Skip to main content
sharethis

 






การเมือง - สังคม


 


ประธาน กกต.เร่งสอบคดียุบพรรคพลังประชาชน คาดส่งศาลรัฐธรรมนุญ ไม่เกิน 15 สิงหาคม


เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ - นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีที่คณะอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง กรณียุบพรรคพลังประชาชน ที่มีนายประทีป เปรื่องวงศ์ เป็นประธาน ได้ทำหนังสือเชิญนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และนายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน มาชี้แจงในวันพฤหัสบดีที่ 7 และวันศุกร์ที่ 8 สิงหาคม ซึ่งนายสมัคร อาจมาชี้แจงด้วยตัวเองหรือทำหนังสือมาชี้แจงก็ได้ พร้อมมั่นใจว่า ไม่ได้มีการยื้อเวลาสำนวนดังกล่าว ซึ่ง กกต.สามารถพิจารณาสำนวนดังกล่าวได้ทันที ไม่เกินวันศุกร์ที่ 15 สิงหาคมนี้ ก่อนที่จะส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรคต่อไป


 


ส่วนกรณีที่อาจจะมีการยุบสภา แล้วจะมีผลต่อการพิจารณาสำนวนการให้ใบเหลือง-ใบแดงหรือไม่นั้น ตนเห็นว่า สำนวนใดที่เป็นความผิดทางอาญา ไม่สามารถยุติลงได้ เว้นแต่หมดอายุความ โดย กกต.จะต้องมีการพิจารณาต่อไป


 


ทุ่มงบ 5 พันล้านย้ายชุมชน เดินหน้าสร้างสภาใหม่ที่เกียกกาย เผยทหารพร้อมย้ายออกใน 3 เดือน


เว็บไซต์แนวหน้า - นาย ชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ได้ประชุมร่วมกับนาย สมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน นาย ประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา พล.อ. อนุพงศ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. พร้อมตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสรุปผลพื้นที่ก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ โดยภายหลังการประชุม นาย ชัย แถลงว่า ที่ประชุมได้ข้อสรุปที่จะสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ในพื้นที่ทหารย่านเกียกกาย


 


พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาฯ กล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าวมีประมาณ 119 ไร่ โดยชุมชนที่มีอยู่เดิมไม่มีปัญหาในการย้ายออก ซึ่งทางโรงเรียนโยธินบูรณะจะย้ายไปอยู่ย่านใกล้เคียงห่างจากที่เดิม 1.7 กิโลเมตร ซึ่งทางสภาจะสร้างโรงเรียนใหม่วงเงิน 1 พันล้านบาท ทั้งนี้รวมงบประมาณในการย้ายชุมชนและโรงเรียนโยธินบูรณะจะอยู่ที่ประมาณ 5 พันล้านบาท โดยทางทหารยินดีที่จะย้ายออกจากพื้นที่ 3 เดือนหลังจากนี้ เพื่อให้สภาได้ดำเนินการกราบบังคมทูลเชิญสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวหรือผู้แทนพระองค์เสด็จวางศิลาฤกษ์ก่อนวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธ.ค.นี้  ทั้งนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการอำนวยการก่อสร้างจำนวน 70 กว่าคน และต่อไปจะเริ่มออกแบบพร้อมสร้างศาลาเฉลิมพระเกียรติเพื่อเสด็จวางศิลาฤกษ์  คาดว่าจะสร้างเสร็จภายใน 3-4 ปี ซึ่งจะไม่มีการใช้การประมูลวิธีพิเศษ โดยหากมีการยุบสภาในระหว่างนั้น ทางวุฒิสภาก็สามารถดำเนินการต่อไปได้


 


ด้านนายสมัคร กล่าวภายหลังการประชุมว่า การประชุมได้ข้อยุติแล้ว ทุกอย่างเรียบร้อยดี ไม่มีปัญหา ขณะที่พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ทางกองทัพไม่มีปัญหาในการขอใช้สถานที่ ส่วนอุปสรรคในการขนย้ายหน่วยทหารออกจากพื้นที่ก็ไม่มีปัญหาทุกอย่างตกลงกันเรียบร้อย


 


กองสลากฯ ยันพร้อมออกรางวัลหวยบนดินออนไลน์ งวดแรก 1 ต.ค.


ผู้จัดการออนไลน์ - นายวันชัย สุระกุล รักษาการผู้อำนวยการ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการออกจำหน่ายเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว หรือ หวยบนดินแบบออนไลน์ ว่า สำนักงานสลากฯ พร้อมเปิดจำหน่ายวันแรกในวันที่ 17 กันยายนนี้ ผ่านเครื่องออนไลน์จำนวน 6,432 เครื่องทั่วประเทศ และจะออกรางวัลงวดแรกในวันที่ 1 ตุลาคม 2551 ทั้งนี้ ได้เตรียมเปิดรับสมัครผู้เดินจำหน่าย หรือ คนเดินโพย แบบไม่จำกัดจำนวน ในวันที่ 18 - 20 สิงหาคมนี้ สำหรับบุคคลทั่วไป ส่วนผู้พิการยื่นหลักฐานพร้อมใบสมัครได้ในวันที่ 21 - 22 สิงหาคมนี้ อย่างไรก็ตาม ผู้สนใจต้องกรอกข้อมูลใบสมัครทางเว็บไซต์ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ภายในวันที่ 11 - 17 สิงหาคมนี้ ก่อน


 


ขณะที่คุณสมบัติ ต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทย อายุไม่ต่ำกว่า 20 ปี สำหรับเงินรายได้จะได้จากส่วนลดเมื่อนำใบเลือกเลขไปบันทึกกับเจ้าของเครื่องออนไลน์ ในอัตราร้อยละ 3.5 ส่วนเจ้าของเครื่องจะได้รับส่วนลดในอัตราร้อยละ 4 คาดว่าจะมีผู้ที่สนใจสมัครกว่า 300,000 รายทั่วประเทศ


 


ไกรศักดิ์-วสันต์ เข้าพบ ตร.นางเลิ้ง รับทราบข้อหาพร้อมปฏิเสธคดีหมิ่นทักษิณ


เว็บไซต์เดลินิวส์ - 4 ส.ค. นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ อดีต ส.ว.นครราชสีมา และนายวสันต์ พานิช ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง เพื่อรับทราบข้อกล่าวหากรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มอบหมายให้นายวาสุเทพ ศรีโสดา ทนายความร้องทุกข์ดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาท เนื่องจากบุคคลทั้งสองพูดบนเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 2551 เกี่ยวกับการฆ่าตัดตอนในสงครามยาเสพติด ทำให้มีผู้ถูกฆ่าตายถึง 2,800 ศพ


 


ทั้งนี้ นายไกรศักดิ์ และนายวสันต์ ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยยืนยันว่าเป็นการพูดจากการรวบรวม ศึกษาค้นคว้า และรับเรื่องร้องเรียนตามรายงานการทำงานของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบ ศึกษา และวิเคราะห์การกำหนดนโยบายปราบปรามยาเสพติดให้โทษและการนำนโยบายไปปฏิบัติจนเกิดความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย ชื่อเสียง และทรัพย์สินของประชาชน (คตน.) และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ


 


สำหรับคดีดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 31 ก.ค. นายวาสุเทพ ผู้รับมอบอำนาจจาก พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ให้ดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาทกับผู้ต้องหา 6 คนและบริษัทไทยเดย์ดอทคอม จำกัด บริษัทเอเอสทีวี จำกัด ประกอบด้วย 1.นายไกรศักดิ์ ชุณหวัณ 2.นายวสันต์ พาณิชย์ 3.นายจิตนาถ ลิ้มทองกุล 4.นายพชร สมุทวณิช 5.นายวริษฐ์ ลิ้มทองกุล และ 6.นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ เนื่องจากนายไกรศักดิ์ ได้ขึ้นเวทีปราศรัยพันธมิตรฯ กล่าวปราศรัยใส่ความหมิ่นประมาท พ.ต.ท.ทักษิณ ต่อบุคคลที่สามซึ่งเป็นผู้ร่วมชุมนุมและผู้ที่ดูรายการถ่ายทอดสดเอเอสทีวี ระบุว่า ไม่เคยมีประวัติศาสตร์ที่มีการฆ่ามากมายเท่ากับรัฐบาลทักษิณ ข้อความที่นายไกรศักดิ์ กล่าวมานั้นทำให้คนฟังเข้าใจว่า นโยบายประกาศสงความของ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้นทำให้มีคนตายเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้มีคนตายกว่า 2,800 ศพ เพราะคำสั่งของอาชญากรหรือไม่ก็เป็นคำสั่งของคนบ้าสั่งให้มีการฆ่ากันตายมากมาย


 


อีสานพัฒนา เดินหน้าเจาะยางรัฐบาล หมัก ศักดาปูดลูกแก๊งค์ออฟโฟร์บินถึงฮ่องกงเจรจาเช่ารถเมล์เอ็นจีวี


เว็บไซต์แนวหน้า - นายศักดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคพลังประชาชน สมาชิกกลุ่มอีสานพัฒนา กล่าวถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบกรณีที่มีบุคคลใกล้ชิดนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี มีพฤติกรรมการบริหารงานที่ไม่โปร่งใสว่า ล่าสุดทางกลุ่มอีสานพัฒนาได้ข้อมูลมาว่ามีบุคคลที่ใกล้ชิดนายกฯและอยู่ในแก๊งค์ออฟโฟร์ บินไปเจรจาที่เกาะฮ่องกง เมื่อเร็วๆนี้เพื่อเจรจาล็อบบี้กับนักธุรกิจเพื่อจะได้ผลประโยชน์เอื้ออาทรจากโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 6 พันคัน เพื่อนำเงินส่วนนี้มาเป็นทุนในการไปสร้างพรรคการเมืองใหม่ รวมทั้งยังปูนฐานวางเครือข่ายในกระทรวงต่างๆที่มีหน้าที่ในการจัดสรรงบประมาณวงเงินมหาศาล ไม่ว่าจะงบประมาณการปกครองส่วนท้องถิ่นจำนวน 1.5หมื่นล้านบาทที่ทางกลุ่มหวังเข้าไปแสวงหาผลประโยชน์เพื่อแก่กลุ่มตนเอง


 


 "ตอนนี้กลุ่มอีสานพัฒนาได้ข้อมูลหลายส่วนเข้ามาจำนวนมาก โดยเฉพาะพบว่าข้าราชการในกระทรวงมหาดไทยในส่วนของกรมปกครองส่วนท้องถิ่น มีสภาพที่หวาดกลัวจะถูกฝ่ายการเมืองเล่นงานสั่งย้าย หากไม่ทำตามคำสั่งที่ฝ่ายการเมืองในแก๊งค์ออฟโฟร์ที่ต้องการและพยายามหากินกับโครงการโดยการเซ็นอนุมัติโครงการต่างๆเพื่อเอาผลประโยชน์มาไว้ในกลุ่ม ตรงนี้ไปตรวจสอบได้ว่าใครดูแลส่วนใด พูดแค่นี้ก็ชัดเจนแล้ว เพราะผมและ ส.ส.อีกหลายคนรับไม่ได้กับพฤติกรรมดังกล่าวที่มีการวางแผนหาทุนสร้างบารมีของกลุ่มตัวเองเพื่อมีอำนาจต่อรองในการเลือกตั้งในอนาคต ซึ่งมีการเตรียมไปจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ ถือเป็นการเนรคุณต่อพรรค"นายศักดา กล่าว


 


นายศักดา ยังตั้งข้อสังเกตว่าในการผลักดันโครงการดังกล่าวเป็นวงเงินเป็นแสนล้านบาท ซึ่งจะต้องมีการวางเงินค้ำประกัน 5,000ล้านบาท คงไม่มีบริษัทในประเทศไทยทำได้ จึงมีความพยายามเจรจากับบริษัทเพียงบริษัทเดียวบินไปคุนถึงเกาะฮ่องกงเมื่อเร็วๆนี้ จึงขอให้จับตาให้ดี หากมีการดำเนินการสำเร็จ เพราะผลประโยชน์เป็นเงินหลายพันล้านบาท ทั้งๆที่ความจริงแล้วโครงการดังกล่าว ไม่ได้เป็นนโยบายที่พรรคได้ประกาศในการรณรงค์หาเสียงในการเลือกตั้งที่ผ่านมา  ทำไมถึงมีการเร่งรัดรวดเร็วจนผิดสังเกตแทนที่รัฐบาลจะเร่งผลักดันนโยบายเรื่องน้ำ โครงการเอสเอ็มแอล และอีกหลายเรื่องที่คนอีสานกำลังเฝ้ารอและคาดหวังจากนายกรัฐมนตรีที่ได้ประกาศไว้เพราะรู้ว่าปากกับใจตรงกัน


 


 "เรื่องนี้พวกเราอยากเห็นรัฐบาลบริหารประเทศต่อไปได้ จึงอยากให้นายกรัฐมนตรี ต้องกล้ากำจัดและทำให้สะอาดในการบริหาร ถ้าท่านนายกฯสงสัยก็สามารถสอบถามได้จากท่านอดีตนายกฯบรรหาร ศิลปอาชา ท่านทราบข้อมูลมากพอสมควรว่าพฤติกรรม ใครเป็นอย่างไรเพื่อประกอบการตัดสินใจในการบริหารประเทศชาติ ถึงวันนี้ยังไม่สายเกินไปที่จะแก้ไข ปรับปรุงได้เพราะยังเป็นนายกฯอยู่สามารถุแก้ปัญหาต่างๆ ถ้าไม่ขจัด ปล่อยให้เหลือบ เห็บ ไรในรัฐบาลจะเป็นปัญหาต่อชาติในอนาคต"นายศักดา ย้ำ


 


ทั้งนี้ นายศักดา กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ทางกลุ่มจะรอฟังว่านายรัฐมนตรีจะดำเนินการในเรื่องนี้อย่างไร ซึ่งท้ายที่สุดหากนายสมัครเพิกเฉย ก็อาจหารือภายในกลุ่มเพื่อขอมติว่าจะใช้ช่องทางการตรวจสอบโดยยื่นหลักฐานให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ต่อป.ป.ช.)ดำเนินการสอบต่อไป


