การประชุมสุดยอดผู้นำยุโรป-เอเชีย (อาเซม) จัดขึ้นวันแรก ณ มหาศาลาประชาชนในกรุงปักกิ่งเมื่อ 24 ต.ค. โดย 10 ประเทศที่เป็นสมาชิกกลุ่มอาเซียน ร่วมกับจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ จัดวงประชุมนอกรอบในช่วงเช้า และมีมติเห็นพ้องว่าควรจัดตั้งกองทุนการเงินระหว่างประเทศแถบเอเชีย เพื่อให้ความช่วยเหลือกันและกันในการแก้ปัญหาวิกฤติการเงิน โดยสมาชิกกลุ่มอาเซียนและอีก 3 ประเทศต้องนำเงินสมทบแก่กองทุนดังกล่าวให้ได้ 8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในกลางปีหน้า (มิ.ย. 2552) พร้อมเสนอให้จัดประชุมเพื่อหารือรายละเอียดเพิ่มเติมต้นเดือน พ.ย.
อย่างไรก็ดี หนังสือพิมพ์ยอนฮัปของเกาหลีใต้ รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวซึ่งเป็นที่ปรึกษาประธานาธิบดี ลี เมียง-บัก ระบุรัฐบาลเกาหลีใต้ไม่ค่อยพอใจการจัดตั้งกองทุนดังกล่าวนัก เนื่องจากมีการตั้งเงื่อนไขว่าเกาหลีใต้ จีน และญี่ปุ่น จะต้องสมทบทุนเงินกว่า 64 ล้านดอลลาร์ (2,176 ล้านบาท) ในฐานะที่เป็นประเทศผู้นำทางด้านเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย
ด้านตัวแทนประเทศไทยที่เข้าร่วมการประชุม เสนอให้จัดตั้งอีกกองทุนหนึ่งควบคู่ไปกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศแถบเอเชีย โดยให้แต่ละประเทศสมทบทุนกว่า 200 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 6,800 ล้านบาท) เพื่อนำไปใช้ในการกระตุ้นโครงสร้างพื้นฐานเศรษฐกิจใน ภูมิภาค แต่ตัวแทนรัฐบาลญี่ปุ่นแย้งว่าแผนการดังกล่าวยังไม่ชัดเจนพอ
ขณะเดียวกัน สหภาพยุโรปเรียกร้องให้จีนรับปากว่าจะเข้าร่วมการประชุมแก้ปัญหาวิกฤติการเงินซึ่งจะจัดขึ้นที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมืองหลวงของสหรัฐฯ ภายในเดือนหน้า ทั้งยังขอให้จีนเป็นผู้นำการแก้ปัญหาวิกฤติการเงินในภูมิภาคเอเชียด้วย ส่วนนางแองเกลา แมร์เคิลนายกรัฐมนตรีเยอรมนี ร่วมเจรจานอกรอบกับนายหู จิ่น-เทา ประธานาธิบดีจีน และนายเหวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรี เพื่อแก้ไขความเข้าใจผิด หลังผู้นำเยอรมนียอมพบองค์
ดาไล ลามะ ผู้นำทางจิตวิญญาณของชาวทิเบต สร้างความไม่พอใจแก่รัฐบาลจีน ซึ่งอ้างว่าดาไล ลามะ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการจลาจลนองเลือดในเขตปกครองตนเองทิเบตเมื่อเดือน มี.ค. แต่ทั้งจีนและเยอรมนียังยืนยันให้คงความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและความร่วมมือในด้านต่างๆตามเดิม
นอกจากนี้ ตัวแทนรัฐบาลญี่ปุ่นได้หารือกับรัฐบาลจีน และตกลงให้ก่อตั้งบริการฮอตไลน์สายด่วน เพื่อให้คำปรึกษาด้านความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่าง 2 ประเทศ ส่วนตัวแทนจากออสเตรเลีย สนับสนุนให้กำหนดเขตการค้าเสรีในแถบเอเชียแปซิฟิก
ขณะที่ประธานาธิบดี นิโกลาส์ ซาร์โกซี แห่งฝรั่งเศส ขอความร่วมมือผู้เข้าร่วม ประชุมอาเซมช่วยกันกระตุ้นกลุ่มประเทศของตนให้ช่วยกันทบทวนบทบาทของระบบทุนนิยมโลก รวมถึงการกำหนด กฎเกณฑ์และระบบจัดการที่เป็นสากลด้วย
ที่มา: เว็บไซต์ไทยรัฐ