Skip to main content
sharethis

เมื่อวันที่ 2 ก.ค. เวลา 14.15 น. นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ แถลงที่กระทรวงการต่างประเทศกรณีไม่เดินทางไปประเทศจีนพร้อมกับนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีที่เดินทางไปเยือนประเทศจีนว่า เนื่องจากมีกำหนดการมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของ รมว.ต่างประเทศ ออเตรเลียและมาเลเซียซึ่งเป็นแขกของกระทรวงการต่างประเทศ และกำหนดการนี้มีมานานแล้ว แต่กำหนดการไปประเทศจีนซึ่งตอนแรกจะไปแต่เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวก็เลื่อนมาเรื่อยๆ และบังเอิญตรงกับกำหนดการช่วงนี้พอดีจึงไม่ได้ไปจีน นอกจากนั้นเมื่อวานมีกำหนดการต้องนำ รมว.ต่างประเทศของมาเลเซียไปเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่วังไกลกังวล


 


"ประเด็นที่ผมจะแถลงเป็นประเด็นเรื่องที่หลายคนรอคอยก็คือเรื่องปราสาทพระวิหาร ผมไม่ได้หลบหน้าหนีไปไหนเมื่อวานนี้แต่เนื่องจากไม่มีประเด็นที่ผมจะพูดได้เพราะผมยังไม่ได้หารือครม. และผมก็ไปสายก็เลยเอารถเข้าไปใต้ถุนใต้ดินและรีบขึ้นไปประชุม และหนังสือพิมพ์บางฉบับไปลงข่าวว่านายนพดล กล่าวไปเร่งรีบไป กระเส่าไปอะไรทำนองนี้ หายใจลึกไป โอ้โหจะบรรยายอะไรขนาดนั้น เพราะผมต้องรีบไปจริงๆ สัมภาษณ์ตอนบ่ายสองและต้องไปให้ถึงหัวหินตอนบ่ายสี่โมง ถ้าไปช้าจะเกิดความเสียหายมาก เท่านั้นเอง ไม่มีอะไรเลย" นายนพดลกล่าว


 


จากนั้น จึงกล่าวต่อว่า อยากกราบเรียนสื่อมวลชนให้ลงข่าวสอดคล้องกับความเป็นจริงแล้วจะทำให้ได้บุญ หลังจากที่มีมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวานก็คือ 1) รับทราบและยึดถือปฏิบัติตามคำสั่งศาลปกครองกลาง 2) ให้ส่งคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาให้ความเห็นชอบและคำแนะนำเกี่ยวกับเรื่องคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว 3) ให้กระทรวงการต่างประเทศแจ้งขอระงับผลการใช้บังคับของคำแถลงการณ์ร่วมออกไปก่อนตามคำสั่งศาลปกครองกลาง ทางกระทรวงก็ได้แจ้งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เช่น ประเทศกัมพูชา ยูเนสโก เอกอัครราชฑูตไทย


 


นอกจากนี้ ได้สั่งและให้ความร่วมมือกับทางคณะรัฐมนตรีอย่างเต็มที่ โดยเมื่อวานได้ส่งหนังสือแจ้งระงับผลการใช้บังคับแถลงการณ์ร่วมตามที่มีคำสั่งศาลปกครองกลางและตามที่มีมติคณะรัฐมนตรีไปครบถ้วนเรียบร้อยแล้วโดย เชิญท่านฑูตอึง เซียน เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย มารับหนังสือด้วยตัวเองอีกครั้งหนึ่งในวันนี้หลังจากที่ส่งแฟ็กซ์ไปแล้ว เพื่อที่จะไม่ให้มีปัญหา บางประเทศก็ส่งไปทั้งแฟกซ์ ทั้งโทรเลข ทั้ง by hand เพราะเกรงว่าจะไม่ครบถ้วน


 


กระทรวงการต่างประเทศอยากจะกราบเรียนว่าเราปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีอย่างสม่ำเสมอ ตลอดชีวิตของกระทรวงการต่างประเทศไม่เคยเลยที่มีเจตนาที่จะหลีกเลี่ยง มติคณะรัฐมนตรี ครั้งนี้ก็เหมือนครั้งอื่นๆ ในอดีตก็ปฏิบัติตาม คราวนี้ก็ปฏิบัติตาม เพราะฉะนั้น ไม่มีอะไรเลยที่เป็นเรื่องที่กระทรวงฯ หลีกเลี่ยงไม่ปฏิบัติตามมติครม. และได้ส่งเอกสารไปให้ นายปองพล อดิเรกสาร ประธานคณะกรรมการมรดกโลกฝ่ายไทย ด้วย


