"เปรม" บอกให้ "อดทน อดกลั้น เสียสละ" ต้องไม่หันหลังคุยกัน

พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ให้สัมภาษณ์หลังจากเป็นประธานพิธีปิดโครงการ "สานใจไทยสู่ใจใต้" รุ่นที่ 10 เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 27 ตุลาคม ที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ มี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี พร้อมด้วยผู้บัญชาการเหล่าทัพ อาทิ พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ พล.อ.วิโรจน์ บัวจรูญ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก และผู้แทนเหล่าทัพร่วมพิธี

 

พล.อ.เปรมกล่าวตอบคำถามอยากเตือนคนไทยที่แบ่งเป็น 2 ฝ่ายอย่างไร โดยย้อนถามว่า "คุณแน่ใจหรือว่าพูดถูก แบ่งแยกอย่างนั้นจริงหรือ" ผู้สื่อข่าวตอบว่า ดูจากสถานการณ์ที่มีการใส่เสื้อสีแดง ขาว และเหลือง พล.อ.เปรมกล่าวว่า "ผมเคยพูดว่าขอให้สื่อมวลชนทำงานให้หนักขึ้น แต่แปลไม่ออกว่าจะให้สื่อไปทำอย่างไร เมื่อวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา เห็นสื่อมวลชนและสมาคมต่างๆ พูดคุยกัน และมีคำตอบออกมา ฟังแล้วค่อนข้างยากและทำยาก แต่ดีใจที่มีการพูดคุยกัน เขาใช้คำว่ายุติความรุนแรงเป็นสิ่งที่ดีมาก ที่องค์กรอื่นนอกจากสื่อมวลชนพูดถึงเรื่องนี้ แต่เป็นปัญหาที่ยากและทำยาก แต่การที่เขาพูดกันแสดงให้เห็นถึงความต้องการของคนไทย สื่อมวลชนก็สะท้อนให้เห็นความต้องการของประชาชนว่า ประชาชนต้องการอย่างไร เป็นเรื่องที่ดีมาก อยากชมและขอให้ช่วยกันทำได้อย่างที่พูดกัน ยืนยันว่าสื่อมีความสำคัญ ที่คุณถามเรื่องมีสีนั้น ผมจะไม่พูดเรื่องสี แต่อยากพูดให้เข้าใจว่าที่สื่อขอร้องน่าจะถือว่าคนไทยขอร้อง เพราะสื่อคือสื่อความต้องการของคนไทยในประเทศเราว่า ขอยุติความรุนแรง อยากขอขอบใจและเอาใจช่วยให้ทำให้สำเร็จ" พล.อ.เปรมกล่าว

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า อยากให้ทุกคนรับฟังข้อเสนอแนะยุติความรุนแรงใช่หรือไม่ พล.อ.เปรมกล่าวว่า หากถามว่าแล้วจะทำอย่างไร ใครจะเป็นคนตอบเรื่องยุติความรุนแรง ซึ่งคนไทยต้องช่วยกันตอบว่าจะทำอย่างไร ตอบได้หรือยังว่า ขณะนี้จะทำอย่างไร เมื่อถามว่า ตอนนี้มีการนำสถาบันไปเชื่อมโยงการเมือง พล.อ.เปรมกล่าวว่า "เรื่องนี้ไม่เอา ข้อนี้ไม่เอา พูดเรื่องที่เรากำลังพูดกันดีกว่า ว่าจะทำอย่างไรเพื่อยุติความรุนแรง หรืออย่างน้อยค่อยๆ ลดลงมา คำว่าอดทน อดกลั้น เสียสละ 3 คำนี้อาจจะเป็นคำตอบได้"

 

ส่วนแนวทางควรถอยคนละก้าวหรือไม่นั้น พล.อ.เปรมกล่าวว่า "การเจรจาต้องหันหน้าเข้าหากัน หากหันหลังเจรจากันไม่ได้ ตนคิดว่าการเสียสละเป็นสิ่งสำคัญ ทุกคนต้องยอมเสียบ้าง เพื่อให้มาสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อคนส่วนใหญ่และส่วนรวม ทุกคนต้องอดทน อดกลั้น ไม่ใช้อารมณ์ทำให้เกิดความขัดแย้ง"

