การเมือง

ในหลวงพระราชทานดอกไม้เยี่ยมไข้สมัคร

ผู้จัดการรายวัน - พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นายธานินทร์ กรัยวิเชียร องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์อัญเชิญดอกไม้พระราชทานเยี่ยมไข้มามอบให้ นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ โดยก่อนหน้านี้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ท่านผู้หญิงฉัตรแก้ว นันทาภิวัตน์ อัญเชิญดอกไม้มาพระราชทาน รวมทั้งพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงพระกรุณาให้ราชเลขานุการส่วนพระองค์อัญเชิญแจกันดอกไม้ มาเยี่ยมไข้อดีตนายกฯ ด้วย ซึ่งครอบครัวสุนทรเวช ทุกคนรู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ และพระกรุณาธิคุณในครั้งนี้อย่างหาที่สุดมิได้

 

สำหรับอาการล่าสุดของนายสมัครนั้น มีอาการดีขึ้นโดยลำดับ ออกกำลังได้เล็กน้อย แต่ยังต้องอยู่ในความดูแลของคณะแพทย์อย่างใกล้ชิดต่อไป

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากเมื่อวันที่ 25 ก.ย. ที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์ได้พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น คดีที่นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าฯกทม. เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี และนายดุสิต ศิริวรรณ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ขณะที่ทั้งสองเป็นผู้ดำเนินรายการ"สมัคร-ดุสิต คิดตามวัน" ทางสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ทีวี และรายการ"เช้าวันนี้ที่เมืองไทย" ทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 เมื่อปี 2549 เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ซึ่งศาลพิพากษาให้จำคุกจำเลยทั้งสองเป็นเวลา 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา

 

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 15.00 น. วานนี้ (22ต.ค.) นายประชุม ทองมี ทนายความของ นายสมัคร ได้เดินทางไปยื่นฎีกา ในคดีดังกล่าวกับศาลอาญากรุงเทพใต้แล้ว โดยนายประชุม เปิดเผยว่า ในฐานะทนายความของนายสมัคร ได้ร่างคำฎีกาโต้แย้งคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ในทุกประเด็น ทั้งในส่วนของข้อกฎหมาย และข้อเท็จจริง แต่ไม่สามารถให้รายละเอียดเกี่ยวกับเนื้อหาได้ โดยก่อนหน้านี้ ได้นำฎีกาฉบับนี้ไปรายงานให้นายสมัครทราบแล้ว ซึ่งนายสมัคร ไม่ได้ให้คำแนะนำในการร่างฎีกาแต่อย่างใด เนื่องจากนายสมัคร ให้ความไว้วางใจกับทางทนายความ

 

สั่งสันติบาลติดตามความเคลื่อนไหวอดีตรองอธิบดีตำรวจ

สยามรัฐ - พล.ต.ท. วัชรพล ประสารราชกิจ โฆษกสตช.กล่าวถึงกรณีพล.ต.อ. สล้าง บุนนาค อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจประกาศจะปิดทำเนียบรัฐบาลให้พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอดข้าวอดน้ำตายว่า ตำรวจนครบาลและตำรวจสันติบาล กำลังติดตามข้อมูล ในส่วนของตำรวจต้องดูแลรักษาความปลอดภัยในทุกอย่าง ก็ต้องติดตามข้อมูลไปก่อนเพราะยังไม่ทราบรายละเอียด

 

ณัฐวุฒิปัดไม่รู้เรื่องเรียกคืนเครื่องราชทักษิณ

คมชัดลึก - นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวถึงกรณีที่อาจจะต้องเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีได้รับพระราชทานในฐานะนายกรัฐมนตรีชั้น "เจ้าพระยา" เนื่องจากถูกพิพากษาจำคุกว่า ตนไม่ทราบรายละเอียดในข้อนี้ว่าสามารถเรียกคืนเครื่องราชฯได้หรือไม่ ซึ่งจะต้องหารือกับฝ่ายกฎหมาย สำนักนายรัฐมนตรี ที่ดูแลเรื่องนี้โดยตรง และตนไม่ทราบว่าเรื่องนี้มีใครเปิดประเด็นขึ้นมา อาจจะเป็นเกมการเมืองของฝ่ายค้านก็ได้ แต่อย่างไรก็ตาม ก็ต้องว่าไปตามระเบียบ

 

เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีระบุว่าถ้าผิดจริงก็ต้องเรียกคืนเครื่องราชฯ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ก็ต้องยึดตามหลักกฎหมาย แต่เรื่องนี้ตนไม่ทราบจริงๆ

 

การศึกษา

สพฐ.บังคับเรียน1คาบประวัติศาสตร์ไทย

สยามรัฐ - คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยถึงการจัดทำร่างแผนยุทธศาสตร์พัฒนาการเรียนการสอนสังคมศึกษา เพื่อพัฒนาการเรียนการสอนวิชาประวัติศาสตร์และสังคมศึกษา ว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กำลังพิจารณาให้โรงเรียนสอนวิชาประวัติศาสตร์สัปดาห์ละ 1 คาบ และจัดตั้งศูนย์พัฒนาการเรียนการสอนสังคมศึกษา เพื่อทำหน้าที่พัฒนาการเรียนการสอนวิชาประวัติศาสตร์ ด้วยการให้โรงเรียนขนาดใหญ่ ทำหน้าที่เป็นศูนย์ฯ ซึ่งเบื้องต้นจะจัดตั้งจังหวัดละ 1 ศูนย์ และขยายให้ครบทุกเขตพื้นที่การศึกษา

 

เลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ สพฐ.จะจัดงบประมาณสนับสนุนให้โรงเรียนขนาดใหญ่ ทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลและทัศนศึกษาทางประวัติศาสตร์ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ ซึ่งคาดว่าในปีนี้จะดำเนินการได้ใน 2 จุด อีกทั้งจะจัดทำแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์เสมือนจริงบรรจุลงในเว็บไซต์ของ สพฐ. เพื่อให้ครูและนักเรียนที่ไม่มีโอกาสไปทัศนศึกษาเข้าไปชมและหาความรู้

 

ชู 7 ประเด็นปฏิรูปการศึกษารอบสอง

สยามรัฐ - ที่สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) เมื่อวันที่ 22 ต.ค.51 นายธงทอง จันทรางศุ เลขาธิการสภาการศึกษา เปิดเผยว่า จากการประชุมผู้บริหาร 5 องค์กรหลัก ร่วมกับนายศรีเมือง เจริญศิริ รมว.ศึกษาธิการ เมื่อเร็วๆ นี้ มีมติเห็นชอบให้มีการปฏิรูปการศึกษารอบสอง ซึ่งจากการศึกษาการพัฒนานโยบายและแผนการศึกษา ของ สกศ.พบว่าที่ผ่านมาการปฏิรูปการศึกษามีผลสำเร็จหลายด้าน แต่ก็มีปัญหาหลายเรื่องที่ทำให้ต้องมีการปฏิรูปกันใหม่ ทั้งนี้ส่วนตัวเห็นว่าในรอบสองนี้ ควรเน้นเรื่องคุณภาพการศึกษามากกว่าโครงสร้าง ศธ.โดยแนวทางการปฏิรูปการศึกษาที่จะดำเนินการในปี 2552 มุ่งเน้น 7 เรื่อง ดังนี้

 

1.การมีส่วนร่วมจัดการศึกษาจาก 5 องค์กรหลัก พร้อมด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) สถาบันทางศาสนา สถาบันครอบครัว องค์กร ทั้งภาครัฐและเอกชน 2.ระบบการศึกษาต้องสอดคล้องและตอบสนองความต้องการของผู้เรียน ที่มีความแตกต่างและหลากหลาย โดยเฉพาะเด็กพิเศษและเด็กด้อยโอกาส 3.การพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา ทั้งด้านปริมาณและคุณภาพ 4.ส่งเสริมเทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์ต่อผู้เรียน เพื่อให้มีศักยภาพในการแข่งขันมากขึ้น

 

5.นำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเข้ามาในระบบการศึกษา 6.การทบทวน ปรับแก้ และผลักดันกฎหมายการศึกษาหลายฉบับ และ 7.ให้ความสำคัญกับวิชาประวัติศาสตร์ ตามพระราชเสาวนีย์ในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้นำร่องดำเนินการไปแล้ว อย่างไรก็ตาม สกศ.จะใช้ช่วงเวลา 6 เดือนแรก วางแผนการปฏิรูปรอบสอง โดยเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานต่างๆ และประชาชนอย่างกว้างขวาง

       

เศรษฐกิจ

ราคาน้ำมันดิ่งฉุดไม่อยู่ ขณะศก.โลกป่วน

ผู้จัดการรายวัน - รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกดิ่งลง 3 เหรียญสหรัฐฯ หรือราว 4 เปอร์เซ็นต์ในวันอังคาร (21) จากนั้นยังขยับลงต่ออีกกว่า 2 ดอลลาร์ในวันพุธ (22) ขณะที่นักลงทุนพากันหวาดผวาว่า ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวทั่วโลก อาจชะลอความต้องการพลังงานลงอีก โดยไม่แยแสผลกระทบจากการลดกำลังการผลิตของโอเปก

 

เมื่อวันอังคาร (21) สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ ฉบับส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ซึ่งหมดอายุในวันเดียวกัน หล่นลงมา 3.36 ดอลลาร์ ปิดที่ 70.89 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนต์ของลอนดอนขยับลงมา 2.31 ดอลลาร์ ปิดที่ 69.72 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

        

ต่อมาระหว่างการซื้อขายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ในวันพุธ(22) เมื่อถึงเวลา 11.35 น.จีเอ็มที (18.35 น.เวลาเมืองไทย) น้ำมันดิบไลต์สวีตครูดฉบับส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลงมา 2.79 เหรียญสหรัฐฯ ลงมาอยู่ที่ 69.39 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบเบรนต์ดิ่งลง 2.35 ดอลลาร์ อยู่ที่ 67.37 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

ดันวิกฤตการเงินโลกเข้าที่ประชุมผู้นำอาเซม

ผู้จัดการรายวัน - เอเอฟพี - ประธานาธิบดี นิโกลาส์ ซาร์โกซี แห่งฝรั่งเศสจะเสนอขอความร่วมมือจากกลุ่มประเทศในเอเชียในการฟื้นฟูระบบการเงินโลก ระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำเอเชียและยุโรป หรือ อาเซม เป็นเวลา 2 วันในกรุงปักกิ่งซึ่งจะเริ่มในวันศุกร์(24)นี้

 

ประธานาธิบดีฝรั่งเศสแถลงเมื่อวันอังคารว่า เขาจะใช้ที่ประชุมอาเซมเป็นเวทีเจรจาโน้มน้าวให้ประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจในเอเชีย โดยเฉพาะจีนและอินเดีย เข้ามีส่วนร่วมในการปฏิรูปโครงสร้างระบบการเงินโลก

 

ซาร์โกซีมีเป้าหมายจะผลักดันให้จีนและอินเดียเข้าร่วมในการประชุมสุดยอดผู้นำโลกหลายๆ รอบเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งจะเริ่มรอบแรกในสหรัฐฯช่วงต้นเดือนหน้า ท่ามกลางความคาดหมายว่า แผนการปฏิรูประบบการเงินโลกของเขาจะต้องเผชิญกับแรงต้านจากสหรัฐฯ

 

อินเดียแถลงออกมาแล้วว่าพร้อมที่จะเข้าร่วมการประชุมซัมมิตทางเศรษฐกิจของโลก ขณะที่จีนยังแถลงเพียงว่ามีความประสงค์ที่จะเข้ามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาวิกฤตการณ์ทางการเงินครั้งนี้เช่นเดียวกัน แต่คาดว่าจะประกาศการตัดสินใจอย่างเป็นทางการเรื่องการเข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำโลกในเร็ว ๆ นี้

 

ผู้นำฝรั่งเศสกำลังรณรงค์เรียกร้องให้รื้อโครงสร้างระบบ เบร็ตตัน วูดส์ อย่างขนานใหญ่ เนื่องจากระบบดังกล่าวถูกใช้เป็นกรอบควบคุมระบบการเงินโลกมาตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 และล้าสมัยเกินไปแล้ว ทั้งนี้เขาเสนอให้สร้างระบบใหม่ที่เชื่อว่าจะมีประสิทธิภาพมากกว่าขึ้นมาแทนที่

 

ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุชของสหรัฐ กลับเน้นย้ำถึงความสำคัญในการรักษาไว้ซึ่ง "รากฐานของทุนนิยมประชาธิปไตย อันประกอบด้วยระบบตลาดเสรี วิสาหกิจเสรี และการค้าเสรี"

 

สำหรับการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซมที่ปักกิ่งคราวนี้ เจ้าหน้าที่หลายรายกล่าวว่า นอกเหนือจากประเด็นวิกฤตการณ์ทางการเงินแล้ว ที่ประชุมยังจะหารือกันถึงปัญหาระหว่างประเทศอื่น ๆ ที่เป็นเรื่องสำคัญ ๆ ด้วย อาทิ ปัญหาภาวะโลกร้อน ปัญหาความมั่นคงด้านพลังงานและอาหาร เป็นต้น แต่หลายฝ่ายเห็นพ้องกันว่าปัญหาวิกฤตการณ์ทางการเงินจะเป็นหัวข้อสำคัญอันดับแรก เนื่องจากเป็นปัญหาเศรษฐกิจที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ยุคเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ หรือ เกรท ดีเพรสชั่น ในช่วงทศวรรษหลังปี 1930 เป็นต้นมา

 

ประเทศสมาชิกอาเซม 43 ประเทศรวมกันแล้ว จะมีผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ จีดีพี ประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพีโลก เจ้าหน้าที่ระดับสูงฝ่ายยุโรปกล่าวว่า เอเชียและยุโรปมีปัญหาหลายอย่างที่คล้ายคลึงกัน

 

เซอร์เก อาบู เอกอัครราชทูตอียูประจำกรุงปักกิ่งกล่าวว่า ทั้งเอเชียและยุโรปต่างก็เป็นประเทศผู้นำเข้าพลังงาน และได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์ทางการเงินเหมือน ๆ กัน รวมทั้งต่างก็มีความวิตกกังวลต่อปัญหาสิ่งแวดล้อมไม่น้อยไปกว่ากัน

 

อย่างไรก็ตาม คาดกันว่าถึงแม้ประธานาธิบดีซาร์โคซีจะพยายามโน้มน้าวให้ผู้นำเอเชียสนับสนุนแผนการปฏิรูปโครงสร้างระบบการเงินโลกของเขาอย่างสุดความสามารถในการประชุมสุดยอดอาเซมครั้งนี้ แต่ก็คงยากที่จะบรรลุข้อตกลงใด ๆ กันได้อย่างเป็นรูปธรรม

 

คุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม

พอช.ย้ำ5ปีบ้านมั่นคงทำได้1,251ชุมชนชี้  83 ชุมชนเมืองเชียงใหม่ ต้องปฏิวัติ

ผู้จัดการรายวัน - นางสาวสมสุข บุญญะบัญชา ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) กล่าวว่า วันนี้ชุมชนพูดได้เต็มปากว่าสามารถปฎิวัติชุมชนที่แออัด ผิดกฎหมาย อยู่กันอย่างลำบาก มีสภาพที่ทรุดโทรม ทั้งที่ขาดการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมานาน ชุมชนสามารถปฏิวัติได้จริง ทั้งชุมชนภาคเมืองและชุมชนชนบท

 

โครงการบ้านมั่นคงที่การดำเนินงานตั้งแต่ปี 2546 จนถึงปัจจุบันแล้ว 237 เมือง ทั่วประเทศ เป็นรูปแบบที่ให้ชุมชนจับมือร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมจัดการ โดยการชวนหน่วยงานทั่วประเทศ นักวิชาการ ขบวนองค์กรชุมชน ฯลฯ มาร่วมกันทำงาน แล้วนำข้อมูลมาวิเคราะห์

 

โดย พอช.ได้อนุมัติโครงการทั้งหมด 702 โครงการ ครอบคลุม 76 จังหวัด 237 เมือง 1,251 ชุมชน ผู้รับผลประโยชน์ 76,792 ครอบครัว ประมาณ 307,168 คน รวมงบประมาณที่ชุมชนได้รับการอนุมัติทั้งหมด 5,838,507,805 บาท แบ่งเป็นรัฐอุดหนุนรวม 3,566,128,646 บาท งบจากกองทุนหมุนเวียน พอช. 2,164,414,232 บาท งบสมทบจากท้องถิ่นและชุมชนรวม 107,964,927 บาท

 

ขณะที่ ร.อ.หญิง เดือนเต็มดวง ณ เชียงใหม่ นายกเทศมนตรีนครนครเชียงใหม่ กล่าวว่า จากการสำรวจพื้นที่เชียงใหม่ได้ดำเนินโครงการมาจนถึงปัจจุบันทั้งหมด 2 เมือง 32 ชุมชน รวม 2,549 ครอบครัว จากทั้งหมด 13 เมือง 132 ชุมชน มีผู้เดือดร้อน 6,581 ครัวเรือน 6,461 หลังคาเรือน และในส่วนของเขตเทศบาลเมืองเชียงใหม่มี 83 ชุมชน ที่ได้รับความเดือดร้อน และหลายๆ ชุมชนอยู่กันอย่างแออัดมาก เพราะเชียงใหม่เป็นเมืองเก่าชุมชนจึงต้องปลูกอาศัยในเขตกำแพง เขตโบราญสถาน ก็จำเป็นต้อง แก้ไขปัญหาในอนาคต ซึ่งชุมชนใดไม่สามารถอยู่ในที่ดินเดิมได้ จำเป็นต้องหาที่อยู่ใหม่และเหมาะสมกับวิถีชีวิต อยู่ใกล้กับแหล่งงาน ในส่วนอีกซีกหนึ่งในเรื่องของน้ำท่วมที่มีมาตั้งแต่โบราณ ก็จำเป็นต้องแก้ปัญหาเช่นกัน

 

ต่างประเทศ

นายกฯ ญี่ปุ่นโต้เรื่องชีวิตกลางคืน มันเป็นสไตล์ของผม

ผู้จัดการรายวัน - เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรีทาโร อาโซะแห่งญี่ปุ่นกล่าวในวันพุธ (22) ตอบโต้เสียงวิจารณ์เกี่ยวกับการใช้ชีวิตกลางคืนของเขาตามบาร์และร้านอาหารหรูทั้งๆ ที่ประเทศกำลังเผชิญหน้ากับภาวะเศรษฐกิจถดถอยว่า "มันเป็นสไตล์การใช้ชีวิตของผม และผมก็จะไม่เปลี่ยนแปลงด้วย"

 

นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา อาโซะได้ออกไปรับประทานอาหารค่ำตามร้านอาหารและบาร์ตามโรงแรมหรูในย่านดาวน์ทาวน์ของโตเกียวอยู่เสมอ จนเมื่อวันอาทิตย์ (19) เขาก็ถูกสื่อมวลชนกระแนะกระแหนว่าใช้เวลาหลายชั่วโมงในภัตตาคารแห่งหนึ่งของโรงแรมอิมพีเรียล หลังจากที่ไปพูดคุยถกปัญหาราคาอาหารที่เพิ่มสูงกับประชาชนในซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่ง

         

อาโซะโต้กลับว่า "ผมโชคดีที่ร่ำรวย และผมก็ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดเอง" และอ้างว่าสถานที่ดังกล่าวค่อนข้างปลอดภัยและไม่ได้แพงเกินไป ทว่าเพื่อนส.ส.ในพรรคลิเบอรัล เดโมแครติก ปาร์ตี้ (แอลดีพี) ก็แสดงความวิตกว่าอาโซะอาจทำให้คะแนนสนับสนุนในการเลือกตั้งครั้งต่อไปลดลงได้