Skip to main content
sharethis


แฟ้มภาพนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (ที่มา: ผู้จัดการออนไลน์)


 


เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. ของวันที่ 28 ก.ย. 51 นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้กล่าวปราศรัยกับผู้ชุมนุม โดยตอนหนึ่งของการปราศรัยนายสนธิได้กล่าวถึงแนวทางการเมืองใหม่ (คลิกฟังเสียงที่นี่) ดังนี้


 


"พี่น้องครับ การเมืองใหม่นั้น ผมได้บอกฝากพรรคพวกเพื่อนฝูง ผมต้องขอกราบเรียนพ่อแม่พี่น้อง ว่าถึงผมจะเป็นคนจุดประกายการเมืองใหม่ขึ้นมา จนกระทั่งไฟมันลามทุ่งไปแล้ว แต่ผมต้องพูดกับพ่อแม่พี่น้องตรงๆ ว่าการประชุมสัมมนาการเมืองใหม่นั้น ทั้งสองครั้งผมไม่ได้เข้าทั้งสองครั้งและผมจะไม่เข้าตลอดไป เหตุผลก็เพราะว่าผมมีหน้าที่จุดประกายให้พ่อแม่พี่น้องรู้ ว่าเราต้องการการเมืองใหม่ ผมจะไม่ลงไปข้างล่างหรือข้างใน เพราะเดี๋ยวจะถูกกล่าวหาว่าเข้าไปครอบงำเขา ใช่มั้ยฮะพ่อแม่พี่น้อง เราเพียงแต่ต้องการให้เกิดความคิดของการเมืองใหม่ขึ้นมาเท่านั้น


 


แต่ผมบอกฝากผ่านพี่พิภพและทุกๆ คนไป ว่าการเมืองใหม่จะคิดยังไงก็ตาม หลักสำคัญที่สุดที่ต้องชูเอาไว้เลย การเมืองใหม่ที่เกิดขึ้นนั้น ต้องทำให้สถาบันกษัตริย์เข้มแข็ง และใครมาล้มล้างไม่ได้ จะออกแบบอย่างไรก็ตาม ขอให้ออกแบบให้สถาบันกษัตริย์เข้มแข็ง และคืนพระราชอำนาจ คืนให้กับพระองค์ท่านครับ


 


พระมหากษัตริย์ของเราทรงทศพิธราชธรรม พระองค์ไม่เคยขอพระราชอำนาจพระองค์ท่าน ให้พระองค์ท่าน พระองค์ท่านก็รับ และพระองค์ท่านก็ใช้ด้วยหลักทศพิธราชธรรม ไม่ให้พระองค์ท่าน พระองค์ท่านก็ไม่พูด พระองค์ท่านก็ไม่ขอ พี่น้อง เพราะฉะนั้นแล้ว ที่ผมยกตัวอย่างเมื่อวาน เราต้องคืนการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชกลับคืนไปให้พระองค์ท่าน เพราะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นพุทธมามกะ ถ้าจะกล่าวอีกนัยหนึ่ง พระองค์ท่านคือสมภารใหญ่ ใช่มั้ยใช่ แต่การเมืองในยุคหลัง มาดึงพระราชอำนาจอันนี้ออกจากพระหัตถ์พระองค์ท่าน แล้วก็มาผ่องถ่ายให้รัฐบาลเป็นคนตั้งสมเด็จพระสังฆราช โดยผ่านมหาเถรสมาคม ซึ่งไม่ถูกต้องพี่น้อง เพราะในที่สุดแล้ว มหาเถรสมาคมก็แข่งขันกันชิงอาวุโส ใช่มั้ยใช่พี่น้อง ดูว่าใครขึ้นมาเป็นสมเด็จก่อน ถูกไม่ถูก ทำเป็น ซี 7 ซี 8 ซี 9 ซี 10 ไปเลย ด้วยเหตุนี้ไงพี่น้อง ศาสนาพุทธถึงวุ่นวายจนทุกวันนี้ เพราะว่าการเมืองเข้ามาแทรกแซง


 


แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตั้งแต่อดีตมาตลอดเวลา 60 ปีที่ผ่านมา พระองค์ท่านมีพระราชอำนาจในการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราช เคยมีปัญหาวุ่นวายมั้ย มามียุคพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร ใช่มั้ยใช่พี่น้อง


 


และเมื่อวานนี้ผมพูดไป ผมจะตอกย้ำอีกครั้งหนึ่ง เมื่อเรามอบ เมื่อเราให้พระองค์ท่านเป็นจอมทัพ ใช่ไม่ใช่ เมื่อเป็นจอมทัพแล้ว พระองค์ท่านต้องมีอำนาจในการแต่งตั้งหรือเปลี่ยนแปลงระดับผู้บัญชาการทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ใช่มั้ยใช่พี่น้อง ไม่ใช่หน้าที่รัฐมนตรีกลาโหมหรือว่านายกรัฐมนตรี ถึงแม้ว่าองคมนตรีจะไม่เห็นด้วย ถ้าไม่เห็นด้วย องคมนตรีก็ต้องส่งกลับมาให้นายกแก้โผ ใช่ไม่ใช่ แต่ถ้านายกมันไม่ยอมแก้ล่ะ พระองค์ท่านถึงจะไม่เห็นด้วย ก็ต้องจำใจ ต้องลงพระปรมาภิไธย ใช่ไม่ใช่พี่น้อง


 


เพราะฉะนั้นแล้ว การเมืองใหม่ต้องรักษาพระสังฆราช ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ให้อยู่ในพระราชอำนาจของราชบัลลังก์ ราชบัลลังก์ถึงจะมั่นคง ถึงจะไม่มีใครมาจาบจ้วง หรือเจตนาจะล้มล้าง เหมือนยุคสมัยของพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร และยุคสมัยนี้ด้วยพี่น้อง"


