ข่าวมอนิเตอร์ประจำวันที่ 25 ก.ค. 2551

 

 





การเมือง - สังคม

 

ร้อง ตร.สอบเพิ่มอดีตอธิการม.รามฯ หมิ่นเบื้องสูง

เว็บไซต์เดลินิวส์ - 24 ก.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายโลมิรันดร์ บุตรจันทร์ ทนายความผู้รับมอบอำนาจจาก ผศ.วรวัฒน์ชัย กุลมาตย์ อดีตรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง  ได้เดินทางมายื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ผ่านทางสำนักงานเลขานุการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ติดตามผลความคืบหน้านายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีคมนาคม กับนายรังสรรค์ แสงสุข  อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง โดยให้ดำเนินคดีอาญาเพิ่มในข้อหาหมิ่นเบื้องสูงและหลอกลวงประชาชน

 

นายโลมิรันดร์ กล่าวว่า หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้เข้าร้องเรียนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ดำเนินคดีกับนายสันติ และนายรังสรรค์ กรณีที่มีการโกงข้อสอบให้บุคคลอื่นเข้าสอบแทนนั้น นายรังสรรค์ และนายคิม ไชยแสนสุข อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง คนปัจจุบัน ได้กล่าวอ้างว่า สภามหาวิทยาลัยได้ออกระเบียบนิรโทษกรรม เนื่องในวโรกาสทางพระเจริญพระชนพรรษา 72 พรรษา จึงไม่ได้ดำเนินคดีนายสันติ

 

นายโลมิรันดร์ กล่าวต่อว่า ขอให้ตรวจสอบว่า ในทางกฎหมายสามารถดำเนินคดีอาญาได้หรือไม่ เพราะจากการตรวจสอบจากราชกิจจานุเบกษา ปี 2542-2545 ไม่พบว่า มีการออกกฎหมายล้างมลทินแต่อย่างใด เป็นไปได้หรือไม่ว่าเป็นการแอบอ้างเบื้องสูงเพื่อปิดข่าว ขอให้ตำรวจดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมเพื่อแสวงหาข้อเท็จจริง หากพบขอให้ดำเนินตามคดีอาญามาตรา 112 ข้อหาหมิ่นเบื้องสูงกับผู้ที่เกี่ยวข้องโดยด่วน เพื่อเป็นการปกป้องประโยชน์ของสาธารณะชนและศีลธรรมอันดีงามตามรัฐธรรมนูญ

 

สำนวน "จักรภพ" หมิ่นเบื้องสูงเสร็จแล้ว ผบช.ก.ยัน ไม่มีการเมืองแทรก

เว็บไซต์แนวหน้า - ที่กองปราบปราม - เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 24 ก.ค.51 พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง  ผบช.ก.เรียกประชุมพนักงานสอบสวนคดี นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หมิ่นเบื้องสูง โดยมี พล.ต.ต.สมเดช ขาวขำ รอง ผบช.ก.พ.ต.อ.จารุวัฒน์ ไวศยะ รอง ผบก.ป.พ.ต.ท.พิษณุ อุณหศรี รอง ผกก.ฝป.10 บก.ป.และพนักงานสอบสวน บก.ป.เข้าร่วมด้วย

 

พล.ต.ท.สมยศ กล่าวภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมว่าขณะนี้พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานคดีดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว โดยมีการสอบพยานไปทั้งหมด 12 ปาก แฟ้มสำนวนหนากว่า 400 หน้า  คาดว่าในวันจันทร์ ที่ 28 ก.ค.นี้ สำนวนการสอบสวนจะส่งถึง กองบัญชาการสอบสวนกลางพิจารณาว่าจะสั่งฟ้องหรือไม่ จากนั้นจะมีความเห็นส่งต่อให้ คณะกรรมการระดับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มี พล.ต.อ.วงกต มณีรินทร์ รอง ผบ.ตร.เป็นหัวหน้าคณะกรรมการสอบสวน พิจารณาอีกครั้งว่าเห็นด้วยกับ บช.ก.หรือมีความเห็นเป็นอย่างอื่น อย่างไรก็ตามตนได้กำชับให้พนักงานสอบสวน บก.ป. ดำเนินการตรวจทานสำนวนอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อป้องกันการผิดพลาด

 

