จากเหตุการณ์เมื่อสายวันที่ 29 สิงหาคม เมื่อกองกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่าแนวกั้นของผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเพื่อเข้าสู่ทำเนียบรัฐบาลซึ่งกลุ่มพันธมิตรฯได้ยึดเอาไว้ตั้งแต่วันที่ 26 สิงหาคม 2551 มีผู้บาดเจ็บนับสิบราย นี่เป็นเรื่องเศร้าและน่าเสียใจอย่างไม่ต้องสงสัย

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้รัฐบาลที่ปฏิบัติต่อผู้ชุมนุมอย่างเคารพสิทธิเสรีภาพด้วยความอดทนอดกลั้นตลอดมา และมีความชอบธรรมทั้งในทางเหตุผลและทางกฎหมายด้วยการถือคำสั่งศาลให้บังคับคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุม ต้องตกอยู่ในสถานการณ์พลิกกลับและเพลี่ยงพล้ำทางการเมืองอีกครั้ง

กระนั้นก็ตาม เมื่อกลุ่มชนและภาคประชาชนหลายกลุ่มพร้อมใจกันประณาม สื่อบางสำนักและนักวิชาการพร้อมใจกันแสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับความรุนแรงที่รัฐได้กระทำต่อผู้ชุมนุม ผลกระทบทางการเมืองที่ตามมาก็คือ ความรุนแรงอันเกิดการพยายามฝ่ากลุ่มผู้ชุมนุม ด้วยโล่ กระบอง แก๊สน้ำตา ถูกตีความ ปั่น กระทั่งถูกใช้ในการปลุกระดมจนกลายเป็นกระแสเกินเลยไป จนกลายเป็นการสลายม็อบอย่างรุนแรงราวกับเป็นอาชญกรรมโดยรัฐ

เราจึงขอเรียกร้องให้สังคมไทยมีสติ ไม่ปั่นความรุนแรงให้กลายเป็นเหตุผลในการตอบโต้กลับอย่างรุนแรงกว่า ซึ่งอาจจะบานปลายกลายเป็นจลาจล ดังที่เกิดขึ้นหน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาลเมื่อเวลา 19.00 น. ในค่ำวันเดียวกัน ที่สำคัญยังจะกลายเป็นเหตุผลเพื่อใช้ในการล้มล้างรัฐบาลด้วยวิถีทางอันมิชอบ หรือเปิดทางให้กับอำนาจนอกระบบเข้าล้มล้างระบอบรัฐธรรมนูญ

เราเห็นด้วยกับการประณามความรุนแรงที่เกิดขึ้นของกลุ่มองค์กรต่างๆ กระนั้นกลุ่มองค์กรต่างๆ จะต้องไม่เลือกปฏิบัติหรือเลือกประณามความรุนแรงเฉพาะฝ่าย และต้องไม่ยอมให้การประณามนั้นเป็นเครื่องมือเพื่อใช้ในการปลุกปั่นหรือเปิดทางให้อำนาจนอกระบบทุกรูปแบบเข้ามาจัดการกับวิกฤติการณ์ที่เกิดขึ้น

เราขอคัดค้านอำนาจนอกระบบทุกรูปแบบ และพึงเรียกร้องให้คำนึงถึงเจตนารมณ์ของประชาชนที่ไม่มีปากมีเสียงอีกมากที่ถูกกดทับจากความเห็นต่างที่ผ่านมาซึ่งถูกปิดปากอย่างเป็นระบบมาอย่างยาวนาน

เราขอเรียกร้องให้ตั้งคำถามกับการให้คุณค่าแบบสองมาตรฐานที่เป็นมาอย่างสม่ำเสมอ ทั้งการปราบกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) ด้วยความรุนแรง ท่ามกลางเสียงชมเชยของฝ่ายต่างๆ หรือการวางเฉยขององค์กรภาคประชาชน ทั้งวาทกรรมเรื่องการซื้อเสียงซึ่งเป็นเรื่องที่ยากจะทำความเข้าใจ ทว่ากลับทำความเข้าใจง่ายกว่า ในกรณีปฏิบัติการอารยะขัดขืนของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ผ่านมา

สังคมไทยเสียโอกาสมามากแล้วจากการตีความ "ระบอบทักษิณ" เกินเลยโดยไม่แยกแยะ ทำให้สังคมไทยแตกแยก บอบช้ำ และร้าวลึกกลายเป็นปัญหาเชิงโครงสร้าง เราจะต้องไม่ซ้ำรอยเดิมอีกด้วยการตีความเติมน้ำหนัก "ความรุนแรง" ไปมากกว่าเหตุผล เจตนา และข้อเท็จจริงที่เป็น