 


นายสนธิ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้จะทำอย่างไรก็ตาม การเมืองใหม่ขอให้การเข้ามาสู่การเมืองคือการเสียสละ ไม่ใช่การเข้ามาทำมาหากิน ระยะสั้นต้องขอให้เอาคนดีมาเป็นกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อที่ใครก็ตามที่คิดจะมาลงทุนการเมือง ก็จะรู้ว่า ถ้า 5 คนนั้นเป็น กกต. ต้องโดนใบแดงแน่นอน


 


"นั่นเป็นระยะสั้น ระยะยาวต้องคิดระบบ ไม่ให้ กกต.ไม่ถูกซื้อขายได้ วิกฤติบ้านเมือง 2 ครั้งที่เกิดขึ้น มันเกิดขึ้นก็เพราะ กกต. ยุคแรกเกิดเพราะ 3 หนา 5 ห่วง ใช่ไม่ใช่ ยุคที่ 2 เกิด เพราะ กกต. 2 ใน 5 คน ใช่มั้ย ถ้าเขาทำหน้าที่อย่างซื่อสัตย์ สุจริตป่านนี้วิกฤติชาติไม่มีแล้ว ป่านนี้พรรคพลังประชาชนจะถูกยุบไปตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาีนี้แล้ว"


 


นายสนธิกล่าวหาว่า แต่เป็นเพราะ กกต. 2 ใน 5 คนนั้น มันรับเงินระบอบทักษิณทั้งคู่ แล้วไปรับกันที่ รร.เรดิสันข้างบน ไม่ต้องเอ่ยชื่อพี่น้องก็รู้ ก็ขอให้รู้กันต่อไป เผยแพร่ต่อไปว่าเป็นใคร ผมไม่จำเป็นต้องเอ่ยชื่อ แต่มี 2 คนใน 5 คนนั้นแหละ นายสนธิกล่าว และว่าพี่น้องเห็นหรือยัง เรื่องบางเรื่องที่สามารถดับไฟแต่ต้นลมได้ก็ควรดับไว้ก่อน กกต.มีหน้าที่เปิดประตูให้คนเข้ามาบริหารชาติบ้านเมือง แต่ถ้า กกต. ทำตัวเป็นโจรเสียเอง เปิดประตูให้โจรเข้ามาด้วย นี่คือเหตุผลว่าเราจึงมานั่งเหนื่อยแสนสาหัสไล่โจรอยู่ทุกวันนี้


 


นายสนธิ กล่าวอีกว่า การเมืองใหม่มีความหมายมาก วันนี้ไม่มีใครห้าม หรือหยุดยั้งความคิดการเมืองใหม่อีกต่อไป ทุกคนยอมรับหมด และจุดยืนของพันธมิตรฯ นั้น เข้าใจ เห็นใจ และขอบคุณความเห็นดีๆ ของ 24 อธิการบดีที่เสนอการเมืองใหม่ แต่เราขอแนะนำว่าวิธีการเสนอของท่านนั้นไม่ถูกต้อง เพราะว่าถ้าการเสนอให้รัฐบาลเป็นคนตั้งกรรมการขึ้นมาพิจารณาการเมืองใหม่ ก็จะตั้งคนของรัฐบาลเข้ามา เมื่อตั้งมาแล้ว ถ้ากรรมการเป็นคนดี มีมติว่าต้องเปลี่ยนแปลง รัฐบาลก็จะไม่เปลี่ยนแปลงตาม เพราะฉะนั้นการเมืองใหม่ จะเริ่มได้ก็ด้วยมหาประชาชน ประชาภิวัฒน์ของพันธมิตรฯ ที่จะเริ่มการเมืองใหม่ให้ได้


 


"การเมืองใหม่ไม่ใช่ความอยู่รอดของชาติบ้านเมืองอย่างเดียว การเมืองใหม่คือการอยู่รอดของรากเหง้าวัฒนธรรมไทย การเมืองใหม่คือการรักษาสถาบันกษัตริย์ การเมืองใหม่คือการสร้างความยุติธรรมให้เกิดขึ้นทั่วแคว้นแดนไทย การเมืองใหม่คือให้นักธุรกิจมีความสำนึกว่าการเป็นนักธุรกิจนั้นต้องมีกำไรอย่างพอเพียง ไม่ใช่เอากำไรอย่างบ้าเลือด การเมืองใหม่ทำให้คนยอมเคารพในกฎหมาย ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย การเมืองใหม่ทำให้นักการเมืองมีจริยธรรม มีหิริโอตตัปปะ รู้ว่าอะไรผิดอะไรถูก การเมืองใหม่ทำให้คนที่อยู่ในวงราชการนักการเมืองมีคุณธรรมมีจริยธรรม ทำให้ทุกๆ ส่วนของสังคมยอมรับว่าประเทศไทยจะต้องเป็นประเทศแห่งศีลธรรม และคุณธรรม


 


เพราะฉะนั้นแล้ว การเมืองใหม่คือชีวิตใหม่ของคนไทย การเมืองใหม่คือแผ่นดินใหม่ของประเทศไทย การเมืองใหม่คือความมั่นคงของชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์


 


เราจะให้โจรเป็นคนออกกฎจับโจรเอง มันจะทำหรือเปล่า ไม่มีวันทำหรอก ก็เพราะเรามีโจรเป็นรัฐบาล แล้วมีกันมาตั้งไม่รู้กี่ชุด เราจะขอร้องให้โจรมันมานั่งประชุมกันแล้วแต่งตั้งคนออกกฎมาจับโจร แล้วให้มันยอมรับในกฎอันนั้น มันเป็นไปไม่ได้" นายสนธิกล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net