Skip to main content
sharethis

 


เมื่อวันที่ 31 ส.ค.51 การประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 1 สมัยนิติบัญญัติ โดยมีนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ในการประชุมเพื่ออภิปรายเป็นการทั่วไป แบบไม่ลงมติ ซึ่งเป็นการประชุมร่วมกันของทั้งสองสภา การประชุมดำเนินไปกว่า 11 ชั่วโมง โดยนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีนั่งฟังการอภิปรายโดยตลอด ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านเรียกร้องให้นายกฯ แก้วิกฤตครั้งนี้โดยการลาออก หรือยุบสภา ซึ่งหากเป็นการยุบสภานั้น ฝ่ายค้านเสียเปรียบในการเลือกตั้งแต่ก็จะยอมเสียสละเพื่อให้วิกฤตครั้งนี้คลี่คลาย แต่ท้ายที่สุด นายกฯ ยังคงยืนยันว่าได้รับฟังข้อเสนอทั้งหมดแล้ว และตัดสินใจยืนยันที่จะประคับประคองระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภาเช่นนี้ต่อไป


 


อภิสิทธิ์กล่าวว่า เห็นว่านายกฯ ไม่ควรดำรงตำแหน่งตั้งแต่วันที่ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ถ้าเป็นประเทศอื่นเขาแสดงความรับผิดชอบไปแล้ว ถ้ามีท่าทีอย่างนี้ต่อไปคงหาทางออกไม่ได้ รัฐบาลอาจกำลังหวาดระแวงว่าถ้าลาออกจริงฝ่ายค้านจะไปช่วงชิงอำนาจ ยืนยันว่าไม่ทำเช่นนั้น บ้านเมืองนี้ต้องเป็นไปตามระบบ และใครทำผิดกฎหมายก็ต้องรับผิดตามกฎหมาย


 


"วันนี้ต้องยอมเจ็บ ถ้านายกฯ กลัวว่าการลาออกเป็นการสร้างวัฒนธรรมไม่ดี เพราะทำตามคนหยิบมือเดียว จริงๆ หลายประเทศทำกันและไม่เห็นมันเสีย  ส่วนการยุบสภา พวกผมมีแต่เสียเปรียบ แต่ผมยอม และเมื่อยุบสภาก็บอกว่ารู้ได้อย่างไรว่าพันธมิตรจะเลิก ผมก็ไม่มีหลักประกัน แต่ขอยกร้องต่อพันธมิตรเช่นกันว่า ต้องเคารพหลักการปชต.ที่ให้ประชาชนตัดสิน พันธมิตรจะตั้งพรรคการเมืองก็ได้ จะสอดส่องดูแลให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์ เที่ยงธรรม ก็ได้ แต่วันนี้เราต้องเสียสละตัวเองก่อน"


 


สมัคร กล่าวว่า เรื่องที่เสนอนั้นไม่ใช่เรื่องยากเย็น แต่สิ่งที่ต้องทำตอนนี้คือรักษาระบบการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่มีมา 76 ปี ถ้าทำตามที่เรียกร้องไม่ว่าหนึ่งหรือสอง ก็แสดงว่ามันหากฎเกณฑ์อะไรไม่ได้แล้ว เมื่อรับหน้าที่นี้แล้วก็ต้องทำให้ตลอดรอดฝั่ง ความเกลียดชังที่สั่งสมจากอดีตนายกฯ คนก่อนตกทอดมาถึงคนปัจจุบัน ทั้งที่ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวโยงกันแล้ว และจะทำหน้าที่ประคับประคองสถานการณ์ไปให้ดีที่สุด นุ่มนวลที่สุด และหากจะเปิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจกันก็ยินดี หากลงมติแล้วต้องออกก็จะออก แต่ขอให้เป็นไปตามระบบ


 


กรณีความรุนแรงที่มีการขยายความกันมากนั้นเป็นเพียงการปะทะกันนั้นท่ามกลางความพยายามควบคุมสถานการณ์ของผู้ชุมนุมมีเป็นพันเป็นหมื่น ไม่ใช่ความตั้งใจใช้ความรุนแรงในการล้อมปราบ


 


สุนัย จุลพงศธร เสนอให้มีการตั้งกรรมการของสภากับตัวแทนพันธมิตรมาหรือทางออกร่วมกัน ขณะที่นายสุทินคลังแสง เสนอให้มีการทำประชามติถามประชาชนว่าจะให้รัฐบาลอยู่หรือไป


 



อลงกรณ์ชี้สมัครใช้อำนาจศาลผิด จี้แสดงสปิริต
นายอลงกรณ์ พลบุตร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นายสมัคร ต้องรับผิดชอบการใช้อำนาจศาลเกินกว่าเหตุ ในความพยายามจับ 9 แกนนำม็อบพันธมิตร ปล่อยให้ตร.ใช้กำลังทำร้ายกลุ่มผู้ชุมนุมซึ่งสามารถประท้วงรัฐบาลได้ ซึ่งขัดต่ออำนาจศาลที่ไม่ได้อนุญาตให้รัฐบาลใช้กำลังต่อกลุ่มม็อบที่ยึดทำเนียบรัฐบาล นายกฯสมัครควรสำรวจตัวเองว่า เป็นรัฐบาลแรกที่ถูกยึดทำเนียบ ดังนั้นปัญหาจึงอยู่ที่ตัวนายกฯ


 


มฌ.เสนอ"มาร์ค"ประสานพันธมิตรเป็นกก.แก้รธน.
นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน  หัวหน้าพรรคมัฌชิมาธิปไตย เสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาการเมืองว่า หากกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยยอมรับว่า รัฐธรรมนูญไม่ดีและจำเป็นต้องเปลี่ยนก็ควรเข้ามาหารือกัน โดยกลุ่มพันธมิตรฯ อาจเข้ามาเป็นกรรมกรรมการพิจารณาศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญในโควต้าพรรคประชาธิปัตย์ก็ได้ การที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เข้าไปเยี่ยมเยือนกลุ่มพันธมิตรนั้นน่าจะเป็นสะพานเชื่อมได้  ฝ่ายใดๆ หากต้องการเสนอความคิดในเรื่องนี้ก็ควรเชิญเข้ามาในสภาและคิดว่าขณะนี้ยังคงมีเวลาในการแก้ปัญหา คงไม่ถึงขั้นต้องตั้งรัฐบาลแห่งชาติ


 


แฉ!กลางสภา"รองนายกฯ"สั่งการตร.ทำร้ายพันธมิตร


นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ส.ส.กรุงเทพฯ ในฐานะรมว.เงา ยุติธรรม กล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาความวุ่นวายต่างๆ ขณะนี้ มาจากความไม่เชื่อใจระหว่างประชาชนกับรัฐบาล ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เป็นนอมินีของพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง หลายฝ่ายคิดว่า สิ่งที่นายกฯ กระทำผิดจริยธรรมทางการเมือง



นายพีรพันธุ์กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 29 ส.ค. ตนกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ต้องลงไปให้เห็นกับตาที่ลานพระบรมรูปทรงม้า  ได้พบผู้หญิงคนหนึ่งถูกตีศรีษะ จากนั้นก็บอกให้พาส่งโรงพยาบาล ต้องการทราบว่า เหตุใดจึงเกิดเรื่องราวนี้ ขึ้น ทำไมต้องลงมือลงไม้ โดยนายอภิสิทธิ์  ได้พยายามเข้าพบตำรวจในระดับผู้บังคับบัญชา  และก็ได้พูดสายกับตำรวจระดับสูงก็ระบุว่า การกระทำดังกล่าวเป็นคำสั่งศาล อยากจะถามว่า เกิดความเข้าใจผิดกันระหว่างผู้ใต้บังคับบัญชา กับผู้บังคับบัญชาหรือไม่ โดยพบคำตอบว่า  ผู้ที่สั่งให้ทำ คือรองนายกรัฐมนตรี แต่ไม่รู้ว่า คนไหน จริงเท็จไม่ทราบ แต่ได้ยินมาเช่นนี้


 


"รสนา" โชว์ภาพ ม็อบบาดเจ็บ


น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กรุงเทพมหานคร ได้อภิปรายถึงกรณีที่มีการท้วงติงกลุ่ม ส.ว.ไปชุมนุมร่วมกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยระบุว่าไม่เหมาะสม และเป็นการถือหางพันธมิตรฯ ว่าในฐานะตัวแทนประชาชน มีความจำเป็นต้องไปดูและเยี่ยมผู้ร่วมชุมนุมหลังจากที่เกิดเหตุการณ์การปะทะกัน พร้อมกับแสดงหลักฐาน ซึ่งเป็นภาพถ่ายของผู้ชุมนุมที่ได้รับบาดเจ็บ หลังเกิดเหตุปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ


 


"หมัก"ฉุนถูก"จุรินทร์"กล่าวหา โวยเข้าข้างพันธมิตรฯ


นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวอภิปราย นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ว่ามีพฤติการณ์เป็นชนวนเหตุความขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้นขณะนี้ ตั้งแต่จุดยืนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ การใช้วาจาพูดชักชวนให้สื่อเลือกข้าง การใช้แก๊สน้ำตาสลายชุมนุมที่หน้า บช.น.ของเจ้าหน้าที่ตำรววจ รวมถึงประเด็นการพูดในรายการสนทนาประสาสมัครที่ระบุโจมตีมือที่สามว่ายิงแก๊สน้ำตาว่าเป็นไอบ้า พร้อมทั้งเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาตัวเองว่าสมควรอยู่ในตำแหน่งหรือไม่ หากยิ่งอยู่จะยิ่งทำให้บ้านเมืองมีความสุ่มเสี่ยงต่อการเสียประชาธิปไตย


 



นายสมัคร ยังกล่าวชี้แจงถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ใช่สิ่งผิด เพราะมีเขียนเอาไว้ในรัฐธรรมนูญชัดเจนอยู่แล้ว โดยยืนยันว่ารัฐธรรมนูญฉบับปี 50 มีข้อบกพร่องต้องมีการแก้ไข กลายเป็นว่านายกฯทำอะไรก็ผิดหมด ส่วนพันธมิตรฯที่ไปยึดทำเนียบรัฐบาล บุกสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีนั้นไม่ผิด



นายกฯ ยังชี้แจงถึงกรณีแก๊สน้ำตา โดยนำภาพถ่ายหลักฐานมาแสดงด้วยว่า ก็กำลังสรุปกันอยู่ว่ามันเป็นอะไร ถ้าดูจากรูปถ่ายมันไม่ใช่แก๊สน้ำตา แต่เป็นถังน้ำยาดับเพลิง


 



'จตุพร' อัดพธม.ไร้เหตุผล ส.ว.กทม.แนะเปลี่ยนนายกฯ


นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า ข้อเรียกร้องของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยขัดแย้งกันเองและไม่มีเหตุผลเกี่ยวกับข้อเรียกร้อง และยังยืนยันว่าจำเป็นจะต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะได้นำประเด็นดังกล่าว ไปหาเสียงจนได้รับการเลือกตั้งและจัดตั้งรัฐบาล ดังนั้น จึงไม่ใช่เหตุผลที่กลุ่มพันธิมตรฯ จะนำมาเป็นประเด็นขับไล่รัฐบาล 



ด้านนางสาวรสนา โตสิตระกูล สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว. ) กรุงเทพฯ กล่าวว่า นโยบายทางการ เมืองที่เข้าไปดำเนินการกับกลุ่มพันธมิตรฯ มีปัญหาและขาดธรรมาภิบาล อย่างไรก็ตาม ตำหนิการตั้งข้อกล่าวหากบฏต่อแกนนำกลุ่มพันธิมตรฯ ว่า เป็นการเพิ่มความรุนแรง


 



"สมเกียรติ" อัดรัฐบาลไม่แสดงสปิริตลาออก กรณีแถลงการณ์ร่วม "พระวิหาร"


นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ และหนึ่งในแกนนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า เขาเชื่อว่า วิกฤตของบ้านเมืองน่าจะจบลงในวันที่ 28 ก.ค. ที่ผ่านมา หลังจากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติชี้ขาดว่า แถลงการณ์ร่วมระหว่างไทย-กัมพูชา กรณีปราสาทพระวิหาร เป็นการขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 190 แต่รัฐบาลกลับไม่แสดงสปิริตทางการเมืองด้วยการลาออก เนื่องจากคณะรัฐมนตรีมีมติรับรองแถลงการณ์ร่วมดังกล่าว ในวันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมตินั้น แกนนำพันธมิตรฯ ได้เตรียมสลายการชุมนุมแล้วด้วยซ้ำ เพราะรัฐธรรมนูญมาตรา 216 เขียนไว้ว่า คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญถือเป็นเด็ดขาด มีผลผูกพันต่อรัฐสภา และคณะรัฐมนตรี


 



"สุนัย" ปูดเงิน 250 ล้าน หนุน พันธมิตรฯ


เว็บไซต์แนวหน้า - นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส. พรรคพลังประชาชนอ้างถึงจดหมายที่ส่งไปยังห้องผู้สื่อข่าวทำเนียบฯ ที่ระบุว่า มีบริษัทหนึ่งโอนเงินให้พันธมิตรฯหลายรอบจำนวนกว่า 250 ล้านบาทก่อนที่จะเกิดการปฏิวัติคือบริษัท ทีพีไอโพลีน และยังพบว่ามีการโอนเงินผ่านบริษัทหนึ่งหลายครั้งจากการตรวจสอบทราบว่าเป็นบริษัทที่มีชื่อของน.ส.สุพัชรี ธรรมเพชร ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ เป็นกรรมการด้วย

นอกจากนี้ยังระบุว่าพรรคประชาธิปัตย์อยู่เบื้องหลังการรัฐประหาร เนื่องจากรับเอาลูกของคมช.มาเป็นส.ส.ในพรรค ทำให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นตอบโต้ว่า ตนเป็นหัวหน้าพรรคคนเดียวที่ประกาศว่าไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร ส่วนการรับลูกของคมช.มาสมัครส.ส.นั้นพิจารณาจากความสามารถ ตรงกันข้ามคนที่ประณามพรรคประชาธิปัตย์กลับรับเอาคมช.เข้าไปอยู่ในพรรคถึง 2 คน


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net