Skip to main content
sharethis

วานนี้ (2 ต.ค.) เวลา 13.00 น.นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หมายเลข 8 ได้ก่อเหตุชกต่อย นายวิศาล ดิลกวณิช ผู้ดำเนินรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ภายหลังเสร็จสิ้นการสัมภาษณ์สดในรายการดังกล่าว


 



โดยเจ้าหน้าที่สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าให้ฟังว่า ในช่วงออกรายการก็เห็นอาการไม่พอใจของนายชูวิทย์ หลังจากจบรายการ นายวิศาล ได้เดินออกมาจากห้องจัดรายการด้วยสีหน้าไม่ค่อยสู้ดี ส่วนนายชูวิทย์ก็เดินตามหลังโดยมีสีหน้าไม่สบอารมณ์เช่นกัน ขณะนั้นนายวิศาลได้หันหลังกลับไปพูดคุยกับนายชูวิทย์ว่า "ที่ผมถามคำถามทั้งหมด ผมเป็นกลางน่ะไม่ได้มีเจตนายั่วยุ" แต่นายชูวิทย์คุมอารมณ์ไม่อยู่ใช้ศอกฟันเข้าที่หน้าจนล้มลงไปกองกับพื้นและศีรษะฟาดพื้น จากนั้นนายชูวิทย์ก็กระทืบขาซ้ำด้วย ส่วนนายวิศาลไม่ได้ลุกขึ้นต่อสู้แต่อย่างใด ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปห้ามปราม จนนายชูวิทย์ไปนั่งสงบอารมณ์อยู่ในรถยนต์ โดยมีผู้บริหารสถานีเข้าไปสอบถามสาเหตุการทะเลาะวิวาท ส่วนนายวิศาลเข้าไปสงบอารมณ์ที่ห้องจัดรายการ



 


ต่อมานายวิศาล ให้สัมภาษณ์หลังเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลสมิติเวชและเข้าแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.ทองหล่อ ว่า ได้ให้แพทย์ตรวจร่างกายพร้อมออกเอกสารใบรับรอง โดยแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับนายชูวิทย์ ทั้งนี้คิดว่าการทำงานคือการซักถาม เพื่อให้นายชูวิทย์ตอบว่าทำอะไรเพื่อประชาชน ซึ่งนายชูวิทย์ตอบไม่ชัดเจน จึงต้องเน้นย้ำประเด็นคำถาม จนสร้างความไม่พอใจนำมาสู่การทำร้ายร่างกายครั้งนี้



         


"ได้นัดนายชูวิทย์มาสัมภาษณ์นโยบายผู้สมัครและเป็นคิวของนายชูวิทย์ โดยก่อนออกอากาศเจอกันก่อน 30 นาที เพื่อพูดคุยกันและได้สอบถามเรื่องนโยบายเพื่อให้นำเสนอ แล้วประชาชนจะได้ประโยชน์ที่สุด แต่กลับพูดแบบมีอารมณ์ตั้งแต่ก่อนเข้ารายการแล้ว และบอกว่าไม่พูดเรื่องนโยบายแต่จะพูดเรื่องการตรวจสอบ ซึ่งจะเห็นได้ว่าเขาอารมณ์ร้อนอยู่แล้ว เมื่อเข้ารายการก็ได้ถามกรณีไปที่ยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้สมัครสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ทำไมไม่ไปยื่นก่อนหน้านี้ ซึ่งนายชูวิทย์บอกว่าหากไปยื่นก่อนก็คงไม่มีใครสนใจ"



 


นายวิศาล กล่าวด้วยว่า ตลอดการตอบคำถาม นายชูวิทย์มักใช้คำพูดที่เร็ว ยิ่งพูดก็ไม่เข้าประเด็นว่าจะทำอะไรให้ประชาชน พยายามยอกย้อนและกวนประสาท และพยายามดิสเครดิตตน และหน้าที่ตนในฐานะสื่อก็ต้องควบคุมรายการและเนื้อหา ถ้าพูดอะไรพาดพิงหรือหมิ่นประมาทมันก็โดนฟ้อง เราเป็นสื่อมวลชนเราก็ต้องระมัดระวัง เรื่องนี้ชาวบ้านก็ต้องคิดเอาเองว่าภาพที่เห็นกับข้างหลังเป็นอย่างไร



นายวิศาล ชี้แจงอีกครั้งว่า ในการพูดคุยนอกรอบ มีการคุยเรื่องป้ายหาเสียงที่ปรับภาพลักษณ์จากรูปหน้านิ่วคิ้วขมวดมาเป็นภาพกอดอกในลักษณะผู้บริหาร เพื่อสู้กับนายอภิรักษ์ เป็นการคุยไม่ใช่เรื่องลับอะไร ยืนยันตนทำหน้าที่ตามจรรยาบรรณ



 


ด้านนายชูวิทย์ เปิดเผยถึงกรณีที่ทำร้ายร่างการนายวิศาล ดิลกวณิชย์ ผู้ดำเนินรายการ เที่ยงวันทันเหตุการณ์ ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ว่า เกิดจากการบันดาลโทสะ เนื่องจากผู้ดำเนินรายการมีการพูดยั่วยุตลอดรายการ มีการนำเรื่องที่พูดคุยกันก่อนออกรายการมาถามในรายการ ประกอบกับสุดทนกับประโยคที่ระบุว่า ตนเองไม่ใช่ลูกผู้ชาย เพราะถือเป็นการดูถูกอย่างร้ายแรง  โดยส่วนตัวไม่เคยรู้จักกับนายวิศาล และไม่ได้ใช้อารมณ์แบบนี้มานานกว่า 20 ปีแล้ว แต่การกระทำของนายวิศาล ไร้จรรยาบรรณ ไร้มารยาทกับตนเอง จึงเห็นว่าตนเองก็ไม่มีความจำเป็นต้องมีมารยาทด้วยเช่นกัน



         


ทั้งนี้ นายชูวิทย์ ได้เล่าเหตุการณ์หลังจากจบรายการว่า  เมื่อรายการจบลง นายวิศาลได้เดินออกจากโต๊ะสัมภาษณ์แล้วหันมาพูดว่า "ผมไม่ได้มีเจตนาร้ายกับคุณนะ" แต่ตนเองทนไม่ได้จึงใช้ศอกกระแทกที่โหนกแก้มขวา เมื่อนายวิศาลล้มลง จึงใช้เท้าย่ำบริเวณใบหน้าและที่ขาของนายวิศาล อย่างไรก็ตาม ตนขอโทษและยอมรับผิดต่อกองบรรณาธิการช่อง 3  ต่อสื่อมวลชนทั้งหมด ตลอดจนนายวิศาล แต่ขอถามกลับว่า นายวิศาล จะยอมขอโทษตนเองบ้างหรือไม่



         


นายชูวิทย์ ยังได้กล่าวยืนยันว่า จะไม่ขอสู้คดี เพราะเสียค่าปรับเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และไม่คิดว่าจะเป็นการปิดฉากทางการเมืองของตัวเอง เพราะนักการเมืองที่โกงเป็นพันล้าน ยังสามารถอยู่ในแวดวงการเมืองได้ ทั้งนี้ ในวันที่ 5 ตุลาคมนี้ประชาชน จะเป็นผู้ตัดสินเอง ว่าสามารถยอมรับว่าผู้ว่าฯ กทม.ที่โผงผาง พูดจาตรงๆ และกล้ายอมรับผิดอย่างตนเองได้หรือไม่


 


นายพิงค์ รุ่งสมัย ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร (กกต.กทม.) กล่าวถึงกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.อิสระ ก่อเหตุทำร้ายร่างกายนายวิศาล ดิลกวณิช ผู้ดำเนินรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ภายหลังเสร็จสิ้น การออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ว่า เรื่องดังกล่าวไม่กระทบต่อการลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งนายชูวิทย์ ยังคงเดินหน้าหาเสียงได้ตามปกติ เพราะถือเป็นคดีส่วนบุคคล ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นอยู่ที่วิจารณญาณ และดุลพินิจของประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งว่า ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.แต่ละรายมีพฤติกรรมเหมาะสมหรือไม่อย่างไร


 



2 สมาคมสื่อ ยันกรณีวิศาลตั้งคำถามชูวิทย์ เป็นเรื่องปกติของสื่อ


ชี้ชูวิทย์มีสิทธิไม่ตอบ แต่ไม่มีสิทธิทำร้ายร่างกาย


สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์ร่วมองค์กรสื่อ กรณี นายชูวิทย์ ทำร้ายร่างกายนายวิศาล ดิลกวณิช โดยระบุ จากกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ใช้กำลังทำร้ายร่างกายนายวิศาล ดิลกวณิช ผู้ดำเนินรายการ เที่ยงวันทันเหตุการณ์ ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 เมื่อวันที่ ตุลาคม 2551 หลังจากรายการเสร็จสิ้นลง


 


สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เห็นว่า พฤติกรรมของนายชูวิทย์ไม่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับบุคคลสาธารณะที่เสนอตัวเข้าสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ก่อนเกิดเหตุนายวิศาลได้ทำหน้าที่ของผู้ดำเนินรายการสัมภาษณ์นายชูวิทย์ตามปกติ แม้จะมีคำถามที่อาจทำให้นายชูวิทย์ไม่พอใจ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติของสื่อมวลชนในการตั้งคำถามกับผู้เสนอตัวให้ประชาชนเลือก เช่นเดียวกับนานาอารยะประเทศทั้งหลาย  ซึ่งนายชูวิทย์ก็มีสิทธิ์ที่จะไม่ตอบคำถามได้ แต่ไม่มีสิทธิ์ทำร้ายร่างกายผู้อื่น โดยเฉพาะสื่อมวลชนซึ่งกำลังทำหน้าที่


 


สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยขอประณามพฤติกรรมของนายชูวิทย์ และขอเรียกร้องให้ประชาชนชาวกรุงเทพมหานครโปรดใช้วิจารณญาณในการเลือกผู้ว่า ราชการกรุงเทพมหานครที่จะมาทำหน้าที่บริหารราชการกรุงเทพมหานครให้เจริญก้าว หน้าด้วยความผาสุกในฐานะเมืองหลวงของประเทศต่อไป


 


 


…………………………


เรียบเรียงจาก โพสต์ทูเดย์ กรุงเทพธุรกิจ


 


 


 


 


…………………………


เกี่ยวข้อง


คลิปรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ 1, 2


คลิปนายชูวิทย์ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net