21 ส.ค. 51 - "นักวิชาการ - ภาคประชาชน" ร่วมกันรณรงค์สนับสนุนการต่อสู้ของสหภาพแรงงานไทรอัมพ์อินเตอร์เนชั่นแนลแห่งประเทศไทย ด้วยการเชิญชวนประชาชนผู้รักความเป็นธรรมร่วมทอดผ้าป่าสามัคคีกรรมกร เพื่อนำปัจจัยไปสนับสนุนการชุมนุมนัดหยุดงานของสหภาพแรงงานไทรอัมพ์อินเตอร์เนชั่นแนลแห่งประเทศไทย รวมทั้งนำไปช่วยเหลือจุนเจือครอบครัวของพนักงานไทรอัมพ์ฯ ที่มีภาระเร่งด่วนระหว่างการผละงาน
ขอเชิญร่วมทอดผ้าป่าสามัคคีกรรมกร สนับสนุนการต่อสู้ของสหภาพแรงงานไทรอัมพ์อินเตอร์เนชั่นแนลแห่งประเทศไทย นับตั้งแต่วันที่ 30 ก.ค. 2551 พนักงานบริษัทไทรอัมพ์อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัทบอดี้แฟชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุสาหกรรมเมืองใหม่บางพลี อ. บางเสาธง จ. สมุทรปราการ เกือบ 3,000 คน ได้พร้อมใจกันผละงานและชุมนุมอยู่หน้าบริษัทฯ เพื่อต่อต้านการเลิกจ้างประธานสหภาพแรงงานไทรอัมพ์อินเตอร์เนชั่นแนลแห่งประเทศไทยอย่างไม่เป็นธรรม และปกป้องสหภาพแรงงานของตน พวกเขาทำการผลิตชุดชั้นในและชุดว่ายน้ำยี่ห้อชั้นนำให้แก่บรรษัทข้ามชาติจากประเทศเยอรมนี ได้แก่ ไทรอัมพ์ (Triumph), วาเลนเซีย (Valinsere), สล็อกกี้ (Sloggi), อาโม (AMO) และออม (HOM) เป็นต้น โดยผลผลิตส่วนใหญ่นั้นส่งออกไปขายยังต่างประเทศ นับตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อปี 2523 เป็นต้นมา สหภาพแรงงานไทรอัมพ์ฯ ได้ดำเนินกิจกรรมปกป้องสิทธิเสรีภาพของพนักงาน ยกระดับสภาพการทำงานและชีวิตความเป็นอยู่ของพนักงาน ทั้งภายในและภายนอกโรงงานอย่างขันแข็งมาโดยตลอด นอกจากนี้สหภาพแรงงานไทรอัมพ์ฯ ยังมีบทบาทแข็งขันในสหพันธ์แรงงานอุตสาหกรรมสิ่งทอ การตัดเย็บเสื้อฟ้าและผลิตภัณฑ์หนังแห่งประเทศไทย ในขบวนการแรงงานไทยและสากล รวมทั้งขบวนการประชาธิปไตยอีกด้วย ด้วยความสำเร็จอันเป็นผลมาจากความเข้มแข็งของสหภาพฯ ส่งผลให้ผู้บริหารจำนวนหนึ่งของบริษัทไทรอัมพ์ในประเทศไทยไม่พอใจและมีท่าทีที่ไม่ดีต่อสหภาพแรงงาน รวมทั้งมีพฤติกรรมหลายครั้งที่ส่อเจตนาจะทำลายหรือขัดขวางการดำเนินการของสหภาพฯ ล่าสุดผู้บริหารไทรอัมพ์แอบยื่นคำร้องต่อศาลแรงงาน เพื่อขออนุญาตเลิกจ้างประธานสหภาพฯ โดยกล่าวหาตามหลักฐานจากเว็บไซต์ข่าวผู้จัดการออนไลน์ว่า การที่นางสาวจิตรา คชเดช ประธานสหภาพฯ ใส่เสื้อ "ไม่ยืนไม่ใช่อาชญากร คิดต่างไม่ใช่อาชญากรรม" ออกรายการโทรทัศน์ช่องเอ็นบีที เพื่อร่วมแสดงความคิดเห็นในหัวข้อ "ทำท้อง...ทำแท้ง" เมื่อวันที่ 24 เม.ย. ที่ผ่านมานั้น ทำให้เสียหายต่อชื่อเสียงของบริษัทฯ ลูกค้าและประชาชนทั่วไปคว่ำบาตรสินค้าของบริษัทฯ รวมทั้งมีพนักงานของบริษัทฯ และประชาชนเรียกร้องให้บริษัทฯ ดำเนินการกับประธานสหภาพฯ อย่างไรก็ดี ตลอดกระบวนการพิจารณาคดีดังกล่าว ประธานสหภาพฯ ไม่เคยทราบเรื่องและได้รับการติดต่อใดๆ ทั้งสิ้นจากทั้งศาลแรงงานและบริษัทฯ ศาลได้พิจารณาคดีไปฝ่ายเดียวจนกระทั่งมีคำตัดสินลับหลังเมื่อวันที่ 8 ก.ค. 2551 อนุญาตให้ทางบริษัทฯ สามารถเลิกจ้างนางสาวจิตรา คชเดชได้ ล่วงเลยมาอีกหลายวัน วันที่ 29 ก.ค. 51 ทางบริษัทฯ ถึงได้แจ้งแก่ประธานสหภาพฯ ให้ทราบว่าศาลแรงงานมีคำตัดสินอนุญาตให้เลิกจ้างตน ซึ่งขณะนั้นทางประธานสหภาพฯ ไม่สามารถที่จะอุทรณ์ต่อศาลแรงงานแล้ว เนื่องจากกฎหมายให้สิทธิคนงานอุทรณ์ได้ภายใน 15 วันนับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษาอนุญาตให้บริษัทฯ เลิกจ้างได้ เช้าวันที่ 30 ก.ค. เวลาประมาณ 7.00 น. เมื่อพนักงานในบริษัทฯ ทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจึงไม่พอใจการกระทำของผู้บริหารอย่างรุนแรงและตัดสินใจพากันผละงานออกมาเพื่อเรียกร้องให้บริษัทฯ รับประธานสหภาพฯ กลับเข้าทำงาน เนื่องจากพนักงานเชื่อว่าทางบริษัทฯ มีเจตนาฉวยโอกาสทำลายสหภาพแรงงาน โดยสหภาพฯ มีข้อเรียกร้องต่อบริษัทฯ ดังนี้ 1) ให้บริษัทฯ รับนางสาว 2) ให้บริษัทฯ ไม่ลงโทษใดๆ และไม่เอาผิดทั้งทางแพ่งและอาญากับกรรมการลูกจ้าง กรรมการสหภาพแรงงาน และพนักงานบริษัททุกคนที่ผละงาน 3) ให้บริษัทเอาผู้บริหารที่ไม่มีแรงงานสัมพันธ์ที่ดีและมีพฤติกรรมที่ต้องการทำลายสหภาพแรงงานออกไป สถานการณ์ปัจจุบัน พนักงานไทรอัมพ์ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นแรงงานหญิงยังคงยืนหยัดต่อสู้อย่างเด็ดเดี่ยว แม้จะต้องทนยากลำบากจากการขาดรายได้จุนเจือครอบครัวมาแล้วหลายสัปดาห์ เนื่องจากพวกเขาเห็นว่า หากปล่อยให้บริษัทฯ เลิกจ้างประธานสหภาพแรงงานอย่างฉ้อฉลได้เช่นนี้ ย่อมส่งผลเสียต่อการดำเนินกิจกรรมของสหภาพของตนและขบวนการแรงงานโดยรวมในอนาคตอย่างแน่นอน เพราะกลวิธีของบริษัทไทรอัมพ์ประเทศไทยดังกล่าวจะกลายเป็นบรรทัดฐานในการเลิกจ้างแกนนำของสหภาพแรงงานต่อไป ด้วยเหตุนี้ จึงขอเรียนเชิญผู้รักความเป็นธรรมทุกท่านร่วมกันทอดผ้าป่าสามัคคีกรรมกร เพื่อนำปัจจัยไปสนับสนุนการชุมนุมนัดหยุดงานของสหภาพแรงงานไทรอัมพ์อินเตอร์เนชั่นแนลแห่งประเทศไทย รวมทั้งนำไปช่วยเหลือจุนเจือครอบครัวของพนักงานไทรอัมพ์ฯ ที่มีภาระเร่งด่วนระหว่างการผละงาน ขอให้พลังแห่งความสมานฉันท์ของเพื่อนร่วมสังคมเกื้อหนุนให้สหภาพแรงงานไทรอัมพ์ฯ ได้รับชัยชนะในไม่ช้า และช่วยยกระดับสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาค ประชาธิปไตย และความเป็นธรรมในสังคมให้สมบูรณ์ยิ่งๆ ขึ้นไป
|
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)