ผู้สื่อข่าวถามว่าจากการตรวจสำนวนแล้วมีความเห็นสั่งฟ้องนายจักรภพ หรือไม่ พล.ต.ท.สมยศ กล่าวว่า ตนไม่สามารถตอบได้ ซึ่งความเห็นฟ้องหรือไม่ฟ้องนั้นขึ้นอยู่กับคณะกรรมการว่ามีความเห็นอย่างไร ตนตอบไม่ได้เพราะการพิจารณาเป็นรูปคณะกรรมการ ตนไม่มีสิทธิในตรงนั้น อย่างไรก็ตามจะเร่งทำคดีนี้ให้เร็วที่สุดเพราะถือเป็นคดีที่สำคัญประชาชนให้ความสนใจ และผู้ต้องหาก็เป็นคนสำคัญระดับชาติเข้ามาเกี่ยวข้อง เราต้องทำคดีอย่างรอบคอบและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

 

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า คำแปลที่นายจักรภพ นำมามอบให้พนักงานสอบสวนใช้ประกอบสำนวนคดี มีความหมายคล้ายกันหรือแตกต่างกันกับที่ พรรคประชาธิปัตย์ นักวิชาการ หรือ พ.ต.ท.วัฒนศักดิ์ มุ่งกิจการดี พนักงานสอบสวน สน.บางมด หรือไม่  ผบช.ก.กล่าวว่าไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะเป็นรายละเอียดในสำนวน ซึ่งต้องพิจารณาไปตามหลักฐานที่มี

 

 "พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ได้กำชับให้ตนทำตามกฏหมายอย่างเคร่งครัดให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย นอกจากนี้ขอยืนยันว่าไม่มีการเมืองเข้ามาแทรกแซงการทำงานหรือมากดดันแต่อย่างใดทั้งสิ้น"พล.ต.ท.สมยศ กล่าว

 

ไทย-เขมร เผย ตัวเลขทหารตรึงชายแดนไม่ตรงกัน ลือ SMS บอยคอตสินค้าสยาม

เว็บไซต์แนวหน้า -  นายเขียว กันนาฤทธิ์ โฆษกรัฐบาลกัมพูชา แถลงข่าวที่กรุงพนมเปญ ว่า สถานการณ์ขณะนี้ยังไม่คลี่คลาย เนื่องจากไทยยังคงส่งทหารไปยังพื้นที่ที่เป็นข้อพิพาทเพิ่มขึ้น โดยอ้างว่า มีทหารไทยบริเวณชายแดนจำนวน 3,000 นาย ส่วนทหารกัมพูชามีเพียง 800 นาย พร้อมกับกล่าวหาไทยว่าเป็นผู้รุกรานในกรณีพิพาทที่อาจลุกลามกลายเป็นการปะทะกันทางทหารได้

 

ขณะที่ กระทรวงต่างประเทศของไทย แถลงว่า ไทยตรึงกำลังทหารไว้เพียง 400 นาย ส่วนกัมพูชามีมากถึง 1,700 นาย แต่เป็นการประจันหน้ากันอย่างสันติ ส่วนสำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ทหารไทยตรึงกำลังตามแนวชายแดน เพียง 500 นาย ส่วนทหารกัมพูชามี 1,000 นาย

 

นอกจากนี้ ยังมีข่าวมีจากฝั่งกัมพูชา พบว่า ขณะนี้ มีการส่งข้อความทางโทรศัพท์มือถือ ของกลุ่มผู้ใช้ชาวกัมพูชาให้ต่อต้านสินค้าไทย โดยเอสเอ็มเอสนี้ถูกส่งต่อไปยังชาวกัมพูชาทั่วโลกแล้ว ส่วนฝั่งปอยเปตมีข่าวลือว่ากัมพูชาจะปิดพรมแดน ทำให้ผู้ค้าชาวกัมพูชาในตลาดโรงเกลือพากันตื่นวิตกในสถานการณ์ หลายคนรีบเก็บของกลับประเทศ

 

โฆษกอัยการ แถลง สั่งคดี เอสซีแอสเซทล่าช้า รอเอกสารสำคัญโอนหุ้นจาก สิงคโปร์ - มาเลย์