 


นายศักดา กล่าวยืนยันว่าในการประชุมพรรคพลังประชาชนวันที่ 5 ส.ค.นี้ตนจะเข้าร่วมประชุมอย่างแน่นอน พร้อมชี้แจงในการออกมาเปิดโปงคนใกล้ชิดนายกฯมีการกระทำทุจริตหลายสิบเรื่อง ให้ทุกคนในพรรคเกิดความเข้าใจซึ่งกลุ่มมีเจตนาบริสุทธิ์ใจ ต้องการให้ทำให้เกิดความโปร่งใสและพร้อมเปิดเผยข้อมูลในอดีตถึงปัจจุบันให้รับทราบ


 


ผู้สื่อข่าวถามว่าล่าสุดมี ส.ส.ในพรรคบางคนเตรียมเสนอให้คณะกรรมการจริยธรรมของพรรคสอบสวนตนนั้น  ขอยืนยันว่า ตนต้องปกป้องพรรคที่ประชาชนให้ความไว้วางใจดังนั้นเมื่อพบสิ่งที่ผิดปกติ ไม่ชอบมาพากลจึงจำเป็นต้องออกมาเปิดเผยเพื่อให้เกิดความถูกต้อง ซึ่งเชื่อว่าเรื่องนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อพรรคอย่างที่มีสมาชิกบางคนในพรรคเป็นห่วง


 


เมื่อถามว่ามีข้อสังเกตตอบโต้ว่านายศักดาเคยอยู่สังกัด นายเนวิน ชิดชอบ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยมาก่อน ซึ่งการออกมาเคลื่อนไหวตรวจสอบครั้งนี้เป็นเพราะไม่ได้รับผลประโยชน์ นายศักดา กล่าวว่าที่ผ่านมาตนมาเคยสังกัดกลุ่มนายเนวิน แต่การออกมาตรวจสอบเรื่องต่างๆของตนนั้นเป็นจุดยืนทางการเมืองที่รับไม่ได้กับพฤติกรรมบางอย่างภายในพรรค  ซึ่งหากย้อนไปเมื่อ 3-4 ปีก่อนในสมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทยที่ตนได้เป็นกรรมาธิการงบประมาณ ก็เคยอภิปรายคัดค้านการจัดสรรงบประมาณที่มีลักษณะกระจุกตัวให้กับกลุ่มคนๆเดียว


 


ชูศักดิ์ แจง วีรพงษ์ แค่ที่ปรึกษาไม่ต้องลาออกจากเอกชน


เว็บไซต์คมชัดลึก - 4 ส.ค. เวลา 11.40 น.นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี จะแต่งตั้งนายวีรพงษ์ รามางกูร เป็นประธานที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ สามารถเข้าร่วมประชุมครม.ได้และบางฝ่ายมองว่าอาจขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 84 ว่า การให้คำปรึกษาหมายถึงการที่มีคำถามขึ้นมา ที่ปรึกษาก็ให้คำปรึกษาไป ผู้ที่รับคำปรึกษาจะปฏิบัติตามหรือไม่ก็สุดแล้วแต่ ไม่ใช่เป็นบทบังคับว่าเมื่อพูดแล้วรัฐบาลหรือนายกฯต้องทำตาม การที่แต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาก็เพื่อให้คำแนะนำต่างๆ หากไม่ขอคำแนะนำก็ไปทำอะไรไม่ได้


 


เมื่อถามว่า นายวีรพงษ์ อาจนำความลับในที่ประชุมครม.ไปเปิดเผยกับภาคธุรกิจเอกชนที่นายวีรพงษ์ทำงานอยู่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า การให้คณะกรรมการชุดนี้เข้าประชุมหรือไม่ แล้วแต่ดุลยพินิจของครม. บางเรื่องที่เกี่ยวข้องก็มีหัวหน้าฝ่ายต่างๆ เข้ามาชี้แจง คงไม่เกี่ยวข้องกัน เมื่อถามว่า แสดงว่านายวีรพงษ์อาจจะไม่เข้าร่วมประชุมครม.ทุกครั้ง นายชูศักดิ์กล่าวว่า เป็นดุลพินิจของนายกฯว่าสมควรให้เข้าร่วมประชุมหรือไม่ ส่วนใหญ่หากใครเข้าประชุมครม.ก็ต้องเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้นๆ เช่นตนดูแลงานกฎหมายก็จะเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาร่วมประชุม ดังนั้นมันเป็นคนละเรื่องกัน เชื่อว่าความเห็นของฝ่ายนั้นๆ จะเป็นประโยชน์กับบ้านเมือง และน่าจะมองในแง่นั้น สุดท้ายก็อยู่ที่ดุลยพินิจของนายกฯและรัฐบาลว่าจะมีความเห็นอย่างไรอาจทำตามหรือไม่ทำตาม อาจมีความเห็นตรงข้ามก็ได้ เป็นเรื่องธรรมดา


 


เมื่อถามว่า นายวีระพงษ์ไม่รับตำแหน่งรัฐมนตรีแต่เลี่ยงมาทำหน้าที่ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจเพื่อไม่ให้ตัวเองเสียประโยชน์ที่ได้รับจากเอกชน นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ได้เลี่ยงอะไร นายวีระพงษ์แสดงเจตนาไม่รับตำแหน่ง ซึ่งย้อนไปเมื่อรัฐบาลชุดที่แล้วก็มีผู้มีความรู้ความสามารถหลายคน และสุดท้ายคนพวกนี้ไม่รับตำแหน่งเพราะกลัวกฎหมายนั้นกฎหมายนี้ ตนเชื่อว่าการให้คำปรึกษาชื่อมันก็บอกแล้วว่าให้คำปรึกษา จะทำตามหรือไม่ก็ไม่มีผลผูกพันอะไรกัน เมื่อถามว่า การเข้าร่วมประชุมครม.อาจผิดหลักธรรมาภิบาลการบริหารราชการแผ่นดิน ดังนั้นนายวีระพงษ์ควรลาออกจากงานภาคเอกชนก่อนเข้ารับตำแหน่งหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ต้องดูว่าล่วงรู้ความลับของครม.เกี่ยวกับเรื่องใดบ้าง ตนเข้าใจว่านายวีระพงษ์จะเข้ามาให้คำปรึกษาด้านเศรษฐกิจในภาพรวมและคงไม่จำเป็นต้องลาออก เพราะมันไม่ใช่ตำแหน่งที่เป็นทางการหรือในแง่กฎหมาย


 


เตช  เตรียมเยือน ลาว - พม่า เนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง รมต.บัวแก้ว


เว็บไซต์แนวหน้า - มีรายงานข่าวว่า นายเตช บุนนาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ มีกำหนดเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 12-13 สิงหาคมนี้ เนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างเป็นประเทศแรก ส่วนในวันที่ 23-24 สิงหาคม จะเดินทางเยือนสหภาพพม่าอย่างเป็นทางการ เนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่าง และฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตครบ 60 ปี


 


ทบ.แจงทหารไทยดูแลตาเมือนธม ปฎิบัติงานตามปกติ


เว็บไซต์แนวหน้า -  พ.อ.หญิงศิริจัทนร์  งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวชี้แจงถึงกรณีที่กัมพูชา กล่าวหาทหารไทยว่าเข้ายึดปราสาทตาเมือนธม ที่ตั้งอยู่บริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา จ.สุรินทร์ว่า กำลังทหารของกองทัพบกที่ประจำการอยู่บริเวณปราสาทตาเมือนธมนั้น เป็นการปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลพื้นที่ตามแนวชายแดนอย่างปกติ และได้ดำเนินการในลักษณะเช่นนี้มาอย่างต่อเนื่อง เป็นเวลานานแล้ว โดยทหารไทยดังกล่าวปฏิบัติงานอยู่ในเขตแดนของประเทศไทย มิได้ล่วงล้ำเข้าไปในเขตแดนของประเทศเพื่อนบ้านแต่อย่างใด         


 


ทั้งนี้สถานการณ์ในพื้นที่ดังกล่าวยังอยู่ในความเรียบร้อย  โดยหน่วยทหารของทั้งสองประเทศได้มีการประสานงานกันอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดหรือการกระทบกระทั่งกันในทุกๆ เรื่อง อย่างไรก็ตามการปรากฎเป็นข่าวในลักษณะดังกล่าว ในช่วงเวลาที่มีความละเอียดอ่อนระหว่างกัน อาจ  ก่อให้เกิดความสับสนและไม่เป็นผลดีกับทั้งสองประเทศ  กองทัพบกในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบในการดูแลพื้นที่จะดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยของประเทศไทย ควบคู่ไปกับการรักษาความสัมพันธ์อันดีของทั้งสองประเทศ


 


ตร.แม่สอดกวาดล้างอาชญากรรมต้อนรับ"ลอร่า บูช"


เว็บไซต์สยามรัฐ - เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2551 จากการที่ นางลอร่า บูช  ภริยานายจอทส์ บูช  ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา จะเดินทางมาเยือนชายแดนไทย-พม่า ที่ อ.แม่สอด และ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก เพื่อตรวจเยี่ยมผู้อพยพชาวกะเหรี่ยงและองค์กรเอกชนนานาชาติที่ดูแลด้านสิทธิมนุษยชนและผู้อพยพ รวมทั้งไปเยี่ยมคลินิกแม่ตาว ของ แพทย์หญิงซินเทีย ที่ได้รับรางวัลแม็กไซไซ ที่ อ.แม่สอด  เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการรักษาความปลอดภัย (รปภ.) พล.ต.ต. วิทูรย์  คลังพลอย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตาก ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.สงกรานต์ สังขกร  รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตาก รักษาการผู้กำกับการ สภ.แม่สอด นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สนธิกำลังร่วม ด่านตรวจคนเข้าเมืองตาก(แม่สอด) และชุดปราบปรามแรงงานต่างด้าว เข้าทำการกวาดล้างจับกุมแรงงานต่างด้าวที่เป็นแรงานเถื่อนแลอาชญากรรม ในพื้นที่ ชายแดนไทย-พม่า อ.แม่สอด จ.ตาก  โดยเจ้าหน้ที่ได้จับกุมแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองโยผิดกฎหมายได้กว่า 200 คน และได้นำตัวไปทำบันทึกประวัติและควบคุมตัวก่อนที่จะผลักดันกลับไปยังจังหวัดเมียวดี ประเทศพม่า


 


 






เศรษฐกิจ


 


ปลัดพลังงาน โยนรัฐมนตรี ชี้ขาดขึ้นราคาก๊าสแอลพีจี หนุนผู้ค้ารายอื่นนอกจาก ปตท. นำเข้าได้ด้วย


เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ - นายพรชัย รุจิประภา ปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานคณะทำงานการปรับโครงสร้างราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปราคาแอลพีจีได้ รวมทั้งมาตรการนำเข้าแอลพีจี กรณีที่ปริมาณความต้องการเพิ่มขึ้นมาก จากปัจจุบันที่มี บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) หรือ PTT นำเข้าพียงรายเดียว ส่วนตัวมองว่า ควรที่จะให้ผู้ค้ามาตร 7 รายอื่น สามารถนำเข้าแอลพีจีได้ด้วย เพราะภาวะตลาดในปัจจุบัน ปตท.มีความสามารถในการรองรับการนำเข้าแอลพีจีเพียง 60,000 ตันเท่านั้น


 


อย่างไรก็ตาม ผู้ค้ามาตรา 7 บางราย อาจกังวลเกี่ยวกับเงินชดเชย ส่วนต่างราคาแอลพีจี ดังนั้น คณะทำงานฯจึงต้องเร่งเพื่อหาข้อสรุปด้านตัวเลขดังกล่าวให้ชัดเจนรวมทั้งมาตรการป้องกันการรั่วไหล หรือการใช้ผิดประเภท


 


"สัปดาห์หน้ายังไม่ทราบว่าจะเสร็จหรือไม่ การประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นอกจากนี้ รัฐบาลคงไม่บังคับให้เพิ่มปริมาณสำรองแอลพีจี แน่นอน" นายพรชัยกล่าว ทั้งนี้ แผนเบื้องต้น เชื่อว่าจะยังคงยึดสูตรโครงสร้างการปรับราคาแอลพีจีแบบขั้นบันได คือ อิงราคาในตลาดโลก โดยงวดนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 10% จากปัจจุบันอยู่ที่เพียง 5% เท่านั้น และหลังจากนั้นก็จะขยับขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละไตรมาส


 


ด้านพล.ท. (หญิง) พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า การปรับราคาแอลพีจี ขอระยะเวลาพิจารณาตัวเลขการปรับขึ้นราคา ปริมาณการใช้และการป้องกันการรั่วไหลแอลพีจีจากภาคครัวเรือน ไปใช้ในภาคขนส่งและอุตสาหกรรมอย่างรอบคอบอีกครั้ง โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในสัปดาห์นี้


 


เงินเฟ้อสวนราคาน้ำมันก.ค.ทะลุ 9.2%ทำนิวไฮสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบ 10 ปี


เว็บไซต์ฐานเศรษฐกิจ - เงินเฟ้อ ก.ค. ฉุดไม่อยู่ พุ่งถึง 9.2% สวนทิศทางราคาน้ำมัน พาณิชย์ยังไม่ปรับเป้า เชื่อแนวโน้มลดลง จากทิศทางราคาน้ำมันตลาดโลก และ 6 มาตรการรัฐบาล ยันตัวเลขเงินเฟ้อในช่วงที่เหลือของปี ไม่ถึง 2 หลัก ด้านผู้ประกอบการกระอักต้นทุนพุ่ง ดัชนีราคาผู้ผลิตกระฉูด 21.2 %


 


นางไพเราะ สุดสว่าง รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (เงินเฟ้อ) และดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศ ประจำเดือนกรกฎาคม 2551ว่าเท่ากับ 128.1 สูงกว่าเดือนกรกฎาคมปีก่อนร้อยละ 9.2 สูงที่สุดในรอบ 10 ปีหลังจากเคยสูงถึงร้อยละ 10.7 ในเดือนมิถุนายน 2541 สูงกว่าเดือนมิถุนายน 2551ร้อยละ 0.3 และเฉลี่ยปี 2551 (ม.ค. - ก.ค.)สูงขึ้นร้อยละ 6.6


