Skip to main content
sharethis

วานนี้ (28 ต.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. นายสุเทพ วิไลเลิศ เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อการปฏิรูปสื่อ (คปส.) ในฐานะผู้ติดตามกรณีการจับกุมวิทยุชุมชนไทรโยคน้อย .กาญจนบุรี ได้เข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมต่ออัยการ .กาญจนบุรี เกี่ยวกับการพิจารณาคดี รวมทั้งอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทช.) และคณะอนุกรรมการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ซึ่งแต่งตั้งตามมาตรา 79 ของ พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 ในกรณีวิทยุชุมชนดังกล่าว


 


เนื่องจากก่อนหน้านี้ นายวสันต์ ปานเรือง ประธานคณะกรรมการชุดปฏิบัติการเรียนรู้วิทยุชุมชนบ้านเรา หรือวิทยุชุมชนน้ำตกไทรโยคน้อย จำเลยในคดี และคปส.ซึ่งทำงานในการติดตามการปฏิรูปสื่อและวิทยุชุมชน ได้มีการขอนัดอัยการเพื่อยื่นข้อมูลเกี่ยวกับมติการประชุมของ กทช.ในวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งได้มีการส่งจดหมายไปยังคณะอนุกรรมาธิการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพฯ วุฒิสภาเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินการต่อวิทยุชุมชนที่ถูกดำเนินคดี เพื่อขอให้อัยการนำมติดังกล่าวไปพิจารณาควบคู่กับสำนวนของทางตำรวจในการส่งคดียื่นฟ้องต่อศาล


 


โดยเมื่อวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา มีการประชุมคณะอนุกรรมาธิการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของบุคคลและสื่อมวลชน ในคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา เพื่อพูดคุยถึงกรณีการจับกุมวิทยุชุมชนไทรโยคน้อย ได้มีข้อสรุปว่าทางคณะอนุกรรมาธิการฯ วุฒิสภา จะมีการส่งจดหมายถึง กทช.เพื่อสนับสนุนและขอให้เร่งพิจารณานโยบายผ่อนปรนในการจับกุมวิทยุกรณีรบกวนการบินที่เดิมต้องส่งฟ้องศาลเพื่อดำเนินคดี ปรับเปลี่ยนเป็นให้ กทช.ใช้อำนาจในการเปรียบเทียบปรับ ซึ่งอาจมีประโยชน์ต่อคดีดังกล่าวให้อัยการส่งไม่ฟ้อง หรืออาจสามารถส่งเป็นข้อมูลเพื่อพิจารณาในชั้นศาลได้


 


หลังจากนั้น กทช.ได้มีการตอบกลับจดหมายดังกล่าวไปยังทางคณะอนุกรรมาธิการฯ วุฒิสภา เมื่อวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยระบุถึงการประชุมของ กทช.เมื่อวันที่ 11 ก.ย. ซึ่งมีมติว่าวิทยุชุมชนที่ถูกจับหลังการประกาศใช้ พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 มี.ค.51 ให้นำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะอนุกรรมการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ที่ขณะนี้ได้จัดสรรคณะอนุกรรมการฯ ครบทั้ง 22 คน แล้ว ส่วนที่ถูกจับก่อนการประกาศใช้กฎหมายดังกล่าวให้ดำเนินการตามที่ พ.ร.บ.วิทยุคมนาคม พ.ศ.2498 ระบุไว้


 


นายสุเทพ วิไลเลิศ กล่าวถึงสรุปผลการพูดคุยว่า ทางอัยการ .กาญจนบุรี ได้ตั้งคำถามกลับถึงอำนาจหน้าที่ของ กทช.ในการพิจารณาคดี และสอบสวนคดี โดยในกรณีของคดีการจับกุมวิทยุชุมชนไทรโยคน้อยอัยการต้องการให้ กทช.ชี้แจงบทบัญญัติกฎหมายที่รองรับที่ชัดเจน จึงจะสามารถส่งสำนวนคดีคืนให้ กทช.ดำเนินการสอบสวนเองได้ ซึ่งในส่วนนี้ คปส.คงต้องมีการคิดตามผลไปยังทาง กทช.อีกครั้ง ว่าจะมีข้อติดตามอย่างไรต่อคดีดังกล่าว


