Skip to main content
sharethis

เมื่อวันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2551 อัยการของจำเลยที่ 1 กระทรวงกลาโหม จำเลยที่ 2 กองทัพบก และจำเลยที่ 3 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ยื่นคำคัดค้านคำขอของนาง แบเดาะ สะมาแอให้ยกเว้นค่าธรรมเนียมศาล (ขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถา) ที่ยื่นต่อศาลแพ่ง ที่นางแบเดาะได้ยื่นฟ้องหน่วยงานรัฐทั้งสามแห่งนั้นเป็นคดีแพ่ง คดีหมายเลขดำที่ 4039/2551 เรียกร้องค่าเสียหายที่บุตรซึ่งนางเชื่อว่าเสียชีวิตจากการถูกซ้อมทรมานระหว่างการควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่


 


เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 ศาลแพ่งได้มีคำสั่งไม่รับการฟ้องคดีอย่างคนอนาถา และนางแบเดาะ สะมาแอ ยังไม่สามารถหาเงินค่าธรรมเนียมศาลจำนวนเกือบ 30,000 บาทมาได้ส่งผลให้ศาลแพ่งยังไม่สามารถรับพิจารณาคดีที่นางยื่นฟ้องเพื่อแสวงหาความเป็นธรรมได้ ดังนั้นชาวบ้านและองค์กรในพื้นที่ร่วมจัดเลี้ยงน้ำชา ในวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2551 เพื่อช่วยให้นายแบเดาะ รวบรวมเงินบริจาคเพื่อเป็นค่าธรรมเนียมศาล เพื่อให้นางแบเดาะซึ่งเป็นชาวบ้านที่ยากจนสามารถเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมในการเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่ง เพื่อเยียวยาความเสียหายทั้งทางด้านจิตใจและความยุติธรรมได้


 


นายอัสฮารี สะมะแอ บุตรชายของนางแบเดาะ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2550ระหว่างที่ถูกควบคุมตัวที่เขตอำเภอกรงปีนัง จังหวัดยะลาโดยตลอดระยะเวลา 1 ปี นางได้เรียกร้องขอความยุติธรรมจากหน่วยงานต่างๆของรัฐ แต่ทุกหน่วยงานปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือ นางแบเดาะ จึงตัดสินใจฟ้องคดีแพ่งเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจากกระทรวงกลาโหม กองทัพบก และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่ถึงกระนั้น ความพยายามเข้าถึงความยุติธรรมของนางก็ยังมีอุปสรรคเช่นเดียวกับประชาชนที่ยากจนอื่นๆในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ตกเป็นเหยื่อของความรุนแรง เมื่อพนักงานอัยการ ซึ่งทำหน้าที่เป็นทนายความของหน่วยงานรัฐ ได้คัดค้านการฟ้องคดีที่นางยื่นต่อศาลแพ่งโดยขอยกเว้นค่าธรรมเนียมศาล


 


สำหรับการเสียชีวิตของนายอัสฮารี ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างการควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่นั้นพนักงานอัยการก็ยังไม่ส่งสำนวนเพื่อให้ศาลไต่สวนการไต่สวนการตายตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายแต่อย่างใด


 


ในเสาร์วันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2551 ระหว่างเวลา 9.00-16.00 น.เครือข่ายองค์การที่ทำงานส่งเสริมการเข้าถึงความยุติธรรมและการคุ้มครองทางกฎหมาย ได้แก่มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ศูนย์ทนายความมุสลิม สมาคมยุวมุสลิมแห่งประเทศไทย (ฝ่ายสิทธิมนุษยชน) และ จึงได้จัดให้มีโครงการเลี้ยงน้ำชาเพื่อระดมทุนช่วยเหลือคดีและค่าธรรมเนียมศาลและเสวนาสาธารณะ เรื่อง 4 ปี การต่อสู้กับกระบวนการยุติธรรมไทย: กรณีตากใบ และคดีอื่นๆ อีกมากมาย โดยจะจัดที่สำนักงานคณะกรรมการอิสลามจังหวัดยะลา


 


รายงานข่าวแจ้งว่า ในวันงานเลี้ยงน้ำชานั้นจะมีการจัดการพูดคุยจากเครือข่ายชาวบ้านที่ได้แสวงหาความเป็นธรรมในกระบวนการยุติธรรมมาร่วมแลกเปลี่ยนด้วย ได้แก่ ตัวแทนคดีบ้านนายไร่ อ.ท้ายเหมือง และบ้านย่าหมี อ.เกาะยาวใหญ่ จังหวัดพังงา ตัวแทนเครือข่ายญาติผู้ถูกกล่าวหาคดีความมั่นคง ตัวแทน Sor 6 กรณีตากใบ และตัวแทนเครือข่ายท่อก๊าซไทย-มาเลเซีย โดยจัดให้เป็นเวทีแสดงให้เห็นถึงการทำงานระหว่างทนายความกับชาวบ้านในมุมใหม่ๆ


 

เรื่องการทำงาน มุมมองต่อการทำงานร่วมกันเพื่อสร้างความยุติธรรมให้สังคมและโอกาสในการเข้าถึงความยุติธรรมของประชาชน พร้อมกันนั้นก็จัดขึ้น เพื่อระดมทุนช่วยเหลือคดีและค่าธรรมเนียมศาลสำหรับญาติผู้เสียหายคดีความมั่นในพื้นที่สามจังหวัดภาคใต้ในการฟ้องคดีแพ่ง เรียกค่าเสียหาย รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการต่อสู้คดีต่างๆ ของประชาชน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net