ชาวบ้านชุมชนเทือกเขาบรรทัด ร้องผู้ว่าฯตรังสั่งเลิกบังคับยึดที่ทำกิน

เครือข่ายองค์กรชุมชนรักเทือกเขาบรรทัด เลขที่ 132 หมู่ที่ 2 ตำบลปะเหลียน อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง ได้ยื่นหนังสือเรียกร้องต่อนายอานนท์ มนัสวานิช ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ลงวันที่ 20 มิถุนายน 2551 ขอให้มีคำสั่งยุติการบังคับคำสั่งทางปกครอง และให้ส่วนราชการปฏิบัติตามข้อตกลง

 

ทั้งนี้ จากกรณีที่ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง มีคำสั่งทางการปกครองแก่ราษฎร หมู่ที่ 2 บ้านตระ ต.ปะเหลียน อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ลงวันที่ 6 มิถุนายน 2551 จำนวน 6 ฉบับ ให้รื้อถอน ทำลายต้นยางพาราและอาสินพืชผลเกษตร 5 แปลง 12 จุด ให้แล้วเสร็จในวันที่ 5 กรกฎาคม 2551

 

รวมทั้งตรวจยึดสิ่งปลูกสร้างบ้านที่ปลูกแทนบ้านเก่าที่ชำรุด และให้ชดใช้ค่าเสียหายในพื้นที่ 5 แปลง 5 ราย พื้นที่ 69 ไร่ รวมค่าเสียหาย 11,015,250 บาท ค่ารื้อถอนอีก 76,780 บาท รวมทั้งสิ้น 11,092,030 บาท

 

จากข้อเท็จจริงปรากฏว่า ที่ดิน 5 แปลงดังกล่าว เป็นที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยของราษฎรสมาชิกเครือข่ายฯ ที่สืบทอด ครอบครองใช้ประโยชน์มาเป็นเวลาหลายช่วงอายุคน ซึ่งทางราชการได้มีบันทึกข้อตกลงกับเครือข่ายฯ และมีกลไกการแก้ไขร่วมกันที่กำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งถือเป็นแนวทางที่ต้องยึดถือปฏิบัติร่วมกัน

 

ฉะนั้น เพื่อให้การแก้ปัญหาตามข้อตกลงดำเนินไปได้ด้วยดี เป็นไปตามกลไกการแก้ปัญหาตามที่จังหวัดตรังได้แต่งตั้งไปเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2551 และแก้ปัญหาความเดือดร้อนของสมาชิกเครือข่ายฯ จึงขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ให้ความเป็นธรรมโดยดำเนินการดังนี้

 

ให้มีคำสั่งยุติคำสั่งทางปกครองทั้ง 6 ฉบับทันที ให้สมาชิกเครือข่ายฯ สามารถอยู่อาศัยและทำกินในที่ดินเดิม หากส่วนราชการจะดำเนินการแก่สมาชิกเครือข่ายฯ ต้องประสานกับองค์กรชุมชนในพื้นที่ หรือศูนย์ประสานงานเครือข่ายฯ และใช้กลไกร่วมในการตรวจสอบตามบันทึกข้อตกลง เพื่อลดความขัดแย้งระหว่างส่วนราชการกับสมาชิกเครือข่ายฯ และเพื่อความสงบสุขของราษฎรในสภาวะวิกฤติข้าวยากหมากแพงขณะนี้

 

พร้อมกันนั้นได้แนบเอกสาร 5 ชุดไปด้วย ประกอบด้วย หนังสือคำสั่งทางปกครอง ทั้ง 6 ฉบับดังกล่าว บันทึกข้อตกลงระหว่างส่วนราชการและเครือข่ายฯ วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2550 บันทึกข้อตกลงระหว่างส่วนราชการและเครือข่ายฯ วันที่ 26 เมษายน 2551สรุปข้อมูลผู้ได้รับผลกระทบจากเขตอนุรักษ์ทับที่ฯ และข้อมูลผู้ได้รับความเดือดร้อนจำนวน 5 ฉบับ

 

นอกจากนี้นายอัมมร บรรถะ หนึ่งในสมาชิกเครือข่ายฯที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งดังกล่าว ได้ยื่นหนังสือเรียกร้องข้อเดียวกันด้วย โดยระบุว่า ผู้ว่าราชการตรังมีคำสั่งให้ตนให้ชดใช้ค่าเสียหาย 3,181,125 บาท

 

ขอชี้แจงว่าไม่ได้ทำผิดตามข้อกล่าวหา เนื่องจากที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นที่ดินดั้งเดิม โดยตนได้รับมรดกจากนายคล้าว บรรถะ บิดา เมื่อปี 2530 โดยนายคล้าว ได้รับมรดกจากนายปาน ช่วยชู ซึ่งเป็นบิดาบุญธรรม เมื่อปี 2514 ซึ่งนายปานได้เข้ามาจับจอง เมื่อประมาณปี 2480

 

อีกทั้งตนจำเป็นต้องใช้ที่ดินผืนนี้ทำกินเลี้ยงดูสมาชิกในครอบครัวถึง 5 คนโดยบุตร 3 คนกำลังศึกษาอยู่

 

ดังนั้น เพื่อให้ความเป็นธรรมกับข้าพเจ้าและเพื่อรับรองสิทธิชุมชนตามรัฐธรรมนูญ ตลอดจนแสดงถึงความตั้งใจจริงในการปฏิบัติตามข้อตกลงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2550 จึงขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดตรังทำตามข้อเรียกร้องดังกล่าวด้วย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท