Skip to main content
sharethis

สั่งจนท.3จ.แดนใต้ตรวจพื้นที่จนแน่ใจปลอดภัยก่อนให้สื่อเข้า


เว็บไซต์คมชัดลึก : ความคืบหน้ากรณีคนร้ายรอบวางระเบิด ที่หน้าร้านสีส้มและฝั่งตรงข้ามธนาคารกรุงศรีอยุธยา หน้าสภ.สุไหงโก-ลก เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 ศพ บาดเจ็บ 31 คน ซึ่งต่อมาตำรวจได้คุมผู้ต้องสงสัย 6 คน พร้อมได้หลักฐานภาพทีวีวงจรปิดจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา นั้น ล่าสุดวันนี้ที่ห้องประชุม สภ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส พล.ต.ต.พงษ์ศักดิ์ นาควิจิตร ผบก.ภ.จว.นราธิวาส พร้อมชุดสืบสวน ประชุมร่วมเพื่อรวมหลักฐานต่างๆ หลังเกิดเหตุว่าก่อนเกิดเหตุ มีภาพผู้ชาย 1 คน นำจักรยานยนต์ ไปจอดแล้วเดินออกไปทางตลาดโต้รุ่งใกล้ๆ ร้านสีส้ม และภาพต่อมาไม่นาน มีผู้หญิงสวมเสื้อคลุม และมีผ้าคลุมใบหน้าขับรถยนต์ฮอนด้า ซีวิค สีแดง มาจอดริมถนนตรงข้ามหน้าธนาคารกรุงศรีอยุธยาแล้วลงจากรถเดินไปทางตลอดโต้รุ่งเช่นกัน จากนั้นก็เกิดระเบิดลูกแรก ที่รถจักรยานยนต์และลูกที่สองที่รถยนต์


 


ส่วนกรณีที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ได้เสนอแนวทาง โดยไม่ให้สื่อมวลชนเข้าไปยังจุดเกิดเหตุนั้น ล่าสุด พ.อ.อัคร ทิพโรจน์ โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า พล.ท.วิโรจน์ บัวจรูญ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้มีคำสั่งด่วนไปยังเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ในจังหวัดชายแดนใต้ ให้เข้มงวดการเข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ ก่อนอนุญาตให้บุคคลหรือเจ้าหน้าที่ซึ่งไม่เกี่ยวข้องเข้าเก็บหลักฐาน รวมถึงผู้สื่อข่าวเข้าไป


 



"แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เน้นย้ำเรื่องการเข้าพื้นที่เกิดเหตุมาโดยตลอดว่า ต้องให้ปลอดภัย จึงจะอนุญาตบุคคลไม่เกี่ยวข้องเข้าพื้นที่ แต่เนื่องจากในการปฏิบัติหน้าที่ทั้งในส่วนของเจ้าหน้าที่และผู้สื่อข่าวเองอาจละเลยไปบ้าง ทำให้จำเป็นต้องนำมาตรการเดิมมาปัดฝุ่นใช้อย่างเข้มงวด ทั้งนี้จะได้ประสานขอความร่วมมือไปยังองค์กรสื่อมวลชนเพื่อแจ้งขอความร่วมมืออย่างเป็นทางการอีกครั้ง" พ.อ.อัครกล่าว


 



นราฯ ทุ่ม300 ล. ติดตั้งวงจรปิด


เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ : จ.นราธิวาส ทุ่ม 300 ล. เร่งติดตั้งวงจรปิดรับมือวันสถาปนาเบอร์ซาตู   นายการันต์ ศุภกิจวิเลขการ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ขณะนี้ทางจังหวัดได้รับงบประมาณจำนวน 300 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้ในการจัดซื้อกล้องวงจรปิดและอุปกรณ์  จึงสั่งการให้ดำเนินการติดตั้ง ตามสถานที่สำคัญ ถนน ตลาด แหล่งชุมชน ร้านค้าในพื้นที่อย่างเร่งด่วน เพื่อป้องกันเหตุความไม่สงบ หลังจากมีกระแสข่าวว่ากลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ เบอร์ซาตู เตรียมก่อเหตุครั้งใหญ่ รับวันสถาปนา 31 สิงหาคม ทั้งนี้คาดว่ากล้องวงจรปิดดังกล่าว จะช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถติดตามตัวผู้ก่อความไม่สงบได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม อยากขอความร่วมมือประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตา และให้ความร่วมมือแจ้งเบาะแสกับเจ้าหน้าที่ เพื่อเข้าระงับเหตุได้ทันท่วงที


 


แกนนำพปช.ทาบ "ประภัสร์" ลงสมัครชิงผู้ว่าฯกทม.


