Skip to main content
sharethis

เวลา 11.20 น. ที่กองบัญชาการกองทัพไทย นายสมชาย วงษ์สวัสดิ์ รักษาการนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบและมอบอำนาจในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินตามประกาศพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.) เขตกรุงเทพมหานคร และพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ร่วมแถลงข่าวการยกเลิกประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อควบคุมสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศ เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2551 ที่ผ่านมา


 



นายสมชาย กล่าวว่า หากในประเทศยังคงประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินอยู่ จะก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจและประเทศโดยรวม ทั้งนี้ตนในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี ขอยกเลิกการใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อควบคุมสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศ โดยจะลงนามยกเลิกให้มีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ซึ่งหลังการประกาศยกเลิกใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน คงจะไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้นอีก แต่อย่างไรก็ตามจะตั้งกองอำนวยการติดตามสถานการณ์ต่อไป และมอบให้ พล.อ.อนุพงษ์ ในฐานะหัวหน้าหน่วยบัญชาการความมั่นคง คอยประสานงานกับตำรวจและข้าราชการหน่วยงานต่าง ๆ คอยประเมินสถานการณ์ เพื่อควบคุมให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย


 



นายสมชาย กล่าวต่อว่า ขณะนี้บ้านเมืองไม่ได้เกิดความขัดแย้งหรือรุนแรงขั้นวิกฤติ แต่เป็นเพียงความขัดแย้งทางความคิดที่เป็นไปได้ในบ้านเมือง การประกาศยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะเป็นนิมิตหมายที่ดี เพราะบ้านเมืองของเราอยู่ด้วยเหตุผล ตนอยากขอร้องให้ทุกฝ่ายดำเนินการอยู่ในกรอบของกฎหมายที่ประเทศอยู่ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ซึ่งหากทุกคนเคารพกฎหมายแล้ว การประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะมีหรือไม่นั้นก็ไม่เป็นปัญหา คนไทยด้วยกันควรหันหน้าเข้าหากัน คุยกันด้วยเหตุผล เพื่อความเข้าใจกันทุกฝ่าย เพื่อให้ประเทศชาติดีขึ้น


 



"ทุกอย่างจะต้องจบลงด้วยความมีเหตุผลและต้องเป็นเหตุผลที่ดีที่สุดไม่ใช่ ชัยชนะของใคร หรือความพ่ายแพ้ของใครคนใดคนหนึ่ง การแก้ปัญหาต้องดูตามสถานการณ์ ผมเห็นว่าทุกคนรักชาติ และเราควรใช้เหตุผลทำอย่างไรให้บ้านเมืองสงบ ผมขอเคารพในความคิดของทุกฝ่าย ถ้าเราคุยกันด้วยเหตุผลแล้ว ชัยชนะจะเป็นของคนไทยทุกคน" นายสมชายกล่าว


 



นายสมชาย กล่าวอีกว่า ขณะนี้บ้านเมืองบอบช้ำมาก ทั้งสังคม เศรษฐกิจ คนไทยจึงควรหันหน้าเข้าหากันเพื่อค้นหาความแตกต่างให้ได้และนำเหตุผลมาประสานรอยร้าว ถึงตนจะแค่รักษาการนายกรัฐมนตรี แต่ก็ไม่ได้เพิกเฉยต่อประเทศชาติแม้แต่นาทีเดียว


 



"เราควรมีสติ เพราะคนไทยมีวัฒนธรรมที่ดี บรรพบุรุษท่านได้สร้างไว้ ต้องเสียเลือดเนื้อ หวังว่าลูกหลานจะทำนุบำรุงรักษาสิ่งดีงามไว้ วันนี้ไม่ควรแตกแยกกันอีก เพราะไม่มีประโยชน์ต่อใครทั้งสิ้น เรามีปัญหาต่าง ๆ ที่ต้องฝ่าฟันอีกมากทั้ง ภัยแล้ง เศรษฐกิจ พี่น้องต่างจังหวัดที่ได้รับความเดือดร้อน ทั้งในกรุงเทพฯ ก็ดีล้วนแต่เป็นปัญญาชน น่าจะใช้ตรงนี้ประคับประคองกันให้ประเทศดีขึ้น" นายสมชายกล่าว



นายสมชาย กล่าวอีกว่า ประชาชนควรหันหน้าเข้าหากันด้วยเหตุผล และเดินทางไปสู่ความสมานฉันท์ให้ทั่วโลก เห็นว่าประเทศไทยเป็นสยามเมืองยิ้ม ที่คนต่างชาติรับรู้ว่าเมืองไทยเป็นประเทศที่มีคนยิ้มแย้มแจ่มใส ทำให้ชาวต่างชาติอบอุ่น และจากการเกิดปัญหาคนทั่วโลกไม่ไว้วางใจมาเที่ยวประเทศไทย จึงต้องยกเลิกประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อให้ชาวต่างชาติเห็นว่าบ้านเมืองเราไม่ได้เกิดปัญหาร้ายแรงแต่อย่างใด



 


......................................................


ที่มา : เว็บไซต์เดลินิวส์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net