บทความเสียดสีในรูปแถลงการณ์จากสมสุริยะ ทองสุกใส เรียกร้องเจ้าหน้าที่ตำรวจทิ้งโล่ กระบอง และอาวุธป้องกันตัวทั้งหมด หันหน้าเข้าสู่แนวทางอหิงสา โดยยึดการสวดมนตร์ภาวนาเป็นที่ตั้ง แถลงการณ์ยังเรียกร้องต่อพันธมิตรฯ รัฐบาล และนักสิทธิมนุษยชนด้วย
แถลงการณ์ถึงกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่ออำมาตยธิปไตย และรัฐบรร(ลัย) สืบเนื่องจากเหตุการณ์ที่ตำรวจใช้ความรุนแรงเข้าปราบปรามกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่ออำมาตยธิปไตย ซึ่งชุมนุมกันด้วยความสงบ สันติ และปราศจากอาวุธในวันที่ 7 ตุลาคม 2551 เป็นการกระทำที่เป็นพิษเป็นภัยต่อราชบัลลังค์ และทำให้ภาพพจน์ของประเทศเสียหายในสายตาของนานาอารยะประเทศ ผู้ออกแถลงการณ์ดังมีรายนามแนบท้าย ขอทำการประณาม ดังนี้ ข้อเรียกร้องต่อตำรวจ การที่ตำรวจใช้แก๊สน้ำตา ซึ่งเป็นอาวุธที่มีความรุนแรงสามารถสร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินเข้าสลายการชุมนุมโดยสันติวิธีของกลุ่มพันธมิตร ซึ่งปราศจากอาวุธ ไม่ว่าจะเป็นระเบิดปิงปอง หรือปืนพก เป็นวิธีการอันขัดต่อหลักปฏิบัติสากล เป็นการกระทำที่เกินขอบเขตอำนาจหน้าที่และละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง ดังนั้น หากมีการชุมนุมในครั้งต่อไปเกิดขึ้น เราขอเรียกร้องให้ตำรวจเคารพหลักการดังนี้ 1. ยึดแนวทางสันติวิธี หากพันธมิตรมีการชุมนุมครั้งใด ตำรวจควรทำหน้าที่พิทักษ์ความสงบของบ้านเมือง โดยการไม่พกพาอาวุธ โล่ หมวก หรือสิ่งของใดๆ ที่สามารถเป็นอาวุธ หรือเป็นเครื่องมือในการปกป้องชีวิตของท่านออกไปปฏิบัติการ 2. ในการควบคุมสถานการณ์ ขอให้ตำรวจพึงตระหนักถึงหลักอหิงสาธรรม นั่งขัดสมาธิ จับมือ ล้อมวงกัน เพื่อควบคุมสถานการณ์ตามวิถีทางอารยะ 3. หากปฏิบัติตามข้อ 1 และ 2 แล้วยังไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ขอให้ตำรวจจงพร้อมใจกันอธิษฐาน ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำบ้านเมืองให้ปกป้องชีวิตของท่าน และตั้งสมาธิสวดมนตร์ แผ่เมตตาให้กับการกระทำใดๆ ก็ตามของเหล่าผู้ชุมนุมซึ่งอาจส่งผลต่อความปลอดภัยของชีวิตท่าน 4. หากกระทำตามข้อ 1, 2 และ 3 แล้วยังไม่เป็นผล ขอให้ท่านจงพร่ำขออภินิหารจงปกป้องปวงประชาและราชบัลลังก์ 5. อนึ่ง หากกระทำตามข้อ 1, 2 ,3 และ 4 แล้ว ยังไม่ได้ผล นั่นเป็นเพราะกรรมแต่ปางก่อนของพวกท่าน อย่างไรก็ตาม จงยึดหลักอหิงสาสันติวิธี อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ข้อเรียกร้องต่อรัฐบรร(ลัย) การที่รัฐบาลไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ ปล่อยให้ตำรวจมีการใช้ความรุนแรงอันส่งผลกระทบต่อความเป็นอภิชนาธิปไตย และส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของประเทศในสายตานานาอนารยะประเทศ รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของฝูงชนซึ่งโง่เขลา ควรรับผิดชอบ ดังนี้ ให้รัฐบาลลาออกจากการบริหารประเทศ และเปิดโอกาสให้แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่ออำมาตยาธิปไตยได้บริหารปกครองประเทศเป็นระยะเวลา 2 ปี หากเลยกำหนดเวลาดังกล่าวและกลุ่มพันธมิตรไม่สามารถบริหารประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ หรือไม่เป็นที่ยอมรับของราชบัลลังค์ ขอให้มีการลงโทษโดยการประหารชีวิต 7 ชั่วโคตร บรรดาแกนนำทั้ง 9 โดยยึดตามหลักกฎหมายตราสามดวงในสมัยสมบูรณาญาสิทธิราช เนื่องจากเป็นระบอบการปกครองที่พวกเขาโหยหามาตลอด ข้อเรียกร้องต่อกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่ออำมาตยธิปไตย เนื่องจากการต่อสู้ของกลุ่มพันธมิตรเป็นไปอย่างสันติวิธี กล้าหาญ เสียสละ ปกป้องประเทศชาติและสถาบันพระมหากษัตริย์ จากกลุ่มทุนสามานย์ พวกเราประชาชนชาวไทย มีความซาบซึ้งในการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรเป็นอย่างมาก ดังนั้น เราจึงมีความเห็นว่า ข้อเรียกร้องเงินชดเชยจำนวน 1,000 ล้านบาท จากรัฐบาลเป็นจำนวนที่น้อยเกินไป เพราะหน้าที่ของท่านเป็นหน้าที่ที่หาญกล้า เสียสละเพื่อระบอบการปกครองที่ดำรงอยู่และราชบัลลังก์ จำนวนเงินดังกล่าวทำให้การชุมนุมของพวกท่านสามารถยืดเยื้อไปได้เพียง 2 ปี กับ 270 วันเท่านั้น ซึ่งระยะเวลาดังกล่าวสั้นเกินไปไม่สามารถจัดการกับระบอบทักษิณทุนสามานย์ที่ฝังรากในประเทศไทยได้ เราจึงมีความยินดีให้พวกท่านเรียกร้องเอาเงินภาษีของพวกเรา และงบประมาณแผ่นดินที่รัฐเอาไปหาเศษหาเลยกับคะแนนเสียงที่ได้จากฝูงชนที่โง่เขลาเป็นจำนวน 730,000,000 ล้านบาทแทน ซึ่งจำนวนเงินดังกล่าวทำให้การชุมนุมของพวกท่านสามารถยืดเยื้อได้ถึง 20 ปี รอให้พวกสมุนทุนสามานย์แก่ตายพ้นจากประเทศไทยไปหมดได้ ข้อเรียกร้องต่อนักสิทธิ(อภิ)มนุษยชน เนื่องจากที่ผ่านมา ท่านทั้งหลายได้ทำหน้าที่ด้วยความเป็นกลาง รับใช้ผลประโยชน์ของประเทศชาติบ้านเกิดตลอดมา เราเห็นว่าอุดมการณ์อันสูงส่งของพวกท่านควรได้รับการเผยแพร่สู่สาธารณชนทั่วโลก เราเห็นว่าการทำหน้าที่ของท่านได้ก้าวหน้ากว่านักสิทธิมนุษยชนในที่ใดๆ ไม่ว่าจะเป็นสหประชาชาติ ยูเนสโก หรือที่ไหนๆ ก็ตาม ดังนั้น เราขอเรียกร้องให้พวกท่านจงเร่งสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย เผยแพร่อุดมการณ์ดันสูงส่งของพวกท่านสู่นานาอารยะประเทศทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นขบวนการเรียกร้องประชาธิปไตยในพม่า หรือเกาหลีเหนือ เราเห็นว่าแนวทางสันติวิธีของพวกท่านเป็นประโยชน์ต่อเขาเหล่านั้นเป็นอย่างยิ่ง ด้วยจิตคารวะ นายสมสุริยะ ทองสุกใส We Are Everywhere |
หมายเหตุ
1. ผู้เขียนได้อ้างอิงข้อมูลการใช้เงินเพื่อการเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนประชาธิปไตยจากการให้สัมภาษณ์ของนายสุริยะใส กตะศิลา ในเนชั่นสุดสัปดาห์ ว่า พันธมิตรฯ ใช้เงินประมาณ 1 ล้านบาทต่อวัน
2. ผู้เขียนอ้างอิงจากการปราศรัยของนายสนธิ ลิ้มทองกุล ระหว่างวันที่ 7-9 ต.ค. (ดู: หัวไม้ story ก้าวต่อไปของพันธมิตรฯ จากปากคำสนธิ ลิ้มทองกุล)
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)