เว็บไซต์คมชัดลึก : นายสุวัฒน์ วรรณศิริกุล ส.ส.กทม.ในฐานะประธานภาคกทม. พรรคพลังประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงการส่งผู้สมัครลงชิงตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.ว่า เมื่อเย็นวันที่ 23 สค.ภาคกทม.ได้มีการประชุมถึงการหาตัวผู้สมัครโดยยืนยันพรรคจะส่งผู้สมัครผู้ว่ากทม.ในนามของพรรคแน่นอน เนื่องจากต้องรักษาฐานเสียงในกทม.ไว้ แต่ล่าสุดที่ประชุมภาคกทมงยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะส่งใคร ซึ่งคาดว่าสัปดหาหน้าจะสามารถหาข้อสรุปได้


 



ส่วนกระแสข่าวว่าพรรคจะให้การสนับสนุนนายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าฯรฟม. นั้นยอมรับว่ามี ส.ส.กทม.ไปทาบทามนายประภัสร์จริง แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับโดยนายประภัสร์ระบุว่าขอเวลาในการตัดสินใจ 1-2วัน ส่วนนายปลอดประสพเสนอตัวเองให้พิจารณา


 



ดังนั้นจึงยังไม่ตัดสินใจว่าจะส่งใคร เพราะต้องรอการตัดสินของผู้ถูกทาบทามก่อน ทั้งนี้ผู้ใหญ่ของพรรคให้สิทธิ์ภาคกทม.เป็นผู้พิจารณาคัดเลือกเอง และเมื่อภาคกทม.ตัดสินใจเลือกใครแล้ว พรรคก็จะยอมรับเป็นมติของพรรค


 


อย่างไรก็ตามส่วนตัวมองว่ากรณีของนายปลอดประสพ สุรัสวดี สมาชิกพรรคที่เสนอตัวลงสมัครผู้ว่าฯ ที่ป.ป.ช.เคยชี้มูลความผิดการจัดส่งเสือเบงกอลไปประเทศจีนนั้น ยอมรับว่าอาจมีปัญหาอยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม ในส่วนคุณคุณสมบัติของผู้สมัครที่จพะส่งนั้นต้องมือสะอาด สามารถทำงานให้สังคมได้จริง เพราะนโยบายที่จะใช้ในการหาเสียงนั้นจะเน้นเรื่องการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในด้านต่างๆ ทั้งการสาธารณูปโภค รวมทั้งเรื่องความสะอาดในเขตกทม. อย่างไรก็ตามในเรื่องเรื่องการหาเสียง ทำป้ายโฆษณา ส.ส.กทม.จะช่วยกันให้การสนับสนุน


 



"เบื้องต้นที่ประชุมภาคยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะส่งใครลงสมัคร เพราะต้องรอให้บุคคลที่พรรคไปทาบทามตอบรับมาก่อน แต่สุดท้ายหากไม่มีใครตอบรับ ไม่มีตัวผู้สมัคร ก็จะให้ส.ส.ที่สอบตกลงสมัคร เพราะการเลือกตั้งที่ผ่านมาเราไม่ได้แพ้มากมายถึงขนาดที่สู้ไม่ได้ และไม่ว่าจะแพ้หรือชนะก็ต้องส่งผู้สมัคร " นายสุวัฒน์กล่าว


 


ปชป.ส่ง 'อภิรักษ์' สู้ศึกเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.อีกสมัย


พรรคประชาธิปัตย์ : 23ส.ค.51  พรรคประชาธิปัตย์ เปิดตัว นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(ผว.กทม.) โดยมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายมารุต บุนนาค กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคและอดีต ส.ส.กทม. และนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ผู้อำนวยการเลือกตั้ง ผู้ว่าฯกทม. ร่วมแถลงข่าว ภายใต้สโลแกน "เราพร้อมทำงานเพื่อคนกรุงเทพฯ"


 


"ชัยสิทธิ์"อุ้ม"ทักษิณ"ย้ำคนดีอยู่ไม่ไหวถูกจ้องทำลาย


เว็บไซต์คมชัดลึก : พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด และพี่ชายของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการลับ ลวง พราง ทางสถานีวิทยุ เอฟเอ็ม 100.5 ถึงกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ขอลี้ภัยทางการเมืองไปต่างประเทศว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้คนมองไม่ดีเท่าไร ไม่เฉพาะคนไทย แต่รวมถึงต่างประเทศที่มองเราอยู่ว่าเกิดอะไรขึ้น ในฐานะคนไทยตนรู้สึกอึดอัด ที่ผ่านมาตนวางตัวเฉยมาตลอดเพราะคิดว่าความยุติธรรมต้องมีในโลก แต่ตอนนี้รู้สึกชอบกล ทั้งนี้เชื่อว่าน่าจะเป็นผลพวงจากการปฏิวัติ และมีกฎหมู่มากดดัน ไม่เข้าใจเมืองไทยว่าไม่มีกฎหมายหรือมีกฎหมายแต่คนไทยไม่เชื่อกัน ดังนั้นคนดีจึงอยู่ไม่ไหว เพราะอึดอัดว่าทำไมถึงไม่จบเสียที ต้องยอมรับว่าคนไทยอยู่ในบรรยากาศที่อึมครึมและไม่สบายใจกันทุกคน หากทุกสิ่งทุกอย่างทำโปร่งใสก็จะทำให้ใสไปหมด แต่ขณะนี้ตนในฐานะที่วางตัวเป็นกลางมาโดยตลอดรู้สึกว่าชอบกล


 



"ไหนบอกว่าเป็นประชาธิปไตย แต่นี่มันไม่ใช่ ประชาชนหวังว่าเลือกตั้งเสร็จคงจะจบ แต่กลับมีอย่างนี้มาโดยตลอด จึงทำให้เกิดความอึดอัดทั้งในไทยและต่างประเทศ ขอให้ดูว่ารัฐบาลถูกบีบคั้นขนาดไหน กฎหมู่มากดรัฐบาลอยู่ตลอดเวลาทำให้ทำงานไม่ได้ หากใครมาอยู่ก็อึดอัด เขาเป็นใครมาจากไหนไม่หยุดเสียที จุดยืนอยู่ตรงไหน การจองล้างจองผลาญเป็นนิสัยหนึ่งของคนไทยอยู่แล้ว แต่เราต้องการประจานให้ทั่วโลกรับทราบหรือ ทั้งนี้จะต้องมีเบื้องหน้า เบื้องหลังแน่นอน ไม่ใช่ธรรมดา แต่น่าจะมีการให้อภัย และหันเข้ามาพูดความจริงกัน หากมีการอภัยกันก็น่าจะจบเพราะอีกข้างหนึ่งเขาไม่มีทางสู้ แต่ประชาชนยังรักพ.ต.ท. ทักษิณ อยู่ เพราะคุณงามความดีเขามี หากเขาทำไม่ดีคงไม่มีใครเลือกเขาเข้ามาหรอก หากเป็นประชาธิปไตย เมื่อให้ประชาชนเลือกก็ต้องจบ แต่เลือกมาแล้วกลับบอกว่าไม่ใช่" พล.อ.ชัยสิทธิ์ กล่าว



 


เมื่อถามว่า นอกจากเหตุผลจากคดีแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องลี้ภัยเพราะเรื่องความปลอดภัยด้วยใช่หรือไม่ พล.อ.ชัยสิทธิ์ กล่าวว่า ประจวบเหมาะกันทุกสิ่งทุกอย่าง คือถ้าคนนี้ยังไม่ตายก็ยังเป็นหนามยอกอกเขาอยู่ ซึ่งไม่ใช่ เพราะเขาเป็นที่รักของประชาชน ผิดตรงไหนที่คนรักเขา คนทำความดี ถูกใจประชาชนกลายเป็นทำดี ทำเด่น เหนือกว่า จึงทำให้เกิดปัญหาขึ้นมา ความจริงประชาชนเลือกเขาเข้ามาควรจะจบตรงนั้นก่อน ส่วนกระบวนการยุติธรรมต้องให้ความยุติธรรมเขา เราก็รู้อยู่ เอาศัตรูมาเป็นผู้พิพากษาก็ตายอยู่แล้ว แทนที่จะเลือกคนดี มีความยุติธรรมในบ้านเมืองเข้ามาทำงาน แต่ตั้งคตส.เลือกแต่คนที่เกลียดพ.ต.ท. ทักษิณ เข้ามาทำงาน ไม่ว่าเป็นใครก็ตาย คำว่า ประชาธิปไตย คือต้องวินัย มีสปิริต และมีกฎหมาย ไม่ใช่ประชาธิปไตยของตัวเองเท่านั้นจึงจะถูกต้อง หากเป็นอย่างนี้คงไม่จบ


 



เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะได้กลับมาเมืองไทยหรือไม่ พล.อ.ชัยสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องอนาคต หากรูปการคดีเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม และเป็นไปตามความรู้สึกของประชาชนส่วนใหญ่ไม่ใช่ประชาชนส่วนน้อย เมื่อถามว่า ที่มองว่า พ.ต.ท. ทักษิณ เป็นหนามยอกอก เพราะพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีทีท่าที่จะวางมือทางการเมืองใช่หรือไม่ พล.อ.ชัยสิทธิ์ กล่าวว่า ถึงแม้พ.ต.ท. ทักษิณ จะเลิกเล่นการเมือง แต่บารมีเขายังมีอยู่ และคนที่รักเขายังมีอยู่ เหมือนทุกคนที่เคยมีบารมีที่จะต้องมีลูกน้อง และคนรักคนชอบอยู่ และคนชังก็มี ดังนั้น ถึงแม้เขาจะอยู่เฉยๆแต่บารมีเขามีเป็นที่นิยมชมชอบ ไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็จะเป็นที่ชื่นอกชื่นใจ ความอิจฉาควรจะหมดไปได้แล้ว เพราะประเทศชาติแย่จริงๆแล้ว และคนที่ห่วงบ้านเมืองไม่ค่อยมีความสุขเท่าไร


 



เมื่อถามว่า ขณะนี้มีความเป็นห่วงกองทัพหรือไม่ พล.อ.ชัยสิทธิ์ กล่าวว่า ตนอยากให้มีการเฉลี่ยความสามารถไม่ใช่ให้น้ำหนักแก่คนใดคนหนึ่งหรือในกองทัพใดกองทัพหนึ่ง และไม่อยากให้มีกองพันทหารญาติอยู่ ซึ่งสมัยที่ตนเป็นผบ.ทบ.ดูขีดความสามารถของบุคคลเท่านั้น ในสมัยตนไม่มีเรื่องรุ่น เพราะแต่ละรุ่นมีคนดี คนเลว ไม่ใช่รุ่นนี้ใหญ่ที่สุด ตนไม่เชื่อรุ่นไหนจะเก่งเพียงรุ่นเดียว แต่ตนเชื่อว่าผบ.ทบ.คนนี้คงคิดได้ ทั้งนี้อย่าคิดว่า ทหารปฏิวัติแล้วคือ อำนาจถาวร การปกครองลูกน้องหรือเฉลี่ยขีดความสามารถตามกองทัพต่างๆ กองทัพมีอยู่ 4 กองทัพ ไม่ใช่ว่ากองทัพนี้เป็นสายของเราเท่านั้นหรือคนนี้ต้องเป็นเด็กของตน เมื่อเกษียณไปตนก็ยังสั่งได้ แสดงว่า เป็นการวางตัวเพื่อปฏิวัติตลอด


 



"อยากให้กองทัพมีความเป็นกลาง นำคนที่มีความสามารถขึ้นมา และหูตาผบ.ทบ.ต้องกว้าง ให้ความเป็นธรรมกับเขา ไม่ใช่ว่าคนจากกองทัพอื่นมีขีดความสามารถเก่งขนาดไหนก็ขึ้นไม่ได้ ถือว่าไม่ยุติธรรม หรือทหารกรุงเทพฯเท่านั้นจึงจะเป็นใหญ่เป็นโตได้ ถือว่าไม่ถูกต้อง เหมือนคนกรุงเทพฯต้องเป็นใหญ่ที่สุดก็ไม่ถูกต้อง เพราะมีตั้งหลายจังหวัด ดังนั้นกองทัพต้องนำคนที่มีความสามรถมาพิจารณา ไม่ใช่ว่าเป็นคนของใคร สายไหน เพราะจะทำให้แตกแยก และคนที่ไม่ดีจะน้อยใจ ทหารมีข้อดีคืออดทนมาก และจำเป็นต้องยอมรับ แต่วันหนึ่งไม่แน่ หากเป็นเช่นนี้กองทัพจะไม่เข้มแข็ง เกิดความแตกแยก แบ่งพรรคพวกแต่คิดว่า ผบ.ทบ.คงคิดได้เหมือนผม และคงไม่ทำอะไรไปในแนวที่ผมพูดไป"พล.อ.ชัยสิทธิ์ กล่าว


 


ปชป.จี้สรรพากรแจงสั่งถอนอายัดเงิน"โอ๊ค-เอม"


เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ : พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งข้อสงสัย กรมสรรพากรเปิดช่องคืนเงินให้"โอ๊ค-เอม" กว่าหมื่นล้านบาท จี้ แจงด่วน   นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าวผู้บริหารกรมสรรพากรทำหนังสือถึงธนาคารไทยพาณิชย์ ให้เพิกถอนการอายัดทรัพย์ของนายพานทองแท้  และ น.ส.พิณทองทา ชินวัตร บุตรชายและบุตรสาวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี  จำนวน 12,000 ล้านบาท เพื่อให้นำไปชำระภาษีที่คงค้าง ว่า  ถือเป็นเรื่องน่าประหลาดใจ เพราะกรมสรรพากรไม่ได้มีอำนาจตามกฎหมายในการเพิกถอนอายัดทรัพย์ ทำให้เกิดคำถามว่า จะมีการกระทำที่เป็นคุณต่อผู้ถูกกล่าวหาหรือไม่ และเรื่องนี้จะต้องมีคำชี้แจงจากกรมสรรพากร


 



"น่าสนใจที่อธิบดีกรมสรรพากร เลือกที่จะไม่อยู่ในประเทศ ในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ และเมื่อสักครู่ ผมก็พยายามต่อสายไปที่นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง แต่ยังไม่ได้เปิดมือถือ ผมจึงฝากข้อความไว้ว่า ทั้งหมดท่านรับทราบหรือไม่ และเป็นนโยบายของกรมสรรพากรอย่างไร กรมสรรพากรพยายามทำอะไร ทั้งๆ ที่รู้ว่า ตัวเองไม่มีอำนาจ ผมคิดว่าเรื่องจะต้องมีคำตอบ" นายกรณ์ กล่าว และว่า เรื่องนี้สมควรที่คณะกรรมาธิการการเงิน การคลัง การธนาคารและสถาบันการเงิน ของสภาผู้แทนราษฎร จะต้องเข้าไปตรวจสอบ


 


ทักษิณพร้อมลาออกเรือใบ


เว็บไซต์คมชัดลึก : พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ประกาศถ้าจำเป็นพร้อมลาออกจากตำแหน่งบอร์ดบริหารของสโมสร หลังจากที่ปัจจุบันต้องตกเป็นบุคคลหนีคดีคอรับชั่นในประเทศไทย โดย แกร์รี คุ๊ก ประธานสโมสรออกมายืนยันในเรื่องนี้ด้วยตัวเอง


 


คุ๊ก เปิดเผยในเรื่องนี้ว่า พ.ต.ท. ทักษิณ อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงหนีคดีคอรับชั่น จากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาอยู่ที่ประเทศอังกฤษ ได้ตระหนักถึงสถานการณ์ของตัวเองกับทางสโมสร แมนฯซิตี ว่าอาจจะเป็นการไม่เหมาะสมกับการยังมีตำแหน่งในบอร์ดบริหารของสโมสร รวมทั้งมีความเป็นไปได้ที่จะผิดกฏเรื่องความเหมาะสมของบุคคลที่จะเข้ามาบริหารงานสโมสรฟุตบอลอังกฤษ ดังนั้นหากว่าถึงคราวจำเป็น พ.ต.ท. ทักษิณ ก็พร้อมจะลาออกจากตำแหน่งทันที


 



ประธานทีมแมนฯซิตี ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนของอังกฤษว่า "ดร. ทักษิณ เคยเปิดใจในเรื่องนี้แล้ว เขาอับอาย และรู้สึกว่าทำให้สโมสร และลีกเสื่อมเสียไป เขาไม่ได้ตั้งใจจะให้มันเป็นแบบนั้น เขาบอกกับผมว่า หากคุณต้องการให้ผมลาออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการสโมสรเพื่อรักษากฏของพรีเมียร์ลีก ผมก็พร้อมจะทำโดยไม่มีปัญหาใดๆทั้งสิ้น"


 



ส่วนเรื่องที่ว่าทรัพย์สินส่วนใหญ่ของ พ.ต.ท. ทักษิณ ที่ถูกอายัดไว้ที่ประเทศไทยนั้น คุ๊ก ยืนยันว่าเจ้าของสโมสรชาวไทย ยังคงมีความมุ่งมั่นที่จะทำให้สโมสรเป็นทีมชั้นนำของอังกฤษต่อไป เพียงแต่พยายามหาหุ้นส่วนที่จะเข้ามาถือหุ้นเท่านั้น ไม่ใช่เป็นการขายกิจการอย่างที่เคยมีข่าวออกมาก่อนหน้านี้


 


สื่อเบอร์มิวดาตีข่าวทีมกม."ทักษิณ"โผล่เตรียมซื้อบ้าน


เว็บไซต์คมชัดลึก : สื่อท้องถิ่นเบอร์มิวดา รายงานวันนี้ว่า มีผู้พบเห็นทีมงานด้านกฎหมายของพันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งมีทั้งชาวอังกฤษ และชาวไทย ราว 2-3 คน ไปปรากฏตัวที่รีสอร์ทชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงแฮมิลตัน เมืองหลวงของหมู่เกาะเบอร์มิวดา โดยคาดว่า กำลังมองหาลู่ทางในการซื้อบ้านพัก หรืออสังหาริมทรัพย์ให้กับอดีตนายกรัฐมนตรีของไทย


 


ทปอ.ห่วงนศ.ทอมเข้าร้องเรียนอาจารย์ทอมแย่งจีบแฟน


เว็บไซต์คมชัดลึก :  รศ.ดร.มณฑล สงวนเสริมศรี อธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร (มน.) และประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย(ทปอ.) กล่าวภายหลังประชุมทปอ.ที่ห้องประชุมสัญญาธรรมศักดิ์ อาคารโดม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์(มธ.) ท่าพระจันทร์ ว่า ที่ประชุมหารือจรรยาบรรณอาจารย์และบทลงโทษหากอาจารย์ทำผิด ซึ่งพบว่ามหาวิทยาลัยทุกแห่งมีการกำชับอาจารย์ให้ยึดมั่นในจรรยาบรรณวิชาชีพ และประพฤติตนอยู่ในกรอบ


 



ประธาน ทปอ. กล่าวว่า ที่ประชุมยังหารือกรณีมหาวิทยาลัยบางแห่งได้รับการประสานเบื้องต้นจากสกอ.ให้ตรวจสอบพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของอาจารย์หญิงบางคน ขณะเดียวกันมหาวิทยาลัยบางแห่งได้หยิบยกกรณีอาจารย์หญิงมีพฤติกรรมเป็นทอม และจีบนักศึกษาหญิงที่มีแฟนเป็นทอม ทำให้นักศึกษาทอมร้องเรียนพฤติกรรมอาจารย์หญิง และมีกรณีอาจารย์หญิงเปลี่ยนแฟนบ่อยขึ้นมาหารือว่าจะมีบทลงโทษอย่างไร เนื่องจากมหาวิทยาลัยยังไม่ทราบว่าจรรยาบรรณและบทลงโทษของมหาวิทยาลัยที่มีอยู่จะครอบคลุมพฤติกรรมอาจารย์หญิงที่เป็นทอมมากน้อยเพียงใดเพราะเป็นเรื่องส่วนตัว


 



"เรื่องนี้เป็นความประพฤติไม่เหมาะสมของอาจารย์ที่ต้องดูแล คงต้องไปดูกฎหมายเพราะเป็นเพศเดียวกัน ทปอ.คงหยิบยกเรื่องนี้มาพิจารณากันต่อไป " รศ.ดร.มณฑล กล่าว


 



ศ.ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์(มธ.) กล่าวว่า บอกไม่ได้ว่าจรรยาบรรณและบทลงโทษของ มหาวิทยา ลัยที่มีอยู่ จะครอบคลุมพฤติกรรมอาจารย์หญิงที่เป็นทอมมากน้อยแค่ไหน อย่างไรก็ตามระเบียบลงโทษอาจารย์ของมหาวิทยาลัยไม่ได้แยกเพศชาย หญิง หากเกิดกรณีอาจารย์หญิงมีพฤติกรรมเป็นทอมแล้วมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมก็จะใช้ระเบียบเดียวกันในการพิจารณาโทษ ซึ่งต้องดูพฤติกรรมและความผิดเป็นรายกรณีไปว่ามีพฤติกรรมอย่างไร มีความผิดแค่ไหนและพิจารณาโดยดูตามข้อกฎหมาย


 



"สมจิตร"ชนะขาด 8-2 คว้าทอง "มนัส"แผ่วแพ้โดมินิกันหมดรูป


เว็บไซต์คมชัดลึก : การแข่งขันมวยสากลสมัครเล่น รอบชิงชนะเลิศ"ปักกิ่งเกมส์"ที่เวิร์กเกอร์ ยิมเนเซียม โดยนักชกไทยขึ้นสังเวียน 2 คน คนแรกสมจิตร จงจอหอ ยอดนักชกจากบุรีรัมย์ ขึ้นประเดิมรอบชิงเหรียญทองให้ทีมมวยสากลสมัครเล่นของไทย ในรุ่นฟลายเวท 51 กก. พบคู่ปรับเก่า แอนดรีส แลฟฟิตา เฮอร์นานเดซ จากคิวบา ที่เคยผลัดกันแพ้-ชนะ ยกแรกนักชกไทยนำ 2-0 ยกที่ 2  นำห่าง 6-0 ยกที่ 3 แต้มไปที่ 8-1 และจบที่แต้มนี้ในยกสุดท้าย


 


การคว้าเหรียญทองของ สมจิตร จงจอหอ ครั้งนี้ ถือเป็นฟอร์มการชกที่สุดยอดของนักชกวัย 33 ปี 7 เดือน ที่ 5 ไฟท์ในการขึ้นสังเวียนโอลิมปิกหนนี้ เสียไปแค่ 7 หมัดเท่านั้น โดยรอบแรก ชนะ เอ็ดดี้ วาเลซูลา จากกัวเตมาลา 6-1, รอบสอง ชนะ ซาเมียร์ มัมมาดอฟ จากอาเซอร์ไบจาน 10-2, รอบก่อนรองชนะเลิศ ชนะ อันวาร์ ยูนูซอฟ จากทาจิกิสถาน 8-1, รอบรองชนะเลิศ ชนะ วิเชนโซ ปิการ์ดี จากอิตาลี 7-1 และรอบชิงชนะเลิศ ชนะ เฮอร์นานเดซ 8-2


 



"ผมรอวันนี้มา 12 ปี มุ่งมั่น มานะ พยายาม เหนื่อยมาก แต่ถ้าไม่สู้ก็จะไม่มีความสำเร็จในวันนี้ ดีใจที่ทำให้คนไทยมีความสุข การชกไฟท์นี้ตอนแรกตั้งใจจะระมัดระวัง แต่สักพักก็เปลี่ยนใจ คิดว่าต้องทำให้ดีที่สุด โดยหมดยกแรกก็มั่นใจว่าต้องชนะ เพราะได้ยินเสียงหายใจหอบของคู่แข่ง ซึ่งถ้าเป็นผมที่เก๋ากว่าจะไม่ทำอย่างนั้นเด็ดขาด ส่วนอนาคตนั้นคงจะไปเป็นโค้ช เพราะเรียนรู้มาจาก ฮวน ฟอนตาเนียล และคนอื่นๆ มาเยอะ แต่คงสอนเด็กๆ และเป็นสตาฟฟ์ในทีมชุดใหญ่ ขอมอบชัยชนะให้แก่พี่น้องชาวไทยทุกคน โดยเฉพาะทางสามจังหวัดภาคใต้ อยากบอกว่า วันนี้ สมจิตร จงจอหอ และน้องๆ ในทีมมวยสากลสมัครเล่นไทยทำสำเร็จแล้ว"


 



ส่วนมนัส บุญจำนงค์ ขึ้นสังเวียนป้องกันเหรียญทองของตัวเอง รุ่นไลท์เวลเตอร์เวท 64 กก. พบ เฟลิกซ์ ดิอาซ จากโดมินิกัน ซึ่งทั้งคู่โคจรมาพบกันเป็นครั้งแรก ทันทีที่สิ้นเสียงระฆัง ดิอาซ อาศัยความแข็งแกร่ง แม้ช่วงจะสั้นกว่าเดินเบียดเข้าบี้เร็ว ยกแรกแซงนำ 2-1 ยก 2 มนัสตีเสมอได้สำเร็จ แต่ในยกที่ 3 แต้มพุ่งลิ่วเป็น 8-3 ก่อนที่จะสิ้นสุดการชกในยกที่ 4 ที่มนัสพ่ายไป 4-12 ได้แค่เหรียญเงิน



 


 


 


 


 


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net