Skip to main content
sharethis

27 มิ.ย. 51 - มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญนัดพิเศษเพื่อลงมติญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีรายบุคคล มีนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎรทำหน้าที่ประธาน ทั้งนี้ ประธานชี้แจงขั้นตอนการลงมติ โดยเฉพาะมาตรา177วรรคสองในการออกเสียงลงคะแนน ถ้ารัฐมนตรี ที่เป็น ส.ส.ในขณะเดียวกัน ห้ามใช้สิทธิ์ออกเสียงลงคะแนนในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการปฎิบัติหน้าที่ หรือมีการส่วนได้ส่วนเสียในเรื่องนั้น ดังนั้นรัฐมนตรีที่เป็น ส.ส.ที่ถูกยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจจะลงคะแนนไม่ได้


         
โดยนายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลุกชี้แจงว่านายกรัฐมนตรีและตนได้พิจารณาเพื่อตัดปัญหาในการลงมติตามมาตรา 177วรรคสอง โดยเฉพาะรัฐมนตรีที่มีส่วนได้ส่วนเสียง อาจมีการตีความได้หลายทาง เนื่องจากรัฐบาลได้แถลงนโยบายต่อสภาและการอภิปรายเกี่ยวข้องกับมติของ ครม.จึงพิจารณาเห็นว่า ส.ส.ที่เป็นรัฐมนตรีทั้ง 22 คน จะไม่ขอใช้สิทธิ์ใน 2 ญัตติดังกล่าว


         
ขณะที่นายอลงกรณ์ พลบุตร ส.ส.เพชรบุรี พรรคประชาธิปัตย์ เห็นว่า ในการลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี มีผลแตกต่างเพราะถ้าหากพ้นจากตำแหน่งจะส่งผลให้คณะรัฐมนตรีต้องพ้นทั้งคณะ ดังนั้นในส่วนของจำนวนเสียงในสภาจะใช้กึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกของสภาจะนับอย่างไร จะใช้จำนวนเดิมหรือนับอย่างไร จึงขอให้มีความชัดเจน


         
นายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย พรรคพลังประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล)ชี้แจงว่าตามรัฐธรรมนูญในการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางจะต้องได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกเท่าที่สภามีอยู่ ขณะนี้เรามี ส.ส.ทั้งหมด 480 คน แต่มีส.ส.ต้องห้ามปฎิบัติหน้าที่ 10 คนเพราะฉะนั้น ส.ส.ที่อยู่ในปัจจุบัน 470 คน ดังนั้น เสียงลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีรายบุคคล ต้องได้เกินกึ่งหนึ่งคือ 236 เสียง


         
จากนั้น ประธานสภาฯได้จะให้มีการลงมติลงคะแนนเปิดเผยด้วยการเสียบบัตรออกเสียงใน 2 ญัตติโดยจะให้ลงมติญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี แต่ได้ถูก ส.ส.ฝ่ายค้าน อาทิ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน นายนิพนธ์ วิสิษฐยุทธศาสตร์ นายสุทัศน์ เงินหมื่น ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ได้ท้วงติงการลงมติอภิปรายไม่ไว้วาง จะต้องเป็นการลงคะแนนโดยลับเพื่อให้ ส.ส.มีอิสระในการตัดสินใจตามรัฐธรรมนูญ ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เสนอว่าให้ประธานใช้อำนาจตัดสินใจว่าจะลงมติอย่างไรเพื่อเป็นบรรทัดฐานในอนาคต


         
ขณะที่นายสุขุมพงศ์ โง่นคำ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน ยืนยันว่าให้มีการลงมติโดยเปิดเผยโดยมีการกดบัตรเพราะเคยมีการปฎิบัติมาตั้งแต่รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มาแล้ว จึงคิดว่าไม่น่ามีปัญหาในข้อกฎหมายรัฐธรรมนูญและข้อบังคับการประชุม การลงคะแนนเฉพาะการเลือกผู้ที่ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พร้อมเสนอให้ประธานฯจะต้องปฎิบัติตามข้อบังคับโดยลงคะแนนเปิดเผยเท่านั้น ถ้าฝ่ายค้านเห็นว่าจะให้ลงคะแนนลับจะต้องเสนอมา ดังนั้น ประธานจึงเห็นว่าเพื่อความปลอดภัยของสภาให้สมาชิกได้แสดงความเห็น