เว็บไซต์แนวหน้า - ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด แถลงข่าวเกี่ยวกับการพิจารณาสำนวนคดีปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้น บริษัท เอสซีแอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่มี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คุณหญิงพจมาน ภริยา กับพวกรวม 4 คน เป็นผู้ต้องหา ว่า สาเหตุที่การพิจารณาสั่งคดีของคณะทำงานอัยการพิจารณาดำเนินไปด้วยความล่าช้า เนื่องจากต้องรอเอกสารสำคัญเกี่ยวกับการโอนหุ้นที่อัยการมีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ติดตามมาจากประเทศสิงค์โปร์ และมาเลเซีย

 

 "ยอมรับว่าเอกสารหลักฐานที่อัยการสั่งให้ดีเอสไอไปติดตามถือเป็นหลักฐานที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการที่อัยการจะสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องคดี เพราะหลักฐานเท่าที่มีอยู่ในตอนนี้ ยอมรับว่าไม่เพียงพอที่จะมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาคดีได้ " โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดกล่าวและยืนยันว่า การเปลี่ยนตัวหัวหน้าพนักงานสอบสวนดีเอสไอ จะไม่ส่งผลทำให้เกิดการล่าช้าในการขอพยานเอกสารหลักฐานเพื่อมาส่งมอบให้อัยการ เพราะเรื่องนี้มีกำหนดเวลาตามวันนัดสั่งคดี และทุกเดือนเมื่อถึงกำหนดสั่งคดีอัยการจะมีการเตือนไปยังพนักงานสอบสวนอยู่แล้ว

 

ส่วนที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีดีเอสไอ ออกมาประกาศว่าหมดหน้าที่ในคดีเอสซีแอสเสทแล้ว โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า เรื่องนี้ยังเป็นหน้าที่ของดีเอสไอ ซึ่งเป็นเหมือนเจ้าภาพที่จะต้องไปเสาะหาจะติดตามเอกสารดังกล่าวมาให้อัยการ ส่วนจะตามมาได้หรือไม่ก็ต้องแจ้งให้ทราบ

 

ทั้งนี้ นายธนพิชญ์ ปฏิเสธที่จะกล่าวถึงกรณี ที่ดีเอสไอ ถูกมองว่าพยายามช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยระบุว่าไม่อยากให้มองอย่างนั้น เพราะคิดว่าทางดีเอสไอเองก็ต้องการให้เรื่องมันเสร็จ เพียงแต่อาจติดปัญหาในขั้นตอนที่ยุ่งยากเพราะเอกสารดังกล่าวต้องเรียกมาจากต่างประเทศ

 

สำหรับคดีที่ คตส. ทำสำนวนยึดทรัพย์ 76,000 ล้าน ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นั้น นายธนพิชญ์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมร่วมกันของคณะทำงานอัยการ และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ป.ป.ช. ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยดี โดยจะมีการประชุมกันอีกครั้งในสัปดาห์หน้า

 

ส่วนการพิจารณาสำนวนทุจริตจัดซื้อเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิด CTX 9000 โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า จากการประชุมร่วมกันระหว่างคณะทำงานร่วมอัยการ และ ป.ป.ช. ปรากฏว่า ป.ป.ช.เห็นด้วยกับข้อไม่สมบูรณ์ที่อัยการเสนอไปครบทุกข้อ ซึ่งคณะทำงานร่วมจะมีการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเสนอให้นายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุด พิจารณาสั่งคดีต่อไป และสำหรับคดีทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทร ของการเคหะแห่งชาติ ขณะนี้อยู่ระหว่างอัยการ เตรียมแจ้งข้อไม่สมบูรณ์ในสำนวนคดีไปยัง ป.ป.ช.ซึ่งคาดว่าน่าจะดำเนินการได้ภายในสัปดาห์นี้

 

ยัน 3 เดือนเห็นภาพเช่าที่พัสดุ 1 ล้านไร่

เดลินิวส์ - ร.ต.หญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รมช. คลัง เปิดเผยว่า วันที่ 24-25 ก.ค.นี้ กรมธนา รักษ์จะจัดประชุมเชิงปฏิบัติการ 1 ล้านไร่ มิติใหม่ที่ราชพัสดุ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ในลักษณะบูรณาการ ที่มีนายกรัฐมนตรีมาให้นโยบาย รวมทั้งมี 6 รมต.ที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพลัง งาน กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงกลาโหม เพื่อร่วมกันกำหนดแนวทางการจัดสรรที่ดิน 1 ล้านไร่เพื่อให้เกษตรกรเช่าปลูกพืชอาหารและพืชพลังงานทดแทนในราคาไร่ละ 20 บาทตาม นโยบายนายกรัฐมนตรี รวมถึงกำหนดคุณสมบัติของผู้มีสิทธิเช่าที่ราชพัสดุ คาดว่าจากนั้นภายใน 3 เดือนน่าจะเริ่มดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมได้