 


"หวังว่าเหตุการณ์ในประเทศไทยขณะนี้จะไม่ส่งกระทบถึงความสัมพันธ์ระหว่างไทย -กัมพูชา เพราะมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น การที่ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี(นายสมัคร สุนทรเวช)ได้โทรศัพท์สายตรงฮอทไลน์ไปยังท่านนายกฮุนเซน(นายกรัฐมนตรีประเทศ กัมพูชา) เพื่อขอให้เขาส่งทหารหน่วยรักษาความปลอดภัยไปคุ้มครองสถานฑูตเราที่นั่นและ เราก็ปฏิบัติตอบแทนในทำนองเดียวกันโดยไปดูแลสถานฑูตกัมพูชาในไทยให้มากขึ้น เป็นการแสดงความห่วงใยซึ่งกันและกันและหวังว่าความสัมพันธ์ยังแน่นแฟ้นต่อ ไปไม่มีผลกระทบใดๆ"


 


นายนพดล กล่าวต่อว่า จะเดินทางไปประชุมคณะกรรมการมรดกโลกที่ควิเบก ประเทศแคนนาดา ด้วยตัวเอง ในวันที่ 5 ก.ค.โดยคาดว่าวาระเรื่องเขาพระวิหารจะเข้าสู่ที่ประชุมในวันที่ 6หรือ 7 ก.ค. โดยเดินทางพร้อมกับ เลขาสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.)หรือผู้แทน เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร นายมนัสภาส ชูโต อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีสมัย นายนิตย์ พิบูลสงคราม ซึ่งมีส่วนร่วมในการประชุมที่นิวซีแลนด์ และเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ของกระทรวงเป็นข้าราชการบำนาญมีความรู้ทางกฎหมายอย่างดียิ่ง เจ้ากรมแผนที่ทหารหรือผู้แทน อธิบดีกรมสนธิสัญญาหรือผู้แทน กรมสารนิเทศหรือผู้แทน กรมเอเชียตะวันออกหรือผู้แทน


 


"ผู้ที่ไปร่วมจะมีทหารและหน่วย สมช. คณะกรรมการมรดกโลก เพราะฉะนั้นไม่มีอะไรปกปิดซ่อนเร้นนี่คือสิ่งที่อยากจะเรียน"


 


ส่วนสาเหตุที่ไม่อยากให้สัมภาษณ์มาก นายนพดลบอกว่าเป็นเพราะยังไม่รู้ขอบเขตทิศทางคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลว่ามีขอบเขตอย่างไรจึงต้องระมัดระวัง ปฏิบัติตามคำสั่งของศาล ยืนยันอีกครั้งว่ากระทรวงการต่างประเทศเคารพคำสั่งศาลและปฏิบัติตามคำสั่งศาลอย่างเคร่งครัด


 


เมื่อสื่อมวลชนถามว่า ในการประชุมที่ควิเบก ไทยจะแสดงท่าทีอย่างไร ยังคงคัดค้านหรือไม่เพราะการสนับสนุนไม่เป็นผลแล้ว นายนพดลตอบว่าต้องปฏิบัติตามคำสั่งศาล เราไม่สามารถสนับสนุนตามเนื้อหาของคำแถลงการณ์ร่วมได้ ก็คือรายละเอียดท่าทีของไทยจะมีการแถลงอีกที จะไปหารือกับนายปองพล ในระหว่างก่อนไปประชุมที่ควิเบกเพราะตอนนี้ท่าทีของประเทศจะต้องเป็นไปในแนวเดียวกัน สาเหตุที่ยังไม่อยากพูดถึงท่าทีเพราะต้องรอคุยกับทุกฝ่ายก่อน


 


สื่อมวลชนถามอีกว่า ทำไมกระทรวงการต่างประเทศไม่ทำตามคำสั่งศาลปกครองในทันทีที่มีคำสั่งออกมา


นายนพดล ตอบว่าอยากจะให้ทำตอนไหน ตอนตีสองหรือไม่ เพราะคำสั่งออกมาตอนตีหนึ่งครึ่ง ตอนนั้น ฝันอยู่ นอนอยู่


 


"อันนี้พูดจริงๆ มีข้าราชการโทรไปปลุก ผมก็นึกว่าผมฝันไป ผมก็นอนต่ออีก พออ่านหนังสือพิมพ์ ก็เฮ้ยมันเป็นจริงนี่หว่า ก็ใช้เวลาหารือกัน ไม่ได้มีเจตนาเป็นอย่างอื่น ต้องพูดคุยกับคณะรัฐมนตรีด้วย เพราะตอนนั้นคณะรัฐมนตรีก็ถูกฟ้อง ผมก็ถูกฟ้อง"


 


ต่อคำถามว่ากรณีคณะกรรมการกฤษฎีกาแนะนำให้รัฐบาลอุทธรณ์มาตรการคุ้มครองของศาลปกครอง นายนพดล ตอบว่ายังไม่มีคำชี้แจงอย่างเป็นทางการ คงต้องรอเพราะยังมีเวลาอุทธรณ์หรือฎีกาภายใน 30 วัน แต่อย่าไปเขียนข่าวว่ากระทรวงการต่างประเทศจะอุทธรณ์แน่ภายใน 30 วัน สื่อมวลชนกรุณาลงข่าวตามที่พูด เพราะยังไม่ตัดสินใจว่าจะอุทธรณ์หรือไม่ ยังไม่มีการหารือกันในคณะรัฐมนตรี งานเฉพาะหน้าเราไปที่ประเทศแคนนาดาก่อน


 


ต่อถามกระแสข่าวที่ว่า ครม.ไม่ค่อยมั่นใจในการทำงานของกระทรวงการต่างประเทศโดยมีรายงานข่าวว่างานของกระทรวงฯต้องผ่านครม. นายนพดล ยืนยันว่างานกระทรวงฯก็ทำงานปกติ ถ้าอยากจะรู้เรื่องการปรับครม. ยังไม่มีการพูดคุยกันเรื่องปรับครม. เพราะเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลก็ไม่มีการพูดคุย เบื่อมากเรื่องรายงานข่าวของสื่อมวลชนเพราะในชีวิตจริงต้องดูที่ข้อเท็จจริง ส่วนรายงานข่าวมันง่าย มันเหมือนนั่งเทียนเขียน รายงานข่าวบางอันก็เป็นเท็จต้องยอมรับยืนยันอีกครั้งว่า กระทรวงการต่างประเทศได้ทำสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับประเทศชาติ


 


เมื่อถามถึงปฏิกิริยาเรื่องมรดกโลกของกัมพูชา ได้รับคำตอบว่าฟังมาในทำนองว่ากัมพูชาเดินหน้าขึ้นทะเบียนต่อ แต่ถ้าพูดจะหาว่าผมเป็นโฆษกของกัมพูชาอีก ฉะนั้นต้องไปดูการแถลงของโฆษกกัมพูชาเอง


 


สื่อมวลชนยังถามถึงกรณีที่ นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคพลังประชาชน เรียกร้องให้นายนพดลรับผิดชอบกรณีเคยระบุว่าหากทำขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 190 แล้วจะลาออก นายนพดลตอบสวนว่า แล้วขัดหรือยังคิดว่าไม่ขัดมาตรา 190 แล้วใครอนุมัติให้ไปเซ็นต์ เรื่องนี้เข้า ครม.ใช่ไหมโดยข้อเท็จจริง ยังไม่แสดงความเห็นในมาตรา 190 เพราะยังอยู่ในศาลเดี๋ยวจะละเมิดอำนาจศาล ขัดหรือไม่ขัดไม่รู้ เดี๋ยวจะกระทบคำสั่งศาลอีก อย่าให้พูดเลยดีกว่า ไม่อยากขัดคำสั่งศาล


 

ต่อคำถามสุดท้ายที่ว่าหลังจากนายนพดล กลับจากการประชุม 3 ฝ่าย ไทย-กัมพูชา- ยูเนสโก ที่ประเทศฝรั่งเศสเมื่อวันที่ 22 พ.ค.และได้ระบุว่าการเจรจาที่ฝรั่งเศสเป็นความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์ ตอนนี้รู้สึกอย่างไรกับการเจรจาเรื่องดังกล่าว เขากล่าวว่าต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ทำ ในชีวิตถ้าจะสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อผดุงความถูกต้องและหลักการก็พร้อมที่จะเสียอยู่แล้ว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net