Skip to main content
sharethis

เมื่อวันจันทร์ที่ 23 มิถุนายน 2551 เวลา 17.00 น.ชาวบ้านจากตำบล เขาแดง กุยเหนือ สามกระทาย อำเภอกุยบุรี และตำบลไร่เก่า อำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 125 คน จัดประชุมหารือ ณ ศาลาประชาคมหมู่บ้านบ้านเขาแดง เรื่องโครงการโรงถลุงเหล็กเขาแดง


           


นายนคร สายฟ้า ตัวแทนชาวบ้านตำบลเขาแดง กล่าวว่า ตามที่นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยข้อมูลเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ผ่านหนังสือพิมพ์มติชนฉบับวันที่ 6 มิถุนายน ในงานเสวนา "แผนลงทุนชายฝั่งทะเลตะวันตก : อุตสาหกรรมเหล็กต้นน้ำ" ที่ว่า สศช.ได้ศึกษานโยบายส่งเสริมกิจการผลิตเหล็กขั้นต้นเพื่อทดแทนการนำเข้า พบว่ามีความต้องการในกลุ่มยานยนต์ บรรจุภัณฑ์ อิเล็กทรอนิกส์ เฉลี่ย 4.5 ล้านตันต่อปี โดยพื้นที่ที่มีศักยภาพรองรับอุตสาหกรรมเหล็กต้นน้ำได้ มี 2 พื้นที่คือ บริเวณเขาแดง อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และแหลมช่องพระ อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 20 ,000 ไร่


 


นายนคร สายฟ้า กล่าวต่อว่า ที่ประชุมมีความเห็นว่า สศช. ไม่คำนึงถึงความสำคัญของพื้นที่ ในการจัดทำแผนในครั้งนี้และดึงนักลงทุนอุตสาหกรรมรายใหญ่ของโลก 4 แห่งที่มีกำลังผลิต 110.5 ล้านตัน 32.7 ล้านตัน 32 ล้านตัน 22.5 ล้านตันเข้ามา เนื่องจากบริเวณตำบลเขาแดงที่เป็นพื้นที่เป้าหมายโครงการนั้น ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อระหว่างชุมชนกับอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอดและยังเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำโลกขนาดใหญ่ของประเทศไทย ที่นานาชาติให้ความสำคัญและประกาศเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำโลก เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2551 เพื่อให้ชุมชนร่วมกันกับหน่วยงานของรัฐ ในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนและชาญฉลาดและพื้นที่ส่วนใหญ่ในตำบลเขาแดงเป็นพื้นที่อุทยานแห่งชาติและพื้นที่ชุ่มน้ำโลก


 


ทั้งนี้ ทาง สศช. จัดทำแผนโดยไม่คิดคำนึงถึงความสำคัญเลยว่าพื้นที่เป้าหมายในแผนงานที่ทำมานั้น เป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญต่อประเทศชาติและประชาชนเพียงใด ทั้งๆที่พื้นที่เป็นทั้งอุทยานแห่งชาติและพื้นที่ชุ่มน้ำโลกที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางทรัพยากรธรรมชาติและยังเป็นพื้นที่หาอยู่หากินของชาวบ้าน


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net