 

ทั้งนี้หลังจากที่ครม.มีมติเรื่องดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา กระทรวงการคลังได้ทำหนังสือทุกรัฐมนตรีทุกกระทรวง เพื่อขอพื้นที่ราชพัสดุที่แต่ละกระทรวงครอบครองอยู่เกิน 1,000 ไร่ แต่ไม่ได้ใช้งาน หรือถูกบุกรุกคืน ซึ่งขณะนี้ได้มีหน่วยงานทยอยคืนพื้นที่ให้แล้ว คือกระทรวงกลาโหมที่คืนพื้นที่ 100,000 ไร่เศษ ที่ จ.กาญจนบุรี คาดว่าภายใน 3 เดือนนับจากนี้จะได้พื้นที่คืนมารวมครบ 1 ล้านไร่

 

สำหรับคุณสมบัติเบื้องต้นของเกษตรกรที่จะมีสิทธิเข้าร่วมโครงการนั้นคือ ต้องเป็นเกษตร กรในพื้นที่ของจังหวัดนั้น ๆ เพื่อป้องกันเกษตร กรอพยพข้ามจังหวัด ซึ่งพื้นที่ในแต่ละจังหวัดจะไม่เท่ากันอยู่แล้ว แต่เบื้องต้นจะให้เช่าขั้นต่ำคนละ 15 ไร่ขึ้นอยู่กับพื้นที่ ส่วนราคาเช่านั้น จะเริ่มต้นที่ไร่ละ 20 บาทต่อปี แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับพื้นที่ด้วยว่ามีมูลค่าเท่าใด ส่วนสัญญาการเช่านั้นขั้นต่ำ 1 ปีขึ้นไป และต้องดูเรื่องระยะเวลาการเก็บเกี่ยวประกอบด้วย

 

ชี้หวยออนไลน์ไม่ใช่เรื่องด่วน

เดลินิวส์ - ดร.อมรวิชช์ นาครทรรพ ผอ.สถาบันรามจิตติ กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลพยายามผลักดันให้มีหวยออนไลน์ ว่า  การทำหวยออนไลน์ มีทั้งข้อดีและข้อเสีย โดยข้อดี หากรัฐบาลสามารถวางกลไกตลาดที่มีรายได้ชัดเจน เสียภาษีถูกต้อง และมีการนำรายได้มาสนับสนุนทุนการศึกษาอย่างเป็นระบบ ส่วนข้อเสีย คือ จะมีผลกระทบกับสังคมแน่นอน เนื่องจากสังคมไทยยังมีความอ่อนแอ ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยมีชื่อเสียงว่าเป็นเมืองโสเภณีแล้ว ถ้ามีหวยออนไลน์อีกจะเป็นเมืองการพนัน โดยเฉพาะเยาวชนจะติดการพนันสูงขึ้น โดยดูจากงานวิจัยเรื่อง "การเล่นหวยของเยาวชน" ที่พบว่าเดิมเด็กจะเล่นหวยใต้ดิน 5% แต่พอหวยขึ้นมาอยู่บนดินเด็กเล่นเพิ่มเป็น 15-20%  และเมื่อยกเลิกหวยบนดินเด็กก็ยังตามไปเล่นหวยใต้ดิน 15-20% เหมือนเดิม

 

ผอ.สถาบันรามจิตติ กล่าวต่อไปว่า หวยออนไลน์ไฮเทค จะลามไปเป็นการพนันไฮเทค คนที่ไม่เคยเล่นก็อยากจะลองเหมือนการพนันบอล เมื่อเล่นแล้วก็จะติดใจ บางคนเล่นจนติดเป็นนิสัย และหากเด็กติดการพนันแล้วอาชญากรรมในสถานศึกษาก็จะเพิ่มมากขึ้น เช่น การกรรโชกทรัพย์ เนื่องจากพอรุ่นพี่นำเงินไปเล่นหวยหรือการพนันจนเงินหมด ก็จะไปขู่กรรโชกหรือรีดไถจากรุ่นน้อง เช่นเดียวกับการพนันฟุตบอลที่ผ่านมา ซึ่งเรื่องนี้การทำหวยออนไลน์รัฐบาลควรคิดให้หนัก โดยชั่งผลดีและผลเสียก่อน และที่สำคัญไม่ต้องรีบจนเกินไปรออีก 2-3 เดือนก็ไม่สาย เพื่อทุกฝ่ายสบายใจ

 

"ขณะนี้บ้านเมือง สังคม และครอบครัวไทยอ่อนแอมาก ที่สำคัญการศึกษาไม่ได้เข้มแข็งอย่างที่ทุกคนคาดหวัง ซึ่งผมคิดว่าเรื่องการศึกษาสำคัญกว่าหวยออนไลน์ โดยขณะนี้มีเรื่องเร่งด่วนที่รัฐบาลต้องทำหลายเรื่อง เช่น เด็กอายุ 3-5  ขวบที่ไทยมีอยู่ประมาณ 3 ล้านคน แต่มีเพียง         1 ล้านคนหรือไม่ถึง 40% ได้เรียนอนุบาลที่มีคุณภาพ ขณะที่เด็กส่วนใหญ่จะอยู่ในศูนย์เด็กเล็ก มีข้าวมีน้ำให้กิน พอมาเรียนชั้น ป.1 เด็กจะอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ และลามมาถึงระดับมัธยมศึกษาและอุดมศึกษา เมื่อจบแล้วก็ไม่มีงานทำ" ดร.อมรวิชช์ กล่าว

 

ชี้ขาดเลือกสถานที่สร้างสภาใหม่ 13 ส.ค.

เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ -  คณะกรรมการเลือกสถานที่สร้างสภาฯ ใหม่ นัดตัดสินใจครั้งสุดท้าย 13 ส.ค.นี้ หลังเหลือที่ดิน 3 แปลง คือ กรมการขนส่งทหารบก เกียกกาย กรมสรรพาวุธ ปากเกร็ด และคลังน้ำมันคลองเตย

 

การประชุมสรุปผลการสำรวจพื้นที่ก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ของคณะกรรมการจัดหาสถานที่สร้างรัฐสภาแห่งใหม่ ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ร่วมกับประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฏร ประธานและรองประธานวุฒิสภา ตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงกลาโหม กรมสรรพาวุธ ทหารบก กรมการขนส่งทหารบก กรมตำรวจ สำนักผังเมือง ฯลฯ

 

นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงผลการประชุมว่า ที่ประชุมพิจารณาข้อมูลทั้งหมดที่ได้รวบรวมมา แต่ยังไม่มีข้อสรุปถึงสถานที่ก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ โดยคณะกรรมการได้นัดประชุมอีกครั้งเพื่อตัดสินเลือกพื้นที่ก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ในวันที่ 13 สิงหาคม 2551 สำหรับพื้นที่ที่อยู่ในการพิจารณาเหลือพื้นที่เพียง 3 แห่ง คือ ที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย คลองเตย ที่ดินกรมการขนส่งทหารบก เกียกกาย และที่ดินคลังแสง กรมสรรพาวุธทหารบก จังหวัดนนทบุรี

 





เศรษฐกิจ

 

พาณิชย์ดันจัดงานมหกรรมบันเทิง

เดลินิวส์ - นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เปิดเผยว่า กรมได้ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมบันเทิง จัดงานมหกรรมอุตสาหกรรมบันเทิงไทย 2551 (ไทยแลนด์ เอ็นเตอร์เทน เมนท์ เอ็กซ์โป 2008) ที่พารากอนฮอลล์ 1-3 สยามพารากอน ระหว่างวันที่ 24-28 ก.ย.นี้ เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมบันเทิงของไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค พร้อมเชิญชาวต่างชาติมาลงทุนธุรกิจบันเทิงในไทยนำรายได้เข้าประเทศ หลังจากอุตสาหกรรมบันเทิงไทยมีศักยภาพมากในการรับงาน หรือผลิตงานร่วมกับต่างประเทศ

 

 "งานนี้จะนำสินค้าอุตสาหกรรมบันเทิง ไทยมาแสดงให้ต่างชาติได้เห็น พร้อมเปิดโต๊ะเจรจาทางธุรกิจระหว่างกัน โดยจุดแข็งที่จะนำเสนอคือ ด้านวัฒนธรรม เทคโนโลยีระดับสูง และราคาไม่แพง ซึ่งเชื่อว่าหากทำให้ชาวต่างชาติรู้จัก จะช่วยเพิ่มเม็ดเงินหมุนเวียนในอุตสาหกรรมบันเทิงไทยมากขึ้นหลายแสนล้านบาท จากปัจจุบันมีเงินหมุนเวียนกว่า 300,000 ล้านบาท เป็นธุรกิจภาพยนตร์กว่า 27,000 ล้านบาท ธุรกิจเพลง 168,000 ล้านบาท และที่เหลือเป็นธุรกิจอื่น ๆ"

 

 สำหรับหน่วยงานและบริษัทที่เข้าร่วม มาจากไทยกว่า 150-200 บริษัท จำนวน 200-250 คูหา และเป็นคูหาจากต่างประเทศแถบเอเชียอีก 20 คูหา มีธุรกิจประเภทภาพยนตร์ เพลง ธุรกิจสถานที่ผลิตและถ่ายทำ ธุรกิจการ์ตูนแอนิเมชั่น คอมพิวเตอร์กราฟิก ธุรกิจแมวมองจัดหานักแสดง เคเบิลทีวี ดาวเทียม รวมถึงบริษัทโฆษณา ประชาสัมพันธ์ บริการรับจัดงานอีเวนท์ โดยตั้งเป้าหมายว่ามีชาวไทยเข้าร่วมงาน 10,000 คน และชาวต่างชาติ 500 คน

 

นายจาฤก กัลย์จาฤก นายกสมาคมสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติ กล่าวว่า อุตสาหกรรมบันเทิงของไทยแข็งแกร่งมาก โดยเฉพาะเทคโนโลยีหลังการผลิต (โพสต์ โปรดักชั่น) ก้าวหน้ามาก เช่น การตัดต่อ บันทึกเสียง แปลคำบรรยาย (ซับไตเติล) ทำสเปเชียลเอฟเฟกต์ เป็นต้น และสามารถรับงานต่างๆ จากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก รวมถึงจากวงการฮอลลีวูด ของสหรัฐด้วย และถือได้ว่าไทยเป็นศูนย์กลาง (ฮับ) ด้านโพสต์ โปรดักชั่นของเอเชียแล้ว สามารถสร้างรายได้เข้าประเทศปีละมหาศาล เพราะมีค่าใช้จ่ายต่ำกว่าประเทศอื่น ๆ ทั้งจากเกาหลี ญี่ปุ่น ฮ่องกง หรือออสเตรเลีย เชื่อว่การจัดงานครั้งนี้ตอกย้ำให้ต่างชาติเห็นถึงศักยภาพของไทย

 

 "ขณะนี้ รัฐบาลสิงคโปร์กำลังพยายามปลุกปั้นอุตสาหกรรมบันเทิงให้เทียบชั้นไทย แต่ยังไม่สำเร็จ ส่วนออสเตรเลีย ไม่ใช่คู่แข่งไทย เพราะมีการแบ่งแยกตลาดอย่างชัดเจน แต่หากรัฐบาลต้องการให้อุตสาหกรรมบันเทิงไทยก้าวหน้ากว่านี้ ต้องแก้ปัญหาละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาให้หมดไปโดยเร็ว รวมถึงสร้างแรงจูงใจดึงดูดให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนอุตสาหกรรมบันเทิง หรือถ่ายทำภาพยนตร์ในไทย เช่น ไม่เก็บภาษี เป็นต้น หากทำได้ มูลค่าลงทุนจะเพิ่มจากปัจจุบัน 3-4 เท่าตัวได้ไม่ยากในช่วง 2-3 ปีนี้"

 

 นางผุสชา โทณะวณิก รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเอสแอล กล่าวว่า นับเป็นโอกาสดีที่รัฐบาลให้ความสำคัญอุตสาหกรรมบันเทิงและจัดงานนี้ แต่แนวคิดหลักในการจัดงานยังไม่ชัดเจน เพราะมีสินค้าที่หลากหลายเกินไป

 

บอร์ด กทพ. ยอมขึ้นค่าทางด่วนผู้ใช้รถลุ้นชี้ขาดภาษีมูลค่าเพิ่ม

เว็บไซต์คมชัดลึก - นายสุรชัย ธารสิทธิพงศ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานกรรมการ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยหลังประชุมคณะกรรมการเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ว่าที่ประชุมอนุมัติให้ กทพ.ปรับเพิ่มค่าผ่านทางโครงการทางพิเศษเฉลิมมหานคร หรือระบบทางด่วนขั้นที่ 1 และโครงการทางพิเศษศรีรัช หรือระบบทางด่วนขั้นที่ 2 ตามเงื่อนไขสัมปทานระหว่าง กทพ.กับบริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีอีซีแอล กำหนดให้ปรับค่าผ่านทางทุก 5 ปี โดยคำนวณจากดัชนีผู้บริโภค

 

ทั้งนี้ กทพ.จะเสนอให้นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พิจารณาใน 2 ประเด็น คือ 1.ขอปรับอัตราค่าผ่านทางระบบทางด่วนขั้นที่ 1 และ 2 โดยรถยนต์ 4 ล้อ จัดเก็บ 45 บาท จากปัจจุบัน 40 บาท รถยนต์ 6-10 ล้อ จัดเก็บ 70 บาท จากปัจจุบัน 60 บาท และรถยนต์ตั้งแต่ 10 ล้อขึ้นไป จัดเก็บในอัตรา 100 บาท จากปัจจุบัน 85 บาท หากได้รับความเห็นชอบจะออกประกาศโดย กทพ.เพื่อให้มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนนี้

 

2.ขอให้ประชาชนเป็นผู้รับภาระภาษีมูลค่าเพิ่ม จากปัจจุบันที่ กทพ.เป็นผู้รับภาระแทนผู้ใช้ทางเฉลี่ยปีละ 800 ล้านบาท ซึ่งประเด็นนี้ต้องขอความเห็นชอบจาก ครม.หากได้รับการอนุมัติจะส่งผลให้อัตราค่าผ่านทางระบบทางด่วนขั้นที่ 1 และ 2 สำหรับรถยนต์ 4 ล้อ เพิ่มเป็น 48 บาท รถยนต์ 6-10 ล้อ เพิ่มเป็น 74 บาท และรถยนต์ 10 ล้อขึ้นไปเพิ่มเป็น 107 บาท

 

นายสุรชัยกล่าวว่า แม้การปรับอัตราค่าผ่านทางระบบทางด่วนขั้นที่ 1 และ 2 จะกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน แต่ กทพ.จำเป็นต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขสัญญาสัมปทาน เพื่อรักษาวินัยการทำงาน ประกอบกับ กทพ.ไม่ได้ปรับอัตราค่าผ่านทางโครงการนี้มานานกว่า 10 ปี และการไม่ปรับค่าผ่านทางตามเงื่อนไขสัญญายังกระทบต่อฐานะการเงินของ กทพ. ซึ่งมีภาระหนี้สินสะสมถึง 9.9 หมื่นล้านบาท

 

 





ต่างประเทศ

 

รบ.อินเดียโวชนะ โหวตไม่ไว้วางใจ

เดลินิวส์ - เมื่อวันพุธรัฐบาลอินเดียเฉลิมฉลองชัยชนะด้วยการระบุว่า จะช่วยดึงประชาชนให้ออกจากความยากจนได้หลายล้านคน หลังจากชนะการโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจและยังเป็นการปูทางให้กับข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างอินเดีย กับสหรัฐ ภายหลังมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐบาลอินเดียถึงสองวัน แต่ทว่าเมื่อคืนวันอังคาร รัฐบาลผสมนำโดยพรรคคองเกรสของนายกรัฐมนตรีมานโมฮัน ซิงห์ รอดตัวจากการอภิปรายดังกล่าว

 

ด้าน นายพี.ชิดัมบารัม รมว.คลัง กล่าวว่า รัฐบาลชนะการโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วยเสียงส่วนใหญ่ในสภา และว่า ขณะนี้ รัฐบาลได้ข้ามสะพานที่นำไปสู่ข้อตกลงนิวเคลียร์ พลเรือนระหว่างอินเดียกับสหรัฐ อีกทั้งอินเดียจะมุ่งไปข้างหน้าเพื่อการปฏิรูปสังคมและ เศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม หลังจากรัฐบาลชนะการอภิปรายไม่ไว้วางใจจากฝ่ายค้านคือ พรรคชาตินิยมฮินดูและกลุ่มนักการเมืองฝ่ายซ้าย  ปรากฏว่า ดัชนีหุ้นของตลาดหลักทรัพย์อินเดีย ได้ดีดตัวขึ้นร้อยละ 4.4 เมื่อเช้าวันพุธ เพื่อขานรับข่าวรัฐบาลชนะโหวต

 

ขณะที่ นายกฯ ซิงห์ กล่าวว่า ข้อตกลงนิวเคลียร์ดังกล่าว จะทำให้อินเดีย ซึ่งมีความกระหายพลังงาน ได้เข้าสู่อุตสาหกรรมนิวเคลียร์โลกมากขึ้น สำหรับข้อตกลงที่อินเดียทำไว้กับสหรัฐนั้นระบุว่า สหรัฐจะขายโรงงานนิวเคลียร์และเทคโนโลยีที่เกี่ยวโยงกันแก่อินเดีย ซึ่งจะมีการแบ่งแยกเป็นโครงการเพื่อพลเรือนหรือกิจการทางทหาร และเป็นที่ยอมรับของสหประชาชาติ นอกจากนี้ นายกฯ ซิงห์ ยังอ้างถึงความจำเป็นที่จะทำให้เศรษฐกิจขยายตัวด้วยเลขสองหลัก เพื่อทำให้ประชาชนหลายล้านคนหลุดพ้นจากความยากจนเรื้อรังและโรคร้ายต่าง ๆ

 

ญี่ปุ่นธรณีไหวเจ็บนับร้อย

เว็บไซต์สยามรัฐ - เกิดเหตุแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงบริเวณตอนเหนือของญี่ปุ่น วัดแรงสั่นสะเทือนได้  6.8  ตามมาตราริกเตอร์ เมื่อเวลาประมาณ 24.00 น.ของวันพุธที่ผ่านมา ตามวันเวลาท้องถิ่น ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 116 คน ในจำนวนนี้มีอาการสาหัส 26 คน  นอกจากนี้  ยังมีบ้านเรือน  และบริษัทห้างร้าน ตลอดจนโรงงานต่างๆ ได้รับความเสียหาย  อย่างไรก็ตาม เหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ไม่มีผู้เสียชีวิต ทางด้าน ทางการญี่ปุ่นได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกค้นหาผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ที่เกิดเหตุแผ่นดินไหวแล้ว

 

จีนกำหนดจัดพื้นที่พิเศษ

เดลินิวส์ - เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงของจีน เปิดเผยเมื่อวันพุธว่า กรุงปักกิ่งจะกำหนดเขตพิเศษให้กลุ่มผู้ประท้วงระหว่างการแข่งขันกีฬาโอลิม ปิกในเดือนหน้า ซึ่งเป็นสัญญาณว่ารัฐบาลจีนอาจจะอนุญาตให้มีการประ ท้วงได้บ้างในระหว่างการแข่งขันกีฬาของหมู่มวลมนุษยชาติ นายหลิว เฉาหวู ผู้อำนวยการด้านความมั่นคงของคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในกรุงปักกิ่ง กล่าวว่า มีสวน สาธารณะอย่างน้อย 3 แห่งใกล้กับ สนามกีฬาได้ถูกกำหนดให้กลุ่มผู้ประ ท้วงใช้เป็นสถานที่ชุมนุมประท้วงได้

 

การดำเนินการดังกล่าวของรัฐบาลจีน เป็นการปฏิบัติแบบเดียวกับที่ทางรัฐบาลกรีซเคยทำระหว่างการแข่งขันโอลิมปิกในปี 2547 ในกรุงเอเธนส์ และการตัดสินใจของจีนยุติข้อถกเถียงกันภายในประเทศที่ยืดเยื้อมาหลายเดือน รัฐ บาลจีนหวั่นเกรงว่า การประท้วงในที่สาธารณะอาจทำลายความพยายามของจีนในการใช้กีฬาโอลิมปิกเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ของตัวเองในสายตาต่างประเทศ และทำลายคะแนนนิยมของรัฐบาลในประเทศด้วย

 

ทั้งนี้ รัฐบาลจีนระบุว่า โอลิมปิกตกเป็นเป้าหมายของการก่อการร้าย และก่อนหน้านี้ สามารถทำลายแผนการที่จะก่อการร้ายระหว่าง การแข่งขันกีฬาของกลุ่มหัวรุนแรงในมณฑลซินเจียง ทางตะวันตกของประเทศ อย่างไรก็ตาม จีนยังมีความวิตกกังวลว่า การชุมนุมประท้วงของกลุ่มรณรงค์ด้านสิทธิมนุษยชน หรือนักเคลื่อนไหวชาวทิเบต อาจก่อกวนการแข่งขันโอลิมปิก

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท