Skip to main content
sharethis


 



 



 



ที่มาของภาพ: สำนักข่าวประชาธรรม


 


วันนี้ (7 ต.ค.) เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมสถานวิชาการนานาชาติ (ไอซี) ม.เชียงใหม่ พันธมิตรเชียงใหม่ ร่วมกับสถาบันการจัดการทางสังคมภาคเหนือ ภาคีคนฮักเจียงใหม่ และองค์กรพันธมิตร จำนวนประมาณ 20 คน ได้จัดเวทีประชุมหารือกรณีรัฐบาลใช้ความรุนแรงเข้าสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่บริเวณรัฐสภาในเช้าวันที่ 7 ต.ค.เวลาประมาณ 6.30 น. จนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก


 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจัดเวทีประชุมครั้งนี้มีกำหนดการแถลงจุดยืนและท่าทีต่อสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นต่อสื่อมวลชนในเวลา 12.00 น. อย่างไรก็ตามการประชุมดำเนินมาได้ประมาณ 1 ชั่วโมง ปรากฏว่านายอนุรักษ์ ปัญญานุรักษ์ ผอ.สถานวิชาการนานาชาติ ม.เชียงใหม่ พร้อมเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่งได้เข้ามาในห้องประชุมดังกล่าวพร้อมกับแจ้งให้ผู้เข้าร่วมประชุมทั้งหมดออกไปจากห้องประชุม และห้ามสื่อมวลชนบันทึกภาพ


 


โดยนายอนุรักษ์ให้เหตุผลว่าในการติดต่อใช้ห้องประชุมนั้นมีการแจ้งกับสถานวิชาการนานาชาติว่าจะจัดเวทีประชุมทางวิชาการ ซึ่งมิได้บอกว่าเป็นการแถลงข่าวของกลุ่มพันธมิตร ดังนั้นกรณีที่เกิดขึ้นอาจเกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อ ม.เชียงใหม่ จึงขอให้ทุกคนออกไปจากห้อง กรณีที่เกิดขึ้นจึงเกิดมีปากเสียงกับกลุ่มผู้เข้าร่วมประชุมเล็กน้อย จนในที่สุดผู้เข้าร่วมประชุมทั้งหมดจึงยินยอมออกจากห้องประชุม พร้อมกับจัดการแถลงข่าวบริเวณด้านหน้าสถานวิชาการนานาชาติ


 


นายสุริยันต์ ทองหนูเอียด แกนนำพันธมิตรเชียงใหม่ กล่าวว่า การได้มาซึ่งรัฐบาลสมชายนั้นเป็นการได้มาจากการจัดตั้งของกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย โดยเฉพาะจากสมาชิกบ้านเลขที่ 111 กล่าวได้ว่าการได้มาซึ่งรัฐบาลชุดนี้จึงไม่เป็นไปตามวิถีตามรัฐธรรมนูญ ดังนั้นกล่าวได้ว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่มีความชอบธรรม ขณะที่คณะรัฐมนตรีประชาชนก็ไม่ยอมรับจึงไม่สามารถแก้วิกฤตการเมืองที่เกิดขึ้นตอนนี้ได้ ดังนั้นการสลายการชุมนุมที่เกิดขึ้นเมื่อเช้านี้จึงเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องและเราขอประณามการกระทำเช่นนี้ ขณะเดียวกันรัฐบาลจะต้องแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไม่มีเงื่อนไข


 


ศ.เฉลิมพล แซมเพชร ผู้ประสานงานพันธมิตรเชียงใหม่ กล่าวว่า สำหรับการที่ ผอ.สถานวิชาการนานาชาติเชิญผู้เข้าร่วมประชุมออกจากห้องประชุมนั้นนับว่าเป็นเรื่องน่าหดหู่ในแวดวงวิชาการเป็นอย่างยิ่ง เพราะวิกฤตการเมืองที่เกิดขึ้นทุกภาคส่วนต้องร่วมกันหาทางออก โดยเฉพาะสถาบันวิชาการต่างๆ อย่าง ม.เชียงใหม่นั้นต้องเป็นหน่วยนำหน้าในการชี้ทางออกให้สังคม แต่ที่ผ่านมาเรื่องเหล่านี้ ม.เชียงใหม่ทำน้อยมาก แม้ที่ผ่านมาอธิการบดี ม.เชียงใหม่ จะเป็น 1 ใน 24 อธิการบดีที่ลงชื่อปฏิรูปการเมืองใหม่ด้วยการตั้งคณะกรรมการอิสระขึ้นมา ซึ่งดูเหมือนว่าเป็นการร่วมชี้ทางออกให้สังคม แต่สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา ที่ ม.เชียงใหม่ งดให้พันธมิตรใช้สถานที่หอศิลปวัฒนธรรมในการจัดเวทีวิชาการ และรวมทั้งการเชิญพันธมิตรเชียงใหม่ออกจากห้องประชุมในวันนี้นั้นสะท้อนชัดเจนว่าสิ่งที่อธิการคนนี้ทำเป็นการตามกระแสมากกว่าความหวังดีต่อบ้านเมือง


 


นายสวิง ตันอุด ผอ.สถาบันการจัดการทางสังคมภาคเหนือ กล่าวว่า ก่อนเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของนายสมชายนั้นมีการยืนยันมาตลอดว่าไม่ใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหา แต่ที่ผ่านมาสิ่งที่รัฐบาลสมชายทำมานั้นที่ผ่านมาเป็นการสร้างเงื่อนไขความรุนแรงมากโดยตลอด ตั้งแต่การจับแกนนำพันธมิตรฯ รวมทั้งการเห็นด้วยกับคณะกรรมการประชาชนเพื่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ (คปพร.) เสนอเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญซึ่งมีการหมกเม็ดในทางการเมือง และอย่างการสลายการชุมนุมเมื่อเช้าวันนี้ที่มีผู้บาดเจ็บนับร้อยย่อมสะท้อนชัดว่าล้วนขัดแย้งกับสิ่งที่นายสมชายเคยกล่าวไว้ทั้งสิ้น และรัฐบาลนายสมชายก็ได้ชื่อว่าเป็นรัฐบาลมือเปื้อนเลือดแล้วด้วย ดังนั้นความเสียหายที่เกิดขึ้นรัฐบาลต้องรับผิดชอบ


 


อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ภายหลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าว กลุ่มพันธมิตรเชียงใหม่ได้ร่วมกันวางพวงหรีดแก่ ม.เชียงใหม่ บริเวณด้านหน้าประตูสถานวิชาการนานาชาติ เพื่อไว้อาลัยกับความมืดมน ความคับแคบในทางวิชาการ


 


ที่มา: สำนักข่าวประชาธรรม

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net