 


นายสุเทพยังกล่าวด้วยว่า หากสามารถดึงคดีนี้มาสู่การพิจารณาของคณะอนุกรรมการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ เพราะจะไม่เป็นคดีความ และสามารถใช้ข้อพิจารณาอื่นๆ ได้ โดยไม่อ้างอิงกับตัวกฎหมายแต่เพียงอย่างเดียว เพราะหากเป็นเช่นนั้น ตามสำนวนที่ตำรวจส่งฟ้องต่ออัยการในข้อหามีและใช้เครื่องวิทยุคมนาคม ตั้งสถานีวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ผู้ประกอบการวิทยุชุมชนอาจถูกตัดสินว่ากระทำผิด ทั้งที่ขณะนั้นได้ดำเนินการขอใบอนุญาต แต่อยู่ในช่วงที่มีการเปลี่ยนผ่านของกฎหมายซึ่งแม้ว่า พ.ร.บ.การประกอบกิจการฯ จะมีการบังคับใช้ตั้งแต่เมื่อเดือนมีนาคม แต่ก็ยังไม่สมารถดำเนินการออกใบอนุญาตแก่ผู้ประกอบการวิทยุชุมชนได้


 


"กรณีการจับกุมวิทยุชุมชนไทรโยคน้อย เป็นตัวอย่างของการบังคับใช้อำนาจรัฐที่ไม่ครบถ้วน" นายสุเทพกล่าว


 


ทั้งนี้ กรณีการจับกุมวิทยุชุมชนดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 ..51 โดยเจ้าหน้าที่สำนักงาน กทช.ได้นำกำลังตำรวจ เข้าตรวจค้นสถานีวิทยุชุมชนไทรโยคน้อย ตั้งอยู่ที่บ้านไม่มีเลขที่ ตรงข้ามบ้านยาวีรีสอร์ท หมู่ 3 .ท่าเสา อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี โดยจับกุมนายวสันต์ ปานเรือง ประธานคณะกรรมการชุดปฏิบัติการเรียนรู้วิทยุชุมชนบ้านเรา หรือวิทยุชุมชนน้ำตกไทรโยคน้อย พร้อมยึดอุปกรณ์เครื่องส่งสัญญาณ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา 4 ข้อหา คือ มีและใช้เครื่องวิทยุคมนาคม ตั้งสถานีวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับใบอนุญาต จงใจกระทำให้เกิดการรบกวนหรือขัดขวางต่อการวิทยุคมนาคม และฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต


 


ซึ่งคดีดังกล่าวเป็นการจับกุมภายหลังการออกกฎหมาย พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 ตรงกับมติการประชุมของ กทช.เมื่อวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา


 


ปัจจุบันคดีผ่านการส่งฟ้องของตำรวจ และอยู่ในขั้นตอนของอัยการเพื่อพิจารณาส่งฟ้องศาล โดยล่าสุดในวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา อัยการได้ทำการเลื่อนนัดฟังคำพิจารณาคดี เพื่อรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งจะมีการนัดจำเลยฟังคำพิจารณาคดีอีกครั้งในวันที่ 24 พ.ย.ที่จะถึงนี้


 



 


 


อ่านเพิ่มเติม:


กทช.แจงมูลเหตุจับวิทยุชุมชนไทรโยคน้อย พร้อมร่วมแก้ปัญหาช่วงสุญญากาศทางกฎหมาย


เสวนา: ชะตากรรมของสื่ออิสระ สื่อทางเลือก ภายใต้รัฐ ทุน หรือ แนวคิดสังคม


คปส.จี้รัฐถอดร่างองค์กรจัดสรรรคลื่นความถี่ฯ พร้อมยุติการจับกุมวิทยุชุมชน


กทช.นำจับวิทยุชุมชนไทรโยค อ้างคลื่นรบกวน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net