20 ก.ค.51 เมื่อเวลาประมาณ 02.30น นาย
นายสุพจน์ เปิดเผยว่า สาเหตุของยิงครั้งนี้มั่นใจว่ามาจากการที่ได้เป็นฝ่ายวิชาการร่วมกับชาวบ้านคัดค้านการก่อสร้างโรงถลุงเหล็กของเครือสหวิริยา เพราะที่ผ่านมาถูกคุกคาม ถูกเสนอให้เงิน แต่ก็ยังคัดค้านโครงการต่อ และขณะนี้สถานการณ์ของกลุ่มทุนเริ่มเข้าตาจน และคิดตื้นๆว่าทำแบบนี้จะขู่ให้กลัวและหยุดค้าน แต่ทำแบบนี้ชาวบ้านยิ่งโกรธแค้น เพราะนี่คือความเหี้ยมโหดที่นายทุนไม่เคยเห็นชีวิตของชาวบ้านมีค่าเมื่อเทียบกับผลประโยชน์ของตน ไม่ว่าจะอย่างไรเขาก็จะไม่หยุดคัดค้านโครงการดังกล่าว
ด้านนาง
จินตนากล่าวว่า ขณะนี้ชาวบ้านกำลังยื่นเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริตที่ดินรวม 1,000ไร่ ทั้งโครงการใหม่และเก่าของอุตสาหกรรมเหล็กเครือสหวิริยา โดยกำลังสงสัยว่ามีการใช้พื้นที่ป่าชายเลน ป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งเป็นสมบัติของส่วนรวม แต่ถูกใช้เป็นส่วนหนึ่งในการก่อสร้างสายพานลำเลียง ลานกองวัตถุดิบจากท่าเรือในโครงการก่อสร้างโรงถลุงเหล็กได้อย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีการออกเอกสารสิทธิ์เอาพื้นที่ป่าสงวนเหล่านี้ไปค้ำประกันเงินกู้จากธนาคารนครหลวงไทย 971 ล้านบาทเรียบร้อยแล้ว และกำลังถูกคำสั่งกรมที่ดินเพิกถอนเอกสารสิทธิ์เมื่อเดือนธันวาคม 2550 ยังไม่นับกรณีที่ผ่านมา ซึ่งมีการก่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรมรีดเหล็กในที่ดินสาธารณะของส่วนรวมอีกด้วย
"นี่คือปมสำคัญที่นำไปสู่การฉีกหน้ากาก มันเป็นการขัดผลประโยชน์มหาศาลถึงกับต้องยิง เพื่อให้เลิกขุดคุ้ยประเด็นนี้ เพราะจะกระทบทั้งโรงงานเดิมและโรงถลุงที่กำลังจะสร้างใหม่ อีกทั้งสาธารณชนจะล่วงรู้ความรับผิดชอบที่บริษัทมีต่อสังคมว่า พฤติกรรมที่แท้จริงของนายทุนที่เข้ามาเป็นเวลา 10 กว่าปี จนชุมชนทนไม่ได้ต้องไล่นั้น เป็นอย่างไร" จินตนากล่าว
นายวิฑูรย์ บัวโรย ประธานกลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึง กล่าวว่า เมื่อคืนวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมาระหว่างที่ขบวนชาวบ้านจากประจวบฯ เดินทางไปยังสำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) เพื่อคัดค้านการพิจารณารายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ของโรงถลุงเหล็กเครือสหวิริยา ที่ไม่มีการเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะ พร้อมนำเสนอเรื่องการทุจริตที่ดินด้วยนั้น เมื่อขบวนรถของชาวบ้านเดินทางมาถึงบริเวณอำเภอกุยบุรี ก็ถูกขว้างปากระจกแตก ถูกโรยเรือใบบนถนนเพชรเกษมทำให้เกือบจะเกิดอุบัติเหตุใหญ่ และผ่านมาได้เพียง 3 วัน บ้านของแกนนำด้านวิชาการของกลุ่มก็ถูกยิง
"เรื่องทุจริตที่ดินเป็นเรื่องใหญ่ที่เชื่อมโยงเครือข่ายไปถึงกลุ่มผลประโยชน์อย่างเป็นขบวนการ และขณะนี้เราทราบข่าวมาว่ากระบวนการพิจารณาอีไอเอที่สะดุดลง เพราะถูกชาวบ้านตรวจสอบอย่างหนักจนคาดว่าอาจไม่สามารถผ่านได้ก่อนเดือนกันยายนนี้ สร้างความผิดหวังอย่างรุนแรงให้กับนายทุน ซึ่งพยายามผลักดันเรื่องนี้ผ่านนักการเมือง" วิฑูรย์กล่าว