Skip to main content
sharethis


เวที "ปกป้องประชาธิปไตย หยุดคนทำลายประเทศ" บริเวณท่าน้ำนนทบุรี มีประชาชนหลายพันคนเดินทางมาร่วมฟังการปราศรัยอย่างคึกคัก โดยบนเวทีได้มีแกนนำเช่น นายวิสา คัญทัพ นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข นายศุภชัย ใจสมุทร ได้สลับสับเปลี่ยนกันขึ้นบนเวที ปราศรัยโจมตีกลุ่มพันธมิตรฯ ที่บุกยึดทำเนียบรัฐบาล


 


นายวิสา คัญทัพ ได้ขึ้นเปิดเวทีประกาศสร้างเครือข่ายประชาชนปกป้องประชาธิปไตย (คปป.) พร้อมออกแถลงการณ์จุดยืนของกลุ่ม โดยมีใจความว่า


 


1.กระทำเพื่อความสามัคคีของพี่น้องประชาชนชาวไทยอันไพศาล ผู้รักชาติรักประชาธิปไตย เข้าร่วมผนึกกำลังต่อสู้ปกป้องประชาธิปไตยจนถึงที่สุด


 


2.ยืนหยัดชุมนุมโดยสันติ สงบ ไปจนกว่าสถานการณ์บ้านเมืองจะคลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติ


 


3.เชิญชวนกลุ่มองค์กร หน่วยงาน ทุกภาคส่วนของประเทศ ส่งตัวแทนเข้าร่วมประกาศต่อสู้เพื่อปกป้องประชาธิปไตยอย่างเป็นทางการกับเครือข่ายประชาชนปกป้องประชาธิปไตย


 


4.ติดตามความคืบหน้าสถานการณ์บ้านเมือง รายงานประชาชนทุกระยะ ชี้นำแนวทางการปกป้องประชาธิปไตยให้พ้นจากอำนาจเผด็จการแอบแฝงของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย


 


นางละเมียด บุญมาก ภรรยานายจิระ บุญมาก วีรชน 14 ตุลา ที่เข้าร่วมสนับสนุนเครือข่ายประชาชนปกป้องประชาธิปไตย (คปป.) เปิดเผย ก่อนขึ้นเวทีปราศรัยที่ท่าน้ำนนทบุรีว่า เพื่อประกาศจุดยื่นของปกป้องประชาธิปไตยจากกลุ่มที่เหยียบย่ำประชาธิปไตยที่ต้องผ่านการต่อสู้เรียกร้อง และแลกกับชีวิตของญาติพี่น้องของใครอีกหลาย ๆ คน ต้องผ่านเหตุการณ์ล้มลุก คุกคลานกว่าที่จะได้มาซึ่งสิ่งเหล่านี้ แต่การกระทำของกลุ่มบุคคลบางกลุ่มออกมาแสดงพฤติกรรมจ้องทำลายประชาธิปไตย ที่ญาติของตน เอาชีวิตเข้าแลก ซึ่งเป็นเรื่องที่ตนและเหล่าบรรดาญาติวีรชนทั้งหลายรับกับสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ ประกาศขอทำทุกวิถีทางที่จะไม่ยอมให้ใครทำลายประชาธิปไตยได้


 


ดังนั้น ตนและเหล่าบรรดาญาติพี่น้อง ลูกหลานของวีรชน 14 ตุลา จึงได้ร่วมตัวเพื่อต้องการขัดขวางการทำลายประชาธิปไตยจากพวกที่ใช้กฎหมายหมู่อยู่เหนือกฎหมาย และจะขอสนับสนุนนายกรัฐมนตรีที่มาจาการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามของให้เข้ามาดำรงตำแหน่งอย่างถูกต้องคามหลักการประชาธิปไตย และขอประกาศคัดค้านนายกฯที่จะมาจากการแต่งอย่างเด็ดขาด


 


ขณะเดียวกันมีกระแสข่าวว่ากลุ่มพันธมิตรฯ จะเคลื่อนขบวนมาปิดล้อมรัฐสภาตั้งแต่ตอนสายวันนี้ (11 กันยายน) เพื่อไม่ให้สามารถประชุมได้ และเข้าสู่การจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาตินั้น


 