 


ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้เงินเฟ้อ เดือนกรกฎาคม 2551 สูงกว่าเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 9.2 คือราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีสัดส่วนในการคำนวณเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 11.67 แม้ว่าในช่วงกลางเดือนราคาน้ำมันจะลดลงตามแนวโน้มราคาในตลาดโลก และการลดภาษีสรรพสามิตแก๊สโซฮอล์และน้ำมันดีเซล แต่ดัชนีราคาน้ำมันเชื้อเพลิงได้เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 46.9  ทำให้ดัชนีหมวดอื่นๆที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มสูงขึ้นร้อยละ 7.6 และยังส่งผลให้ราคาสินค้าต่างๆสูงขึ้น สะท้อนได้จากดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่มที่สูงขึ้นร้อยละ 11.8 แบ่งเป็น ราคาข้าวแป้ง และผลิตภัณฑ์จากแป้งสูงขึ้นร้อยละ 33.5 เนื้อสัตว์ร้อยละ 19.2 และเครื่องประกอบอาหารสูงขึ้นร้อยละ 16.3


 


นางไพเราะ กล่าวอีกว่า แม้ว่าเงินเฟ้อของเดือนกรกฎาคม 2551 เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2551 จะสูงขึ้นร้อยละ 0.3  แต่ก็เป็นการสูงขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลง จากร้อยละ 1.2 ในเดือนก่อน โดยสาเหตุสำคัญมาจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง และพิจารณาแนวโน้มภาวะเงินเฟ้อตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ถึงปัจจุบัน พบว่ามีการปรับตัวเพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลง กล่าวคืออัตราการเติบโตของเงินเฟ้อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้า ในเดือนพฤษภาคม - กรกฎาคม คือร้อยละ 2.1, 1.2 และ 0.3 ตามลำดับ


 


"เชื่อว่าเงินเฟ้อร้อยละ 9.2 ในเดือนนี้น่าจะเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในปีนี้ เนื่องจากดูตัวเลขการเติบโตเดือนต่อเดือน แล้วพบว่าเพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลงเรื่อยๆ ประกอบกับรัฐบาลได้ออก 6 มาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชน และมาตรการต่างๆของกระทรวงพาณิชย์ เช่น การตรึงราคาสินค้าที่จำเป็น งานมหกรรมธงฟ้า และงานเมดอินไทยแลนด์ ทำให้เชื่อว่าเงินเฟ้อในช่วงที่เหลือของปี ไม่น่าจะเพิ่มไปถึงเลข 2 หลัก ดังนั้นขณะนี้ทางกระทรวงพาณิชย์จะยังไม่มีการปรับเป้าหมายเงินเฟ้อทั้งปี โดยจะคงไว้ที่ร้อยละ 5 - 5.5 เช่นเดิม อย่างไรก็ตามทางกระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ภาวะเงินเฟ้อทั้งปีน่าจะอยู่ที่ประมาณร้อยละ 5.5-7 "นางไพเราะกล่าว


 


ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต ซึ่งสะท้อนถึงต้นทุนของผู้ผลิต ประจำเดือน กรกฎาคม 2551 พบว่ามีดัชนีเท่ากับ 170.1สูงขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2551 ร้อยละ 1.3 สูงขึ้นร้อยละ 21.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และเฉลี่ย 7 เดือนแรกของปี 2551 สูงขึ้นร้อยละ 14.5 โดยมีสาเหตุมาจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิง สินค้าเกษตร และผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่สูงขึ้น


 






ต่างประเทศ


 


จ่อคว่ำบาตรอิหร่านเพิ่ม


เว็บไซต์สยามรัฐ - นายริชาร์ด  เกรเนลล์ โฆษกทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ หรือยูเอ็น กล่าวว่า  คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติหรือยูเอ็น จะเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรหรือแซงก์ชันทางเศรษฐกิจต่ออิหร่าน จากกรณีที่อิหร่านเพิกเฉยต่อแก้ไขปัญหาวิกฤตินิวเคลียร์ตามคำเรียกร้องของประชาคมโลก  ขณะเดียวกัน ทางด้านกองกำลังปฏิวัติของอิหร่าน เปิดเผยว่า อิหร่านได้ประสบความสำเร็จในการทดสอบอาวุธโจมตีทางน้ำ ที่มีสมรรถนะยิงทำลายเรือรบของข้าศึกในระยะรัศมี 300 กิโลเมตร


 


เกาหลีใต้วางแผนเป็นคลังน้ำมันของภูมิภาค


ผู้จัดการรายวัน - เกาหลีใต้ขายฝันเป็นคลังน้ำมันภูมิภาคเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆขึ้นมารวมทั้งเป็นการประกันความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศอีกด้วย


 


เกาหลีใต้เป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่อันดับห้าของโลก ดังนั้นจึงมีโครงสร้างพื้นฐานสำหรับรับน้ำมันที่นำเข้ามาจากภูมิภาคอื่น ๆอย่างพอเพียง ลีแจจุน รองรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจบนพื้นฐานความรู้ กล่าวว่าคลังน้ำมันที่ท่าเรือทางตอนใต้ของประเทศสองแห่งก็คือ เยียวซู และอุลซังจะสามารถขยายเพิ่มขึ้นเพื่อให้รับน้ำมันได้ร่วมกันเป็น 28 ล้านบาร์เรล


 


"เกาหลีใต้นั้นตั้งอยู่ในเขตการเดินเรือหลักของแปซิฟิกเหนือ และมีเยียวซูและอุลซังเป็นท่าเรือน้ำลึกในระยะที่ใกล้กับศูนย์อุตสาหกรรมของทั้งจีนและญี่ปุ่น ซึ่งทำให้ท่าเรือทั้งสองมีคุณสมบัติอันดีที่จะส่งเสริมให้เป็นคลังน้ำมันของภูมิภาค" ลีกล่าวในที่ประชุมรัฐสภาเมื่อเร็ว ๆนี้


 


สำนักข่าวยอนฮัปของทางการเกาหลีใต้ก็ยังอ้างคำพูดของลีอีกด้วยว่า โครงการนี้จะสามารถสร้างงานรวมทั้งขยายธุรกิจให้แก่ภูมิภาคนี้ ตลอดจนทำให้เกาหลีใต้มีปริมาณน้ำมันดิบสำรองจำนวนมากเพียงพอต่อการรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินต่าง ๆ


 


กัมพูชาเตรีมพัฒนาถนนทั่วประเทศ


เว็บไซต์ฐานเศรษฐกิจ - รัฐบาลกัมพูชาเผยแผนโครงการฟื้นฟูถนนที่ทรุดโทรมอย่างหนักทั่วประเทศ ระยะทางรวม 38,257 กิโลเมตร โดยได้เงินสนับสนุนจากสถาบันการเงินและรัฐบาลต่างประเทศมูลค่ากว่า 2,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อรองรับโครงการพัฒนาเศรษฐกิจและยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชน


 


หนังสือพิมพ์ เดอะ พนมเปญ โพสท์ รายงานโดยอ้างคำกล่าวของนายซัน จันทอน รัฐมนตรีกระทรวงกิจการสาธารณะและการขนส่งแห่งประเทศกัมพูชาว่ารัฐบาลกัมพูชาจะใช้เงินอย่างน้อย 2,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ ประมาณ 84,500 ล้านบาท(อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 1 สิงหาคม) ในโครงการบูรณะและบริหารจัดการเครือข่ายถนนทั่วประเทศภายใต้ชื่อ Road Asset Management Project หรือ "แรมพ์" ภายในระยะเวลา 12 ปี โดยได้รับการสนับสนุนทั้งในรูปแบบเงินช่วยเหลือ และ เงินกู้จากธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ธนาคารโลก ประเทศญี่ปุ่น สาธารณรัฐประชาชนจีนและ เกาหลีใต้



 


ผู้แสวงบุญอินเดียเหยียบกันตายร่วม 150


ผู้จัดการรายวัน - ผู้แสวงบุญชาวอินเดีย 148 คน ซึ่งมีเด็กรวมอยู่ด้วยเป็นจำนวนมาก เสียชีวิตจากเหตุการณ์เหยียบกันตายในระหว่างเดินทางขึ้นไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดนัยนาเทวี บนเขาในรัฐปัญจาบ ทางภาคเหนือของอินเดีย ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บมีจำนวน 48 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุในวันจันทร์ (4) ว่า นับเป็นเหตุการณ์เหยียบกันตายครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบสามปี


 


 ชาวฮินดูจำนวนหลายหมื่นคนต่างพากันเบียดเสียดเข้าไปในวัดนัยนาเทวี ซึ่งอยู่ในเขตพิลาสปุระ ห่างจากเมืองจัณฑีครห์ไปทางเหนือราว 150 กิโลเมตร เมื่อวันอาทิตย์ (3) เพื่อเข้าร่วมในพิธีฉลองทางศาสนาที่จัดขึ้นตลอดทั้งสัปดาห์ แต่แล้วฝูงชนจำนวนมหาศาลก็เกิดแตกตื่นเมื่อมีเสียงร้องบอกต่อๆ กันว่ามีแผ่นดินถล่ม


 


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net