Skip to main content
sharethis

4 ก.ย. 51 - เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 4 ก.ย. นายสมัคร สุนทรเวช กล่าวในรายการวิทยุกรมประชาสัมพันธ์ FM 92.5 ว่า การที่มาพูดครั้งนี้ไม่ใช่รายการพิเศษอะไร แค่อยากพูดกับพี่น้องประชาชนเรื่องต่างๆ เท่านั้น แต่กลับกลายเป็นข่าวเอิกเกริกไปหมด อาจเป็นผลสืบเนื่องมาจากการที่นายเตช บุญนาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยื่นหนังสือขอลาออกจากตำแหน่ง ทำให้มีการลือไปทั่วว่า องคมนตรีไปเฝ้าเข้าฯ นายสมัครไปเข้าเฝ้าฯ



นายสมัคร กล่าวว่า เช้านี้จึงขอมาคุยให้ชัดเจน เพราะสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้มันเป็นเรื่องธรรมดาแท้ๆ โดยมีคนออกมาประท้วงรัฐบาล ตอนแรกบอกว่าออกมาคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จากนั้นจุดยืนก็เปลี่ยนเป็นเรื่องหมิ่นพระบรมราชานุภาพ เพราะจะเอาเรื่องรัฐบาลให้ได้ จากนั้นก็เปลี่ยนมาเป็นเรื่องเขาพระวิหาร แล้วมาเรื่องการก่อสร้างรัฐสภา จุดยืนเปลี่ยนมาตลอด แต่รัฐบาลไม่อยากอ้างมาตรา 63 และอดทนมาตลอด ไม่ยอมให้มีการเกิดการปะทะ แต่ก็เกิดจนได้ ตอนแรกสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีเป็นเหยื่อ จากนั้นก็ไปยึดสถานที่ต่างๆ แล้วสุดท้ายก็ไปยึดทำเนียบรัฐบาล และประกาศชัยชนะ อยากถามว่าการกระทำแบบนี้มีกฎหมายรองรับหรือไม่



"คณะบุคคลนี้อ้างว่ามีความจงรักภักดีต่อสถาบัน หัวหน้าบอกทุกวันว่าตัวเองจงรักภักดี ใส่เสื้อสีเหลือง และทำเหมือนสถาบันจะถูกทำลาย อย่างถามว่าอย่างนี้มันไหวเหรอ แล้วคนอื่นละ คนอื่นที่เทิดทูนในสถาบันกษัตริย์ อย่างเช่น ทหารและประชาชนในบ้านเมือง แปลว่าไม่รักเหรอครับ ความจงรักภักดีนั้นเกิดจากหัวใจของคน ไม่ใช่จากปาก" นายสมัคร กล่าว



นายสมัคร กล่าวต่อว่า อยากถามว่า 5 - 6 คนที่เป็นแกนนำพวกนั้นเป็นใคร เพราะเคยทำให้เกิดการปฏิวัติมาแล้วในอดีต เมื่อประเทศไทยได้ประชาธิปไตยกลับมา พอดีตนได้เป็นหัวหน้าพรรคพลังประชาชนและเป็นนายกรัฐมนตรี ได้ทำงานมา 7 เดือน ต่างประเทศก็ยินดีที่เรากลับมาเป็นประชาธิปไตย แต่ก็ยังมีคนอยากล้มล้างประชาธิปไตยอีก เขาอยากให้เราพาดฟันให้นองเลือด พยายามทำทุกทาง แต่รัฐบาลก็พยายามนุ่มนวลโดยการใช้กฎหมาย



"เหตุการณ์คืนวันที่ 2 ก.ย. เคราะห์ดีที่มีการถ่ายภาพไว้ ผมยืนยันว่าต้องมีการสอบสวนและขอร้องให้ทหารออกมาช่วย จากนั้นผมได้ไปประชุมหารือทหารและตำรวจ สรุปว่าต้องดับชนวนต้องประกาศภาวะฉุกเฉินในกรุงเทพมหานคร ข้อ 5 โดยจะทำให้ไม่กระทบกับการท่องเที่ยว และชีวิตประจำวัน แต่ขอให้ทหารและตำรวจสามารถทำงานได้ ตอนนี้ทหารต้องมาเดือนร้อนด้วย ภายหลังที่รัฐบาลเดือดร้อนจนเอาไม่อยู่ เรื่องไปที่ศาลก็ไม่สนใจ เมื่อพูดในสภา มีคนบอกให้ผมลาออก ผมก็บอกว่าออกไม่ได้ เพราะเป็นระบอบประชาธิปไตย ผมจะอยู่เพื่อรักษาระบอบประชาธิปไตย ก็เอาไม่อยู่ แล้วก็เกิดเหตุปะทะวันที่ 2 ก.ย. แล้วประกาศภาวะฉุกเฉิน แล้วทหารก็โดนเป็นคนที่ 4 ซึ่งผมมอบหมายให้พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ดูแล และผมกับผบ.ทบ.ก็ได้คุยกันตลอด" นายสมัคร กล่าว



นายสมัคร กล่าวอีกว่า ต้องขอขอบคุณผู้ที่รับผิดชอบในส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้าหรือไปรษณีย์ ที่ช่วยกันทำงาน นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ก็ออกมายืนยันว่าไม่สามารถตัดน้ำ-ไฟได้ตามที่ออกมาขู่  ตอนนี้มันกลายเป็นสงครามข่าวไปแล้ว



"สถานการณ์ตอนนี้ ผู้คนที่ไม่มีสถานะรองรับไปยึดทำเนียบฯ ผมเสียใจจนอยากร้องไห้ เพราะมีแต่คนพูดเอาแต่ได้ ตะแบงไปข้างเดียว ยืนยันว่าการปลุกระดมถูกต้อง อยากถามว่าถูกตรงไหน บ้านเมืองไม่มีกติกาเหรอ เรามีกฎหมาย ตอนแรกประเทศเราอยู่แถวหน้า ตอนนี่เริ่มตกต่ำลงมา ขอยืนยันว่า 7 เดือนที่ผ่านมา ผมไม่ได้ทำอะไรผิด ทุกอย่างต้องทำตามกฎหมาย เมื่อวันก่อนผมได้เข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็มีข่าวว่าผมจะลาออก ผมขอยืนยันว่าจะไม่ลาออก โลกก็กำลังเฝ้ารอสถานการณ์อยู่ ทูตต่างชาติยืนยันว่า รับไม่ได้กับเรื่องปฏิวัติ การปฏิวัติโดยประชาชนก็รับไม่ได้ เพราะไม่มีเหตุผล จึงขอให้เราตรองดูว่า ถ้าผมลาออกแล้ว ประเทศจะเป็นยังไง ระบบ 30 - 70 จะเริ่มต้นตรงไหน อยากถามนักวิชาการหน่อยว่า รับได้ไหมกับการเมืองใหม่แบบนี้ เพราะเราก็มีประชาธิปไตยอยู่ดีๆ แล้ว"  นายสมัคร กล่าว



นายสมัคร กล่าวด้วยว่า พวกนี้ทำเหมือนกับลัทธิประหลาด อยากให้รัฐบาลปราบประชาชนเพื่อให้ทหารเข้ามา ตนยืนยันว่าจะไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดแน่นอน


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net