Skip to main content
sharethis

 






การเมือง - สังคม


 


มท.1ไม่หวั่นถูกอภิปรายปัดขนคนชนพันธมิตรฯ


เว็บไซต์คมชัดลึก - 15.00 น.วันที่ 22 มิ.ย.ที่สวนลุมพินี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในงานเดินรณรงค์ "รวมพลังประชาไทย พ้นภัยยาเสพติด" เนื่องในวันต่อต้านยาเสพติดที่จะมีขึ้นในวันที่ 26 มิ.ย.นี้ โดยมีประชาชนจาก 11 จังหวัดโดยรอบปริมณฑล นักเรียน นักศึกษา ข้าราชการ จำนวนกว่า 2 หมื่นคนเข้าร่วมงาน โดย ร.ต.อ.เฉลิม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีของพรรคพลังประชาชนจำนวน 7 คน ว่า เป็นกลไกตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่งฝ่ายค้านต้องทำการบ้านมา และรัฐบาลก็ต้องตอบ ไม่มีอะไรน่าเป็นปัญหา


 



เลขา ปชป.วางตัวขุนพลเปิดศึกซักฟอก นายกและรมต.รวม 7 เก้าอี้


พรรคประชาธิปัตย์ - 22 มิ.ย.51 นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมแกนนำพรรค เพื่อรวบรวมข้อมูลและกำหนดตัวบุคคลในการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอีก 7 คน ว่า จะเริ่มอภิปรายไม่ไว้วางใจนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี โดยจะมีการอภิปรายใน 9 ประเด็นหลัก นำโดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฏ์ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร โดยแบ่งเป็นประเด็นละ 1 ทีม ทั้ง 9 ประเด็น


 


จากนั้นเข้าสู่การอภิปรายรัฐมนตรีรายบุคคล โดยการอภิปรายนายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในประเด็นการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก โดย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร นายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค ส่วนด้านเศรษฐกิจจะมีการอภิปราย นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายกรณ์ จาติกวณิช และทีมงานเศรษฐกิจ จากนั้นจะมีการอภิปรายกระทรวงคมนาคมโดยจะอภิปรายนายสันติ พร้อมพัฒน์ และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เรื่องรถ ขสมก. โดยมี พ.อ.วินัย สมพงษ์ นายถาวร เสนเนียม นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ และทีมงาน จากนั้นจะมีการอภิปราย นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมกรณีการโยกย้ายข้าราชการ โดยมีนายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาคและนายสกลธี ภัทธิยกุล เป็นผู้อภิปราย และปิดท้ายด้วยร้อยตำรวจเอกเฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยตนเอง(นายสุเทพ)จะเป็นหัวหน้าทีมอภิปรายเอง


 


นายสุเทพ กล่าวด้วยว่า เวลาในการอภิปรายเพียง 1 วัน ครึ่งนั้น ไม่เพียงพอในการอภิปราย พรรคต้องการเวลาอภิปรายให้ชัดเจน และเต็มที่ เพื่อให้ประชาชนเจ้าของประเทศได้เห็นชัดว่ารัฐบาลบริหารประเทศเกิดความเสียหายอย่างไรในสายตาของฝ่ายค้าน และเป็นโอกาสของรัฐบาลที่จะได้ชี้แจงข้อกล่าวหาทั้งหมด และพรรคประชาธิปัตย์ขอยืนยันจะทำหน้าที่ฝ่ายค้านตรวจสอบรัฐบาลอย่างเต็มที่


 


จำลอง นำอาหารมังสวิรัติเยี่ยม 4 ตำรวจ ที่บาดเจ็บจากการปะทะ


เว็บไซต์แนวหน้า - เมื่อเวลา ประมาณ 14.30 น.พล.ต.จำลอง ศรีเมือง 1 ในแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อเข้าเยี่ยมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกับกลุ่มผู้ชุมนุมบุกทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันศุกร์(20 มิย.)ที่ผ่านมา ซึ่งพล.ต.จำลอง ได้นำอาหารมังสวิรัติเข้าเยี่ยม โดยใช้ระยะเวลาในการเข้าเยี่ยมประมาณ 20 นาที


 


เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บจำนวน 4 นาย ประกอบด้วย จ.ส.ต.คมสัน ศรีคำ จ.ส.ต.ศราวุธ เลิศพร ส.ต.ต.(หญิง) พรพิรุณ โตวงจร และ ส.ต.ต.(หญิง) พจนา แก้วเกษศรี ขณะที่มีรายงานว่า แพทย์ได้อนุญาตให้ จ.ส.ต.ศราวุธ กลับไปรักษาตัวที่บ้านได้แล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 21 มิถุนายนที่ผ่านมา


 


กทม.ปิด รร.2แห่งตำรวจจัดการจราจรใหม่


เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ - 22 มิ.. นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานครได้ประกาศให้โรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) จำนวน 2 แห่ง หยุดการเรียนการสอนต่ออีก 1 วัน ในวันจันทร์นี้ (23 มิ.ย.) หลังจากได้ประกาศหยุดตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา ได้แก่ โรงเรียนวัดสัมณานัมบริหาร และโรงเรียนเบญจมบพิตร เนื่องจากได้รับผลกระทบโดยตรงจากการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย อย่างไรก็ตาม จะมีการประเมินสถานการณ์อีกครั้ง ก่อนจะประกาศว่าจะให้หยุดต่อในวันอังคารนี้หรือไม่


 


ส่วนโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครอีก 8 แห่ง ในพื้นที่เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย และพระนคร ที่ได้ประกาศให้หยุดเรียนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานั้น ในวันจันทร์นี้ยังคงเปิดเรียนตามปกติ โดยได้กำชับทุกโรงเรียนที่อยู่ใกล้พื้นที่การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับนักเรียนอย่างเคร่งครัด


 


พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รอง ผบช.น. เปิดเผยว่า จากที่กลุ่มพันธมิตรฯ ย้ายไปชุมนุมที่แยกนางเลิ้ง และตั้งเวที บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ ถนนพิษณุโลกหน้าทำเนียบรัฐบาล ทำให้ต้องปิดการจราจรบนถนนพิษณุโลกจาก แยกยมราชถึงแยกนางเลิ้งฝั่งขาเข้าเมือง และจากแยกนางเลิ้งถึงแยกพาณิชยการพระนคร ต่อเนื่องถึงแยกสวนมิสกวัน ปิดการจราจรทั้งสองฝั่ง ถนนพระราม 5 ปิดทั้งสองฝั่งตั้งแต่แยกพาณิชยการพระนครถึงแยกวัดเบญจมบพิตร


 


ทั้งนี้ คาดว่าจะส่งผลกระทบกับการจราจรฝั่งพระนคร โดยเฉพาะถนนที่ต่อเนื่องกับแยกยมราช คือถนนพระราม 6 ถนนเพชรบุรี นอกจากนี้คาดว่าการจราจรจะมีปัญหามาก โดยเฉพาะในช่วงเช้า และเย็นสำหรับแนวทางแก้ปัญหาเบื้องต้นแนะนำให้รถที่มาจากฝั่งธนบุรีทั้งสะพานพระปิ่นเกล้า และสะพานพระรามแปดที่มุ่งหน้าขึ้นทางด่วนที่ด่านยมราช ต้องเปลี่ยนไปใช้ถนนศรีอยุธยาเป็นหลัก โดยใช้ถนนราชดำเนินนอกได้ 3ช่องทาง จนถึงแยกพระรูปทรงม้า ก็เลี้ยวขวาเข้าถนนศรีอยุธยา ส่วนผู้ที่ใช้ถนนหลานหลวงจะอนุญาตให้ใช้ถนนที่เป็นช่องเดินรถประจำทางได้ชั่วคราวจนกว่าการชุมนุมจะยุติ


         


ทหารส่งม้งลาว 111 ครอบครัวกลับบ้านเกิดแล้ว


เว็บไซต์แนวหน้า - หลังจากที่กลุ่มชาวม้งลาวจำนวนกว่า 4,000 คน พากันแหกด่านในพื้นที่ควบคุมชั่วคราวบ้านห้วยน้ำขาว ต.เข็กน้อย อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ออกมาปิดถนนทางเข้าหมู่บ้าน จนทหารชุดฉก.พตท.เขาค้อและฝ่ายปกครองระดมเจ้าหน้าที่เข้าสกัดกั้น และสลายการประท้วงของกลุ่มชาวม้งลาวลงได้ โดยชาวม้งส่วนใหญ่ยินยอมกลับเข้าพื้นที่ควบคุม โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมานั้น


 


มีรายงานข่าวว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.ต.สมชาย อุตมะ ผู้บัญชาการเฉพาะกิจผสมพลเรือนตำรวจทหารเขาค้อ (ผบ.ฉก.พตท.เขาค้อ)ทำพิธีส่งชาวม้งลาว 111 ครอบครัว จำนวน 823 คน กลับบ้านเกิดประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ที่กองพันทหารม้าที่ 28 ค่ายพ่อขุนบางกลางหาว อ.หล่มสัก พร้อมมอบเงินช่วยเหลือ เพื่อใช้ในการดำรงชีพเบื้องต้นอีกด้วย ซึ่งหลังเสร็จพิธี ชาวม้งลาว ได้ขึ้นรถบัสโดยสารจำนวน 15 คัน เพื่อออกเดินทางมุ่งหน้าไปยังด่านตรวจคนเข้าเมืองที่จ.หนองคาย โดยมีเป้าหมายปลายทางกลับไปยังบ้านเกิดต่อไป


 


กฤษฎีกาส่งกลับ26คำสั่ง"เสรี"ลงนามผิดกฎหมาย


เว็บไซต์สยามรัฐ - เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 51  พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณากรณีคำสั่ง 26 คำสั่งของคณะกรรมการกฤษฎีกาว่า  คณะกรรมการกฤษฎีกาได้ทำหนังสือตอบกลับมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติในเรื่องที่คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ( ก.ตร.)ได้มีมติส่งเรื่องหารือคณะกรรมการกฤษฎีกา กรณีปัญหาการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจในสังกัด บช.ก. บช.ส. และจเรตำรวจทั้ง 26 คำสั่ง ในสมัย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีต ผบ.ตร. ในวันที่ 23 มิ.ย. ซึ่งขั้นตอนต่อไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะนำผลดังกล่าว เข้าที่ประชุม ก.ตร.เพื่อขอความเห็นก.ตร.อีกครั้ง โดยผลการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา เป็นไปในทิศทางเดียวกับคณะกรรมการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้นำเสนอก.ตร.


 


รายงานข่าวว่า  แนวทางแก้ไขตามนโยบายของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. และอนุ ก.ตร.เกี่ยวกับกฏหมายและระเบียบ  มีความเห็นให้ยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งที่ผ่านมา และกำหนดตำแหน่งประจำ ไว้เพื่อบรรเทาความเสียหาย ให้ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งระดับรอง สว. - ผกก. จำนวน 364  ตำแหน่ง เฉพาะผู้ที่ได้รับการเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น โดยจะขออนุมัติ ก.ตร.ให้อำนาจ ผบ.ตร.และคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องใช้อำนาจพิเศษตามมาตรา 56 ดำเนินการแต่งตั้ง ไปเป็นตำแหน่งประจำ


 


ทั้งนี้ก่อนหน้านายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งแต่งตั้งกรรมการสอบสวนวินัย พล.ต.อ.เสรีพิสุทธ์ เตมียาเวส อดีต ผบ.ตร. และพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบและแก้ไขปัญหาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ โดยมี พล.ต.ท.สุวัฒน์ จันทร์อิทธิกุล ผบช.สทส. เป็นประธานคณะทำงานฯ  พร้อมกับคณะอนุก.ตร.เกี่ยวกับกฏหมายและระเบียบ เสนอต่อที่ประชุม ก.ตร.โดยมีความเห็นว่า   คำสั่งแต่งตั้งในหน่วย บช.ก. บช.ส.และจเรตำรวจ 26 คำสั่ง ออกมาโดยไม่มีกฏหมายรองรับ ไม่ประกาศเป็นกฏกระทรวง และไม่มีประกาศเขตอำนาจหน้าที่ตามตำแหน่งและ ถือว่าเป็นคำสั่งไม่ชอบด้วยกฏหมาย และอนุ ก.ตร.เสนอให้ยกเลิกคำสั่งทั้งหมด และให้ทุกคนกลับสู่ตำแหน่งเดิม เว้นแต่ผู้ที่ได้รับการเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นในหน่วยต่างๆ ระดับ ผกก. - สว. จำนวน 364 ตำแหน่ง จะกำหนดเป็นตำแหน่งประจำ บก.เพื่อรักษาสิทธิ ซึ่งมีการถกเถียงในการประชุม  ก.ตร.ที่มีนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี จนต้องเสนอเรื่องให้คณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อขอความเห็นในเรื่องดังกล่าว


 


คตส. สรุปยุครัฐบาลแม้วทำชาติพัง1.8แสนล้าน


ผู้จัดการรายวัน - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความ เสียหายแก่รัฐ (คตส.) ได้ออกหนังสือที่ระลึก ในวาระ คตส.สิ้นสุดปฎิบัติหน้าที่ในวันที่ 30 มิ.ย.นี้ เพื่อเผยแพร่ผลงานการปฏิบัติหน้าที่ ขั้นตอนการตรวจสอบการทุจริตคอรัปชั่น พร้อมทั้งปัญหาอุปสรรในการทำงาน การดำเนินการแก้ไข เพื่อจะได้เป็นประโยชน์ต่อการศึกษา วิเคราะห์วิจัย ปรับปรุงระบบการตรวจสอบการทุจริต คอร์รัปชั่น ให้ประชาชนได้รับทราบต่อไป โดยจะมีการเผยแพร่ในวันที่ 30 มิ.ย.นี้ ในการส่งมอบงานต่อให้กับ ป.ป.ช.


         


โดยในช่วงแรกของหนังสือเป็นการสรุปผลงาน ตลอดระยะเวลา 1 ปี 9 เดือน คตส. ที่ได้มีการตรวจสอบโครงการทุจริตคอร์รัปชั่น จำนวน 13 โครงการ รวมทั้งสิ้น 21 กรณี ตรวจพบความเสียหายจากการกระทำผิดประมาณ 1.8 แสนล้านบาท มีการอายัดเงินในสถาบันการเงินต่างๆ ทั้งสิ้น 6.5 หมื่นล้านบาท


 



แผ่นดินไหว 2.8 ริคเตอร์ชายแดนไทย-พม่าเช้านี้


เว็บไซต์เดลินิวส์ - 22 มิ.ย. สถานีอุตุนิยมวิทยา จ.เชียงราย ได้ตรวจพบการเกิดแผ่นดินไหว บริเวณชายแดนไทย-พม่า ขนาด 2.8 ริคเตอร์ เมื่อเวลา 09.44 น.ตามเวลาท้องถิ่นประเทศไทย ที่ละติจูดที่ 19.707 องศาเหนือ ลองจิจูด 97.705 องศาตะวันออก จุดศูนย์กลางอยู่ห่างจากชายแดน จ.เชียงราย ไปทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ของ จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 53 กิโลเมตร แต่เป็นเหตุแผ่นดินไหวขนาดไม่รุนแรง ไม่มีความเสียหายเกิดขึ้น


 


ทั้งนี้ตั้งแต่ วันที่ 3-22 มิ.ย.51 มีรายงานว่า ได้เกิดแผ่นดินไหวบริเวณชายแดนไทย-พม่า ทางด้าน จ.เชียงราย จ.แม่ฮ่องสอน จ.เชียงใหม่ เกิดขึ้นทั้งหมด 8 ครั้ง ซึ่ง จ.เชียงราย พบว่าเกิดขึ้นถึง 4 ครั้ง และมีการเกิดการสั่นสะเทือนของรอยเลื่อนแม่ทา และรอยเลื่อนสะแกง ในประเทศพม่า ทำให้กรมอุตุนิยมวิทยา ต้องสั่งตรวจสอบและเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด


 


โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา เทศบาลนครเชียงราย หน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่นหลักของ จ.เชียงราย ได้ตระหนักถึงเรื่องแผ่นดินไหว จึงจัดให้มีการซักซ้อมแผนอพยพนักเรียนลงจากอาคารสูง ที่ โรงเรียนดำรงราษฎร์สงเคราะห์ จ.เชียงราย  ในกรณีเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง ในอาคารสูงในเขตเทศบาลนครเชียงราย และอาจจะมีอีกหลายหน่วยงานที่มีการซ้อมแผนตามมา เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับภัยพิบัติใต้โลก ที่พร้อมเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา


 


วธ.ตั้ง กก.ตรวจหนังแล้ว ยันไม่ตัดแหลกเหมือนก่อน


เว็บไซต์เดลินิวส์ - 22 มิ.ย. นายปรีชา กันธิยะ เลขาธิการคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ  (กวช.)  สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ  (สวช.)  เปิดเผยว่า  นายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม  (วธ.)  ได้ลงนามประกาศกระทรวงวัฒนธรรม แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ โดยอาศัยอำนาจมาตรา 6 และมาตรา 16  แห่ง พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ. 2551 ขึ้น จำนวน 7 คน  มีเลขาฯ กวช. เป็นประธานกรรมการ และมีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 6 คน  ประกอบด้วย นายสงขลา วิชัยขัทคะ รองเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา  นายอำนาจ บัวศิริ ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม  สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ  นายชัยวัฒน์ ทวีวงศ์แสงทอง  ผู้ทรงคุณวุฒิด้านภาพยนตร์  ในฐานะเลขาธิการสมาคมสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติ  นายสมบัติ ภู่กาญจน์  ผู้ทรงคุณวุฒิด้านโทรทัศน์  พล.อ.ธันวาคม ทิพยจันทร์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านศิลปวัฒนธรรม ในฐานะที่ปรึกษาสมาคมนักข่าวบันเทิงแห่งประเทศไทย และ นางนพพร มุกดามณี รองเลขาฯ กวช. เป็นกรรมการและเลขานุการ


 


เลขาฯ กวช. กล่าวว่า คณะกรรมการชุดนี้ดำเนินการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ จำนวน 3 วัน ได้แก่ วันจันทร์ พุธ และศุกร์ รวมทั้งได้เตรียมแต่งตั้งคณะอนุกรรมการอีก 1 ชุด ขึ้นมาทำหน้าเป็นผู้ช่วยในการตรวจพิจารณาภาพยนตร์ฯ ด้วย เนื่องจากภาพยนตร์ฯ ที่ส่งเข้ามายังสำนักภาพยนตร์ฯ มีจำนวนมาก จึงต้องเตรียมความพร้อมการบริการ ไม่ให้เกิดความล่าช้า  นอกจากนี้ วธ.ได้ทำการสรรหาผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่าง ๆ ทั้งภาคประชาชนและผู้ประกอบการ เข้ามาเป็นคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติครบทั้ง 11 คนแล้ว  คาดว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะลงนามได้ภายในสัปดาห์นี้


 


"จากการตรวจภาพยนตร์หลายเรื่อง ใช้คำพูดไม่สุภาพ เช่น มึง กู คำด่าหยาบคาย ซึ่งคณะกรรมการพิจารณาแล้ว ไม่มีปัญหาอะไร เพราะเนื้อหาและภาพรวมสื่อถึงวิถีชีวิต จึงอยากจะบอกผู้ประกอบการว่าคณะกรรมการเน้นดูเนื้อหาโดยภาพรวมเป็นหลัก จะไม่ตัดจนทำให้ถึงกับดูหนังไม่รู้เรื่องเหมือนที่ผ่านมา  อีกทั้งคำนึงถึงเด็ก เยาวชน สังคม และผู้ประกอบการเป็นสำคัญ จนกว่ากฎกระทรวงเกี่ยวกับเรตติ้งจะดำเนินการเสร็จ" เลขาฯ กวช. กล่าว



ชาวนาจี้รัฐสอบนายทุนรุกที่


เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ - 22 มิ.. นายวิเชียร พวงลำเจียก กรรมการสมาคมชาวนาไทย กล่าวว่า อยากให้รัฐบาลมอบอำนาจให้ผู้ว่าแต่ละจังหวัดฯ   เป็นผู้สั่งการในการแปรสภาพข้าว  เพื่อความคล่องตัว  และขอให้เปิดจุดรับจำนำข้าวต่างพื้นที่   เพื่อจะได้ให้เกษตรกรที่อยู่ไกลโรงสีมีโอกาสเข้าร่วมโครงการ


 


นอกจากนี้ ชาวนาในพื้นที่ลุ่มภาคกลางหลายจังหวัด  ประสพปัญหาน้ำท่วมนาข้าว   เนื่องจากการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา   จึงอยากให้กรมชลประทาน ประชาสัมพันธ์การปล่อยน้ำท้ายเขื่อนในพื้นที่ลุ่มทุกแห่ง  ให้เกษตรกรกรทราบ    เพราะเกษตรกรทั้งใน  และนอกพื้นที่ระบบชลประทานจำนวนมาก  หันมาปลูกข้าวเป็นอาชีพหลัก   และหากไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า  ว่าช่วงใดจะมีการปล่อยน้ำท้ายเขื่อนจำนวนมาก   อาจทำให้ผลผลิตข้าวของชาวนาเสียหาย


 


ล่าสุด กรรมการสมาคมชาวนาไทย  เปิดเผยว่า  ฝ่ายเศรษฐกิจ  ของกระทรวงพานิชย์   ตรวจพบพื้นที่หลายจังหวัดในเขตภาคกลาง  อาทิ  พระนครศรีอยุธยา  อ่างทอง  และชัยนาท   มีกลุ่มนายทุนในรูปแบบบริษัทกว้านซื้อที่ดินเพื่อนำมาทำนา  โดยกลุ่มดังกล่าวมีนักการเมืองระดับชาติอยู่เบื้องหลัง  และจังหวัดที่น่าเป็นห่วงขณะนี้คือจังหวัดเพชรบูรณ์ เพราะมีการกว้านซื้อที่ดินเป็นบริเวณกว้าง   จึงอยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบให้เกิดความชัดเจน


 


ด้านนายปรีชา   กมลบุตร  ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา   กล่าวว่า  กรณีดังกล่าวจะมอบหมายให้ที่ดินจังหวัดฯ  ประสานข้อมูลกับเกษตรและสหกรณ์จังหวัด   เพื่อตรวจสอบอย่างงละเอียด   เพราะหากเป็นจริงตามที่สมาคมชาวนาไทย   ออกมาเปิดเผย  ถือว่าเป็นการทำร้ายชาวนา  และทำลายชาติ


 


รฟท.ปรับใหม่ เดินขบวนสายใต้ถึงสถานีหาดใหญ่เท่านั้น


เว็บไซต์แนวหน้า - นายไพรัช โรจน์เจริญงาม หัวหน้ากองประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)กล่าวว่า หลังจากที่เกิดเหตุคนร้ายยิงขบวนรถไฟท้องถิ่น 454 สุไหงโกลก-ยะลา เมื่อวานนี้ (21 มิ.ย.) เป็นเหตุให้มีเจ้าหน้าที่ รฟท.เสียชีวิต 4 นาย บาดเจ็บอีก 1 ราย ทำให้ รฟท.ต้องปรับแผนการเดินขบวนรถวันนี้ ใหม่ โดยขบวนรถทางไกลทุกขบวนจะให้ออกจากสถานีกรุงเทพฯ (หัวลำโพง) ตามปกติทุกขบวน แต่จะเดินขบวนรถถึงสถานีชุมทางหาดใหญ่เท่านั้น แล้วนำขบวนรถกลับตามเวลา โดยงดเดินขบวนรถในช่วงชุมทางหาดใหญ่-สุไหงโก-ลก


 


ส่วนขบวนรถท้องถิ่นก็เช่นเดียวกัน จะเดินเฉพาะช่วงจากสถานีชุมทางหาดใหญ่ขึ้นมา โดยให้งดเดินขบวนรถในช่วงชุมทางหาดใหญ่-สุไหงโก-ลก จนกว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนแปลง สำหรับผู้ที่ซื้อตั๋วเดินทางไว้ให้ขอคืนเงินค่าตั๋วได้จากสถานีรถไฟทุกแห่ง


 


โจรใต้เหิมเผารถเทศบาล 9 คัน


เว็บไซต์สยามรัฐ - เมื่อเวลา 07.00 น . วันนี้ 22 มิ.ย.51 เจ้าหน้าที่ชุดหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด ภ.จว.ปัตตานี  ตำรวจทหาร ซึ่งนำโดย พ.ต.อ.สุรศักดิ์  ศรีคล้าย  รอง ผบก.ภจว.ปัตตานี  พ.ต.อ.วัลลภ จำนงอาสา  ผกก.สภ.สายบุรี และ ผบ.ฉก.26 พร้อมเจ้าหน้าที่กองวิทยาการปัตตานีและยะลา ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุคนร้ายลอบวางเพลิงอาคารที่จอดรถและคลังน้ำมันของเทศบาลตะลุบันอ.สายบุรี จ.ปัตตานี ซึ่งถูกคนร้ายลอบวางเพลิงเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา  ซึ่งยังคงมีเปลวไฟลุกอยู่เจ้าหน้าที่ชุดหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดได้เข้าเคลียร์พื้นที่ก่อน


 


จากการตรวจสอบพบว่าไม่มีวัตถุต้องสงสัย หลังจากนั้นจึงให้ทางเจ้าหน้าที่ชุดกองวิทยาการได้เข้าตรวจสอบความเสียหาย  พบว่ามีรถยนต์ได้รับความเสียหาย จำนวน  9   คัน คือ 1.รถบัสรับส่งนักเรียน จำนวน 1คัน  2.รถบรรทุก 6 ล้อ  จำนวน 3 คัน  3.รถบรรทุกขยะ จำนวน 1 คัน 4.รถตู้ จำนวน 1 คัน 5.รถกระเช้า  1 คัน 6.รถตักดิน 1 คัน 7.รถยนต์เก๋ง  1 คัน  พร้อมด้วยโรงเก็บพัสดุและอุปกรณ์  จำนวน  3 ห้อง ซึ่งได้รับความเสียหายทั้งหมด มูลค่าความเสียหายประมาณ  30 ล้านบาท


 



ซุกบึ้มรางรถไฟที่นราฯ จนท. กู้ปลอดภัย


เว็บไซต์เดลินิวส์ - 22 มิ.ย. เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้  (22 มิ.ย.) ร.ต.ท.สณเพชร ตันติอมรชัยกุล ร้อยเวร สภ.ระแงะ จ.นราธิวาส ประสานชุดเหยี่ยวดงและกำลังทหารเข้าเก็บกู้ระเบิดแสวงเครื่องใส่ไว้ในถังดับเพลิงน้ำหนัก 15 กิโลกรัม วางข้างรางรถไฟในพื้นที่บ้านสะโลกาแด๊ะ ม.6 ต.เฉลิม มีสายพ่วงต่อวงจรจุดชนวนระเบิดลากเข้าไปในป่าริมทางประมาณ 50 เมตร และคนร้ายยังใช้ท่อนไม้ยาว 1 เมตร จำนวน 6 ท่อน วางขวางรางรถไฟ หลังจากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบบริเวณรอบพื้นที่จนแน่ใจว่าไม่มีคนร้ายแอบซุ่มอยู่ จึงเข้าเก็บกู้ระเบิดดังกล่าวได้อย่างปลอดภัย พร้อมย้ายท่อนไม้ออกพ้นเส้นทาง


 






เศรษฐกิจ


 


แจกคูปองคนจนรอบแรก 1 ล้าน


เดลินิวส์ - นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า สศช.ได้ส่งข้อเสนอเกี่ยวกับหลักการการจัดทำ "คูปองคนจน" ให้นายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกฯ และรมว.คลัง พิจารณาในหลักเกณฑ์แล้ว เบื้องต้น สศช.เห็นว่าการให้ความช่วยเหลือครั้งนี้ต้องแบ่งเป็นระยะ โดยเน้นไปที่กลุ่มคนที่ต้องเข้าไปช่วยเหลืออย่างแท้จริงเท่านั้น เพราะเงินงบประมาณมีอยู่อย่างจำกัด จึงต้องพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบและเป็นเพียงมาตรการชั่วคราว


 


ทั้งนี้ สศช.ให้ความสำคัญกับคนจนในเมืองที่เดือดร้อนจริง ๆ ที่คาดว่ามีประมาณ 1 ล้านครอบครัว แม้ว่าข้อมูลคนจนทั้งประเทศที่อยู่ใต้เส้นความยากจนจะมีประมาณ 6 ล้านคนก็ตาม แต่การช่วยเหลือต้องกำหนดให้ชัดเจนว่าใครบ้างที่สมควรได้รับการช่วยเหลือที่แท้จริง โดย สศช.เห็นว่ากลุ่มคนที่ควรได้รับการช่วยเหลือเป็นอันดับแรก คือ ครอบครัวคนจนที่มีภาระต้องเลี้ยงดูบุตร ที่คาดว่ามีประมาณ 5 แสนครอบครัว จากนั้นจึงให้ความช่วยเหลือไปยังกลุ่มคนชรา กลุ่มคนเกษียณอายุ ที่มีรายได้จากเงินออม ที่ควรขยายการดูแลด้านสุขภาพเป็นพิเศษ รวมถึงคนชราในชนบทที่ควรได้รับเบี้ยยังชีพเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่ได้รับเพียงเดือนละ 500 บาท    ซึ่งตามความเป็นจริงแล้วไม่เพียงพอใช้จ่ายในแต่ละเดือนเพราะบางคนมีภาระต้องเลี้ยงดูคนในครอบครัวด้วย ส่วนแรงงานที่ตกงานนั้นจะให้ความสำคัญเป็นอันดับต่อมา เพราะในปัจจุบันแรงงานเหล่านี้ได้รับเงินช่วยเหลือจากกองทุนประกัน สังคมอยู่แล้ว


 


ส่วนแนวทางการช่วยเหลือนั้น สศช. เห็นด้วยกับกระทรวงการคลังที่จะให้การช่วย เหลือในเรื่องของอาหารและค่าเดินทาง ซึ่งจากการ   คำนวณเบื้องต้นแล้วเห็นว่าการให้ความช่วยเหลือในอัตราเดือนละ 300-500 บาทนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่เหมาะสม ส่วนจะใช้เงินทั้งหมดเป็นจำนวนเท่าใดนั้นขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ กระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณที่ต้องร่วมกันจัดสรรงบประมาณมารองรับต่อไป


 


นายอำพน กล่าวด้วยว่า สำหรับคนจนในชนบทแล้วแม้จะมีฐานะความเป็นอยู่ที่ยากจนก็ตาม แต่ก็ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลในหลาย ๆ โครงการอยู่แล้ว ทั้งจากโครงการเพิ่มศักยภาพหมู่บ้านและชุมชน (เอสเอ็มแอล) ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง หรือเอสเอ็มแอล หรือโครงการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง อยู่แล้ว รวมทั้งค่าใช้จ่ายในเรื่องของอาหารและค่าเดินทางนั้นยังไม่ได้รับความเดือดร้อนเท่ากับคนจนในเมือง ซึ่งทั้งหมดยังเป็นเพียงข้อเสนอ ซึ่งต้องรอการหารือของทั้ง 3 หน่วยงาน คือกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศช.) เพื่อกำหนดรายละเอียดให้ชัดเจนต่อไป


 


เงินบาทอ่อนค่าสุดรอบ 5 เดือน


ผู้จัดการรายวัน - บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด รายงานภาวะตลาดเงินในสัปดาห์นี้ว่า ธนาคารพาณิชย์คงจะมีการทยอยเตรียมสภาพคล่องเพื่อรองรับการเบิกถอนเงินสดของลูกค้าในช่วงสิ้นเดือน ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นคงจะขยับใกล้ระดับ 3.25% เช่นเดิม ภายใต้ภาวะสภาพคล่องในตลาดเงินที่น่าจะไม่เปลี่ยนแปลงมาก นอกจากนี้ ตลาดคงจะจับตาการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯในวันที่ 24-25 มิถุนายน 2551 ด้วย


