่งชาติจึงไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาที่ถูกต้อง ปัญหาการเมืองต้องแก้ด้วยวิถีทางของการเมือง ซึ่งรวมไปถึงการชุมนุมประท้วงที่สงบปราศจากอาวุธและไม่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่น แต่มิใช่เรียกร้องให้แก้ปัญหาด้วยวิถีทางที่มิใช่แนวทางของระบอบประชาธิปไตย


 


อันที่จริงแล้วก่อนการรัฐประหาร ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ กลไกของประชาธิปไตยกำลังทำงานอย่างได้ผลแล้ว เราคงจำกันได้ว่าในขณะนั้นทักษิณอยู่ในสภาวะที่ล้มละลายทางการเมืองไปแล้ว จะเห็นได้จากมีการประกาศให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ, ทักษิณประกาศเว้นวรรคทางการเมือง, กระแสความไม่พอใจการขายหุ้น ๗๓,๐๐๐ ล้านบาทโดยไม่เสียภาษี, กกต.ถูกสำเร็จโทษ ฯลฯ


 


แต่เมื่อมีการรัฐประหารเกิดขึ้น บ้านเมืองสะดุดหกล้มคว่ำเสียหายเกินที่จะประมาณ ทักษิณกลับมาเป็นขวัญใจผ่านทางร่างทรงของพรรคพลังประชาชนภายหลังการเลือกตั้งในฐานะที่เป็นผู้ถูกรังแก ที่สำคัญก็คือพันธมิตรออกมาฉายหนังเรื่องเดิมซ้ำอีกเหมือนเหตุการณ์ก่อนการรัฐประหาร ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ ซึ่งก็คือการชุมนุมประท้วงพร้อมกับการเรียกร้องอัศวินม้าขาวที่ไม่มีอยู่จริงออกมาแก้ปัญหาอีกนั่นเอง


           


เราในฐานะผู้บริโภคข้อมูลข่าวสารจึงต้องกลั่นกรองให้ดีว่า อะไรคือความจริง อะไรคือสิ่งที่สร้างขึ้นมาเพื่อหวังผลในการโฆษณาชวนเชื่อจากทำเนียบรัฐบาลหรือจากสะพานมัฆวานรังสรรค์ แล้วใช้ความสุขุมรอบคอบพินิจพิเคราะห์ปัญหาความวุ่นวายที่เกิดขึ้น เราจึงจะสามารถฝ่าด่านความยุ่งยากนี้ไปได้ตามวิถีทางของระบอบประชาธิปไตย โดยไม่ต้องพึ่งพาอัศวินม้าขาวหรือซูเปอร์ฮีโรแต่อย่างใด


 


-----------------------------


                       


หมายเหตุ  เผยแพร่ครั้งแรกในกรุงเทพธุรกิจฉบับประจำวันพุธที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๕๑
                       

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net