กรณีดังกล่าวนายจตุพร  พรหมพันธุ์  ส.ส.สัดส่วนพรรคพลังประชาชน กล่าวว่าข่าวดังกล่าวมีความเป็นไปได้มาก เพราะมีหลายฝ่ายได้วิเคราะห์ประเมินสถานการณ์ไว้บ้างแล้ว เมื่อคืนวันที่ 9 กันยายนทางรายการความจริงวันนี้ก็ได้มีการกล่าวถึงไปบ้างแล้ว เพราะเข้าใจว่าการที่ส่งสัญญาณบอกผ่านรายการนั้น น่าจะทำให้หลายฝ่ายที่รับผิดชอบเรื่องรักษาความปลอดภัยได้เตรียมตัวให้พร้อม ป้องกันไว้ดีกว่าแก้ เนื่องจากเป้าหมายของคนกลุ่มนี้คือไม่ให้มีรัฐบาลนี้ต่อไป และต้องการระบอบการเมืองใหม่มาแทน


 


หากในวันดังกล่าวมีการปิดล้อมจริง โดยไม่มีฝ่ายใดเข้ามาป้องกัน เชื่อว่าสถานการณ์จะยิ่งรุนแรง เพราะเป้าหมายคือต้องการให้มีการยึดอำนาจ โดยอาจจะนำรัฐบาลแห่งชาติมาใช้


 


"เขาต้องการให้เราเลือกนายกฯ ไม่ได้ ไม่งั้นครม.ต้องไปประชุมกองทัพไทย หรือครม.สัญจรหรือเปล่าถ้าถึงเวลานั้น ก็ยังไม่รู้ ตอนนี้ประเทศก็ทุเรศเต็มทีแล้ว"


 


ส่วนเรื่องของการเลือกนายรัฐมนตรีคนใหม่ขึ้นมาแทนนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ที่หลุดจากเก้าอี้ตำแหน่งสำคัญดังกล่าว ด้วยเหตุขาดคุณสมบัติตามศาลรัฐธรรมนูญตัดสินนั้น นายจตุพร ชี้แจงว่าความเห็นของสมาชิกพรรคส่วนใหญ่ ยังคงเห็นสมควรว่าจะยกมือโหวตให้นายสมัครขึ้นรับตำแหน่งเดิม


 


แม้จะยังไม่ใช่มติใหญ่ที่ประชุมของพรรคพลังประชาชนก็ตาม แต่ทุกคนมีความเห็นตรงกันว่าคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา ทำให้พรรคต้องการเลือกนายสมัครกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากเหตุผลที่ศาลตัดสินนั้น ไม่ได้เกิดจากการผิดพลาดในการทำงาน ไม่ได้คอร์รัปชั่น


 


ทั้งนี้ เห็นว่าไม่ว่าพรรคจะโหวตใครขึ้นมาหากเป็นคนจากรัฐบาลหรือพรรคพลังประชาชน แม้กระทั่งให้นายบรรหาร  ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี กลุ่มพันธมิตรก็ไม่ยอมอยู่ดี แต่ถ้าเป็นนายสมัคร ทางพรรคกลับมองเป็นจุดแข็งที่สุดในขณะนี้ เพราะตลอดระยะเวลา 7 เดือนที่นายสมัครเข้ามาทำงานนั้น นายสมัครแสดงให้เห็นว่าสามารถทำงานร่วมกับกองทัพได้เป็นอย่างดี และเรื่องความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ของนายสมัคร ก็ไม่มีใครสามารถมาโจมตีเรื่องดังกล่าวได้ ดังนั้น จึงตั้งใจว่าจะให้นายสมัครดำรงตำแหน่งเดิมต่อไป เนื่องจากยากต่อการทำลาย และนายสมัครถือว่ามีความเป็นจุดยืนที่เข้มแข็ง


 


ต่อกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์เสนอให้มีรัฐบาลแห่งชาตินั้น นายจตุพร กล่าวว่ารัฐบาลดังกล่าวก็จะเป็นรัฐบาลของพวกอำมาตยาธิปไตย ไม่มีการยอมรับจากประชาชนส่วนใหญ่ ประเด็นต่อมาคือรัฐบาลดังกล่าวไม่อยู่ในกฎหมายรัฐธรรมนูญ และไม่เป็นประชาธิปไตย


 


"ถ้านักการเมืองคนไหนเห็นด้วยกับรัฐบาลแห่งชาติ ถือว่าเป็นนักการเมืองที่เลว ทำดูดีแต่เป็นการซ่อนยาพิษ เป็นการร่วมอำนาจ เป็นเผด็จการซ่อนรูป จะเป็นไปได้อย่างไรที่จะดึงพรรคฝ่ายค้าน พรรคร่วมรัฐบาล พันธมิตรฯ นปก. มาร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ข้อเท็จจริงไม่สามารถรวมกันได้เลย" นายจตุพรกล่าว


 


ที่มา: ประชาทรรศน์ออนไลน์


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net