         
ขณะที่น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ส.ส.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทย ได้เสนอให้ประธานสภาฯรีบตัดสินตามที่ผู้นำฝ่ายค้านฯเสนอเพราะยังมีวาระในการพิจารณาคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาและร่างงบประมาณกันอีกยาวและเห็นว่าการลงมติไม่ควรลบชื่อออกเพราะเป็นเอกสิทธิ์ของสมาชิก


         
นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ได้ชี้แจงว่าเมื่อผู้นำฝ่ายค้านให้ประธานตัดสิน ก็ไม่ได้ติดใจอะไรและเห็นด้วยว่าไม่ควรลบชื่อสมาชิกที่ลงคะแนน ขณะที่นายบัญญัติ ได้ท้วงติงว่าหากมีการลงมติเปิดเผยเป็นไปไม่ได้ที่ส.ส.จะไม่ทำตามมติพรรคการเมือง จึงอยากให้ลงคะแนนแบบลับ หากไม่ทำตามมติพรรคการเมืองจะทำให้เกิดปัญหายืดเยื้อต่อไปแน่


         
หลังจากถกเถียงเรื่องนี้เสียเวลาประมาณ 50 นาที นายอดุลย์ วันไชยธนวงศ์ ส.สงแม่ฮ่องสอน พรรคพลังประชาชน ได้ลุกเสนอให้มีการลงคะแนนโดยเปิดเผยซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นชอบ ทำให้ประธานสภาฯได้กล่าวว่า น่าจะเสนอญัตตินี้ตั้งนานแล้ว จะไม่ได้มีปัญหา พร้อมประกาศว่าตนพร้อมรองประธานทั้ง2คนไม่ขอลงมติเพราะต้องวางตัวเป็นกลาง


จากนั้นประธานได้ขอมติญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีรายบุคคลผลปรากฏว่านายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ได้รับเสียงไว้วางใจด้วยเสียง 280 ต่อ162 จากผู้เข้าประชุม 442 คน หลังผลทราบลงมติออกมา ทำให้นายสมัคร ถึงกับนั่งหัวเราะร่าและยิ้มด้วยความสะใจและได้มีการนั่งพับนกกระดาษไปด้วย


         
นพ.สุรพงษ์ สืบวงษ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ได้รับเสียงด้วยเสียง 279 ต่อ 161 งดออกเสียง 1 เสียง จากผู้เข้าประชุม 441 คน


         
นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ได้รับเสียงไว้วางใจด้วยเสียง 279ต่อ 161 งดออกเสียง 1 เสียง จากผู้เข้าประชุม 441 คน


         
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย ได้เสียงไว้วางใจด้วยเสียง 279 ต่อ 162 ไม่มีงดออกเสียง จากผู้เข้าประชุม 441 คน


         
นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รมว.ยุติธรรม ได้รับเสียงไว้วางใจด้วยเสียง 280 ต่อ 162 จากผู้เข้าประชุม 442 คน


         
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คมนาคม ได้รับเสียงไว้วางใจด้วยเสียง 279 ต่อ 162 จากผู้เข้าประชุม441 คน


         
นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.คมนาคม ได้รับเสียงไว้วางใจด้วยเสียง 280 ต่อ 162 จากผู้ประชุม442คน


         
นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ ได้รับเสียงไว้วางใจด้วยเสียง 278 ต่อ 162 งดออกเสียง 1 ไม่ลงคะแนน 1 เสียง จากผู้เข้าประชุม 442 คน


         
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ภายหลังเสร็จสิ้นการลงมติครั้งนี้ นายชัยได้แจ้งต่อที่ประชุมว่าเป็นอันว่าคณะรัฐมนตรีชุดนี้ ยังเป็นคณะรัฐมนตรีของรัฐบาลตลอดไป จากนั้นได้เริ่มเข้าสู่การพิจารณาการตั้งกรรมาธิการสามัญประจำสภาผู้แทนราษฎร 35 คนต่อไป


......
ที่มา:

เว็บไซต์คมชัดลึก

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net