 


ส่วนเงินบาทในประเทศอาจมีกรอบการเคลื่อนไหวที่ 33.30-33.60 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยปัจจัยที่ควรจับตา ได้แก่ ประเด็นทางการเมืองในประเทศ แรงซื้อเงินดอลลาร์ฯ ของนักลงทุนต่างชาติและผู้นำเข้า ตลอดจนทิศทางของสกุลเงินในภูมิภาค และเงินดอลลาร์ฯ ซึ่งจะขึ้นกับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญประกอบด้วย ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ เดือนมิถุนายน ยอดขายบ้านใหม่ ยอดขายบ้านมือสอง ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน รายได้-รายจ่ายส่วนบุคคล และดัชนีราคา การใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคลพื้นฐาน (Core PCE Price Index) เดือนพฤษภาคม ตลอดจนตัวเลข GDP ประจำไตรมาส 1/2551 (ขั้นสุดท้าย)


 


 นอกจากนี้ ตลาดการเงินยังจับตาผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ วันที่ 24-25 มิถุนายน และการประชุมฉุกเฉินในวันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายนนี้ ที่ซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเป็นการประชุมระหว่างประเทศผู้ผลิตและผู้ใช้น้ำมันเพื่อหารือเรื่องการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน อีกด้วย


 


โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทในประเทศ (Onshore) อ่อนค่าแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 5 เดือนเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ฯ ทั้งนี้ เงินบาทยังคงถูกกดดันจากแรงซื้อเงินดอลลาร์ฯ อย่างต่อเนื่องจากนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งสอดคล้องกับแรงเทขายหุ้นไทยในระหว่างสัปดาห์ ท่ามกลางการยืดเยื้อของปัญหาการเมืองในประเทศ นอกจากนี้ การอ่อนค่าของเงินบาทยังเป็นไปในทิศทางเดียวกับค่าเงินในภูมิภาคอีกด้วย


 


อย่างไรก็ตาม ยังคงมีแรงขายเงินดอลลาร์ฯ ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่า เป็นการเข้าแทรกแซงจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อลดความผันผวนของค่าเงิน สำหรับในวันศุกร์ เงินบาทอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 5 เดือนที่ระดับประมาณ 33.58 ในช่วงแรก ก่อนจะฟื้นตัวแข็งค่าขึ้นกลับมายืนที่ระดับประมาณ 33.41 (ตลาดเอเชีย) หลังการชุมนุมทางการเมืองไม่มีเหตุการณ์ที่รุนแรง เทียบกับระดับ 33.18 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (13 มิถุนายน) อนึ่ง นางอัจนา ไวความดี รองผู้ว่าการ ธปท. กล่าวในระหว่างสัปดาห์ว่า ธปท.จะไม่ใช้ค่าเงินเป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหาเงินเฟ้อ


 


สรรพากรตรวจเข้มคืนภาษี 7 หมื่นคน


เดลินิวส์ - แหล่งข่าวจากกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ตั้งแต่กรมฯ ปิดการยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปีภาษี 50 เมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา ถึงขณะนี้ยังมีผู้ไม่ได้รับเงินคืนภาษีอีก 70,000 ราย จากผู้ที่ขอคืนภาษี 1.991 ล้านราย คิดเป็นเงินกว่า 12,000 ล้านบาท ที่ส่วนใหญ่ได้คืนภาษีไปเกือบหมดแล้ว แต่กลุ่มที่ยังไม่ได้นั้น เนื่องจากมีความผิดปกติในการตรวจสอบการคืนภาษีเกิดขึ้น ซึ่งส่อลักษณะการทุจริตขอคืนภาษี ซึ่งกรมฯ กำลังเร่งแยกกลุ่มทุจริตออกจากกลุ่มที่เสียภาษีถูกต้องให้ได้โดยเร็ว เพื่อให้ทันกับกำหนดการคืนภาษีที่ต้องแล้วเสร็จภายใน 30 มิ.ย.นี้


 


 "ใน 70,000 รายที่เหลือขณะนี้ มีความเป็นไปได้สูงว่าจะทุจริต 30,000-40,000 ราย โดยมีทั้งทุจริตรายกลุ่ม รายบริษัท และรายบุคคล เพราะมีหลักฐานที่ติดตามได้ชัดเจนแล้ว เหลือเพียงติดตามตัวให้เจอ และแจ้งความทั้งอาญา และในทางภาษี"


 


 ทั้งนี้ได้ตรวจพบว่ามีการทุจริต 3 ลักษณะใหญ่ ๆ คือ กลุ่มสาวโรงงานหรือพนัก งานในโรงงาน ที่อาจถูกหลอกมา โดยมีผู้จัด  หาทางคืนภาษีให้รายละ 500-700 บาท ซึ่งไม่สูงนัก เพื่อไม่ให้เป็นที่สังเกต แต่ไม่มีค่าใช้จ่ายและการขอลดหย่อนจริง


 


กลุ่มคนอาชีพอิสระ หรือพนัก งานรายวัน แต่ถูกนำชื่อมาเป็นพนักงานรายเดือนของบริษัท เพื่อสร้างรายจ่ายเทียม และทำให้บริษัทเสียภาษีน้อยลง กลุ่มที่สร้างการขอคืนภาษีเทียม โดยไม่ผ่านบริษัทที่ทำงานอยู่ แต่เป็นกลุ่มมิจฉาชีพที่รวบรวมรายชื่อกลุ่มบุคคลเหล่านี้ขึ้นมา โดยให้ส่งเช็คไปที่อยู่เดียวกัน แต่เมื่อเรียกเอกสารเพิ่มเติม ปรากฏว่าไปรษณีย์ตีกลับจดหมายที่ส่งไปกลับคืนดังกล่าวกลับมาหมด เพราะว่าที่อยู่ดังกล่าวไม่มีสถานประกอบการแล้ว ซึ่งขณะนี้พบความผิดชัดเจนกว่า 10 บริษัท และกำลังรวบรวมหลักฐานให้ชัดอีกกว่า 100 บริษัท


 






ต่างประเทศ


 


จนท.จีนเข้มในทิเบต - อนุญาตสื่อเทศทำข่าวบางพื้นที่


เว็บไซต์แนวหน้า - สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจของจีนคอยรักษาความปลอดภัยในนครลาซาของทิเบตอย่างเข้มงวด โดยผู้สื่อข่าวจากต่างประเทศ ยังคงได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าไปทำข่าวได้เพียงในบางพื้นที่เท่านั้น ขณะที่ชาวทิเบตยังคงมีท่าทีหวาดระแวงในการให้ข้อมูลข่าวสารกับผู้สื่อข่าว ส่วนตามวัดสำคัญๆ ยังมีทหารคอยรักษาความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด  อย่างไรก็ดี ชาวบ้าน ระบุว่า สถานการณ์ในขณะนี้ นับว่าดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับช่วงที่เกิดเหตุจลาจลเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แต่บางคนก็บอกว่ายังรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจเรื่องความปลอดภัยและยังไม่กล้าออกจากบ้าน


 


เนปาลวุ่นเหมาทิ้งรบ.จี้นายกฯออก


เดลินิวส์ - รายงานจากกรุงกาฐมาณฑุแจ้งว่า อดีตกบฏลัทธิเหมาของเนปาลได้ถอนตัวออกจากรัฐบาลดึกคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยกล่าวหาพรรคการเมืองคู่ปรปักษ์ว่ายังคงเกาะติดอำนาจ    ทั้ง ๆ ที่ประสบความพ่ายแพ้ไปแล้วในการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์ในประเทศแถบเทือกเขาหิมาลัยแห่งนี้เมื่อสองเดือนก่อน เจ้าหน้าที่ของเหมาอิสต์เผยกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า นายกฯ กิริยา ปราสาด คอยราลา จะต้องลาออกเพื่อเปิดทางให้มีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่


 


เหมาอิสต์ ซึ่งครองเสียงข้างมากในสมัชชาชุดใหม่ที่มาจากการเลือกตั้งเมื่อเดือน เม.ย. กล่าวว่า พวกตนมีสิทธิที่ จะเป็นผู้นำรัฐบาลและเลือกประธานาธิบดีคนใหม่ และว่าการทะเลาะกันอยู่ขณะนี้ขัดขวางสมัชชาจนไม่สามารถที่จะเริ่มต้นงานสำคัญคือการเขียนรัฐธรรมนูญเนปาลขึ้นใหม่ ทางเจ้าหน้าที่พรรคคองเกรสแห่งเนปาล ซึ่งเป็นพรรคการเมืองเก่าแก่ที่สุดของประเทศกล่าวว่า นายคอยราลาผู้ได้ชื่อว่าเป็นคนออกแบบข้อตกลงที่ทำให้การต่อสู้ของกบฏเหมายุติลง สมควรที่จะได้เป็นประธานาธิบดีคนแรก "การตัดสินใจของเหมาอิสต์เป็นการ   รีบร้อนเกินไปและทำให้พวกเราตกใจสุดขีด แต่ก็น่าจะยังมีทางออก" ตำแหน่งประธานาธิบดีนับว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากอาจควบตำแหน่ง ผบ.สส


 


มาเลย์-ญี่ปุ่นสนพลังงานทดแทน


เว็บไซต์สยามรัฐ - กัวลาลัมเปอร์ - มาเลเซียเล็งใช้พลังนิวเคลียร์ ด้านญี่ปุ่นกระตุ้นประชาชนใช้พลังงานแสงอาทิตย์ หวังลดพึ่งพาน้ำมันที่แพงระยับ นายนาจิบ  ราซัก  รองนายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย กล่าวว่า ทางการมาเลเซียมีแนวคิดที่จะนำพลังงานทางเลือกอื่นๆ   รวมทั้งพลังงานนิวเคลียร์มาใช้ภายในประเทศ  เพื่อลดการพึ่งพาน้ำมัน  ที่มีแนวโน้มว่าจะมีราคาเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม   มาเลเซียจะเลือกพลังงานทดแทนอื่นๆ   ก่อนพลังงานนิวเคลียร์  ขณะที่ ทางการญี่ปุ่น  เปิดเผยว่า จะผลักดันให้ตามครัวเรือนต่างๆ ภายในประเทศ หันมาใช้พลังงานแสงอาทิตย์ให้มากขึ้น  เพื่อลดการพึ่งพาพลังงานจากน้ำมันด้วยเช่นกัน  ทั้งนี้ ทางการจะสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้พลังงานแสงอาทิตย์  เช่น การให้ส่วนลด และสิทธิพิเศษด้านภาษี เป็นต้น

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net