 

ขณะที่นายโคทม อารียา ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาและพัฒนาสันติวิธี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวกรณีเครือข่ายสันติประชาธรรมออกแถลงการณ์รณรงค์ 3 หยุด ว่า เครือข่ายดังกล่าวนี้สามารถแสดงความคิดเห็นได้ เพียงแต่พาดพิงพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยตรงที่บอกว่า อย่าให้ท้ายพันธมิตร ซึ่งพันธมิตรอาจไม่ยอมรับ ซึ่งแต่ละฝ่ายจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ทั้งนี้ แนวทางที่เคยเสนอระหว่างร่วมเป็นพิธีกรเมื่อวันที่ 26 ตุลาคมเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้ง ก็คือต้องพูดคุยกันและคุยแล้วได้อะไร เช่น การสานเสวนาที่ต้องพูดคุยกันอย่างมีสติ โดยใช้วิธีนี้พูดถึงเรื่องอนาคตและปรับปรุงสังคมให้ดีขึ้น ก็เป็นจุดที่ช่วยให้ลดอารมณ์ร้อนแรงลงได้บ้าง

 

สำหรับความเป็นไปได้ที่ทุกฝ่ายจะมาสานเสวนาเพื่อหาทางออกนั้น นายโคทมกล่าวว่า เห็นว่ายังไม่ถึงเวลา เพราะกลุ่มเหล่านี้คงยังไม่อยากพูดคุยกัน แต่คนที่มีความเห็นสนับสนุนในการพูดคุยกันซึ่งไม่ใช่ในระดับแกนนำของฝ่ายพันธมิตร แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ฝ่ายค้านหรือรัฐบาล มาพูดคุยกันบ้างก็คิดว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงซึ่งต่อมาอาจทำให้แกนนำต้องคล้อยตามกับประชาชนที่เห็นด้วยกับการสานเสวนาได้ ส่วนฝ่ายที่ไม่รับการเจรจาก็อาจพูดคุยเท่าที่มีอยู่ได้ และเมื่อพูดคุยกันแล้วก็จะได้ทางออกเพื่อนำไปสู่การปฏิรูปหรือแม้แต่การยุบสภาก็ได้ แต่หากให้มีการยุบสภาเกิดขึ้นก็ต้องคิดด้วยว่าจะดีขึ้นหรือไม่ โดยการเสนอทางออกนั้นจะต้องคิดว่าจะได้มีทางออกอย่างแท้จริงและเป็นการหลีกเลี่ยงในสิ่งที่จะเกิดด้วย

 

"การเสนอทฤษฎีจำลองภาพอนาคตโดยเฉพาะทฤษฎีปันอำนาจ ว่า เพราะอยากเห็นอำนาจบริหารกระจายตัวมากกว่านี้ โดยอยากเห็นรัฐมนตรีตั้งหน้าตั้งตาบริหารบ้าง หากบริหารไม่ได้ก็ควรดึงคนนอกเข้ามาบริหาร เพราะจะทำให้ประชาชนมองว่า ส.ส.ไม่หวงอำนาจ และเมื่อประชาชนไว้วางใจในอำนาจบริหารก็จะสามารถแก้ปัญหาได้ง่ายขึ้น แต่ไม่ใช่บอกว่า เป็น ส.ส.แล้วต้องเป็นรัฐมนตรี 10 คน

 

หากรัฐบาลแบ่งปันอำนาจก็จะดีขึ้นกว่าการประคับประคอง ดังนั้น งานด้านนิติบัญญัติควรยกให้ ส.ส. อย่ารวบ 2 อำนาจและต้องเลือกคนให้เหมาะกับงานบริหาร อีกทั้งประชาชนต้องกล้าวิจารณ์รัฐบาลให้มากขึ้นด้วย และอย่าให้งานนิติบัญญัติมาปนกับงานบริหารมากเกินไป" นายโคทมกล่าว

 

 

ที่มา: มติชนออนไลน์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท